“วัน ออริจิ้น” ผนึกยักษ์อสังหาฯญี่ปุ่น “โตคิว แลนด์ เอเชีย” ต่อเนื่อง ร่วมทุนเพิ่มโรงแรมไอบิส ภูเก็ต-หัวหิน-กระบี่ ตอกย้ำความเชื่อมั่นธุรกิจท่องเที่ยวไทย

“วัน ออริจิ้น” ร่วมทุนพันธมิตรยักษ์ใหญ่อสังหาฯญี่ปุ่น “โตคิว แลนด์ เอเชีย” ต่อเนื่อง เดินหน้าร่วมทุนเพิ่มโรงแรมไอบิส 3 แห่ง ภูเก็ต-หัวหิน-กระบี่ ชี้ศักยภาพทำเลหัวเมืองท่องเที่ยวเติบโตตอกย้ำความมั่นใจชาวต่างชาติต่อบริษัทและแนวโน้มธุรกิจท่องเที่ยวไทย เผยอัตราการเข้าพักฟื้นตัวชัดเจนหลังเปิดประเทศ

นายปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างความร่วมมือใหม่ในกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) กับหลากหลายพันธมิตร เพื่อสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนต่อเนื่อง

ล่าสุดได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด พันธมิตรยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนในโรงแรมแบรนด์ “ไอบิส” (ibis) โรงแรมระดับบัดเจ็ตโฮเทล 3 แห่ง ประกอบด้วย

1. โรงแรมไอบิส ภูเก็ต กะตะ (ibis Phuket Kata) โรงแรมขนาด 5 ชั้น จำนวนห้องพัก 258 ห้อง 

2. โรงแรมไอบิส หัวหิน (ibis Hua Hin) โรงแรมสูง 6 ชั้น จำนวนห้องพัก 200 ห้อง

3. โรงแรมไอบิส สไตล์ กระบี่ อ่าวนาง (ibis Styles Krabi Ao Nang) โรงแรมสูง 5 ชั้น จำนวนห้องพัก 206 ห้อง รวมจำนวนห้องพัก 664 ห้อง

“ความร่วมมือในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและไว้วางใจจาก โตคิว แลนด์ เอเชีย ที่มีต่อ วัน ออริจิ้น ในการเดินหน้าลงทุนธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำในประเทศไทย และศักยภาพด้านธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหัวเมืองท่องเที่ยวที่พบว่าอัตราการเข้าพักในโรงแรม ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19

ในส่วนของโรงแรมทั้ง 3 แห่งปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับมากกว่า 60-70% เป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยวไทยมีศักยภาพและพร้อมที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้ง ซึ่งทางโตคิว แลนด์ เอเชียได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ จึงทำให้เกิดการร่วมทุนในครั้งนี้” นายปิติ กล่าว

ที่ผ่านมา บริษัทได้ร่วมทุนกับโตคิว แลนด์ เอเชีย ในโครงการมิกซ์ยูส “วัน ออริจิ้น พญาไท” มูลค่า REIT 3,600 ล้านบาท และโครงการอาคารสำนักงานเกรดเอ “วัน ออริจิ้น สนามเป้า” มูลค่า REIT 4,400 ล้านบาท ครั้งนี้จึงนับเป็นครั้งแรกที่มีการร่วมทุนกับโตคิวในกลุ่มธุรกิจโรงแรมในพื้นที่หัวเมืองใหญ่

ด้าน นายฮิเดทาสึ อิเคดะ ประธานกรรมการ บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์การขยายการลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทให้ความสำคัญกับการพิจารณาพันธมิตรที่เหมาะสม มีชื่อเสียง และน่าเชื่อถือ สำหรับการลงทุนในแต่ละประเทศ

สำหรับในประเทศไทย การเดินหน้าร่วมทุนกับบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด และเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มาหลายโครงการ และการร่วมทุนในโรงแรมไอบิสทั้ง 3 แห่งเพิ่มเติม จะเป็นอีกก้าวสำคัญของการเติบโตของบริษัทในประเทศไทย โดยบริษัทมีแผนพัฒนาและร่วมทุนกับบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ตลอดจนบริษัทอื่นในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ โรงแรมทั้ง 3 แห่ง ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ และห้องสำหรับจัดงานประชุมและสัมมนา ให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

สำหรับ บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด เป็นบริษัทพัฒนาและลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือโตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่นที่สั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน 67 ปี

ภายใต้การดำเนินธุรกิจของ โตคิว ฟูโดซัง โฮลดิ้ง คอร์เปอเรชั่น บริษัทยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ซึ่งติดหนึ่งในบริษัทดัชนี Nikkei 225 มีมูลค่าทรัพย์สิน ณ สิ้นปีงบการเงินล่าสุดของญี่ปุ่น (31 มี.ค.65) ประมาณ 2,634,000 ล้านเยน หรือราว 673,000 ล้านบาท

บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด เป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในเครือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันดำเนินธุรกิจหลากหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มธุรกิจโรงแรม พัฒนาโครงการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ พร้อมทั้งจับมือกับแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกเข้ามาบริหาร มีโรงแรมที่เริ่มเปิดดำเนินการแล้ว

อาทิเช่น โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา-แหลมฉบัง โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท และมีโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกหลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพ และหัวเมืองต่างๆ ในประเทศไทย  ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า กลุ่มอาคารมิกซ์ยูส และกลุ่มธุรกิจอาหาร