รายการโปรด
หากบอกว่าโครงการที่กำลังจะพูดถึงนั้นอยู่บนถนนสุขุมวิท หลายๆ คนอาจคิดว่าก็คงหนีไม่พ้นย่านที่รีวิวกันมาหลายต่อหลายครั้ง จนเรียกได้ว่ารู้จักกันเป็นอย่างดีทุกซอกทุกมุมอยู่แล้ว แต่สุขุมวิทที่จะรีวิวรอบนี้ เชื่อว่าแทบจะไม่เคยมีใครเอ่ยถึงเลยก็ว่าได้กับ ซอยสุขุมวิท 47
เหตุผลที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงก็สืบเนื่องมาจากที่ดิน ซอยสุขุมวิท 47 นั้นหายากมาก ความยากถึงขนาดที่ว่าล่าสุดที่มีโครงการคอนโดเกิดขึ้นในซอยนี้ ก็น่าจะต้องย้อนไปเป็นสิบปีเลยทีเดียว เพราะส่วนใหญ่ล้วนเป็นบ้านแนวราบเสียมากกว่า
แต่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ได้เกิดขึ้นแล้ว!! ผ่านความเป็นมืออาชีพของ บริษัท ร่วมใจที่ดิน จำกัด เป็นบริษัทในเครือ ของกลุ่มบริษัท เอส31 สุขุมวิทโฮเต็ล จำกัด ซึ่งพัฒนาที่ดินบนถนนสุขุมวิทมาหลายแห่ง เช่น โรงแรม เอส31 โรงแรม เอส15 โรงแรม เอส33 เป็นต้น ซึ่งได้เฟ้นหาที่ดินผืนงามแรร์ไอเท็มใน ซอยสุขุมวิท 47 มาครอบครองเพิ่มอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในซอยสุขุมวิทที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุดเลยก็ว่าได้
โดยบริษัทนำมาต่อยอดเป็นคอนโด Low Rise ที่มีจำนวนยูนิตน้อย และเลือกที่จะพัฒนาห้องพักอาศัยในสไตล์แบบ Duplex ผ่านการออกแบบอย่างมีชั้นเชิง ตั้งแต่ภายนอกจรดภายใน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ความเป็นไพรเวท และใช้สเปซได้อย่างมีความสุขในทุกย่างก้าว สู่นิยามบทใหม่ของที่อยู่อาศัยเพื่อคนเมืองโดยเฉพาะ
S47 Sukhumvit เหนือชั้นยิ่งกว่าด้วยที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียมใจกลางเมือง บนทำเลที่หาไม่ได้อีกแล้วในสุขุมวิท ตอบโจทย์ทุกอินไซต์ของการใช้ชีวิต ได้อย่างอิสระเป็นส่วนตัวแบบไร้ข้อกังขา
อีกหนึ่งโครงการที่สถานที่ตั้งนั้น ตรงตามชื่อโครงการอย่างแท้จริง โดย S47 Sukhumvit อยู่บนทำเลสุขุมวิท 47 หรือเรียกว่าซอยบ้านดอน ซึ่งแค่การเลือกทำเลก็ได้รับความเป็นส่วนตัวระดับหนึ่งแล้ว เพราะเป็นซอยตันและส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ ทำให้ได้เปรียบในเรื่องของความเงียบสงบ ทั้งคนและรถไม่พลุกพล่าน โดยตัวโครงการห่างจากถนนหลักสุขุมวิทเพียงประมาณ 400 เมตร
ซึ่งน่าจะรู้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าเส้นนี้ จะเชื่อมต่อไปยังถนนสำคัญได้หลากหลายเส้นทาง ถ้าใกล้ๆ เลยก็เส้นทองหล่อที่ทะลุไปถนนเพชรบุรีได้ หรือจะวิ่งตรงเพื่อไปยังเอกมัยยาวไปถึงบางนา อีกทางก็แยกอโศกที่เชื่อมต่อไปได้ทั้งทางฝั่งพระราม9 และถนนพระราม 4 หรือจะวิ่งตรงไปออกนานา ชิดลม ยาวถึงสยามก็สะดวกสบาย รวมถึงตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วน ทั้งทางด่วนฉลองรัชและทางด่วนศรีรัช
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งการเดินทาง ที่เป็นตัวช่วยให้เข้าเมืองหรือไปไหนมาไหนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ก็คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดจะมี 2 สถานี คือ สถานีพร้อมพงษ์ และสถานีทองหล่อ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการประมาณ 1 กิโลเมตร รวมถึงยังมีรถสาธารณะต่างๆ ที่พร้อมให้ได้ใช้บริการตลอดทั้งวัน
ส่วนเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกคงไม่ต้องอธิบายกันเยอะ ทั้งแหล่งไลฟ์สไตล์ สถานที่ท่องเที่ยว แฮงค์เอาท์ คาเฟ่ ต่างๆ นานา ให้เลือกสรรตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็น คอมมูนิตี้มอลล์ อย่าง Rain Hill, J Avenue และ The Commons ส่วนห้างสรรพสินค้าก็มีทั้ง EmQuartier, Emporium, Terminal 21 และ Major Ekkamai รวมถึงร้านอาหารชื่อดัง คาเฟ่น่ารักๆ และแฮงค์เอาท์สังสรรค์ที่อยู่ละแวกรอบโครงการ
ไล่เรียงไปถึง สถานศึกษาทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชื่อดัง เช่น Wells International School, The American School of Bangkok, Ekkamai International School, Bangkok International Prep School, Kids Kingdom International Kindergarten, โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร และ มศว เป็นต้น
ขณะที่ สถานพยาบาลชั้นนำ ก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการ ได้แก่ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท รพ.คามิลเลียน รพ.กรุงเทพ รพ.กล้วยน้ำไท รพ.ปิยะเวท และรพ.สุขุมวิท
เดินทางกันต่อเพื่อเข้าสู่โครงการ S47 Sukhumvit ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากภายนอกด้วยความเงียบสงบ ซึ่งเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดินขนาด 0-3-64 ไร่ มีทั้งหมดจำนวน 41 ยูนิต นั่นเท่ากับว่าต่อชั้นมีห้องพักอาศัยไม่ถึง 10 ยูนิต เพิ่มความไพรเวซี่ให้ลูกบ้านทุกคนได้เป็นอย่างดีทีเดียว
โดยการออกแบบของตัวอาคารจะออกแนวสไตล์ Modern Luxury มีความเรียบง่ายแต่ดูหรูดูแพง ดีไซน์ Facade ด้วยการเจาะช่องให้คล้ายกับเป็นลายตาราง บวกกับเน้นความเป็นไม้โทนสีน้ำตาลและสีเทาเป็นหลัก ซึ่งพอผสมผสานกับพื้นลายหินอ่อน ทำให้โครงการดูเข้าถึงง่ายแต่ขณะเดียวกันก็มีความพรีเมียมอยู่ในตัว
บริเวณ Lobby จะเป็นกึ่ง Outdoor ไว้ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียน หรือสำหรับให้ลูกบ้านนั่งพักขณะรอ Grab มารับ
ส่วน Facilities เริ่มตั้งแต่จำนวนที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดได้ถึง 126% หรือ 52 คัน รวมถึงยังมี ช่อง EV Charging Station ให้อีก 2 ช่อง
Mailbox จะอยู่ที่ชั้นล่าง สะดวกต่อการหยิบจดหมายก่อนขึ้นห้องพักอาศัย
ขณะที่ส่วนกลางอื่นๆ ก็มีมาให้ครบครัน โดยจะตั้งอยู่ที่ชั้น 8 เป็นหลัก ตั้งแต่ Pool Sky สระว่ายน้ำระบบเกลือ เพื่อให้ได้รับลมเย็นและได้วิวมุมสูง
ด้าน Fitness แม้จะมีจำนวนยูนิตไม่เยอะ แต่ก็จัดเตรียมเครื่องออกกำลังกายเอาไว้ให้ครบครัน
ตรงข้ามเป็นห้อง Separated steam room and sauna room ที่แน่นอนว่าแยกในส่วนของชาย/หญิงไว้ให้เรียบร้อย เพื่อให้ลูกบ้านได้มาใช้บริการในวันที่อยากผ่อนคลายความเหนื่อยล้า
จุดที่เป็นไฮไลต์สำคัญของโครงการ S47 Sukhumvit นั่นก็คือ ห้องพักอาศัย ซึ่งมีความเป็นซิกเนเจอร์เฉพาะตัวได้อย่างชัดเจนและน่าสนใจ ผ่านรูปแบบห้องขนาดใหญ่ และเป็นแบบ Duplex ที่ทำการสร้างพื้นที่เชื่อมต่อกัน 2 ชั้น ใน 1 ยูนิต ทำให้สามารถเข้า-ออกได้ทั้ง 2 ชั้น ซึ่งมีความสูง Floor to Ceiling ถึง 5.30 เมตร
โดย ขายแบบ Fully Fitted ได้ Digital Door Lock รวมถึง Digital Door Phone ชุดครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์บางส่วน สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ พร้อมเครื่องปรับอากาศ (Daikin) ซึ่งที่นี่มีห้องให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ ดังนี้
1. 1 Bedroom Duplex ขนาด 61.67 ตารางเมตร (4 ยูนิต) |
2. 2 Bedroom Simplex ขนาด 68.72 ตารางเมตร (16 ยูนิต) |
3. 2 Bedroom Duplex ขนาด 131-134 ตารางเมตร (11 ยูนิต) |
4. 3 Bedroom Duplex ขนาด 157.60 ตารางเมตร (1 ยูนิต) |
5. 4 Bedroom Duplex ขนาด161-171 ตารางเมตร (9 ยูนิต) |
1 Bedroom Duplex ขนาด 61.67 ตารางเมตร
พาไปชมห้อง Duplex ที่แม้จะเป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการ แต่ถือว่ามีขนาดใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งปกติเปิดประตูเข้ามาเรามักจะเจอห้องครัวไม่ก็ห้องนั่งเล่นเป็นอันดับแรก แต่โครงการนี้ดีไซน์ห้องให้มีความเป็นส่วนตัว ด้วยการเพิ่มลูกเล่นให้โซนใช้งานภายในห้องหลบมุม ทำให้พอเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับผนังโล่งๆ แทน
แต่ที่รู้สึกสะดุดตาและชื่นชอบก็คือ พื้น Engineering wood ลายก้างปลา ทำให้ห้องดูโดดเด่นช่วยเพิ่มความเป็นพรีเมียมมากยิ่งขึ้น โดยห้องครัวจะอยู่ด้านขวามือของประตูทางเข้า โดยได้เป็นครัวเปิด ซึ่งทางโครงการบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวยู พร้อมตู้เก็บของด้านบนมาให้อย่างสวยงาม
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าจะได้เตาไฟฟ้า Ceramic แบบ 4 หัว รวมถึงเครื่องดูดควัน และเตาอบ จากแบรนด์ Franke ในส่วนของซิงค์ล้างจานและก๊อกน้ำ ก็จากแบรนด์ Franke เช่นเดียวกัน
ตรงข้ามเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room ได้ประตูเป็นแบบบานเลื่อน ข้างในติดตั้งโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าฝังเคาน์เตอร์ และได้กระจกเงาแบบเป็นตู้เก็บของ ซึ่งห้องน้ำในทุกยูนิตจะได้สุขภัณฑ์เหล่านี้เหมือนกันทั้งหมด
อีกฟากหนึ่งของห้องจะเป็นโซนรับประทานอาหาร ซึ่งวางโต๊ะกินข้าวได้ขนาด 4 ที่นั่ง ฝั่งตรงข้ามมีสเปซมากพอให้ทำเป็นตู้เก็บของหรือตู้โชว์ของสะสมต่างๆ
เมื่อเดินเข้ามาด้านในสุดของห้องจะเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ยากจะละสายตา ด้วยความสูงของเพดานถึง 5.30 เมตร ประกอบกับช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนัง ทั้งจากหน้าต่างบานเลื่อนและกระจกบานฟิกซ์ด้านบน ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูโปร่งโล่งสบาย เหมาะแก่การนั่งเล่นนั่งพักผ่อน
สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง ที่ได้ทั้งแบบตัวไอและตัวแอล รวมถึงวางโต๊ะกลาง พร้อมติดตั้งทีวีฝั่งตรงข้าม ก็ยังมีสเปซโล่งๆ เพื่อให้อยู่แล้วไม่รู้สึกอึดอัดหรือคับแคบ
ก่อนจะขึ้นไปชั้นบนขอแวะดูบันไดซะนิด ซึ่งทางโครงการสร้างออกมาได้ไซซ์มาตรฐานและดูแข็งแรงมั่นคง ทำให้เดินขึ้น-ลงได้อย่างปลอดภัย
ซึ่งพอขึ้นมาชั้นบนแล้วจะเจอกับห้องนอนขนาดใหญ่ ที่วางเตียง 6 ฟุต และชั้นวางทีวีก็ยังมีสเปซให้เดินผ่านไปข้างในได้แบบสบายๆ
ถัดไปเป็นโซนแต่งตัวที่ทางโครงการบิวท์อินมาให้อย่างดี ตั้งแต่โต๊ะเครื่องแป้งไปจนถึงตู้เสื้อผ้า ซึ่งเลือกหน้าบานเป็นกระจกสีชาตัดขอบด้วยสีโรสโกลด์ ทำให้ดูสวยและดูแพงมากยิ่งขึ้น
เชื่อมต่อกับห้องน้ำ สร้างกิมมิกด้วยการดีไซน์ให้เป็นแบบ Sexy Bath ทำการเปลี่ยนผนังทึบฝั่งหนึ่งเป็นกระจก รวมถึงออกแบบผนังอีกส่วนด้วย Black Forest Marble เพิ่มความ Luxury ไปอีกระดับ
โดยสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำนอกจากได้ อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์ กระจกเงาที่สามาเปิดเก็บของข้างในได้ โถสุขภัณฑ์ และ Hand Shower แล้ว ยังได้ Rain Shower พร้อมอ่างอาบน้ำอีกด้วย
2 Bedroom Simplex ขนาด 68.72 ตารางเมตร
สำหรับใครที่อยากได้แบบชั้นเดียว ทางโครงการก็มีมาให้เลือกสรร โดยจะเป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ซึ่งพอเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่คอนเน็กรวมกันขนาดใหญ่ และทำการแบ่งโซนใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง
ฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนของครัว โดยจะได้เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวยู พร้อมตู้เก็บของด้านบน โดยไม่ต้องเสียเงินบิวท์เพิ่มเอง ด้านล่างมีสเปซว่างไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าที่จุดนี้ รวมถึงได้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเหมือนกับห้องแรกที่ได้รีวิวไปแล้วเลย
พื้นที่ติดกันไว้สำหรับวางโต๊ะกินข้าว ซึ่งสามารถเลือกวางเป็นโต๊ะเหลี่ยมขนาด 4 ที่นั่งเหมือนห้องตัวอย่าง หรือจะปรับเป็นโต๊ะกลมก็มีสเปซให้วางได้อย่างลงตัว
ฝั่งขวามือเป็นห้องนั่งเล่นขนาดกว้างขวาง วางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อย่างโซฟาตัวแอลขนาด 3 ที่นั่ง โต๊ะกลาง ชั้นวางทีวี ก็ยังมีพื้นที่มากพอให้วางเซตโต๊ะทำงานได้อีกต่างหาก
เดินลึกเข้าไปด้านในจะเจอกับห้องน้ำ ได้สุขภัณฑ์ครบตามที่เห็นในภาพ แยกการใช้งานส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย
ตรงข้ามจะเป็นห้องนอนเล็ก แต่พื้นที่ใช้สอยมีขนาดใหญ่ วางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบเซต ไม่ว่าจะเป็นเตียง 5 ฟุต โต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้ง ชั้นวางทีวี และตู้เสื้อผ้าที่โครงการก็บิวท์มาให้เป็นอย่างดี ห้องก็ยังดูหลวมๆ ไม่ได้รู้สึกคับแคบแต่อย่างใด
ไปดูกันต่อกับ Master Bedroom ซ้ายมือจะเป็นโซนแต่งตัว ได้ตู้เสื้อผ้าบิวท์มาให้เต็มผนังสุดเพดาน พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง
ตรงข้ามคือห้องน้ำ ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ให้สุขภัณฑ์แบบจัดเต็มเช่นเดิม
เดินเข้ามาข้างในอีกนิดถึงจะเจอกับพื้นที่พักผ่อน ทำให้ห้องดูเป็นสัดเป็นส่วน ซึ่งวางเตียง 5 ฟุตได้แน่นอนอยู่แล้ว หรือถ้าใครชอบดูทีวีในห้องจะเพิ่มชั้นวางทีวีก็สามารถทำได้ พร้อมรับแสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างบานเลื่อนและกระจกบานฟิกซ์เต็มผนัง
2 Bedroom Duplex ขนาด 132.72 ตารางเมตร
ปิดท้ายด้วยห้องตัวอย่าง Duplex อีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งฟังก์ชันห้องจะมีทั้งหมด 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Foyer โถงทางเดินโล่งๆ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ผู้อยู่อาศัย
ซึ่งทางขวามือจะเป็นห้องน้ำ Powder Room ติดกันเป็นห้องเก็บของขนาดค่อนข้างใหญ่ ซึ่งจะปรับเปลี่ยนทำเป็นห้องเก็บรองเท้าก็ได้เช่นเดียวกัน
กลับมาตรงบริเวณโถงทางเดิน ติดกับทางเข้าห้อง บริเวณซ้ายมือจะเป็นห้องแม่บ้าน ซึ่งมีห้องน้ำในตัวให้เสร็จสรรพ
เดินเข้าไปด้านในห้องจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อระหว่าง Kitchen, Dinning และ Living
โดยส่วนของครัวทางโครงการบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ พร้อมตู้เก็บของด้านบนมาให้เรียบร้อย ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าจะได้เหมือนกับห้องก่อนหน้าที่เอ่ยไปข้างต้น
ข้างๆ กันเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะกินข้าวได้ถึงขนาด 6 ที่นั่ง ซึ่งก็ยังมีสเปซมากพอให้เดินผ่านไปมา หรือเลื่อนเก้าอี้เข้า-ออกได้อย่างสะดวก
โดยบริเวณนี้ยังมีห้องเก็บของเพิ่มอีกหนึ่งจุด เอาไว้เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้หรือเก็บพวกอุปกรณ์ทำงานบ้านต่างๆ เป็นต้น
และความพิเศษของห้องนี้อยู่ตรงห้องนั่งเล่น ที่นอกจากได้พื้นที่กว้างขวางในแนวราบแล้ว ยังรวมไปถึงแนวสูงอีกด้วย โดยได้ความสูงจากพื้นถึงเพดานแบบ Double Space สูง 5.30 เมตร มาพร้อมช่องแสงแบบจัดเต็ม สร้างความโอ่โถงโปร่งโล่งให้แก่ห้องได้อย่างสมดุลและสวยงาม
สามารถจัดวางโซฟาได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบตัวไอหรือตัวแอล ขนาด 3-4 ที่นั่งได้สบายๆ เพิ่มโต๊ะกลางเข้าไปอีกตัว ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเกะกะเลยแม้แต่น้อย
ด้านหลังโซฟายังมีพื้นที่ว่างมากพอให้วางโต๊ะทำงาน หรือจะดัดแปลงบิวท์ทำเป็นตู้เก็บของ อยากจะดีไซน์มุมนี้ให้เป็นพื้นที่ใช้งานอื่นๆ ก็ได้ตามใจต้องการ เพราะพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์
ฝั่งตรงข้ามสำหรับทำเป็นชั้นวางทีวี ที่แม้ว่าจะอยู่ใต้บันไดแต่ด้วยสเปซ รวมถึงระยะห่างของการดูที่มีมากพอสมควร ทำให้เลือกติดตั้งทีวีขนาด 55 นิ้วได้แบบจัดเต็ม
อีกหนึ่งจุดที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการคัดสรรวัสดุ และพิถีพิถันในการสร้างให้ออกมามีประสิทธิภาพสูงสุด อยู่ตรงชั้นบนนั่นเอง ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านยังไงยังงั้น โดยมีโถงทางเดินแจกจ่ายไปยัง 2 ห้องนอน
Master Bedroom ออกแบบห้องให้มีขนาดใหญ่เลยทีเดียว สามารถวางเตียง 5 ฟุต ได้สบายๆ หรือจะเพิ่มชั้นวางทีวีก็ยังได้ แต่แนะนำเป็นแบบทีวีติดผนังหรือไม่ก็เลือกชั้นวางทีวีที่มีขนาดไม่ใหญ่มากเพื่อให้เดินผ่านได้ง่ายขึ้น โดยฝั่งหนึ่งเป็นห้องน้ำแบบ Sexy Bath และได้อ่างอาบน้ำ รวมถึงแยกโซน Shower เป็นสัดส่วนชัดเจน พร้อมบิวท์อินตู้เสื้อผ้ามาให้ในบริเวณเดียวกัน
อีกฝั่งหนึ่งของห้องนอนทางโครงการดีไซน์เป็นโซนทำงานให้ดูเป็นไอเดีย แต่จะปรับเป็นมุมอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้เหมือนกัน
ห้องนอนที่ 2 มีความกว้างขวางประมาณหนึ่งเลย เลือกวางเตียง 5 ฟุตก็ยังได้ แต่ถ้าอยากได้พื้นที่เพิ่มขึ้นแนะนำให้เปลี่ยนเป็นเตียง 3.5 ฟุตแทน ตู้เสื้อผ้าโครงการก็บิวท์อินมาให้จรดเพดาน ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเก็บของได้เยอะขึ้น
ด้านในสุดของห้องมีห้องน้ำให้ในตัว เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ได้สุขภัณฑ์ครบตามที่เห็นในภาพ
โครงการ S47 Sukhumvit นับเป็นอีกหนึ่งโครงการ Low Rise ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและความเป็นไพรเวซี่ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางเมืองกรุงเทพฯ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ซึ่งซิกเนเจอร์ของโครงการนี้ ส่วนตัวมองว่านอกจากจำนวนยูนิตที่น้อยแล้ว ยังมีจุดเด่นอยู่ที่ห้องพักอาศัยที่มาในรูปแบบ Duplex เพดานสูง ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน ประกอบกับการออกแบบ Layout สร้างพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์ในทุกตารางเมตร มาพร้อมฟังก์ชันใช้งานครบครันตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และที่สำคัญคือการใส่ใจต่อการเลือก Material ระดับพรีเมียมเพื่อคุณภาพสูงสุด
อีกข้อดีคือทำเลที่โครงการ S47 Sukhumvit ตั้งอยู่นั้น เป็นทำเลแรร์ไอเท็มและเป็นละแวกที่ไม่พลุกพล่านวุ่นวาย เหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างมาก แต่เพียงออกจากซอยไม่กี่ร้อยเมตร ก็จะเจอสิ่งอำนวยความสะดวกในทุกรูปแบบ ที่เอื้อให้ใช้ชีวิตได้สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับย่านใจกลางเมือง
แอบทิ้งท้ายว่า อย่าใช้เวลาตัดสินใจนานนะ เพราะห้องแต่ละแบบถูกจับจองไปพอสมควรแล้ว โดยเฉพาะ Type 4 Bedroom Duplex ขนาด 161-171 ตารางเมตร ได้ Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อย!!!
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-04
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-10-28
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-10-21
Reference Ekkamai | ที่สุดของทำเลที่เป็นมากกว่าใจกลางเมือง เพราะนี่คือเอกมัยย่านแห่ง Design District สุดเจ๋ง ติดอันดับ 27 ของโลก ให้คุณสามารถออกแบบชีวิตอย่างมีสไตล์ได้แบบอิสระ
2024-10-17
Livinginsider - Weekly Insight Report [06-12 Oct 2024]
2024-10-15
ดี มีประโยชน์ในการให้ข้อมูลมากๆค่ะ
เป็นประโยชน์มากครับ กำลังตัดสิ้นใจพอดีครับ
คือชอบมาก มีให้อ่านหลากหลายมาก