รายการโปรด
เทรนด์การรับสัตว์เลี้ยงมาเป็นลูก หรือเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวเพิ่มสูงขึ้นทุกปี! ชนิดที่ว่าหากให้เทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็เรียกได้ว่าเกือบครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว แต่ไม่แปลกใจเท่าไหร่นะ เพราะไม่ว่าจะน้องแมว น้องหมา หรือน้องสัตว์สายพันธุ์ไหนๆ ก็ดูน่ารักนุ่มนิ่มกันไปหมด
ซึ่งไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ (ตัวผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ><) บอกเลยว่าใส่สุดทุ่มหมดตัวล่ะงานนี้!! ยอมจ่ายค่าดูแลและเลี้ยงดูแบบครอบคลุมทุกมิติ นั่นก็เพื่อให้ลูกรักได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและอยู่กับเราไปนานๆ รวมไปถึงการเลือกที่อยู่อาศัยที่จะต้องคำนึงถึงสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก คือปัจจัยอื่นๆ ให้เป็นเรื่องรองไปเลยก็ว่าได้ ประมาณว่าลูกอยู่ที่ไหนแล้วแฮปปี้เราก็อยู่ที่นั่นแหละ
โดยสอดคล้องกับข้อมูลสถิติของเว็บไซต์ LivingInsider ที่มีผู้เข้าชมเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย บ่งบอกว่า อสังหาฯ อย่าง 'คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้' เกิดการค้นหาที่สูงมากๆ จนน่าทึ่ง เพราะในปี 2022 มีผู้สนใจเพิ่มขึ้นจากเดิมเมื่อเทียบกับปี 2021 ถึง 345%!!!
และพอพูดถึงเรื่องนี้ทีไรไม่รู้ทำไม Developer เจ้าแรกที่ผุดขึ้นมาในความคิดจะต้องเป็น เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทุกครั้ง อาจเพราะถูกขนานนามว่าเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย สำหรับการเป็นผู้นำของการสรรสร้างคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ หรือ Pet Friendly Residences คือเหมือนกับเป็น DNA เฉพาะตัวของเมเจอร์ฯ ไปเสียแล้ว แถมยังเป็นผู้มาก่อนกาลมากกว่า 20 ปีของแท้
โดยหนึ่งในโครงการที่อยากจะนำเสนอรอบนี้ เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ทันที ตอบโจทย์คนรีบย้ายรีบอยู่ไม่ต้องเสียเวลารอ แถมทีเด็ดอยู่ตรงที่เป็นคอนโดหนึ่งเดียวในย่านที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้อีกด้วย ซึ่งทุกย่างก้าวที่เดินผ่านจะพาให้ทุกคนตกหลุมรัก และอิ่มเอมไปกับอาณาจักรแห่งนี้ ที่เชื่อมั่นว่าจะมัดใจคนรักสัตว์ได้ไม่ยาก
ไขกุญแจความสำเร็จ ทำไมโครงการ Metris พัฒนาการ-เอกมัย ถึงเป็นคอนโดพร้อมอยู่ฉบับ Pet Friendly คอมมูนิตี้เพื่อคนเลิฟสัตว์เลี้ยง ที่ดีที่สุดแห่งเดียวในย่านนี้!
แต่ก่อนที่จะไปเผยเบื้องหน้า เฉลยถึงเบื้องหลังแบบลงลึกทุกดีเทล ขอแวะชมสิ่งที่น่าสนใจสักครู่ ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบภาพรวม ที่ให้ความสำคัญตั้งแต่เรื่องทำเล ไปจนถึงการออกแบบทั้งความสวยงามและสามารถใช้งานได้จริง รวมถึงความใส่ใจในการคัดสรรสเป็กวัสดุต่างๆ ที่อยู่ในระดับพรีเมียม อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อลูกรักของลูกบ้าน จนหลอมรวมออกมาเป็นทั้งหมดของโครงการ Metris พัฒนาการ-เอกมัย
► ‘พัฒนาการ’ ทำเลเฉิดฉายพาเชื่อมต่อทุกเส้นสายหลักของกรุงเทพฯ
ความจริงทำเลพัฒนาการ ไม่ต้องพูดกันเยอะหลายคนก็น่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าโอบล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไล่เรียงตั้งแต่การเดินทาง ซึ่งตัวโครงการตั้งอยู่ฝั่งขาเข้าแบบติดถนนใหญ่เลย ทำให้วิ่งเข้าเมืองไปทองหล่อ เอกมัยง่ายมาก แค่ข้ามสะพานแยกคลองตัน หรือจะไปเส้นอโศก เพชรบุรีก็ใช้เวลาไม่นาน
อีกทางคือเลี้ยวซ้ายตรงคลองตันก็ไปออกพระโขนง บางนาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพียง 100 เมตร และตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก Airport Rail Link ห่างจากสถานีรามคำแหงประมาณ 800 เมตร โดยทางโครงการ มี Shuttle Service คอยบริการรับ-ส่งถึงที่
เชื่อมโยงต่อเนื่องไปถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ได้อย่างไร้รอยต่อ ที่นอกจากใกล้ห้างสรรพสินค้า Seacon Square แล้ว ยังมีห้าง Central Eastville รวมถึง Mega Bangna ที่พาน้องๆ ไปเดินเล่นชิลๆ ในห้างได้อีกด้วย
Photo credit by : chillpainai
หรือถ้าอยากจะไปคาเฟ่ หรือ Community Mall แบบ Pet Friendly ที่อยู่ใกล้โครงการก็มีให้เลือกทั้ง The Commons Thonglor, Bangkok Trading Post Bistro & Bar, Habito Mall และ The Nine Center Rama 9 ให้เลือกไปเช็กอินมากมาย
Photo credit by : 137pillarshotels
การที่โครงการ Metris พัฒนาการ-เอกมัย ปักหมุดอยู่บนทำเลนี้ ทำให้ในวันธรรมดาเวลาไปทำงานใจกลางเมืองอย่างสุขุมวิท อโศก หรือโซนไหนๆ ของกรุงเทพฯ ก็รู้สึกสะดวก ส่วนในวันหยุดอยากพาเด็กๆ ออกเที่ยวเล่นก็พาไปได้แบบง่ายๆ สบายๆ เพราะมีทางเลือกเยอะแยะที่จะพาสัตว์เลี้ยงไปกับเราได้ โดยไม่ต้องทิ้งให้เค้าเฝ้าห้องอยู่ตัวเดียว
► รังสรรค์ความสวยงามจากภายนอก จรดภายในคุณภาพเต็มเปี่ยมในทุกจุด
สู่เสน่ห์ของความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุด
ด้วยการออกแบบอย่างมีชั้นเชิงของโครงการ Metris พัฒนาการ-เอกมัย ที่มาในสไตล์ Mid-Century Modern ดีไซน์ให้ตัวอาคารโดดเด่นผ่านโทนสีเหลือง Mustard แต่เน้นรูปแบบสถาปัตยกรรมเรียบง่าย ลดทอนความฟุ่มเฟือยต่างๆ ให้เหลือเพียงเส้นสายแนวตั้งที่ดูเท่และแข็งแรงในคราวเดียวกัน
แต่นอกจากความสวยงามที่บ่งบอกรสนิยมของคนมีเทสต์ที่ดีแล้ว เหนือสิ่งอื่นใดคือความใส่ใจที่ไม่ได้มีแค่ต่อลูกบ้านแต่ยังเผื่อแผ่ไปถึงสัตว์เลี้ยงอีกด้วย เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ หรือ Pet Friendly Residences โดยผ่านแนวคิด Major Petscape ที่ยกระดับการอยู่อาศัยในแบบฉบับที่รู้ใจและเข้าใจของการอยู่ร่วมกันระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงได้อย่างแท้จริง
จึงเกิดการคิดครอบคลุมในทุกมิติไปจนถึงการเลือกใช้ผู้เชี่ยวชาญอย่างโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ร่วมกับทีมผู้ออกแบบมากประสบการณ์ เพื่อให้ออกมาเหมาะสมและตอบโจทย์พวกเค้าโดยเฉพาะ
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทุกคนน่าจะถูกใจกันไม่น้อย อยู่ตรงที่การให้ความเป็นส่วนตัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพราะทั้งโครงการมีจำนวนที่พักอาศัยเพียง 341 ยูนิต ในรูปแบบคอนโด High Rise สูง 29 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดิน 2-1-65 ไร่
นั่นเท่ากับว่า ต่อชั้นจะมีจำนวนยูนิตไม่เกิน 15 ยูนิต ซึ่งถือว่ามีจำนวนค่อนข้างน้อยทีเดียว ทำให้ลูกบ้านแต่ละชั้นได้รับความเงียบสงบมากขึ้น ทั้งนี้ในทุกยูนิต ทุกชั้น สามารถเลี้ยงสัตว์ได้หมดไม่มีการแบ่งแยกแต่อย่างใด ซึ่งใครที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีเสียงรบกวน เพราะโครงสร้างและวัสดุของโครงการที่เลือกใช้นั้นมีคุณภาพในการเก็บเสียงเป็นอย่างดี
ขณะที่ส่วนกลางจะมีการแบ่งแยกพื้นที่ให้เป็นสัดเป็นส่วน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและได้มีสเปซเป็นของพวกเค้าเอง อย่าง Pet Zone ซึ่งนับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาโครงการเมเจอร์ฯ เลยก็ว่าได้ ที่จัดไว้ให้เหล่าเด็กๆ ได้วิ่งเล่นกันอย่างเพลิดเพลินสนุกสนาน
โดยทางโครงการยังเตรียมอุปกรณ์เสริมการออกกำลังกายของน้องหมาน้องแมวไว้ให้เพิ่มเติม ซึ่งการมีพื้นที่แบบนี้จะทำให้เค้าได้ปลดปล่อยพลังงาน และได้เปลี่ยนบรรยากาศไม่ต้องอยู่แต่ในห้อง
ไม่เพียงเท่านั้นยังออกแบบทำการกั้นรั้วรอบขอบชิดอย่างดีด้วย Double gate ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับสัตว์เลี้ยง โดยเลือกวัสดุที่เป็นมิตรกับน้องๆ และยังมีคุณสมบัติเก็บกลิ่น ทนน้ำ และง่ายต่อการทำความสะอาด รวมถึงยังจัดพื้นที่ขับถ่ายเอาไว้อย่างเหมาะสม พร้อมระบบคัดแยกประเภทขยะจากสัตว์เลี้ยง เพื่อสุขอนามัยและเกิดสิ่งแวดล้อมที่ดีภายในโครงการ
แต่ทาสอย่างเราหรือใครที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะ Facilities อื่นๆ ทางโครงการก็จัดมาให้ครบครัน ซึ่งส่วนกลางเหล่านี้สัตว์เลี้ยงจะไม่สามารถเข้าใช้งานได้ เริ่มตั้งแต่ที่จอดรถจอดได้ 46% พร้อมจุด EV Charger 2 จุด
ขณะที่ส่วนกลางชั้นล่างก็จะมีทั้งโซน Outdoor สวนพักผ่อนและลานบาร์บิคิว
พอเข้ามาด้านในจะเจอกับ Lobby แบบ Double Volume ซึ่งบริเวณนี้ถ้าสัตว์เลี้ยงจะผ่านต้องอยู่ในรถเข็นหรือมีสายจูงเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีห้อง Co-Working Space และ Multi-Purpose Room ให้ลูกบ้านได้มานั่งเล่นนั่งทำงานกัน
Facilities ที่เหลือจะไปรวมอยู่ที่ชั้น 7 ทั้งส่วนของพื้นที่นั่งเล่นรับลมชมวิว ต่อเนื่องไปถึง สระว่ายน้ำระบบเกลือ รวมถึงห้อง Fitness พร้อมห้อง Steam และ Sauna ให้เรียบร้อย
► ห้องใหญ่หน้ากว้าง Full Function ลูกรักอยู่แล้วสบาย เราเองก็แฮปปี้!
อีกหนึ่งความสุขในการใช้ชีวิต ณ โครงการ Metris พัฒนาการ-เอกมัย คือส่วนของห้องพักอาศัย ซึ่งดีไซน์ Layout ห้องออกมาค่อนข้างหลากหลายเพื่อให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ยิ่งไปกว่านั้นทุกห้องของโครงการจะเป็นแบบหน้ากว้าง และไซซ์เริ่มต้นก็มีขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังได้ Floor to Ceiling สูงถึง 2.65 เมตร เพราะทางโครงการคำนวณมาให้แล้วว่าลูกบ้านและสัตว์เลี้ยงจะอยู่ร่วมกันได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดแน่นอน
แต่ที่พิเศษขั้นกว่าตรงที่โครงการนี้สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ถึง 2 ตัวต่อ 1 ห้อง ซึ่งปกติจะเลี้ยงได้แค่ห้องละหนึ่งตัวเท่านั้น ยิ่งเพิ่มความฟินให้ชาว Pet Lovers แบบทวีคูณ แต่ว่ามีข้อแม้นิดนึงคือขนาดสัตว์เลี้ยงรวมกันจะต้องไม่เกิน 15 กิโลกรัม
โดยห้องจะขายแบบ Fully Fitted สิ่งที่ได้หลักๆ คือ Digital Door Lock แบรด์ Hafele เครื่องปรับอากาศยี่ห้อ TRANE รวมถึงยังมี Home Automation ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง IP Smart Camera, Smart Plug, Door Sensor และ Smart Switch นอกจากนี้ยังได้ชุดครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ซึ่งมีแบบห้องให้เลือกหลายขนาดดังนี้
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 29.80 – 31.40 ตารางเมตร |
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 53.40 – 54.30 ตารางเมตร |
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 57.10 – 61.90 ตารางเมตร |
โดยมีห้องตัวอย่างมาให้ชมถึง 4 แบบ สตาร์ทกันที่
► 1 ห้องนอน ขนาด 29.80 ตารางเมตร Type นี้จะได้ห้องครัวอยู่ด้านหน้า เปิดพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่น ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่ง ซึ่งพื้นที่ได้จะเป็นพื้นไม้ลามิเนต 8 มม. มีความแข็งแรง ทนทาน เป็นรอยยาก เหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์
สำหรับโซนของครัวทางโครงการจัดสรรมาให้แทบจะครบหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ชุดเคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของด้านบนที่บิวท์มาให้สวยงาม Top ครัว หินสังเคราะห์ รวมถึง Backsplash ที่กรุกระเบื้อง เช็ดทำความสะอาดง่าย อีกทั้งยังได้เตาไฟฟ้า 2 หัว และ Hob&Hood แบบต่อท่อออกภายนอก จากแบรนด์ Hafele เหลือแค่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่กี่อย่างก็เป็นอันลงตัว
ส่วนโซนนั่งเล่นก็ให้พื้นที่มากว้างขวาง สามารถดีไซน์บิวท์อินหรือจัดวางเฟอร์นิเจอร์และมุมสัตว์เลี้ยงได้ตามใจชอบ
พร้อมรับแสงธรรมชาติจากประตูระเบียง ซึ่งบริเวณระเบียงมีไฮไลท์อยู่ตรงที่การดีไซน์ราวกันตกที่มีระยะห่างระหว่างซี่ไม่เกิน 7.5 เซนติเมตร เวลาน้องหมาน้องแมวออกมาเดินเล่นก็ไม่ต้องกลัวตก ป้องกันอันตรายได้เป็นอย่างดี
จุดที่น่าสนใจต่อมาอยู่ตรงที่การทำห้องนอนให้เป็นโซนส่วนตัวที่สุด ด้วยการเลือกใช้ประตูบานทึบแทนประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้เวลาเพื่อนๆ หรือใครมาหาที่ห้อง ก็ไม่ต้องมาเห็นมุมที่เป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย แถมขนาดห้องก็มีขนาดใหญ่ประมาณหนึ่ง ทำให้มีสเปซเหลือพอจะแบ่งให้ลูกรักได้มานอนด้วยกัน
ขณะที่ห้องน้ำ ก็จัดเตรียมสุขภัณฑ์มาให้ครบครัน โดยเป็นแบรนด์จาก Lavenz และ Hafele แบ่งโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน ซึ่งทางโครงการได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย ทำให้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเติมในส่วนนี้
ห้องนี้ใครที่อยู่คนเดียว เป็นคนไม่ได้ทำอาหารแบบจริงจัง ชอบพื้นที่เปิดโล่งคอนเน็กถึงกัน แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีมุมเป็นส่วนตัวด้วยห้องนอน และหากอยากอยู่กับสัตว์เลี้ยงแสนรักอีกซะหนึ่งตัว แต่มีงบประมาณไม่สูงนัก ก็ถือว่าตอบโจทย์เลย
► 1 ห้องนอน ขนาด 31.56 ตารางเมตร
อีกหนึ่งห้องนอนที่มีการปรับเปลี่ยน Layout แตกต่างจากห้องแรก เพราะห้อง Living จะเป็นโซนแรกที่เจอ ซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควร ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเพิ่มลูกเล่นในการออกแบบได้อย่างเต็มที่
ยกตัวอย่างถ้าอยู่คนเดียวจะเลือกจัดวางโซฟาพร้อมโต๊ะทำงานรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันก็ทำได้ หรือถ้าใครมีสัตว์เลี้ยงจะแชร์สเปซร่วมกันก็ไม่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกอึดอัดแน่นอน
ห้องนอน Type นี้จะได้เป็นประตูกระจกแบบบานเลื่อน ซึ่งมีข้อดีตรงที่ทำให้ห้องดูโปร่งมีความกว้างขวาง แต่ขณะเดียวกันก็ยังได้ความเป็นสัดส่วน หรือถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดม่านเพิ่มได้ไม่ยาก
เดินลึกเข้าไปจะเป็นส่วนของห้องน้ำและห้องครัว ซึ่งห้องน้ำจะมีขนาดและสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องแรก
ห้องครัวแม้จะได้เป็นแบบครัวเปิด แต่ก็มีการจัดแบ่งพื้นที่ชัดเจน หรือใครที่ทำอาหารกินเองเป็นประจำ แนะนำให้กั้นเป็นแบบครัวปิดก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
โดยเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอก ซึ่งเป็นตัวช่วยในการระบายกลิ่นอาหารและทำให้มุมนี้ได้รับแสงธรรมชาติ
ใครที่ชอบให้ทุกอย่างดูเป็นสัดเป็นส่วน มีการแบ่งแยกไปในแต่ละห้องได้อย่างสมดุล แต่ยังคงให้ความรู้สึกกว้างขวาง ต้องจองห้องนี้เลย คืออยู่คนเดียวก็ดีหรือจะอยู่เป็นคู่ก็ปัง พร้อมน้องหมาน้องแมวก็อยู่ได้ชิลๆ
► 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 53.60 ตารางเมตร
Type นี้จะได้ไซซ์ห้องใหญ่ขึ้นมาอีกเกือบเท่าตัว โดดเด่นด้วย Common Area ขนาดใหญ่ ซึ่งออกแบบมาให้ทุกพื้นที่ใช้สอยได้ทุกตารางเมตร ไล่เรียงตั้งแต่โซนครัวที่นอกจากได้ชุดครัวแล้ว ยังมีพื้นที่เหลือพอให้วางเฟอร์นิเจอร์หรือบิวท์ชั้นเก็บของได้อีกต่างหาก
ที่น่าสนใจคือการเพิ่มช่องแสงหน้าต่างบานใหญ่หนึ่งจุดตรงนี้ ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง
ต่อเนื่องไปถึงโซนรับประทานอาหารและโซนนั่งเล่น ซึ่งหากอยู่กันแค่ 2 คน เลือกโต๊ะกินข้าวขนาดกำลังพอดี 2 ที่นั่ง จะทำให้เหลือพื้นที่สัตว์เลี้ยงของเราได้วิ่งเล่นและนอนกลิ้งได้อีกเยอะเลยล่ะ
ขณะที่โซนนั่งเล่นด้วยการออกแบบทำให้เลือกวางโซฟาได้ค่อนข้างหลากหลาย อีกทั้งยังได้ช่องแสงจากทางระเบียง ทำให้บริเวณนี้กลางวันไม่ต้องเปิดไฟก็ยังสว่างไสว
ด้านห้องน้ำจะอยู่ระหว่างทางเดินไปยังห้องนอนทั้งสองห้อง สามารถใช้งานได้สะดวกสบาย
ห้องนอนที่สองได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทั้งหน้าต่างแบบบานกระทุ้งและบานฟิกซ์ เหมาะอย่างมากสำหรับเป็นห้องสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ หรือจะปรับเป็นห้องนอนห้องทำงานก็ยังได้ เนื่องจากตัวห้องมีความยืดหยุ่นพอสมควร
Master Bedroom แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ได้แก่มุมพักผ่อนและโซนแต่งตัวเป็น Walk-in Closet ที่ออกไอเดียในการบิวท์ตู้แบบจัดเต็ม และยังมีพื้นที่ว่างสำหรับวางที่นอนหรืออาหารให้เด็กๆ ของเราได้เหมือนเดิม
หากถามว่าตอบโจทย์ใครก็ต้องบอกว่า เหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณหนึ่ง อยากได้พื้นที่ Common ขนาดใหญ่ แต่ก็ออกแบบแปลนห้องนอนให้ได้พื้นที่ใช้สอยที่คุ้มค่า สามารถอยู่ได้ตั้งแต่สองคน หรือเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูก บวกสมาชิกอีกสองตัวก็อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
► 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 59.20 ตารางเมตร
ยังคงคอนเซ็ปต์คือให้ทุกพื้นที่เกิดการคอนเน็กถึงกัน เหมือนกับ Type 2 ห้องนอนก่อนหน้านี้ แต่มีความไม่เหมือนกันตรง Layout ที่ให้โซนนั่งเล่นอยู่ข้างหน้าห้อง
โดยดันโซนครัวและมุมรับประทานอาหารไว้ด้านหลังติดกับฝั่งระเบียง ซึ่งห้องแบบนี้มีข้อดีตรงที่จุด Common ขนาดใหญ่เปรียบเหมือนศูนย์รวมของทุกสมาชิกในครอบครัว ให้ได้อยู่กันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา
ตัวระเบียงก็อัพขนาดขึ้นตามขนาดห้องไปด้วยทำให้มีพื้นที่ในการใช้สอยได้มากขึ้น
ในส่วนของการแจกจ่ายไปยังห้องนอนจะเหมือนห้องที่เอ่ยถึงไปข้างต้น ห้องน้ำมีขนาดกว้างขวางใช้งานได้จริง
สำหรับห้องนอนที่ 2 ก็วางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบเซต หรือถ้าทำเป็นห้องน้องหมาน้องแมว ก็วางอุปกรณ์ต่างๆ ของพวกเค้าได้หลากหลาย แถมยังเหลือสเปซโล่งๆ อีกเยอะ
สุดท้ายที่ Master Bedroom ซึ่งให้พื้นที่มามากพอสมควร สามารถวางเฟอร์นิเจอร์พวกเตียงตู้ไซซ์ใหญ่ได้โดยที่ไม่ทำให้ห้องดูแคบ มาพร้อมห้องน้ำในตัวให้เรียบร้อย
ห้องนี้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเหมือนกับห้องที่แล้ว คือต่อให้มีสมาชิก 3 คน ก็ยังอยู่ร่วมกันได้ เพราะมีทั้งพื้นที่ส่วนรวมและส่วนตัวได้อย่างเหมาะสม พร้อมฟังก์ชันครบครัน จึงเป็นอีกหนึ่งห้องที่น่าสนใจไม่แพ้ห้องอื่นๆ
► ผลลัพธ์ของผลตอบแทนสร้างมูลค่าเพิ่ม ได้ตั้งแต่ตอนนี้ถึงอนาคตข้างหน้า
ร่วมเป็นหนึ่งในกลุ่ม Pet Lovers แห่งนี้ โครงการ Metris พัฒนาการ-เอกมัย ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.29 ล้านบาท เห็นราคาสบายกระเป๋าจับต้องได้แบบนี้ น่าจะทำให้ใครหลายคนตัดสินใจจับจองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
เพราะด้วยจุดเด่นของทำเลที่ตั้งย่านพัฒนาการ ซึ่งต่อให้สถานที่ทำงานอยู่ย่านใจกลางอโศก สุขุมวิท เพชรบุรี และทองหล่อเอกมัย ก็สามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็ว เพราะถ้าจะหาราคานี้ในเมืองแถมยังเลี้ยงสัตว์ได้แบบนี้ บอกเลยว่าไม่มีทางหาได้แน่นอน สู้เขยิบออกมาหน่อยแต่ยังเดินทางสะดวก เพียบพร้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ ที่สำคัญคือได้อยู่กับลูกรักในราคา 3 ล้านต้นๆ ยังไงก็คุ้มค่ากว่าเยอะ
เมื่อบวกกับองค์ประกอบของตัวโครงการที่มีความละเมียดละไมในการดีไซน์ออกแบบ ตั้งแต่ส่วนกลาง ไปจนถึงห้องพักอาศัยที่มีหลากหลายแบบและฟังก์ชันที่ครบครัน จวบจนการคัดสรรวัสดุและสิ่งต่างๆ ให้ทั้งลูกบ้านและสัตว์เลี้ยง ด้วยคุณภาพระดับพรีเมียมขั้นสูง ที่มาพร้อมความเป็นส่วนตัวอย่างไร้ที่ติ ส่งผลให้ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูแพงมีมูลค่าทั้งนั้น
ขณะเดียวกันสายลงทุนเองก็สามารถรับผลตอบแทนได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะดีมานด์ของคนที่อยากเช่าคอนโดแบบเลี้ยงสัตว์ได้มีค่อนข้างสูง อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นที่ขอย้ำอีกทีว่ามีผู้สนใจค้นหาคอนโด Pet Friendly Residences แบบเพิ่มขึ้นจากเดิมเมื่อเทียบกับปี 2021 ถึง 345%!!!
สมกับเป็นไอคอนนิกที่บ่งบอกความสำเร็จของการเป็น คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ที่ผสมผสานของการใช้ชีวิตระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงแสนรักได้แบบสมดุลในทุกมิติ จนสามารถพิชิตใจชาว Pet Lovers หรือแม้แต่กลุ่มที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในย่านนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แอบบอกว่าตอนนี้ทางโครงการมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจทั้งแต่งเฟอร์ฯ ให้ครบ ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า ฟรีโอน และอื่นๆ อีกมากมาย หากถูกใจอยากได้คลิกลงทะเบียนที่ลิงก์นี้เลย >>> https://bit.ly/46B3OOI
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-11
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-04
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-10-28
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-10-21
Reference Ekkamai | ที่สุดของทำเลที่เป็นมากกว่าใจกลางเมือง เพราะนี่คือเอกมัยย่านแห่ง Design District สุดเจ๋ง ติดอันดับ 27 ของโลก ให้คุณสามารถออกแบบชีวิตอย่างมีสไตล์ได้แบบอิสระ
2024-10-17
โอเคเลยค่ะ รายละเอียดดีมาก
บทความดี น่าติดตามครับ
เขียนรีวิวน่าอ่าน เทคนิคการเขียนดีค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ ที่เขียนบทความดีๆนี้ให้อ่านน่ะคะ
บทความดีมากครับ