“อโศก” International Hub ที่สุดของทำเลที่ทั้งคนไทยและต่างชาติ ให้ความสนใจมากที่สุด เป็นศูนย์กลางอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

หากจะเอ่ยถึงทำเลที่เป็นไข่แดงของกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในทำเลที่สร้างสีสันและมีศักยภาพสูงเสมอมา เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ prime ที่สุดในประเทศไทย ก็คงต้องยกให้ “อโศก” เพราะเป็นย่านที่ครบในทุกมิติ ไม่ว่าจะเรื่องของการคมนาคมที่เชื่อมต่อทุกทิศทาง เป็นจุดเปลี่ยนผ่านของผู้คนในการเดินทาง ที่เฉลี่ยต่อวันไม่ต่ำกว่าหลักแสนคน เป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ครบทุกเจเนอเรชั่น นอกจากนี้ยังเป็นย่านธุรกิจหลักที่ตั้งของบริษัทและออฟฟิศอีกมากมาย

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ การเป็นที่พักอาศัยของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมซึ่งนับว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งในด้านของการเลือกอยู่เองและลงทุน ซึ่งเป็นทำเลที่ปล่อยเช่าได้ราคาดีงาม 

โดยสอดคล้องกับข้อมูลสถิติของเว็บไซต์ LivingInsider ที่มีผู้เข้าชมเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่บ่งบอกว่าในช่วงหลายปีหลังที่ผ่านมานี้ ทำเลอโศก มีการเข้าชมสูงติดอันดับ 1 ของทำเลที่มีคนสนใจมากที่สุด และมียอดผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นทุกปีอีกด้วย

ซึ่งจากภาพจะเห็นว่าในครึ่งปีแรกของปี 2565 โซนอโศก มีจำนวนผู้เข้ามาค้นหาทำเลนี้เฉลี่ยถึง 638,478 view ถือว่ามียอดเข้าค้นหาสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของทำเลทั้งหมดเลยทีเดียว

ถ้าอยากรู้แบบเจาะลึกถึงความพิเศษ ของทำเลอโศกมากขึ้น... ไปค้นหาคำตอบกันต่อว่ามีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง และจะเข้าใจเลยว่า ทำไม “อโศก” ถึงเป็นทำเลปล่อยเช่า “เสือนอนกิน” นี่คือ International Hub ที่มาแรงแซงทุกทำเล

เริ่มด้วยการเป็นจุดเชื่อมต่อ Interchange ขนาดใหญ่ทั้ง BTS สายสีเขียว เส้นสุขุมวิท ช่วงหมอชิต-คูคต-สะพานใหม่ ต่อด้วย MRT สายสีน้ำเงิน ช่วงเตาปูน-ท่าพระ-หลักสอง ส่งผลให้เดินทางรอบกรุงเทพฯ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงคนที่อยู่นอกเมืองก็เข้ามาในเมืองได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว รวบรวมแหล่งไลฟ์สไตล์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดดเด่นด้วยห้างสรรพสินค้าอย่าง Terminal 21, Emquartier, Emporium, Central Embassy, Gaysorn Village, Central Chidlom, Central World ที่พร้อมบริการให้ทุกคนได้ Enjoy Shopping

ที่สำคัญสุดคือการเป็น ทำเลที่มีบริษัทและสำนักงานออฟฟิศอยู่เยอะที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ทำให้เป็นพื้นที่ย่านเศรษฐกิจสำคัญ หรือ CBD ของกรุงเทพฯ ซึ่งถ้าเทียบเป็นพื้นที่ก็ประมาณครึ่งล้านตารางเมตรได้ และมีจำนวนพนักงานรวมกว่า 30,000 คนเลยทีเดียว เช่น บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, สตาร์บัคส์ ประเทศไทย​(สำนักงานใหญ่), อาคารเอ็กซ์เชนจ์ ทาวเวอร์, อาคารอินเตอร์เชนจ์, อาคารโอเชี่ยน ทาวเวอร์ 2, อาคารฟิโก้เพลส เป็นต้น 

ไม่เพียงเท่านั้น ทางด้านสถานศึกษาชื่อดัง ก็มีอยู่ในย่านอโศกพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย, โรงเรียนเซนต์ดอมินิก, โรงเรียนนานาชาตินิสท์ (NIST), โรงเรียนสาธิต มศว และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หรือ มศว 

แม้กระทั่งพื้นที่สีเขียวก็อยู่ละแวกใกล้เคียง นั่นก็คือ สวนเบญจกิติ ที่ได้ทำการขยายอาณาเขตเพิ่มพื้นที่สาธารณะ สวนป่าสีเขียวและสวนน้ำ รวมแล้วกว่า 450 ไร่ จนกลายเป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางเมือง เพื่อให้ทุกคนได้มาออกกำลังกาย นั่งเล่นพักผ่อนชิลๆ สบายอารมณ์

โลเคชั่นย่านอโศก Perfect ขนาดนี้ ทำให้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังคงผลักดันให้เกิดการเติบโตของราคาที่ดินอย่างต่อเนื่อง โดยราคาประเมินที่ดินปัจจุบัน อยู่ที่ตารางวาละ 550,000 บาท แต่ราคาขายจริงพุ่งสูงไปไกลถึงตารางวาละ 2.5 ล้านบาท!!!

ถึงอย่างนั้นต่อให้ราคาจะเพิ่มขึ้นทุกปีแต่ก็อย่างที่เอ่ยไปข้างต้น ด้วยทำเลที่มีความสมบูรณ์รวมถึงมีศักยภาพโดดเด่นในทุกๆ มิติ และความเป็น Real CBD จึงทำให้เป็นจุดสนใจของเหล่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ อย่างโครงการที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียม

โดยมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งคนไทยวัยทำงานและกลุ่มครอบครัว ผู้ปกครองหลายๆ ท่าน ที่ตัดสินใจเลือกซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยแถวนี้ให้ลูกหลาน รวมไปถึงชาวต่างชาติ ที่ตอนนี้เริ่มเปิดประเทศและมีชาวต่างชาติเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ต่างให้ความสนใจและล้วนอยากเลือกอยู่อาศัยบนทำเลอโศกแทบทั้งนั้น

แต่อย่างไรก็ตามการตัดสินใจซื้อคอนโด นอกจากพิจารณาเรื่องทำเลแล้ว ตัวโครงการเองก็นับว่ามีความสำคัญเท่าๆ กันกับการเลือกทำเล ยิ่งเป็นโครงการพร้อมอยู่เท่าไหร่ยิ่งดีเลย ประกอบกับถ้าเป็นโครงการระดับ Luxury ที่ราคาดีที่สุดในอโศก ด้วยแล้วล่ะก็จะช่วยดึงดูดได้ดีทีเดียว นอกจากนี้หากอยากปล่อยเช่ายังช่วยเพิ่มอัตราการปล่อยเช่าที่สูงขึ้น และทำกำไรได้มากกว่าอีกด้วย

หนึ่งโครงการที่น่าสนใจที่สุดในย่านอโศก คือโครงการ Noble BE19 ตั้งอยู่บนทำเลอโศก เป็นที่สุดแห่งศูนย์กลางมหานครกรุงเทพฯ ตอบโจทย์อย่างมากสำหรับคนเมืองยุคใหม่ ที่กำลังมองหาคอนโดพร้อมอยู่ หรืออยากลงทุนพร้อมปล่อยเช่าได้ทันที

“Noble BE 19” คอนโดใจกลางอโศก 

โดยที่ตั้งของโครงการ สามารถเข้า-ออกได้ทั้ง 2 ทาง คือทางสุขุมวิท 15 รวมถึงสุขุมวิท 19 ซึ่งเป็นซอยที่ทะลุไปยังถนนสำคัญได้หลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนอโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 หรือจะออกไปยังถนนหลักสุขุมวิท และถนนเพชรบุรีก็สะดวก รวมถึงลัดเลาะผ่านสุขุมวิท 21 แยก 1 ไปจนถึงทองหล่อ เอกมัยได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังไม่ไกลจากจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช และทางด่วนเฉลิมมหานคร

อีกทั้งยังใกล้ สถานี Interchange BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ประมาณ 500 เมตร ซึ่งก็จะใกล้กับแหล่งไลฟ์สไตล์อย่าง Terminal 21 และตัวโครงการยังอยู่ใกล้สถานศึกษาชั้นนำอย่างโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย 

และถึงแม้ว่าโครงการจะตั้งอยู่ในย่าน ที่เต็มไปด้วยความคึกคักตลอดทั้งวัน แต่ความจริงแล้วกลับซุกซ่อนความสงบไว้ได้อย่างลงตัว โดยเป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร จำนวน 586 ยูนิต โดยมีอาคาร A 48 ชั้น และอาคาร B 27 ชั้น บนที่ดิน 3-2-95 ไร่ 

โครงการดีไซน์ด้วยความ Modern Classic โดดเด่นด้วยความเรียบหรูสวยงาม เพิ่มกิมมิกด้วยการเล่น Form ในลักษณะไล่ระดับอาคาร ขณะที่ Facade ออกแบบโดยการใช้วัสดุสีน้ำตาลแชมเปญเรียงเป็นเส้นแนวตั้งคล้ายระแนง เพิ่มความมีมิติและดู Luxury อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

สำหรับ Facilities ยังคงความเป็นซิกเนเจอร์ของ Noble ได้เป็นอย่างดี ที่นอกจากดีไซน์ให้มีความสวยงามแล้ว ยังจัดเตรียมส่วนกลางมาหลากหลายและครบครัน โดยโครงการนี้มีส่วนกลางมาให้ทั้งสองอาคาร ซึ่งเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านละแวกเดียวกัน ถือว่า “Noble BE 19” เป็นอีกหนึ่งโครงการของความเป็นที่สุดในด้าน Facilities สุดหรู เพื่อรองรับลูกบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

ไม่ว่าจะเป็น สามารถจอดรถได้ประมาณ 63% (ไม่รวมซ้อนคัน), Lobby & Lounge, Fitness+Sky Fitness, Sky Game Room, Laundry Room, Sky Lounge, Reclining Pool, Sauna, Steam, Recreation Area, Lobby, Semi Outdoor Lobby, Swimming Pool (Lap Pool), Meeting Room, English Contemporary Garden, Playground และ BBQ Area

โดยสระว่ายน้ำแบบ Lap Pool จะอยู่ฝั่งอาคาร B เป็นสระว่ายน้ำแบบ Semi Outdoor ระบบเกลือขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 27 เมตร ทำให้ว่ายออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ พร้อมแยกสระเด็กไว้ให้เรียบร้อย

นอกจากนี้ฝั่งอาคาร B ยังมีสวนสีเขียวบรรยากาศร่มรื่น ที่ชั้น 19 และชั้น 23 ให้สามารถนั่งเล่นชมวิวเมืองแบบพาโนรามิกได้สุดสายตา

ส่วนฝั่งอาคาร A จะมี Sky Game Room โซนทำกิจกรรมเล่นเกมต่างๆ ตอบโจทย์ทุก Generation ในครอบครัว

ถัดมาคือ Sky Lounge มีความกว้างขวาง จัดวางที่นั่งทั้งแบบโซฟา และโต๊ะนั่งทำงานไว้ให้หลายๆ มุม เหมาะอย่างมากสำหรับมานั่งทำงานนั่งเล่นหรืออ่านหนังสือ อีกทั้งยังได้เห็นวิวเมืองในมุมมองที่แปลกใหม่อีกด้วย

อีกหนึ่งไฮไลต์ของส่วนกลางอาคาร A คือโซน Outdoor ที่เป็นสระน้ำแบบ Reclining Pool โดยมีในส่วนของจากุซซี่ และบับเบิลเจ็ท ไว้สำหรับนั่งแช่น้ำผ่อนคลายชิลๆ พร้อมชมวิวทิวทัศน์ของเมือง ซึ่งตอนเย็นอากาศดีมาก สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตก ที่รับประกันเลยว่าวิวสวยแน่นอน

โครงการ “Noble BE 19” มีทั้งขายแบบ Fully Fitted และ Fully Furnished ตอบสนองได้ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกความต้องการอย่างแท้จริง ซึ่งมีห้องให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

โดยการออกแบบดีไซน์ของห้องพักอาศัย แสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันในทุกๆ รายละเอียด ทั้งในเรื่องของเพดานที่ให้มาสูงถึง 3 เมตร ซึ่งให้มาสูงกว่าโครงการทั่วๆ ไป จะช่วยให้มีพื้นที่ใช้สอยในแนวตั้งได้มากขึ้น มาพร้อมกับกระจกห้องแบบ Full Height เพื่อให้ได้รับแสงธรรมชาติจากภายนอก ส่องเข้ามาภายในห้องได้อย่างทั่วถึง จุดเด่นเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งสบายให้แก่ห้อง

นอกจากนี้ยังได้ Digital Door Lock แอร์ฝังฝ้าแบบ Ceiling Concealed พื้นลามิเนตหนา 10 มม. นำเข้าจากเยอรมัน ชุดครัวครบเซต ทั้งเคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของ เครื่องดูดควัน ส่วนในห้องนอนจะได้ Built-in ตู้เสื้อผ้า ขณะที่สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจัดให้ครบครัน และทำการเดินระบบแยกท่อน้ำร้อน-น้ำเย็นมาให้พร้อมใช้งาน

ห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน 

มีตั้งแต่ขนาด 33 - 51 ตารางเมตร 

มีการจัดวางออกแบบ Layout ให้เป็นสัดเป็นส่วน ตั้งแต่เปิดประตูเข้ามาที่บริเวณโถงทางเข้า ดีไซน์พื้นที่สำหรับทำเป็นตู้เก็บของหรือเก็บรองเท้าขนาดใหญ่ 

โซน Common Area มีความกว้างขวาง โดยรวมพื้นที่ครัวพร้อมชุดครัวจัดเต็ม ต่อเนื่องไปจนถึงมุมรับประทานอาหาร วางโต๊ะได้ขนาด 4 ที่นั่ง และมุมนั่งเล่นติดระเบียงเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว

ห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน 

มีตั้งแต่ขนาด 51-73 ตารางเมตร  

เหมาะสำหรับกลุ่มครอบครัว สามารถจัดสรรพื้นที่ได้ตามใจชอบของผู้อยู่อาศัย เพราะพื้นที่มีความยืดหยุ่นพอสมควร ด้วยการเปิดพื้นที่โล่งผ่านการเชื่อมต่อพื้นที่ทั้ง 3 ส่วน คือ โซนครัวที่โครงการจัดชุดครัวมาให้เรียบร้อย มุมทานข้าววางโต๊ะได้ขนาด4-6 ที่นั่ง และมุมนั่งเล่นติดระเบียง กลายเป็น Common Area ขนาดใหญ่ เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน

ขณะที่มุมส่วนตัวอย่างห้องนอนจะอยู่ด้านใน อย่าง Master Bedroom มีสเปซกว้างขวาง Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบกระจก และสามารถวางเตียง 5-6 ฟุต ก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือให้เดินผ่านได้สะดวกสบาย พร้อมห้องน้ำในตัว 

และห้องนอนที่ 2 Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบกระจกมาให้เต็มผนัง อีกทั้งยังวางเตียง 5 ฟุตได้โดยสบายๆ

ห้องตัวอย่างแบบ Penthouse

มีตั้งแต่ขนาด 86-145 ตารางเมตร

ให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านใจกลางเมือง ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เปิดโล่งรับลมและแสงธรรมชาติด้วยหน้าต่างรอบทิศทาง ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งมากกว่าเดิม

ห้องนอนจัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัว สามารถวางเตียง King Size ขนาดใหญ่ได้ถึง 6 ฟุต พร้อมด้วยการดีไซน์ Walk-in Closet ให้เป็นแบบเปิดโล่ง

อีกหนึ่งห้องนอนซึ่งสเปซกว้างพอสมควร วางเตียงขนาด 5 ฟุต และ Walk-in Closet พร้อมห้องน้ำในตัว

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนน่าจะคิดว่า โครงการระดับ Luxury “Noble BE 19” ราคาต้องแพงชัวร์ แต่ความจริงสำหรับ 1 ห้องนอน เริ่มต้นเพียง 5.9 ล้านบาท* และ 2 ห้องนอน เริ่มต้นเพียง 9.3 ล้านบาท*... นับว่าเป็นราคาที่ดีที่สุดในย่านอโศกแล้วครับ!!!

ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของโครงการนี้อยู่ที่ประมาณ 171,xxx บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านโครงการรอบข้างที่เป็นคอนโดใหม่ ราคาเริ่มต้นก็ไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท คือราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทะลุ 200,000 บาทกันไปแล้วแทบทั้งนั้น

นี่แหละจึงเป็น Timing ที่คุ้มค่าที่สุดของคนซื้อ และต้องเป็นจังหวะเวลานี้เท่านั้นจริงๆ ครับ เพราะถ้าช้าปล่อยผ่านไปปีหน้าจะไม่ใช่แค่ราคาที่ดินที่ขึ้นอย่างเดียว แต่ราคาค่าวัสดุก่อสร้างก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าคอนโดในย่านนี้จะอัพราคาแพงขึ้นขนาดไหน

หากสนใจต้องรีบหน่อยนะครับ เพราะทั้งโครงการน่าจะเหลือขายไม่ถึง 10% แล้ว แถมยังได้โปรโมชั่นพิเศษจองวันนี้รับ Cashback เพิ่มอีก 200,000 บาท* คลิกลงทะเบียนได้ที่นี่เลย >>> https://nobleurl.com/3dluDiQ