News
icon share

“ลุมพินี วิสดอม” ระบุ เทคโนโลยีดิจิทัล พลิกโฉมงานบริการ สร้างสมดุลให้กับชีวิตใน 3 ด้าน “การทำงาน-การพักผ่อน-สุขภาวะที่ดี”

LivingInsider Report 2022-10-06 09:55:37
“ลุมพินี วิสดอม” ระบุ เทคโนโลยีดิจิทัล พลิกโฉมงานบริการ สร้างสมดุลให้กับชีวิตใน 3 ด้าน “การทำงาน-การพักผ่อน-สุขภาวะที่ดี”

 

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทด้านวิจัยและพัฒนาในเครือบริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทุกภาคธุรกิจ

 

โดยเฉพาะงานบริการที่เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการพัฒนาคุณภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น กลายเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างสมดุลให้กับชีวิตภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบันที่ผู้คนต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสภาพเศรษฐกิจ สังคม การทำงาน ปัญหาด้านสุขอนามัย และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม

 

การศึกษาของทีมพัฒนางานบริการ (Service Design Center : SDC) ของบริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด ชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการสร้างสมดุลให้กับชีวิตใน 3 ด้าน ทั้งด้านการทำงาน การพักผ่อน และเสริมสร้างสุขภาวะที่ดี 

 

1. ด้านการทำงาน

จากรายงานการสำรวจความเห็นของอะโดบี (Adobe) เกี่ยวกับเวลาในการทำงานพบว่า ผู้ให้ข้อมูลกว่า 35% มีแผนที่จะลาออกจากงานที่ทำอยู่ในปี 2565 นี้ โดยที่มากกว่า 61% ของคนกลุ่มดังกล่าวให้เหตุผลในการลาออกว่าต้องการที่จะบริหารจัดการเวลาชีวิตของตนเองให้มีอิสระมากขึ้น และตัวเลขนี้ยิ่งพุ่งสูงขึ้นในคนกลุ่ม Gen Z (อายุไม่เกิน 25 ปี)

 

โดยพนักงานนั้นให้เหตุผลส่วนหนึ่งว่าพวกเขาคาดหวังให้องค์กรมีเทคโนโลยี ที่จะสนับสนุนให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ เวลาที่ใช้ในการจัดการไฟล์ แบบฟอร์มต่างๆ เอกสารสัญญา การชำระเงิน และเอกสารใบแจ้งหนี้นั้น ถือเป็นอุปสรรคต่อการทำงานอย่างมาก โดยพนักงานในกลุ่มนี้ไม่น้อยกว่า 50% พร้อมที่จะเปลี่ยนงานหากบริษัทใหม่มีเครื่องมือที่ช่วยในการทำงานได้ดีกว่า

“ลุมพินี วิสดอม” ระบุ เทคโนโลยีดิจิทัล พลิกโฉมงานบริการ สร้างสมดุลให้กับชีวิตใน 3 ด้าน “การทำงาน-การพักผ่อน-สุขภาวะที่ดี”
 

ดังนั้นการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ภายในองค์กรนั้นจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้สะดวกสบายและรวดเร็วขึ้น และพนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้นด้วยการใช้เวลาที่น้อยลง แถมยังเป็นเครื่องมือที่ป้องกันไม่ให้บุคลากรที่มีคุณภาพ ย้ายงานไปอยู่กับองค์กรที่มีเทคโนโลยีรองรับการทำงานที่ดีและสะดวกสบายกว่า

 

ในมุมมองของพนักงานสิ่งที่พวกเขาได้รับนั้นมากกว่าเรื่องของการทำงานที่ง่ายขึ้น มากกว่าการผลิตผลงานออกมาได้ดีขึ้น มากกว่าเรื่องที่ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการทำงานล่วงเวลา กล่าวคือ พวกเขาจะมีเวลามากขึ้นเพื่อไปบริหารความสมดุลในการใช้ชีวิตได้ โดยตัวอย่างของเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การทำงานในปัจจุบัน อาทิ 

 

• aiScript - เทคโนโลยีประมวลผลเอกสารแบบ OCR (Optical Character Recognition) หรือการแปลงไฟล์รูปภาพเป็นเอกสารด้วยการจดจำรูปแบบอักษรเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเข้ามาประมวลผลเอกสารต่างๆ รองรับการอ่านเอกสารภาษาไทย และภาษาอังกฤษ รวมถึงตัวเลขไทย และลายมืออีกด้วย

 

เทคโนโลยี OCR สามารถดึงข้อมูลเฉพาะจุดที่ต้องการจากเอกสารได้ มีการรองรับเอกสารมากกว่า 12 ประเภท และเอกสารเฉพาะขององค์กร เช่น อ่านบัตรประชาชน ใบแจ้งหนี้ (Invoice) ใบเสร็จรับเงิน ใบเคลมประกัน ใบมรณะบัตร สมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารอื่น ๆ โดยสามารถเปลี่ยนเอกสารต่างๆมาเป็นข้อมูลตัวอักษรได้แบบอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาในการทำงานของพนักงานลงได้ และช่วยให้ลูกค้าได้รับการบริการที่รวดเร็วขึ้น

 

• การนำระบบ Cloud Storage (หรือการเก็บข้อมูลระยะไกล) มาช่วยในการทำงาน การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีคลาวด์ (Cloud) ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบันที่ต้องมีการทำงานในระบบออนไลน์มากขึ้น ซึ่งระบบคลาวด์นี้ช่วยให้พนักงานที่ทำงานนอกสำนักงานสามารถเข้าถึงและทำงานในไฟล์เดียวกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นได้ และสามารถแก้ไขข้อมูลได้หลายคนพร้อมกันแบบเรียลไทม์ ไม่ต้องรอเข้ามาส่งงานที่สำนักงานอีกต่อไป โดยมีผู้ให้บริการหลากหลายให้เลือกในตลาด เช่น Microsoft , Google, Apple ฯลฯ

“ลุมพินี วิสดอม” ระบุ เทคโนโลยีดิจิทัล พลิกโฉมงานบริการ สร้างสมดุลให้กับชีวิตใน 3 ด้าน “การทำงาน-การพักผ่อน-สุขภาวะที่ดี”

 

2. บริการตอบโจทย์การพักผ่อนและการใช้ชีวิต

นอกจากการทำงานแล้ว การพักผ่อนและการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพยังเป็นสิ่งที่ผู้คนในยุคปัจจุบันให้ความใส่ใจ ดังนั้นการบริการที่สามารถทำให้ผู้คนมีเวลาในการพักผ่อนและการใช้ชีวิตมากขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ จากการสำรวจความคิดเห็นของ “ลุมพินี วิสดอม” เกี่ยวกับการบริการที่สามารถตอบโจทย์การพักผ่อน และการใช้ชีวิตให้กับผู้พักอาศัยในโครงการคอนโดมิเนียม

 

พบว่า ผู้พักอาศัยในคอนโดมิเนียมกว่า 67% รู้สึกเสียดายเวลาที่ต้องไปติดต่อทำธุรกรรมที่สำนักงานนิติบุคคล เช่น การติดต่อเพื่อแจ้งซ่อม การลงนามเอกสารเพื่อยืนยันการใช้สิทธิ์ต่างๆ แม้ว่าสำนักงานนิติบุคคลจะตั้งอยู่ภายในพื้นที่คอนโดที่พักอาศัยแล้วก็ตาม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคต้องการบริการที่อำนวยความสะดวกลดเวลาและช่วยให้เขาสามารถใช้เวลาที่ได้คืนมาไปทำเรื่องกิจกรรมอื่นมากขึ้น ทั้งนี้ตัวอย่างของบริการตอบโจทย์การพักผ่อนและการใช้ชีวิตมีดังนี้

“ลุมพินี วิสดอม” ระบุ เทคโนโลยีดิจิทัล พลิกโฉมงานบริการ สร้างสมดุลให้กับชีวิตใน 3 ด้าน “การทำงาน-การพักผ่อน-สุขภาวะที่ดี”

 

• Grab Assistance บริการผู้ช่วยซื้อของส่วนตัว
เรียกได้ว่าหากพูดถึงบริการที่ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์แล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Grab คือหนึ่งในผู้ให้บริการที่พัฒนางานบริการตอบโจทย์ด้านเวลาของผู้ใช้บริการได้อย่างได้เป็นอย่างดี นอกจากการรับส่งอาหาร ผู้โดยสาร และสิ่งของ

 

Grab ยังมีบริการ Grab Assistance ที่เป็นผู้ช่วยในการฝากซื้อสินค้าจากร้านค้า หรือบริการอำนวยความสะดวกอื่นๆก็ สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เช่น อาหารสัตว์เลี้ยง ฝากซื้อต้นไม้ อุปกรณ์ทำสวน ฝากซื้อยาสามัญประจำบ้าน อุปกรณ์งานช่าง แม้กระทั่ง รับ-ส่งผ้าที่ต้องการส่งไปซักรีด

 
• Dog Walker บริการพาสุนัขเดินเล่น
บริการ Dog Walker ถือเป็นบริการทางเลือกที่ดีหากคุณอยากใช้เวลาออกไปพักผ่อนหรือใช้ชีวิตกับครอบครัว หรือเพื่อนๆ แต่มีภาระต้องพาสุนัขไปเดินเล่นก่อนออกไปทำธุระดังกล่าว ทั้งนี้บริการ Dog Walker จะเป็นจัดหาผู้พาสุนัขของคุณออกไปเดินเล่น เก็บและกำจัดมูลสุนัขช่วงที่พาออกไปเดินเล่น

 

โดยผู้ให้บริการบางรายยังมีบริการเพิ่มเติม เช่น การพาสุนัขออกกำลังกาย ตรวจเช็คสุขภาพของสุนัข สังเกตความต้องการในเรื่องของอาหาร น้ำ พร้อมทั้งแจ้งเจ้าของให้ทราบถึงข้อมูล บริการนี้เป็นที่นิยมอย่างยิ่งในต่างประเทศ โดยมีอัตราการให้บริการอยู่ระหว่าง 300-600 บาท / ชั่วโมง ประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับคือช่วยให้ผู้ที่ใช้บริการมีเวลาไปทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ด้านอื่นมากขึ้น

“ลุมพินี วิสดอม” ระบุ เทคโนโลยีดิจิทัล พลิกโฉมงานบริการ สร้างสมดุลให้กับชีวิตใน 3 ด้าน “การทำงาน-การพักผ่อน-สุขภาวะที่ดี”

 

3. ด้านสุขภาวะที่ดี

จากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ตั้งแต่ปลายปี 2562 ถึงปัจจุบัน ทำให้ประชาชนใส่ใจเรื่องสุขภาวะที่ดีมากขึ้น ทำให้มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการส่งเสริมและสร้างสุขภาวะที่ดี  ทำให้มีสุขภาพกายที่แข็งแรง มีสภาวะจิตใจ และสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่ดี โดยงานบริการที่น่าสนใจ และตอบโจทย์การมีสุขภาวะที่ดี มีตัวอย่างดังต่อไปนี้
 

• คอร์สเรียนการออกกำลังกายในผู้สูงอายุ เพื่อดูแลผู้สูงอายุในครอบครัว (คอร์สเรียนออนไลน์จาก Planforfit)
เพื่อให้สามารถดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวได้อย่างถูกวิธี และทำให้สุขภาพของพวกท่านแข็งแรงด้วยการดูแลอย่างถูกต้อง Planforfit จึงจัดคอร์สเรียนออนไลน์นี้ เป็นคอร์สเรียนเกี่ยวกับการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ

 

โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ มาทำการสอนให้ผู้เข้าเรียน เข้าใจถึงปัญหาของผู้สูงอายุ ข้อมูลสถิติต่างๆ การประเมินร่างกาย วิธีการออกกำลังกาย ท่าการออกกำลังกายต่างๆ การฝึกล้ม และข้อควรระวังในการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าเรียนสามารถนำวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องมาใช้ในการดูแลคนในครอบครัวได้

“ลุมพินี วิสดอม” ระบุ เทคโนโลยีดิจิทัล พลิกโฉมงานบริการ สร้างสมดุลให้กับชีวิตใน 3 ด้าน “การทำงาน-การพักผ่อน-สุขภาวะที่ดี”

 

• Application Recycle Day 
Recycle Day เป็นแพลตฟอร์มการให้บริการนัดหมายผู้รับซื้อขยะรีไซเคิล และแจ้งเตือนการเก็บขยะและสิ่งของเหลือใช้อื่นผ่านสมาร์ทโฟน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมการแยกขยะและอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการ สามารถใช้ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยและได้รับผลตอบแทนสูงสุด เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสุขภาวะที่ดีในการอยู่อาศัย

 

“การสร้างสมดุลในการใช้ชีวิตทั้ง 3 ด้านเป็นพื้นฐานในการใช้ชีวิตที่ดี แต่การสร้างสมดุลทั้ง 3 ด้านในอดีตนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่เข้าถึงยาก เนื่องจากข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูล และองค์ความรู้ต่างๆ ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย แต่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่พัฒนาขึ้นในปัจจุบัน ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย และสามารถที่จะเรียนรู้เพื่อสร้างสมดุลในการใช้ชีวิต ที่สะดวกสบายได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต เทคโนโลยีและบริการมีการพัฒนาให้ดีขึ้น ทันสมัยมากขึ้น

“ลุมพินี วิสดอม” ระบุ เทคโนโลยีดิจิทัล พลิกโฉมงานบริการ สร้างสมดุลให้กับชีวิตใน 3 ด้าน “การทำงาน-การพักผ่อน-สุขภาวะที่ดี”

 

และยังสอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค สำหรับรูปแบบการให้บริการนั้นควรต้องเป็นการให้บริการแบบไฮบริด (Hybrid) ซึ่งผสมผสานระว่างการให้บริการแบบออฟไลน์และออนไลน์ ทั้งนี้รูปแบบของการบริการจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ หากแต่ยังมีบริการอื่นอีกมากมายที่สามารถเข้ามาช่วยในการใช้ชีวิตประจำวัน ขึ้นอยู่กับแนวคิดของใครจะจับจุดและตรงใจกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคที่ทุกคนอยากมีเวลา และความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว 
 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider