ข้อดีของการรีเทนชั่น (Retention) ง่ายสะดวกแถมรวดเร็ว ไม่ต้องทำเรื่องขอใหม่ให้ยุ่งยาก

ปกติแล้วเมื่อเราซื้อบ้านหรือคอนโด ทุกๆ 3 ปี ดอกเบี้ยจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เราต้องโยกย้ายเพื่อปรับโครงสร้างดอกเบี้ยให้มีอัตราที่ถูกลง โดยการข้ามไปขอสินเชื่อใหม่ที่ธนาคารอื่น หรือเรียกว่ารีไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่หลายคนนิยมใช้ แต่ความเป็นจริงแล้วยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายกว่านั้น นั่นก็คือ การรีเทนชั่น (Retention) ซึ่งมีข้อดีที่น่าสนใจมากมายไม่แพ้รีไฟแนนซ์เลย!

หาความหมายของ รีเทนชั่น (Retention) 

บางคนเคยได้ยินแต่รีไฟแนนซ์ อาจจะยังไม่รู้ว่ารีเทนชั่นคืออะไร ซึ่งถ้าอธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ การขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมที่เราขอสินเชื่ออยู่ โดยที่ไม่จำเป็นต้องย้ายไปขอสินเชื่อธนาคารใหม่ ให้เสียเวลาและวุ่นวายนั่นเอง 

ขั้นตอนการทำรีเทนชั่น (Retention) 

อย่างแรกก็ต้องเตรียมเอกสารก่อน แต่รับรองว่าเอกสารไม่เยอะแน่นอน เพราะมีแค่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และสัญญาเงินกู้ จากนั้นก็เข้าไปทำการยื่นเรื่องที่ธนาคารเดิมได้เลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะมีให้เซ็นเอกสารเพื่อดำเนินการรีเทนชั่น

รีเทนชั่น (Retention) มีข้อดีอะไรที่น่าสนใจ?

จุดดึงดูดแรกของการรีเทนชั่นที่โดดเด่น แตกต่างจากการรีไฟแนนซ์อยู่ที่ การดำเนินเรื่องซึ่งทำได้ง่ายและรวดเร็วกว่า ไม่ต้องมากังวลเรื่องเตรียมเอกสารทางการเงิน พวกเงินเดือนและรายได้ให้ปวดหัว อีกทั้งในเรื่องค่าใช้จ่ายก็มีเพียงค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ซึ่งก็ถูกกว่าการรีไฟแนนซ์ที่มีทั้งค่าสัญญา ค่าธรรมเนียม ค่าประเมิน และค่าต่างๆ นอกจากนี้การรีเทนชั่นยังรู้ผลค่อนข้างเร็วประมาณหนึ่งสัปดาห์ก็รู้คำตอบแล้วว่าจะได้อัตราดอกเบี้ยที่เท่าไหร่ 

จุดด้อยของรีเทนชั่น (Retention) ที่ควรรู้

ที่หลายคนทำการรีไฟแนนซ์เพราะได้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่า ซึ่งรีเทนชั่นแม้จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย แต่ก็จะได้ไม่เยอะเท่าไหร่ โดยจะเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุยและต่อรองของแต่ละคนกับทางธนาคาร

รีเทนชั่น (Retention) เหมาะกับใคร

ถ้าถามว่าการขอลดอัตราดอกเบี้ยแบบนี้ใครควรทำ ก็ต้องบอกเลยว่าเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากยุ่งยากในการเตรียมเอกสารทำเรื่องใหม่หมด หรือในช่วงนั้นมีปัญหาด้านการเงินที่อาจจะยากต่อการรีไฟแนนซ์ รวมถึงคนที่มียอดกู้คงเหลือน้อยแล้ว หรือเหลือประมาณหนึ่งล้านบาท การรีเทนชั่นก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว 

อย่างไรก็ดีแนะนำให้ลองคำนวณว่าพอเฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงเปรียบเทียบดอกเบี้ยทั้งจากการรีเทนชั่นและรีไฟแนนซ์แล้ว มีความต่างกันมากน้อยแค่ไหน และขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้กู้ แต่อย่างน้อยก็เป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่กลุ่มคนที่ซื้อบ้านและคอนโดได้ดีทีเดียว