ครบรอบ25 ปี เอพี สะท้อนตัวตน

บรรยากาศการฉลองวัยเบญจเพสของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เอพี (ไทยแลนด์) มีความหมายมากกว่างานเลี้ยงหรืออาหารบนโต๊ะที่เสิร์ฟอย่างหรูเลิศ เพราะแก่นของงานคือความในใจที่ซีอีโอ "อนุพงษ์ อัศวโภคิน" พูดอย่างจับใจ เมื่อกล่าวถึงผู้มีพระคุณ นั่นคือคุณแม่-เพียงใจ หาญพาณิชย์ เพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้เขามีวันนี้

ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ทุกท่านกรุณาสละเวลาอันมีค่า มาร่วมงานครบรอบ 25 ปีของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) กับผม และพวกเราชาว AP ในวันนี้

ธุรกิจของเรา คือการทำให้ความฝันที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ กลายเป็นจริง นั่นก็คือ การได้เป็นเจ้าของสถานที่ที่พวกเขาสามารถเรียกได้ว่า "บ้านของตัวเอง" ตลอดระยะเวลา 25 ปี ที่ผ่านมา ในทุก ๆ วัน เราได้ทำให้ครอบครัวใหม่อย่างน้อยอีกครอบครัวหนึ่งรู้สึกภูมิใจ และมีความสุขที่ได้เป็นเจ้าของบ้านหลังใหม่ เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ

สิ่งนี้ ชาว AP ไม่สามารถทำกันเองได้ครับ ทุก ๆ ท่าน ในที่นี้มีส่วนร่วมและมีส่วนช่วย ด้วยมิตรภาพ การสนับสนุน คำแนะนำ และความเป็นพันธมิตรที่ดียิ่งของบริษัทเอพี ไทยแลนด์

 

จุดมุ่งหมายของการจัดงานในวันนี้ มิได้มีเพื่อที่จะเล่าถึงความสำเร็จ ความผิดพลาด หรือความท้าทายที่พวกเราเผชิญตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ผมอยากจะกล่าวในวันนี้ มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น นั่นคือ "ขอขอบคุณ" ทุกท่านจากใจจริง

ขอบคุณสำหรับมิตรภาพ ขอบคุณในความเป็นหุ้นส่วน และขอบคุณที่ท่านอยู่เคียงข้างผมและคุณพิเชษฐ ทั้งในช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาไม่ค่อยจะดีนักเสมอมา

 

คุณแม่ของผมอยากที่จะมาร่วมงานในวันนี้มาก แต่สาเหตุที่ท่านไม่สามารถมาร่วมงานกับเราในวันนี้ได้นั้น ไม่ใช่เพราะว่าท่านมีอายุ 93 ปีแล้ว ท่านยังคงมีสุขภาพแข็งแรง หรืออาจจะแข็งแรงกว่าผมด้วยซ้ำไป แต่เหตุที่ท่านไม่มาร่วมงาน ก็เพราะท่านยืนยันที่จะไม่ร่วมงานใด ๆ ของลูก ๆ หากงานนั้นไม่ได้จัดขึ้นที่โรงแรมของท่าน  แต่ก็ดีครับ ผมจะได้พูดได้อย่างไม่ต้องระวังมากไป
ผมจะขอเล่าถึงสิ่งที่คุณแม่ท่านเคยสอนผมมา เมื่อสมัยผมยังเด็ก เกี่ยวกับความเป็นหุ้นส่วน หรือพันธมิตร และมิตรภาพ

ประการแรกและสำคัญที่สุดคือ ท่านสอนโดยการเปรียบเทียบให้ผมฟังว่า เราควรจะปีนเขาไปพร้อม ๆ กับใครสักคน ดีกว่าการทำเพียงลำพังคนเดียว นั่นหมายความว่า ส่วนใหญ่ของความสำเร็จของเรานั้น เกิดจากการที่มีคนเลือกที่จะช่วยเหลือเรา มากกว่าจะเกิดจากความสามารถของเราเพียงคนเดียวล้วน ๆ

 

คุณแม่ผมท่านสอนว่า การจะมีพันธมิตรที่ยั่งยืนอย่างยาวนานได้นั้น เราต้องรู้จักซาบซึ้ง และขอบคุณในน้ำใจของพันธมิตรหรือหุ้นส่วนธุรกิจเหล่านั้น แทนที่จะรู้สึกว่าเป็นเราเองที่ให้เกียรติพวกเขาในการหยิบยื่นความเป็นพันธมิตรให้
 

และที่สำคัญที่สุดท่านบอกว่ามิตรภาพและพันธมิตรจะคงอยู่ได้ ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายรู้สึก "ยอมเสียเปรียบ" ให้กันบ้าง โดยที่ทั้งสองฝ่ายินดีที่จะทำ เพราะความยุติธรรมนั้นเป็นเรื่องของมุมมอง เมื่อไรที่เรารู้สึกว่ายุติธรรม อีกฝ่ายอาจจะรู้สึกว่าเสียเปรียบก็ได้

 

ผมขอขอบพระคุณทุกท่านในที่นี้ หากในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ที่ท่านได้ช่วยเหลือสนับสนุนเอพี แล้วอาจทำให้ท่านต้องรู้สึก "เสียเปรียบ" ไปบ้าง ผมหวังว่าท่านจะยังคงมอบความกรุณากับเราต่อไปด้วยการพูดว่า "ไม่เป็นไร" นะครับ...
 

ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้เมื่อสมัยยังอายุน้อย ซึ่งได้มีส่วนช่วยให้ผมนำมาปรับใช้กับหลักการทำงานและผมได้พยายามปลูกฝังกับวัฒนธรรมการดำเนินธุรกิจของเอพี

 

ทุกท่านคงทราบดีว่า ผมเติบโตมาในครอบครัวที่มีพี่ชายสองคน และพี่สาวอีกหนึ่งคน ซึ่งล้วนแล้วแต่ฉลาดและเก่งกว่าผม และล้วนประสบความสำเร็จอย่างมากในสิ่งที่แต่ละคนเลือกทำ
 

ในฐานะที่ผมเป็นลูกคนสุดท้อง ผมเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วว่า การที่ผมจะอยู่รอดได้นั้น ผมต้องเก่งในสองเรื่อง นั่นก็คือ หนึ่ง ผมต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับว่า ยังมีผู้คนอีกมากมายที่เก่งกว่าผม และสอง หนทางเดียวที่จะทำให้ผมอยู่รอดได้ คือ "ผมต้องกล้าที่จะแตกต่าง"

ผมจึงนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ดังกล่าว มาสู่วัฒนธรรมการทำงานของเอพี
 

วันนี้ เราดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมที่คู่แข่งของเราแข็งแกร่ง และมีความสามารถ เราจึงต้องทำความเข้าใจคู่แข่งและต้องมอบข้อเสนอที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกและสัมผัสได้ถึง "ความแตกต่าง" ในการเป็นเจ้าของและอยู่อาศัยในบ้านของเอพี ซึ่งเราก็จะยังคงมุ่งเน้นในเรื่องของการขยาย Portfolio ให้ครบทุกประเภทของสินค้า ทำเล และระดับราคา โดยการเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทในการเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการออกแบบสินค้าที่มีพื้นที่ใช้สอยที่เกิดประโยชน์สูงสุด ที่เรียกว่า space utilizationและการบริการที่ให้ความสะดวกกับลูกค้าครอบคลุมครบวงจร ตั้งแต่การซื้อที่อยู่อาศัย ให้เช่า ไปจนถึงการขายต่อเมื่อต้องการขยับขยายครอบครัว

 

การที่เราจะสร้างความเจริญเติบโต ให้บริษัทได้ต่อไปนั้น ปัจจัยสำคัญที่สุดก็คือ เราต้องมีพนักงานที่มีความสามารถในทุกระดับขององค์กร เราจึงมุ่งมั่นในการพัฒนาคนของเรา โดยจัดตั้ง AP Academy อันเป็นสถาบันเพื่อการเรียนรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์อยางครบวงจร ที่จะอบรมพนักงานให้มีความรู้ทั้งด้านการก่อสร้าง การให้บริการ ไปจนถึงทักษะด้านการบริหาร เมื่อพนักงานได้รับการ Promote ให้ได้รับตำแหน่งสูงขึ้นไป จุดมุ่งหมายของ AP Academy ก็คือการพัฒนาศักยภาพ ทักษะ และการทำงานอย่างเป็นระบบ และมีมาตรฐานเดียวกันของทีมงาน
 

ทีมงานทุกคนของเอพีกว่า 1,600 คน ตระหนักดีว่า การฉลอง 25 ปีของเรานั้น ไม่ใช่การฉลองให้กับอดีต แต่เป็นการลุกขึ้นแล้วพูดว่า "เราจะสร้างความโดดเด่นให้กับองค์กรของเรา ในอีก 25 ปีต่อไปอย่างไร" ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทุกคนใน AP เชื่อว่า เราสามารถทำได้ ด้วยการสนับสนุนจากทุกท่านที่นั่งอยู่ในที่นี้ โดยเฉพาะ Mitsubishi Estate Group ที่ในขณะนี้เราได้จับมือกันพัฒนาโครงการต่าง ๆ ที่มีมูลค่ารวมมากกว่า 33,000 ล้ารนบาท และเรามีความตั้งใจ ที่จะขยายความร่วมมือเช่นนี้ต่อไปในอีกหลาย ๆ โครงการในอนาคต

สิ่งที่มาพร้อม ๆ กับความร่วมมืออันสุดพิเศษนี้ก็คือ "Know-How" ในเรื่อง Process ของการทำงานและในด้านการออกแบบบ้าน ที่สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยม คนญี่ปุ่นคือผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในด้านการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ศักยภาพทางด้านนี้ จะยิ่งทำให้เราแข็งแกร่งมากขึ้น ในด้านการสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์อสังหาริมทรัพย์ของเอพี

 

ก่อนที่ผมจะจบการกล่าวในวันนี้ ผมขออนุญาตขอบพระคุณ บุคคลที่มีความสำคัญอย่างสูงสุดต่อชีวิตการทำงานของผม คือ บุคคลที่ทำให้ผมได้มีโอกาสมากล่าว เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี ในการดำเนินธุรกิจของเอพี ไทยแลนด์ ได้อย่างเต็มภาคภูมิ นั่นก็คือ หุ้นส่วนคนสำคัญของผมครับ คุณพิเชษฐ วิภวศุภกร

 

อันดับสุดท้าย ผมขอแนะนำให้ทุก ๆ ท่านได้พบกับผู้บริหารคนสำคัญ ที่ร่วมกันสร้าง AP มาจนถึงวันนี้ และร่วมกันผลักดันให้เราไปถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ในอนาคต

 

สุดท้ายนี้ ผมขอกราบขอบพระคุณทุก ๆ ท่านอีกครั้ง ที่กรุณาให้เกียรติมาร่วมงาน "ครบรอบ 25 ปี เอพี ไทยแลนด์" กับเราในวันนี้ และผมขออนุญาตกล่าวแทนคุณพิเชษฐ รวมถึงทีมงานทั้งหมดของเอพี ว่า "พวกเราขอกราบขอบพระคุณ สำหรับมิตรภาพและความสนับสนอย่างดียิ่ง ที่ท่านมีให้กับเราเสมอมาครับ"

ขอบคุณภาพและข่าวจาก  ประชาชาติธุรกิจ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่