รายการโปรด
รู้ไหมว่าทำเลไหน…บ้านเดี่ยว ขายดีเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ
จากสถิติผู้เข้าชมอสังหาริมทรัพย์ของ Livinginsider.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอสังหาอันดับต้นๆ ของประเทศไทย พบว่าหนึ่งในทำเลที่มีผู้ค้นหาบ้านเดี่ยวมากที่สุด ก็คือทำเล “รามอินทรา”
แน่นอนว่า หากใครกำลังค้นหาเพื่อซื้อบ้านสักหลัง ทำเลนี้จะต้องเป็นทำเลที่แทบทุกคนจะต้องลองมาสำรวจดูอย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันทำเลรามอินทรา ถือเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ในการใช้ชีวิตอันดับต้นๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ ที่นี่มีให้หมด รวมถึงมีทางด่วน ที่สามารถเชื่อมต่อ และเข้าสู่ได้แทบทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯ อย่างรวดเร็ว และในอนาคตทำเลนี้ยังจะมีรถไฟฟ้าที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกด้วย ทำให้ทำเลรามอินทรา ถือเป็นทำเลสำหรับการอยู่อาศัยที่ดีที่สุดทำเลนึงของกรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตามบ้านในทำเลรามอินทรา ส่วนใหญ่บ้านจะเป็นบ้านที่มีโลเคชันอยู่ในซอยเล็กๆ ซึ่งสำหรับทำเลบ้านที่ติดถนนใหญ่เป็นอะไรที่หายากมากๆ เพราะราคาที่ดินรามอินทราปัจจุบันไปไกลมาก จนไม่สามารถพัฒนาบ้านที่ติดถนนใหญ่ได้
แต่โครงการที่เราจะพาไปชมในวันนี้ ถือเป็นโครงการที่หายากอย่างยิ่ง เพราะเป็นโครงการที่ทำเล ติดถนนใหญ่รามอินทรา แถมยังติดกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ เพียง 350 เมตร ซึ่งเป็นระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลแบบคร่อมรางบนทางวิ่งยกระดับ ที่จะมาเพิ่มความสะดวกสบายในเรื่องของการเดินทาง รวมทั้งความอลังการของหมู่บ้านได้เป็นอย่างดี และยังทำให้ผู้ครอบครองได้รู้สึกถึงความภาคภูมิใจในความเป็นเจ้าของบ้านที่ติดถนนใหญ่แบบนี้
แต่ที่สำคัญรูปแบบของหมู่บ้านแห่งนี้ ยังถือว่าเป็นรูปแบบที่มีเอกลักษณ์และความน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นรูปแบบที่คนไทยหลายคนฝันจะเป็นเจ้าของ นั่นก็คือแบบอเมริกัน ที่เราเคยเห็นในหนังกันนั่นเอง
"Milton Residence Ramintra"
"บ้านเดี่ยวสุดหรู สไตล์อเมริกัน บนสุดยอดทำเล ติดถนนใหญ่รามอินทรา"
Milton Residence Ramintra ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโครงการบ้านหรู ที่มีราคาคุ้มค่าที่สุด บนถนนรามอินทรา วันนี้เราจะพาไปชมบ้าน แบบเจาะลึกทุกซอกทุกมุมกัน
"รามอินทรา" ย่านน่าอยู่
เชื่อมต่อทุกการเดินทาง
เรื่องของโลเคชันไม่ต้องห่วงเลย เพราะว่าโครงการ Milton Residence Ramintra ตั้งอยู่บน ถนนใหญ่รามอินทรา ใกล้แยกมีนบุรี ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนสายหลักอื่นได้หลากหลาย ยิ่งสะท้อนความโดดเด่นในเรื่องของการเป็นย่านที่มีการคมนาคม เชื่อมโยงทั้งถนนสายหลัก และสายรองมากมาย ทำให้จะเข้าเมืองหรือออกจากเมืองก็ใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งยังใกล้ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเศรษฐบุตรบําเพ็ญ เพียง 350 เมตร และห่างจากสถานีมีนบุรี ซึ่งเป็นสถานีที่เปลี่ยนสายไปยัง รถไฟฟ้าสายสีส้ม ทำให้อนาคตจะเข้าเมืองได้สะดวกกว่าเดิมมากเลยทีเดียว โดยจะเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้นี้
ทำเลแถวนี้ยังรายล้อมด้วยความสะดวกสบาย และความอุดมสมบูรณ์ เพราะว่าเป็นทั้งแหล่งไลฟ์สไตล์ รายล้อมอยู่รอบตัวโครงการ อาทิ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Fashion Island, The Promanade, Makro รามอินทรา รวมทั้งยังคับคั่งไปด้วยโรงพยาบาล สถานศึกษาชั้นนำ เช่น โรงพยาบาลสินแพทย์ เสรีรักษ์ และ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศมีนบุรี
ขอบคุณภาพจาก: thepromenade
ในเรื่องของการเดินทางด้วยรถยนต์ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะโครงการอยู่ติด ถนนรามอินทรา ใกล้แยกเมืองมีน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ถนนวงแหวนรอบนอก ฝั่งตะวันออก ซึ่งสามารถใช้เส้นทางนี้ เพื่อเชื่อมต่อไปยัง มอเตอร์เวย์สายใหม่ หรืออยากหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดก็ใช้ ทางพิเศษฉลองรัช สายรามอินทรา-อาจณรงค์ เพื่อวิ่งตรงเข้าสู่ ลาดพร้าว, ประชาอุทิศ และ พระราม 9 ก็สะดวกและรวดเร็วสุดๆ
ขอบคุณภาพจาก: foursquare
ทั้งนี้จุดเปลี่ยนสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นกับทำเลรามอินทรา คือเส้นทางรถไฟฟ้า สายสีชมพู ที่วิ่งเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ ชั้นนอก และชั้นในเข้าด้วยกัน เพื่อเชื่อมต่อระหว่างคนที่พักอาศัยอยู่ในเขตเมืองชั้นนอกให้เดินทางเข้ามาทำงานในเขตเมืองชั้นในได้สะดวกขึ้น โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการคือ สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ เพียง 350 เมตร เท่านั้น
ขอบคุณภาพจาก: https://www.phetchabunpost.com/
Milton Residence Ramintra
"American Luxury Comfort"
นิยามใหม่ของ "การอยู่อาศัย"
American Luxury Comfort ก็คงจะหมายถึง ความสะดวกสบายที่หรูหรา ซึ่งเกิดจากการรวมคำของ Luxury ซึ่งมีความหมายว่า "ความหรูหรา" และ Comfort ที่มีความหมายว่า "สบาย" แม้ดูเหมือนสองคำนี้จะไปคนละทิศละทาง แต่กลับมีความหมายที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
จึงเป็นที่มาของการออกแบบสถาปัตยกรรมของ Milton Residence Ramintra ภายใต้คอนเซ็ปต์ American Luxury Comfort ที่หยิบยกบรรยากาศกลิ่นอายของวิถีชีวิตการอยู่อาศัยแบบอเมริกันสไตล์ อันเป็นเอกลักษณ์ที่เน้นความสะดวกสบาย เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และมีความเป็นส่วนตัว แต่มีพื้นที่รอบๆ ตัวบ้าน ให้สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ จึงถูกนำมาดีไซน์เป็นบ้านเดี่ยว อัตลักษณ์ใหม่ของการอยู่อาศัย ที่หรูหรา ทว่าอยู่สบายด้วยการออกแบบที่ลงตัว
ทำให้อาณาบริเวณกว่า 79-1-8 ไร่ จำนวน 121 ยูนิต แบ่งเป็น 3 Type ได้แก่ Nashville, Nellsford และ Nellington เน้นความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว เพื่อให้แต่ละครอบครัวได้มีพื้นที่พักผ่อนใช้เวลาร่วมกันเป็นของตัวเองได้อย่างเต็มที่
Clubhouse
ดีไซน์โดดเด่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
สำหรับส่วนกลางจะเป็น Club House ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ บอกเลยว่าดีไซน์เรียบหรู ดูน้อยแต่มาก แต่แฝงไปด้วยความเท่ เพราะเอกลักษณ์รูปทรงกล่องสมมาตรขนาดใหญ่ของตัวอาคาร ที่ให้ความรู้สึกโอ่อ่า กว้างขวาง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก American Museum
แต่ความเป็นเหลี่ยม เป็นมุม ของรูปทรงอาคาร ก็ซ่อนสเปซสุดเซอร์ไพรส์ไว้ด้านใน ด้วยบริเวณทางเข้าตัวอาคาร จะพบกับ Reception Hall ขนาดใหญ่ สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน ทั้งนี้เมื่อเดินเข้ามาจะสัมผัสได้ถึงความหรูหรา โอ่โถง แลดูกว้างขวาง และยังมีรูปวาดสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกประดับผนัง ทำให้รู้สึกเหมือนเดินเล่น อยู่ในพิพิธภัณฑ์จริงๆ
ถัดจากบริเวณ Reception Hall จะนำเราเข้าไปสู่สเปซเปิดกว้างที่เหมือนหลุดออกมาอยู่อีกโลกนึงเลยก็ว่าได้ ด้วยการตกแต่งโถงทางเดินเป็นซุ้มโค้งตลอดทางเดิน ที่เพิ่มเสน่ห์ทางเข้า และบานหน้าต่างให้ดูสง่า นุ่มนวล แฝงด้วยกลิ่นอายแบบตะวันตก
รวมทั้งยังเป็นสเปซของ สระว่ายน้ำแบบ Semi-Outdoor สามารถว่ายน้ำได้ทั้งวัน โดยไม่ต้องกลัวแดด และยังเป็นสระระบบน้ำเกลือแบบยาวขนาด 20 เมตร แยกสระเด็กกับผู้ใหญ่ โดยจำลองมาจากมาตรฐานสระว่ายน้ำโอลิมปิก ทำให้สามารถว่ายน้ำในระยะยาวๆ ได้อย่างเต็มที่ ในวันหยุดพักผ่อน
ถัดมาจะเป็นในส่วนของพื้นที่ Fitness สำหรับออกกำลังกาย ดีไซน์เป็นพื้นที่แบบเปิดกว้าง พร้อมกรุผนังรอบด้านเป็นกระจก ทำให้สเปซภายในฟิตเนส มีความรู้สึกโปร่งโล่ง ดูน่าใช้งาน ไม่อึดอัด และมีความเป็นส่วนตัวสูงสุด พร้อมทั้งมีเครื่องเล่น Cardio, Weight Station ครบตามพื้นฐาน
รวมถึงในส่วนของพื้นที่ Fitness ยังมี Yoga Room แบบ Privacy สำหรับผู้ที่ต้องการเล่นโยคะ เพื่อฟื้นฟูร่างกาย และต้องการปรับอารมณ์จากความวุ่นวายภายนอก
ผ่านการดีไซน์สเปซร่วมกับการใช้ ไฟเพดานแบบดาวน์ไลท์ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สำหรับผู้เข้ามาใช้งานมากที่สุด
อีกทั้งสำหรับใครที่ชื่นชอบปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจ Clubhouse ของโครงการ Milton Residence มีเป็นพื้นที่ Private Lounge เพื่อซัพพอร์ตเมมเบอร์ เพื่อจัดปาร์ตี้วันเกิดหรืองานสังสรรค์อื่นๆ โดยเฉพาะ ซึ่งสเปซภายในจะมีเป็น พื้นที่นั่งเล่น และ โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 8 ที่นั่ง
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ Pantry คอยอำนวยความสะดวกให้แก่เมมเบอร์ เพื่อใช้จัดเตรียมอาหาร หรือทำอาหารรับประทานภายในงานได้ โดยไม่ต้องเสียเวลายกไปมาจากบ้าน
และยังมีพื้นที่ สระว่ายน้ำส่วนตัว ภายในพื้นที่ Private Lounge โดยจะจัดเป็น Pool Party เพื่อสังสรรค์กับเพื่อนๆ ในวันหยุด
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ สนามเด็กเล่น สำหรับเด็กๆ เล่นเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการ รวมทั้งการหาเพื่อนใหม่ จากเพื่อนบ้านในโครงการ
เอ๊ะ ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะพื้นที่ส่วนกลางยังมีพื้นที่สีเขียว ซึ่งจัดทำเป็นสวน Exquisite Garden ขนาดใหญ่ โดยมีพื้นที่ประมาณ 1-2-94 ไร่ ถูกครีเอทให้เป็นสวนที่มีพื้นที่ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Luxurious Pavillion พื้นที่นั่งพักผ่อน ซึ่งปลูกต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบ เพื่อความร่มรื่น
รวมถึงมี พื้นที่สวนมี Jogging Lane สำหรับวิ่ง-เดิน ออกกำลังกาย พร้อมอ้าแขนรับธรรมชาติ สูดอากาศที่บริสุทธิ์
ถัดมาจะเป็น ที่นั่งพักผ่อนแบบเปิดโล่ง โดยจะยกระดับพื้นทำเป็นขั้นบันไดขึ้นไป ทำให้สามารถมองเห็นภาพบรรยากาศโดยรวม ภายในโครงการได้
ขณะที่ตัวบ้านเป็นบ้านหลังขนาดใหญ่ทั้งนั้น ทำให้สามารถตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่หลายช่วงอายุ ที่มีสมาชิกตั้งแต่ 4-6 คน ได้อย่างสบายๆ ซึ่งฟังก์ชันของบ้าน แต่ละ Type ก็สามารถใช้สอยได้สะดวกสบายอยู่แล้ว โดยวันนี้จะพาไปชมทุกแบบเลย โดยเริ่มที่
1. NASHVILLE
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เป็น Type เริ่มต้นของทางโครงการ โดยมีที่ดินมาตรฐานเริ่มต้น 75 ตร.ว. ขนาดพื้นที่ใช้สอย 281 ตร.ม. ประกอบด้วยฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 4 ที่จอดรถ*
► Design Exterior
Nashville บ้านทรง American Style ซึ่งบอกเล่าเรื่องความเป็นอเมริกัน ผ่านดีไซน์ตัวบ้านทรงสูง ทำให้บ้านดูปลอดโปร่งเหมาะแก่การอยู่อาศัย รวมถึงการใช้โทนสีน้ำตาลอบอุ่นๆ เน้นการใช้วัสดุที่เป็นอิฐอันเป็นเอกลักษณ์ของบ้านสไตล์อเมริกัน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ Mood&Tone ของตัวบ้าน ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น และนุ่มนวล
First Floor
ส่วนดีไซน์ของตัวบ้านภายในเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ซึ่งภายในถูกจัดฟังก์ชัน และแปลนให้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง เหมาะสมกับขนาดครอบครัวใหญ่ หรืออยาก Built - in มุมเพิ่มเติมก็สามารถทำได้
เมื่อก้าวขาเดินเข้ามาภายในบ้านจะสัมผัสได้ถึง ความโปร่ง โล่ง สบาย และความโอ่อ่าของตัวบ้านที่แสดงให้เห็นว่าภายในเน้นการดีไซน์ Cross Ventilation เพื่อทำให้คุณภาพอากาศภายในบ้านดีขึ้น โดยเฉพาะเพดานสูงที่ทำให้บ้านดูโปร่ง สะท้อนความโอ่โถง ซึ่งมีระยะ Floor to ceiling อยู่ที่ 2.90 เมตร และพื้นที่ Outdoor Terrace ด้านข้างที่เชื่อมต่อมาจากด้านหน้า สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนอีกจุดเพิ่มเติมเข้าไปได้
รวมถึง ประตูและหน้าต่าง ที่ดีไซน์ออกมาแบบพิเศษ เพื่อให้เอื้อต่อการระบายอากาศ และทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่รู้สึกอึดอัด แถมยังช่วยขยายมุมภายในบ้านให้เชื่อมโยงกับพื้นที่ภายนอกบ้านได้มากขึ้นอีกด้วย
บวกกับจุดเด่นฟังก์ชันการจัดวาง Layout บ้าน ที่เน้นการจัดวางตำแหน่งพื้นที่ใช้สอยภายในให้มีความต่อเนื่องเชื่อมถึงกันได้อย่างลื่นไหล โดยไล่ตั้งแต่โซน Living Area ซึ่งถูกจัดวางตำแหน่งแบบ Open Plan เชื่อมต่อโซน Multi Purpose Hall พื้นที่สารพัดประโยชน์ ที่สามารถครีเอททำเป็นมุมต่างๆ ได้ อาทิ มุมเล่นเปียโน มุมหนังสือ หรือ มุมทำงาน ก็เก๋ไปอีกแบบ
ส่วนพื้นที่ Dining Area ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ Pantry โดยบริเวณพื้นที่ Dining สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ถึง 8 ที่นั่ง ทั้งนี้ยังเชื่อมต่อกับพื้นที่ Laundry ห้องสำหรับซักรีด และจัดการเสื้อผ้าของคนในบ้าน
รวมถึง ห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ซึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำ ที่ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัวว่าจะใช้สำหรับจัดทำเป็นห้องต่างๆ หรือหากครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุ ก็เหมาะมากสำหรับการทำเป็นห้องนอน
แต่จุดไฮไลท์สำหรับโซนนี้เลยคือการออกแบบให้ "ครัว" สามารถเชื่อมต่อสเปซออกไปข้างนอกได้ เพื่อสังสรรค์ปาร์ตี้ต่างๆ หรือเปลี่ยนบรรยากาศการรับประทานอาหาร ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่จะได้ใช้ช่วงเวลาดีๆ กับครอบครัว
Second Floor
ในส่วนของชั้นที่ 2 ประกอบด้วยห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัว
และเมื่อขึ้นมาจะพบกับพื้นที่ Corridor Lounge ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่พื้นที่เชื่อมต่อไปยังบริบทห้องต่างๆ ของชั้นที่ 2 เพราะเป็นสเปซที่ทางสวนหลวงออกแบบมา เพื่อรองรับให้เป็นพื้นที่ Family Area สำหรับครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกันในวันหยุด
ทั้งนี้เมื่อเดินผ่านพื้นที่ Corridor Lounge จะพบกับ Master Bedroom บอกเลยว่าทันทีที่เดินเข้าไปภายในห้องจะสัมผัสถึงความสูง โปร่ง โล่ง สบาย จะเห็นได้จากภาพบ้านเปล่าด้านล่าง เพราะถูกดีไซน์ Floor to ceiling ระยะ 3 เมตร ซึ่งสามารถแบ่งสเปซเป็นโซนที่นอน หรือวางเตียงขนาดใหญ่ได้บริเวณปลายเตียงมีมุมสำหรับวางทีวี และเหลือพื้นที่เพียงพอ สำหรับตู้เสื้อผ้าบานใหญ่
รวมทั้งมีพื้นที่เพียงพอสำหรับ Built-in เป็น Walk-in Closet ที่รับรองว่าโดนใจคุณแม่สายแฟ ที่มีเสื้อผ้าล้นตู้อย่างแน่นอน
ในส่วนของ พื้นที่ห้องน้ำ มีการออกแบบสเปซแยกเป็นโซนเปียก-แห้ง พร้อมกรุด้วย กระเบื้องหินแกรนิตโต้ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องคราบสกปรก เพราะทำความสะอาดได้ง่าย เพียงแค่ใช้ไม้ม็อบถูกับน้ำ
ไฮไลท์พิเศษของชั้นนี้ ต้องยกให้ Bedroom Balcony ที่เชื่อมออกมาจาก Master Bedroom โดยเน้นดีไซน์ให้สเปซของพื้นที่อยู่ภายใต้ชายคา ทำให้ได้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว เเละยังป้องกันแดด ฝน พร้อมราวกั้นกันตก ซึ่งสามารถใช้เป็นมุมนั่งเล่นรับลม หรือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจตามสไตล์อเมริกันที่เห็นในหนังฮอลลีวูดก็ได้
ส่วนของห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง แม้จะอยู่โซนด้านหลัง แต่กลับเปิดรับแสงได้อย่างเต็มที่ พร้อมพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง รวมถึงห้องน้ำส่วนตัว ทำให้สามารถปรับเป็นพื้นที่ต่างๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ หรือจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ก็ยังได้
2. NELLSFORD
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีที่ดินมาตรฐานเริ่มต้น 92 ตร.ว. ขนาดพื้นที่ใช้สอย 362 ตร.ม. ประกอบด้วยฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 Maid Room และ 6 ที่จอดรถ*
► Design Exterior
มาต่อกันที่ Type ที่สองอย่าง Nellsford การออกแบบจะคล้ายกันกับแบบ Nashville แต่มีพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น พร้อมห้องนอนสำหรับแม่บ้าน โดยฟังก์ชันมีหน้าบ้าน และพื้นที่ชานรอบบ้านกว้างขึ้น รองรับที่จอดรถได้สูงสุดถึง 6 คัน*
First Floor
สำหรับชั้นที่ 1 ของ Type Nellsford ลำดับการเข้าห้องต่างๆ ในชั้นล่างจะเหมือนกันกับ Type แรก แต่จะมีพื้นที่ในบ้านใหญ่มากขึ้น มีโซนตรงกลางบ้านจัดเป็นเคาน์เตอร์หรือวางตู้โชว์ได้ และชานรอบบ้านจะกว้างขึ้น
และเมื่อเดินเข้าไปภายในบ้านจะพบกับพื้นที่ Living Area โดยพื้นที่ส่วนนี้เชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร จะมีประตูบานเลื่อน
ซึ่งเมื่อเปิดออกมาจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ Terrace ที่สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน แบบ Semi Outdoor ตามวิถีชีวิตอเมริกันสไตล์
ถัดไปเป็นพื้นที่ Pantry สำหรับการเตรียมอาหาร และสามารถประกอบอาหารที่มีกลิ่นควันได้ โดยไม่รบกวนพื้นที่ภายใน จากส่วนครัวจะเปิดออกมาเป็นส่วนซักล่างด้านหลัง เชื่อมต่อกับส่วนของ Maid Room นอกจากนี้ยังมีห้อง Multi Purpose Room สำหรับรองรับผู้สูงอายุ
Second Floor
ในส่วนของชั้นที่ 2 ประกอบด้วยห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัว
ชั้นที่ 2 สิ่งที่เพิ่มเข้ามาจะเป็น Corridor Lounge ที่จะสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้ มีแสงเข้าได้ทั้ง 2 ด้าน สามารถเปิดระบายอากาศได้
ถัดมาทางด้านหน้าตัวบ้าน จะเป็นห้องนอน Master Bedroom มีพื้นที่กว้างขวางพอ สำหรับ Built-in เป็นพื้นที่ Walk – in Closet ที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ
และในส่วนด้านในตัวบ้าน จะเป็นห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องนอน ซึ่งมีห้องน้ำในตัว และจุดที่เป็นไฮไลท์สำหรับบริเวณโซนห้องนอนของ Type นี้เลย คือแต่ละห้องนอนจะมีระเบียงส่วนตัว ที่สามารถตั้งวางชุดเก้าอี้ สำหรับทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น อ่านหนังสือ จิบกาแฟ และปลูกต้นไม้ได้
3. NELLINGTON
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีที่ดินมาตรฐานเริ่มต้น 108 ตร.ว. ขนาดพื้นที่ใช้สอย 477 ตร.ม. ประกอบด้วยฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 Maid Room และ 4 ที่จอดรถ*
► Design Exterior
สำหรับ Nellington เป็น Type ที่ใหญ่ที่สุดของโครงการ เพราะฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ สำหรับรองรับครอบครัวใหญ่ ทำให้การออกแบบ exterior จึงเน้นการออกแบบให้มีมุม out door บริเวณชานบ้าน และระเบียง
First Floor
สำหรับชั้นที่ 1 ของ Type Nellington ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ต้อนรับแบบ Double Floor เชื่อมต่อทั้งสองชั้น ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง
และสิ่งถัดมาที่น่าสนใจคือการจัด Layout ไล่ตั้งแต่บริเวณหน้าบ้าน ประตูซึ่งเป็นทางเข้าบ้านหลักจะมีระยะร่นเข้าไปหลบแสงแดดและฝนได้ รวมถึงพื้นที่ Double Foyer ที่มีห้องเก็บของใต้บันได และสามารถ Built-in ตู้รองเท้าเพิ่มเติมได้
ส่วนด้านขวาของบ้านจะเป็นพื้นที่ Terrace เชื่อมต่อกับพื้นที่พักผ่อน หรือพื้นที่กิจกรรมครอบครัว
ส่วนภายในบ้านมีพื้นที่ Common Area กว้าง สามารถกั้นห้องแบ่งเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัว พื้นที่ Dining Hall และพื้นที่ Pantry Corner ที่เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ Kitchen Area
ส่วนโซนด้านหลังบ้านจะแบ่งเป็นพื้นที่พักผ่อน มีห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำส่วนตัว และมีพื้นที่ครัวปิด เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ Terrace, Maid Room และ Maid Plaza
Second Floor
ในส่วนของชั้นที่ 2 ประกอบด้วยห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัว และมีพื้นที่ Penthouse
เป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมด แบ่งเป็นโซน Penthouse Lounge สำหรับนั่งเล่น ทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว และสามารถมองผ่านโถง Double Volume ลงมายังโถงต้อนรับด้านหน้าบ้านได้ ก่อนจะแยกไปยังส่วนห้องนอนทั้ง 3 ห้อง
ซึ่งห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ห้อง Master Bedroom ได้พื้นที่กว้าง ทำให้สามารถกั้นห้อง Walk-in Closet แยกได้ มีระเบียงส่วนตัว
และห้องนอนเล็กทั้ง 2 จะอยู่อีกหน้าซ้ายของตัวบ้านมีขนาดใหญ่ สามารถกั้นพื้นที่ Walk-in Closet แยกได้ ส่วนอีกห้องจะเป็นห้องนอนขนาดมาตรฐาน มีห้องน้ำในตัว สามารถวางเตียง และ Buit-in พื้นที่สำหรับทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือชั้นวางหนังสือได้
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญ ก็คือตัวบ้านทุกแบบ จะก่อด้วยอิฐ EKOBLOK ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่มีความแข็งแรงทนทานสูง ทําให้บ้านเย็น และประหยัดพลังงาน รวมทั้งมีคุณสมบัติ กันไฟ กันความร้อน กันเสียงได้ดี และรองรับการเจาะต่อเติมบ้านได้ในอนาคต
สรุป
Milton Residence Ramintra เป็นโครงการบ้านที่เรากล้าบอกได้เลยว่าเป็นทำเลที่มีไลฟ์สไตล์ครบ ทั้งตลาด ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และโรงพยาบาล รวมถึงการเดินทางเข้า-ออก เมือง ที่สะดวกและรวดเร็ว ทำให้เป็นอีกหนึ่งในทำเลที่หลายๆ คน เริ่มมองหาบ้านแถวนี้กันมากขึ้น
ทำเลติดถนนใหญ่รามอินทราแบบนี้ และใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูแบบนี้ บอกได้เลยว่า หาแทบไม่ได้อีกแล้วในอนาคต และโครงการยังโดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์พื้นที่ใช้สอย สำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง และหากต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่ออยู่อาศัยเอง หรือวางแผนที่จะปล่อยเช่า เพื่อให้ได้กำไรระยะยาว ก็ตอบโจทย์ทุกมิติ ดังนั้นหากสนใจบอกคำเดียวว่า "ต้องรีบ" เพราะหมดไว แน่ๆ ครับ
สนใจโครงการติดต่อเบอร์โทร : 02 540 6680
Line: https://lin.ee/5tRMTzQ
ลิงค์ลงทะเบียน https://bit.ly/3UWzJDj
เว็บไซต์โครงการ https://www.suanluang.co.th/projects/milton_residence_ramintra
Livinginsider - Weekly Insight Report [10-16 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-11-18
ยอดเยี่ยมมากๆค่ะ
ผู้เขียนเก่ง บทความดีๆ ทั้งนั้น
อ่านเพลินดี ชอบค่ะ