รายการโปรด
จากการที่พลเอกประยุทธ์ลงนามประกาศคณะกรรมการส่งสริมการลงทุน เรื่องหลักเกณฑ์การอนุญาตให้นิติบุคคงต่างด้าว ที่ได้รับการส่งสริมการลงทุนถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน สำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัยเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ในการประกอบธุรกิจนิติบุคคลต่างต้าวที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 แห่งพระราชนัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด เปิดเผยว่าการที่รัฐบาลออกประกาศคณะกรรมการส่งสริมการลงทุน เรื่องหลักเกณฑ์การอนุญาตให้นิติบุคคลต่างด้าว ที่ได้รับการส่งสริมการลงทุนถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัย
โดยมีข้อแม้ว่าต้องเป็นนิติบุคคลต่างด้าวที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน และมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท สามารถถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับเป็นที่พักอาศัย และที่ตั้งสำนักงานได้นั้น "ไม่ใช่" เรื่องใหม่ แบบที่หลายคนเข้าใจ
ทั้งนี้ เพราะก่อนหน้านี้ในหลายรัฐบาลก็มีประกาศนี้ออกมาแล้วเช่นกัน ปี2544 ,2546, 2551 และปี2556 มีประกาศการขยายเวลาการอนุญาต ให้นิติบุคคลต่างด้าวที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน สำหรับเป็นที่ตั้งสํานักงานและที่พักอาศัยจากที่จะหมดอายุในวันที่ 31 ธ.ค. 2555 เป็นหมดอายุวันที่ 31 ธันวาคม 2560 โดยเรื่องของขนาดที่ดินนั้นเท่ากันกับประกาศที่ออกมาเมื่อปี2541
ดังนั้น ประกาศนี้จึงอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่ประกาศฉบับนี้ออกมาในช่วงเวลาที่มีข้อถกเถียงกัน ในหลายๆ ประเด็นเกี่ยวกับข้อเรียกร้องที่ภาคเอกชนไทยจำนวนไม่น้อย ต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์
ก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวเรื่องของการจะให้ต่างชาติถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ถ้าลงทุนเท่านั้นเท่านี้ในสินทรัพย์ที่รัฐบาลกำหนด แต่ปรากฏว่ามีประกาศนี้ออกมาแทน เลยยังไม่มีใครรู้ว่าเรื่องดังกล่าวจะยังมีอยู่ไหม และรัฐบาลก็เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในหลายอย่าง ต้องติดตามต่อไปว่าจะยังไงต่อ
นายสุรเชษฐ ระบุว่า การถือครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยนั้นสามารถทำได้อยู่แล้ว เมื่อถือครองในนามนิติบุคคลไทย นิติบุคคลต่างชาติอาจจะถือครองผ่านการส่งเสริมการลงทุน โดยคณะกรรมการส่งเสริมลงทุนหรือ BOI อยู่แล้ว
เพียงแต่การที่เอกชนต่างชาติจะเข้ามาถือครองอสังหาริมทรัพย์ได้นั้น อสังหาริมทรัพย์นั้นต้องได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ด้วย ประกาศนี้เหมือนจะตัดเรื่องนี้ออกไป นิติบุคคลต่างชาติถือครองได้เลย เมื่อลงทุนในประเทศไทย 50 ล้านบาทตามประกาศฯ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะทำให้นิติบุคคลต่างชาติมีที่ดินเป็นของตัวเองจริง
สำหรับทำเลที่น่าสนใจหรืออาจจะได้ประโยชน์นี้จริงๆ ก็เป็นทำเลที่สะดวกต่อการดำเนินธุรกิจของพวกเขาทั้งเรื่องของสำนักงาน และกิจการที่พวกเขาลงทุน ถ้าเป็นการขอการส่งเสริมการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมก็อาจจะเป็นทำเล EEC ถ้าเป็นกิจการที่ "ไม่ใช่"อุตสาหกรรมก็อาจจะเป็นทำเลอื่นๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด กิจการที่คณะกรรมการประกาศให้การส่งเสริม ตามคู่มือการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 2565 ดังนี้
1. อุุตสาหกรรมเกษตร เทคโนโลยี
2. ชีวภาพ และการแพทย์
3. อุุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสููง
4. อุตสาหกรรมพื้นฐานและอุุตสาหกรรมสนับสนุุน
5. อุุตสาหกรรมดิจิทัล สร้างสรรค์์และบริการที่มีมููลค่าสููง
"ซึ่งรายละเอียดของแต่ละหมวดก็แยกย่อยออกไปอีกมากมาย แต่ในประกาศนี้ก็ชัดเจนว่าการถือครองจะสามารถทำได้นานตราบเท่าที่กิจการที่ขอการส่งเสริมการลงทุนยังดำเนินกิจการอยู่ ถ้าเมื่อใดก็ตามที่กิจการหมดสภาพการเป็นผู้ได้รับการส่งเสริมต้องจำหน่ายหรือโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 1 ปี และการถือครองที่ดินของแต่ละส่วนต้องสอดคล้องกันในเรื่องของทำเลที่ตั้ง เรื่องนี้อาจจะต้องดูกันในระยะยาวว่าช่วยส่งเสริมอะไรหรือไม่ แต่ไม่ใช่เรื่องใหม่ในประเทศไทยแบบที่กล่าวไปแล้ว" นายสุรเชษฐกล่าว
ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/business/business_property/1023328
เอพี เผยโฉมบ้านแฝดหน้ากว้างซีรีส์ใหม่ 4 โมเดล เตรียมเปิดขายครั้งแรกที่ “GRANDE PLENO สุขสวัสดิ์ 64” เริ่ม 11.9 ลบ.
1 ชั่วโมงที่แล้ว
RML เปิดตัว “โรงแรม รีว่า ไวบ์” ใกล้ไอคอนสยาม เสริมพอร์ตรายได้ระยะยาว-รับเทรนด์ท่องเที่ยวบูม พร้อมให้บริการ 4 ธ.ค. 67
1 ชั่วโมงที่แล้ว
เอสบีฯ เปิดตัว “Pet Lovers Corner” โซนเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านตอบโจทย์คนรักสัตว์เลี้ยง
เมื่อวานนี้
“สโคป หลังสวน” สร้างสถิติใหม่ ราคาปล่อยเช่าต่อตารางเมตรสูงที่สุดในกรุงเทพฯ 2,500 บาท/ตร.ม. ชูจุดเด่นคอนโด Freehold ที่หายากในทำเลหลังสวน
เมื่อวานนี้
คอนโดโครงการใหม่ 2567 บนทำเลศักยภาพ มีที่ไหนบ้าง?
เมื่อวานนี้
รีวิววิเคราะห์ได้ดีมากเลยครับ
ชอบมาก ขอบคุณมากคะ
อ่านยังไงให้เสียตังงงงงงงง เขียนแบบนี้ต้องเสียตังแน่ๆ
อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลย
well