COBE เกษตร-ศรีปทุม | สะดวกทุกมุม ลงทุนมีแต่รุ่ง ที่สุดของทำเลที่ใช่ ติด BTS 0 เมตร ขวัญใจเด็ก เกษตร-ศรีปทุม

 

ดีมานด์สำหรับที่อยู่อาศัยที่เติมเท่าไหร่ก็ไม่เคยเต็ม และยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดสูงอย่างต่อเนื่องนั่นก็คือ คอนโดใกล้มหาวิทยาลัย หรือ Campus Condo เพราะเป็นอันรู้กันของแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ว่าเจ้าไหนได้ทำเลทองนี้ไปยังไงก็ขายออกหมดแน่นอน

 

ซึ่งเชื่อไหมว่าหากเทียบกับทำเลมหาลัยทั้งหมด คอนโดที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศรีปทุมมี Gross Rental Yield เฉลี่ย 5.0% สูงเป็นอันดับ 2 ของพื้นที่ทำเลมหาลัยในกรุงเทพฯ ทั้งหมด 

 

นั่นแสดงให้เห็นว่าใครมีห้องอยู่บนทำเลที่เอ่ยมาข้างต้นแล้วล่ะก็ คงได้กอบโกยผลตอบแทนกันอย่างท่วมท้น เพราะมีดีมานด์ใหม่ๆ จากนักศึกษาที่ต้องการเช่าหมุนเวียนเข้ามาทุกปี แบบว่าคนที่ปล่อยห้องเช่าแทบไม่ได้ว่างเว้น แต่ประเด็นคือซัพพลายของย่านนี้แทบจะไม่มีเหลืออยู่ในตลาดแล้วน่ะสิ หรือจะหวังรอคนปล่อยขายต่อก็ยิ่งยากไปกันใหญ่

Photo credit by : spu

 

SC Asset ก็เนรมิตโครงการให้ใหม่ซะเลย!! แถมยังเป็น Double Campus อีกด้วย ดังนั้นจะมาแบบธรรมดาก็ไม่ใช่แล้ว โดยส่งแบรนด์ COBE เข้าลงพื้นที่ปักหมุดบนโลเคชันเกษตร-ศรีปทุม แบบติดถนนใหญ่ไม่พอแต่ยังติด BTS อีกต่างหาก และสร้างสรรค์ดีไซน์ออกมาได้อย่างโดดเด่นตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ จนแซงขึ้นมายืนหนึ่งบนทำเลนี้ 

 

 

COBE เกษตร-ศรีปทุม | สะดวกทุกมุม ลงทุนมีแต่รุ่ง ที่สุดของทำเลที่ใช่ ติด BTS แบบ 0 เมตร! ขวัญใจเด็ก เกษตร-ศรีปทุม

 

อันดับแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือการเป็นทำเลศักยภาพแบบจริงทุกประโยค ตั้งแต่การที่โครงการตั้งอยู่บนถนนใหญ่พหลโยธิน ที่พาเราเดินทางไปได้ทั่วทุกสารทิศในกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถกลับรถเพื่อมุ่งหน้าไปทางแยกเกษตรและวิ่งยาวไปถึงห้าแยกลาดพร้าวได้ แต่หากออกนอกเมืองซึ่งโครงการจะอยู่ฝั่งนี้ ก็วิ่งตรงยาวไปทางวงเวียนหลักสี่ ซึ่งจะไปได้ทั้งถนนแจ้งวัฒนะและถนนรามอินทรา หรือยาวต่อเนื่องไปจนถึงรังสิต หรือจะเลี้ยวซ้ายวิ่งถนนเลียบคลองบางเขน เพื่อไปเชื่อมออกถนนวิภาวดีได้ง่ายๆ รวมถึงยังอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนโทลล์เวย์อีกด้วย

 

แต่ในช่วงไพร์มไทม์ก็บอกกันตามตรงว่าการจราจรจะค่อนข้างติดขัด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับโครงการ โค้บบ์ เกษตร-ศรีปทุม (COBE Kaset-Sripatum) เพราะมีจุดแข็งอยู่ตรงที่การติด รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีบางบัว แบบ 0 เมตร คือถ้าใครผ่านไปมาแถวนี้จะเห็นเลยว่ารฟฟ.จอดรับ-ส่งถึงที่ของจริง และวิ่งยาวไปอารีย์ สยาม อโศก ทองหล่อ ต่อเดียวถึงเลย

 

หรือถ้าอยากจะไปสายอื่น เพียงนั่งจากสถานีนี้ไป 6 สถานี ก็จะ Interchange ไปยัง รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน สถานีพหลโยธิน และแค่ 2 สถานี ก็จะเชื่อมต่อไปยัง รถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) อีกทั้งจากโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก รถไฟฟ้า SRT สายสีแดง สถานีทุ่งสองห้อง และในอนาคตก็จะมี รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) ช่วยเติมเต็มทุกการเดินทางให้สะดวกสบาย

 

แต่สิ่งที่ทำให้โครงการนี้ในเรื่องของทำเลดูเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น คือการอยู่ระหว่าง 2 สถาบันการศึกษาชื่อดัง ทั้งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศรีปทุม ช่วยเพิ่มแรงดึงดูดให้เกิดความสนใจต่อตัวโครงการจากทั้งสองมหาวิทยาลัยได้เป็นอย่างดี

 

และที่ไม่อาจมองข้ามได้อย่างแน่นอน เป็นเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกแหล่งไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งล้วนรายล้อมอยู่รอบโครงการ อย่างฝั่งขาเข้าเมืองก็จะมีทั้ง Major Cineplex รัชโยธิน, Avenue รัชโยธิน, ตลาดกรีนวินเทจรัชโยธิน, Central ลาดพร้าว, Union Mall และ Jodd Fairs

 

หรือทางฝั่งออกนอกเมืองก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Central รามอินทรา, The Jas รามอินทรา และ Lotus’s หลักสี่ ยังไม่รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และคาเฟ่ ตลอดสองข้างทาง

Photo credit by : myenjoylifestyle

 

ซึ่งนอกจาก 2 มหาวิทยาลัยที่เล่ามาข้างต้นแล้ว ยังมีสถาบันการศึกษาชั้นนำอีกหลายแห่ง ได้แก่ Korean International School of Bangkok, St.Stephen’s International School, รร.หอวัง, รร.มัธยมสาธิตวัดพระศรีฯ, รร.สารวิทยา, รร.ไผทอุดมศึกษา, มรภ.พระนคร และม.เกริก 

Photo credit by : worldorgs

 

ขณะที่สถานพยาบาลก็อยู่ไม่ไกล เช่น รพ.วิภาวดี, รพ.ซีจีเอช, รพ.เปาโล เกษตร และ รพ.จุฬาภรณ์ เป็นต้น

 

นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยแหล่งงานทั้งจากโซนลาดพร้าว, รัชโยธิน, แจ้งวัฒนะ และรามอินทรา หรือต่อให้ทำงานในเมือง แต่เลือกโซนนี้เพราะเป็นถิ่นเดิมที่คุ้นเคย ก็ไม่ได้ทำให้เดินทางยากแต่อย่างใด

 

อีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่ทำให้โครงการ COBE เกษตร-ศรีปทุม เป็นที่ยอมรับและได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทุกกลุ่ม คือการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างดีไซน์และฟังก์ชัน ผ่านแนวคิดของความเป็นแบรนด์ COBE | CO-BEING COMMUNITY เพื่อให้กลุ่มคนรุ่นใหม่มีอิสระทางความคิด ได้เปิดรับโอกาสใหม่ๆ “Live in a Community of Opportunities” 

 

ซึ่งคอนเซ็ปต์ของโครงการนี้ได้แก่ “Above the CLOUDS” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก “ก้อนเมฆ” ตัดกับเฉดสีของท้องฟ้าในช่วงเวลาต่างๆ โดยถูกนำมาตีความใหม่ภายใต้ สี รูปทรง เส้นโค้ง แต่ถูกนำมาลดทอนให้สวยงามทันสมัยและเรียบง่าย ที่ยังคงให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เบาสบาย และเป็นอิสระ พร้อมเปิดรับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ได้เสมอ

 

ตอนนี้โครงการยังไม่แล้วเสร็จแต่เดี๋ยวเราจะพาไปชม Sales Gallery ที่บอกได้คำเดียวว่าดี!!! แบบเห็นแล้วรู้เลยว่าหากคอนโดสร้างเสร็จจะต้องสวยยิ่งกว่าที่เห็นในภาพ Perspective แน่นอน

 

เมื่อก้าวลงจากรถไฟฟ้าปุ๊บก็ถึง Sales Gallery ปั๊บ โดยโครงการจริงก็จะตั้งอยู่ตรงนี้เช่นเดียวกัน ทำให้มั่นใจได้ว่าติด BTS แบบไม่กี่ก้าวก็เข้าคอนโดได้เลย

 

ซึ่งช่วงระหว่างทางเดินเข้าไปในตัวอาคาร โครงการก็ไม่ปล่อยให้พื้นที่เสียเปล่า จัดสรรให้มีร่มเงาของต้นไม้พร้อมลูกเล่นของผนังให้มีความโค้งเว้าตลอดทาง สอดรับกับตัวอาคารที่ออกแบบให้มีความโค้งหยักไปมาเหมือนกับ Shape Form ของก้อนเมฆ โดยเน้นโทนสีขาวเป็นหลักสวยงามตรงตามคอนเซ็ปต์ 

 

ส่งผลให้พื้นที่ด้านในก็จะได้เส้นสายของความโค้งไปโค้งมาเพิ่มมิติได้อย่างน่าสนใจ และเลือกใช้สีขาวเช่นเดียวกับภายนอกดูคลีนๆ สไตล์มินิมอล

 

และเพิ่มสีสันแต่ไม่ฉูดฉาดด้วยโทนสีเอิร์ธโทน อย่างสีฟ้ารวมถึงสีเทาที่เป็นเฉดสีอบอุ่นเหมือนสีบนท้องฟ้า ผ่านโซฟาที่ไว้สำหรับรองรับลูกค้าอยู่หลายจุด 

 

โดยฝั่งหนึ่งของ Sales Gallery ได้ตั้งโมเดลที่แสดงให้เห็นถึงดีเทลของโครงการจริงว่าจะมีรูปลักษณ์หน้าตาเป็นยังไงและมีฟังก์ชันอะไรบ้าง

 

ขึ้นไปยังชั้น 2 จะนำไปสู่ห้องตัวอย่าง ซึ่งก็จัดที่นั่งโซฟาไว้เหมือนกับชั้นข้างล่าง 

 

ทำให้เมื่อมององค์ประกอบโดยรวมของการออกแบบ Sales Gallery ทั้งหมดแล้ว แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างสร้างความแปลกตาแต่ดูเก๋ไปในตัว ขณะเดียวกันกลับมองแล้วรู้สึกผ่อนคลายสบายตา ทำให้นึกภาพออกเลยว่าหากได้อยู่ในโครงการจริงก็คงให้อารมณ์ความรู้สึกได้เป็นอย่างดีไม่ต่างกัน

 

โดยโครงการ COBE เกษตร-ศรีปทุม เป็นคอนโด High Rise สูง 23 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้องชุดเพื่อการพักอาศัย 396 ยูนิต, ห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 1 ยูนิต และอาคารพาณิชย์ สูง 2 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 4 ยูนิต บนขนาดที่ดิน 2-2-77.5 ไร่ สามารถจอดรถได้ 145 คัน (36.62%) ซึ่งถือว่ามีจำนวนที่พักอาศัยไม่ได้มาก เพื่อเพิ่มสเปซความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านแต่ละคนได้มากขึ้น

 

ซึ่งอาคารพาณิชย์ที่เอ่ยมาจะอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการที่ตอนนี้ทำเป็น Sales Gallery แต่ในอนาคตจะถูกออกแบบให้กลายเป็น Commercial โดยให้ความสำคัญกับการดีไซน์และการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง ที่รองรับกิจกรรมใน Community เพื่อประสบการณ์การพักอาศัยที่ดีขึ้น ตอบโจทย์ทุกความต้องการที่หลากหลายในที่เดียว 

 

พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันตลอด 24 ชั่วโมง ให้ใช้ชีวิตได้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยส่วนกลางจะเริ่มที่ชั้น 1 ไม่ว่าจะเป็น Drop Off, The Cloud Lobby, Co-Working Space, Meeting Room, Reading Lounge, Group Study Zone, Storage และ Sensory Garden

 

และยังมี Sky Facilities ที่ชั้น 23 ซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญของส่วนกลางทั้ง Above The Cloud Garden, Sunset Lounge, Pool Lounge, Yoga Room, Sky Fitness, Cloud Nine Club, Party Room, Kids Pool และ Skyline Pool

 

อีกหนึ่งสเปเชียลที่สัมผัสได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดตั้งแต่สเกลเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ ไปจนถึงสเกลใหญ่ที่เห็นแบบเต็มสายตา ซึ่งล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพนั่นก็คือ ห้องพักอาศัย ที่ดีไซน์ Layout ออกมาได้เป็นอย่างดี หลอมรวมไปกับการออกแบบฟังก์ชันใช้งานให้เกิดความบาลานซ์ลงตัว

 

แต่ที่น่าจะถูกใจใครหลายคนอยู่ตรงที่โครงการ COBE เกษตร-ศรีปทุม ขายแบบ Fully Furnished ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของจำนวนที่ให้ครบจัดเต็ม แต่ยังรวมไปถึงการคัดสรรสเปควัสดุแบบมี High Quality โดยมีห้องให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ดังนี้

1. Studio ขนาด 23-26 ตารางเมตร

2. 1 Bedroom ขนาด 30 ตารางเมตร

3. 2 Bedrooms ขนาด 46 ตารางเมตร

4. High Ceiling Unit ขนาด 23-46 ตารางเมตร

 

► High Ceiling Unit ขนาด 30.46 ตารางเมตร

ขอพาไปดูห้องที่เป็นไฮไลต์เป็นที่สุดของย่านนี้เลยก็ว่าได้ โดยโซนแรกหากเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องครัวแบบเปิด สร้างพื้นที่เชื่อมต่อกันกับโซนอื่นๆ ทำให้ห้องดูโล่งมีพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างฟังก์ชัน

 

ซึ่งขวามือทางโครงการบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัว พร้อมตู้เก็บของด้านบนเต็มผนัง โดยตัว Top เป็นหินสังเคราะห์ มีความทนทานแข็งแรง ด้าน Backsplash กรุกระเบื้องเซรามิกลายทางที่นอกจากได้ความสวยงามแล้ว ยังเช็ดคราบทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย ส่วนหน้าบานจะเป็นลายไม้สีน้ำตาลอ่อน

 

นอกจากนี้ยังได้เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น เตาไฟฟ้า 2 หัว และ Hob & Hood จากแบรนด์ Hafele

 

ตรงข้ามเป็นห้องน้ำที่จัดสุขภัณฑ์มาให้ครบครันทั้งอ่างล้างหน้า กระจกที่ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นรูปทรงก้อนเมฆ โถสุขภัณฑ์ รวมถึง Hand Shower และแยกพื้นที่โซนเปียกโซนแห้งชัดเจน

 

ถัดมาคือจุดที่พิเศษที่สุดของห้องนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยการออกแบบให้เป็นพื้นที่ Open Plan ระหว่าง Living Area และ Dining Area ที่ให้ Floor to Ceiling มาสูงถึง 4.7 เมตร ประกอบกับได้ช่องแสงแบบ Double Space ยิ่งสร้างบรรยากาศให้ห้องดูปลอดโปร่งโล่งสบาย

 

โดยบริเวณโซน Dining Area จะได้โต๊ะกินข้าวพร้อมเก้าอี้ขนาด 2 ที่นั่ง ซึ่งเซตนี้ไม่ได้เป็นแค่โต๊ะสี่เหลี่ยมธรรมดา แต่มีกิมมิคดีไซน์ให้โต๊ะมีความโค้งมน และเลือกใช้สีเอิร์ธโทนเข้าชุดกับเก้าอี้ มีความเรียบง่ายแต่ดูดีมาก

 

ติดกันเป็นโซนนั่งเล่นที่โครงการก็จัดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาให้เรียบร้อย ฝั่งตรงข้ามได้ชั้นวางทีวีเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว ซึ่งโทนสีทั้งหมดจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันเหมาะแก่การอยู่อาศัย

 

เชื่อมต่อไปยังระเบียงซึ่งให้สเปซโซน Outdoor ค่อนข้างกว้างสามารถใช้งานได้สบายๆ

 

กลับเข้ามาดูกันต่อที่ห้องซึ่งอยู่ติดกับโซน Common Area เป็นห้องอเนกประสงค์ที่ให้พื้นที่มาค่อนข้างยืดหยุ่นในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ เลือกทำเป็นห้องต่างๆ ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนรับรองครอบครัวหรือเพื่อนๆ หรือจัดเป็นห้องทำงาน แม้แต่ทำเป็น Walk-in Closet เพิ่มเติม ก็สร้างสรรค์ได้ทุกรูปแบบ

 

แต่ก่อนจะไปยังชั้นบนขอแวะตรงใต้บันไดที่ทางโครงการทำเป็นห้องเก็บของให้ ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีช่วยให้เก็บของใช้ส่วนตัวหรืออุปกรณ์ทำงานบ้านต่างๆ ได้เป็นระเบียบ

 

ชั้นบนเป็นห้องพักอาศัย แบ่งเป็นโซน Walk-in Closet ขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว สายแฟชั่นชอบแต่งตัวน่าจะแฮปปี้ เพราะที่เห็นคือทั้งหมดที่ได้ของจริงทั้งตู้เสื้อผ้าถึง 2 ตู้ พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง

 

ส่วนพักผ่อนก็ให้สเปซมาสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบาย ซึ่งซื้อแค่ที่นอนเป็นอันจบ เนื่องจากโครงการก็ให้ฐานเตียงมาแล้วเช่นเดียวกัน

 

เก็บภาพจากมุมสูงมาฝากทิ้งท้ายคือสวยงามมากให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเลยทีเดียว

 

► Studio ขนาด 26.54 ตารางเมตร 

ก่อนจะพาไปชมอยากบอกทุกคนว่า ห้องนี้ Sold out!!! เป็นที่เรียบร้อย คือกระแสแรงมากจริงๆ ใครก็ต้านไม่ไหวแล้วนาทีนี้ แต่อยากจะรีวิวเอาไว้เผื่อใครทำหลุดมือเราได้รีบ CF ต่อแบบทันท่วงที 

 

เดินเข้ามาจะพบกับโซนครัวที่ได้เป็นแบบครัวเปิด ซึ่งถ้าเป็นห้องสตูดิโอทั่วๆ ไป จะได้เคาน์เตอร์เล็กกว่านี้แน่นอน แต่ที่นี่ทำมาให้ค่อนข้างใหญ่เลย นอกจากนี้ยังได้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหมือนกับห้องก่อนหน้า

 

แต่จุดที่น่าสนใจไม่แพ้กันอยู่ฝั่งตรงข้ามที่ทำเป็นห้อง Walk-in Closet มีประตูเปิด-ปิดกั้นเป็นสัดส่วนชัดเจน รวมถึงการบิวท์ตู้เสื้อผ้าที่ให้มาเต็มผนังสุดเพดาน สามารถจุเสื้อผ้าได้อย่างเพียงพอ

 

คอนเน็กไปยังห้องน้ำที่ก็มีประตูให้อีกบานแยกต่างหากเพื่อสุขอนามัยที่ดี ได้สุขภัณฑ์ครบตามที่เห็นในภาพ

 

ออกมาจากห้องน้ำเพื่อเดินเข้าสู่พื้นที่ใช้งานด้านใน โดยจะได้ Floor to Ceiling สูง 2.7 เมตร ซึ่งเชื่อไหมว่าเฟอร์นิเจอร์ในห้องตัวอย่างทั้งหมด กับของจริงที่ได้ก็หน้าตาแบบนี้เลย!! เริ่มตั้งแต่โซน Living ซึ่งทางโครงการบิวท์อินในรูปแบบของ Flexible Furniture 

 

หมายความว่าส่วนที่ทำเป็นตู้เก็บของจะมีส่วนหนึ่งที่สามารถดึงออกมาใช้งานเป็นโต๊ะกินข้าว หรือโต๊ะนั่งทำงานได้ พอใช้เสร็จแล้วก็สามารถเก็บเข้าที่เหมือนไม่เคยมีอะไรตั้งอยู่ ซึ่งช่วยเพิ่มสเปซให้ห้องกว้างขึ้นได้เป็นอย่างดี นับเป็นกิมมิคที่ตอบสนองความต้องการแก่คนรุ่นใหม่ได้แบบสุดคูล

 

เท่านั้นยังพิเศษไม่พอเพราะโครงการได้ออกแบบบิวท์อินในส่วนของโซฟาและเตียงให้กลมกลืนเชื่อมต่อกัน

 

โดยฝั่งโซฟาจัดมาให้ขนาด 2 ที่นั่ง ที่ดีไซน์รูปลักษณ์ให้มีความโค้งมน พร้อมที่เก็บของข้างใต้ 

 

ส่วนเตียงนอนวางชิดผนังได้ขนาด 5 ฟุต พร้อมที่เก็บของข้างใต้เช่นเดียวกัน ซึ่งช่องแสงตรงนี้จะได้ทั้งหน้าต่างแบบบานกระทุ้งและบานฟิกซ์ ทำให้ห้องดูสว่างปลอดโปร่ง

 

ประกอบกับช่องแสงทางฝั่งระเบียงช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบาย สามารถอยู่ในห้องได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกอึดอัด และสำหรับพื้นที่ข้างนอกระเบียงก็ให้สเปซมาเยอะพอสมควร

 

ฝั่งทีวีจะได้ชั้นวางทีวีแบบลอยตัวทำให้ขยับเคลื่อนย้ายได้ตามใจชอบ ซึ่งจะเห็นว่ายังมีพื้นที่ด้านข้างเหลือให้วางตู้เก็บของเพิ่มเติมได้อีกต่างหาก

 

เล่ามาถึงตอนนี้น่าจะทำให้ใครหลายคนคลี่คลายความสงสัยกันแล้วว่าทำไมโครงการ COBE เกษตร-ศรีปทุม ถึงเป็นที่สนใจจากผู้คนในทุกๆ กลุ่มเป็นจำนวนมาก ชนิดที่ว่ายอดจองถล่มทลายจนห้อง Simplex ขายหมดเกลี้ยง! 

 

 

 

 

คนรุ่นใหม่จะซื้ออยู่เอง ผู้ปกครองซื้อให้ลูกหลาน หรือนักลงทุนอยากปล่อยเช่าสร้างผลตอบแทนระยะยาว ที่นี่คือทุกคำตอบที่ใช่ สนใจรีบคลิกลงทะเบียนที่ลิงก์นี้ >>>  https://bit.ly/3Se7q4A