News
icon share

ดรีมทีม กทม.ยุค ผู้ว่าฯอัศวิน เป้า 1 ปีสร้างผลงานรับใช้คนกรุง

LivingInsider Report 2016-12-23 10:18:18
ดรีมทีม กทม.ยุค ผู้ว่าฯอัศวิน เป้า 1 ปีสร้างผลงานรับใช้คนกรุง

 

 

ในโอกาสวันครบรอบสถาปนา "กทม.-กรุงเทพมหานคร" 45 ปี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ "พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง" เจ้าของฉายา "ผู้ว่าฯ ม.44" ที่เพิ่งรับตำแหน่งผู้นำหมายเลข 1 ได้เพียง 2 เดือน นำทีมผู้บริหารชุดใหม่แถลงนโยบาย
 


สร้างผลงาน 6 เดือน-1 ปี



"พล.ต.อ.อัศวิน" มีประสบการณ์ในฐานะรองผู้ว่าฯ กทม. 3 ปี รับผิดชอบงานด้านความปลอดภัยเป็นหลัก ในขณะที่งานด้านเศรษฐกิจเจ้าตัวยอมรับว่าไม่ถนัด แต่อย่างน้อยก็ประกาศขอสร้างผลงานภายใน 6 เดือน-1 ปี จาก 1 ภารกิจพิเศษ 5 นโยบายทันใจ 19 ภารกิจผลักดันทันที



"ผมถูกเลือกมาเป็นผู้ว่าฯเป็นกรณีพิเศษ เพราะฉะนั้นต้องทำอะไรให้พิเศษกว่า ผมมาในช่วงที่งบประมาณของ กทม.ผ่านความเห็นชอบจากสภา กทม.เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นผมจะใช้งบประมาณที่มีอยู่ทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด" 



สำหรับภารกิจพิเศษ คือ การบริหารจัดการมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และดูแลประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพให้ได้รับความสะดวกสบาย ทั้งในเรื่องการเดินทาง ที่พักอาศัย ความปลอดภัยและความสะอาด
 


ถัดจากนั้นจะเป็นภารกิจหลักตามหน้าที่ผู้ว่าราชการ กทม. ไฮไลต์นโยบาย 5 ทันใจ ประกอบด้วย "สะอาด-สะดวก-ปลอดภัย-คุณภาพชีวิตดี-วิถีพอเพียง"

 

 

ดรีมทีม กทม.ยุค ผู้ว่าฯอัศวิน เป้า 1 ปีสร้างผลงานรับใช้คนกรุง

 

 

กับ 19 ภารกิจ ดังนี้ 1.จัดตั้งศูนย์บริหารราชการฉับไวใสสะอาด หรือ BFC (Bangkok Fast & Clear) 2.โปรเจ็กต์บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ตั้งเป้าเดือนละ 1 ครั้งร่วมกับคนกรุง 3.คลองปลอดผักตบชวาลดปัญหาน้ำท่วม 4.ทำแอป Bangkok2U รู้ทันเหตุการณ์ 5.น้ำเร่งระบาย สั่งการได้ทันที 24 ชั่วโมง 6.ร่วมกับเอกชนทำแก้มลิงอิงศาสตร์พระราชา 7.ทางแยกห่วงใย ใส่ใจทุกคน
 


8.ปรับจริง จับจริง รถจอดและวิ่งบนทางเท้า 9.สั่งปิดสถานบริการฝ่าฝืนกฎหมาย ดำเนินการทันที 10.เครือข่ายเฝ้าระวังความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 24 ชั่วโมงหรือ Public Eyes 11.เปลี่ยนพื้นที่เปลี่ยวเป็นพื้นที่โปร่ง 12.ปลูกป่าในใจคนตามศาสตร์พระราชา 13.ปลูกต้นรวงผึ้งเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร 14.ภารกิจดูแลผู้สูงอายุเป็นพิเศษ 15.เร่งรัดโครงการพระปกเกล้าสกายปาร์ค
 


16.เปลี่ยนพื้นที่เสื่อมโทรมให้เป็นชุมชนสามัคคี สร้างสุขภาวะดีเพื่อชีวิต 17.สร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาและมาตรฐานวิชาการอย่างเท่าเทียมกัน 18.เปิดแหล่งเรียนรู้ศาสตร์พระราชา ณ หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร และ 19.จัดย่านเดินเพลินกรุงรัตนโกสินทร์
 


เน้นโปร่งใส-สะดวก-ทันใจ
 


ถอดรหัสงานบางด้าน อาทิ การจัดตั้งศูนย์ BFC ที่ผ่านมาได้ยกเลิกโครงการที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกกล่าวหาว่ามีความไม่ชอบมาพากลหรืออาจไม่โปร่งใส รวมทั้งแสดงถึงความพยายามที่จะทำในเชิงรุกด้วยการร่วมมือกับ "สตง.-สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน" เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบทุกขั้นตอนสำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อแสดงความโปร่งใสในการบริหารราชการแผ่นดิน
 


หรือจะเป็นการชักชวนให้เอกชนทำแก้มลิงตามศาสตร์พระราชาในพื้นที่จุดอ่อนน้ำท่วมเช่นหมู่บ้านจัดสรรในย่านลาดพร้าวจะขอความร่วมมือใช้บึงรับน้ำเป็นแก้มลิงก่อนเร่งระบายน้ำสู่แหล่งระบายน้ำหลัก,ภารกิจในการปรับจริงจับจริงสิงห์มอเตอร์ไซค์ที่ขึ้นมาขับขี่บนทางเท้าระบุโทษปรับสูงสุด 5,000 บาท โดยเฉพาะในเส้นทางถนนสุขุมวิท พระราม 4 เพชรบุรี พหลโยธิน รัชดาภิเษก และจรัญสนิทวงศ์
 


ภารกิจปลูกต้นรวงผึ้งเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จำนวน 110 ต้นในสวนวชิรเบญจทัศ และกระจายครอบคลุมพื้นที่ 50 เขตเพื่อสร้างความร่มเย็นแก่ประชาชน, ภารกิจร่วมกับภาคีเครือข่ายปลูกป่าชายเลนในเขตบางขุนเทียนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เป้าหมาย 3,000 ไร่, จัดย่านเดินเพลินกรุงรัตนโกสินทร์ กำหนดเป้าหมายที่ถนนตานี ถนนข้าวสาร ริมคลองโอ่งอ่าง ถนนมหาราช ซอยพระยาเพชรย่านท่าพระจันทร์ ถนนหน้าพระลาน เป็นต้น
 


เน้นนโยบายจัดระเบียบ
 


"พล.ต.อ.อัศวิน" ตอบทุกคำถามด้วยว่า ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากนั้น กรณีน้ำที่เร่งระบาย เช่น หน้าบริษัทยาคูลท์ ถนนวิภาวดีรังสิต มีเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง ก็เพิ่มเป็น 6 เครื่อง เดิมใช้เวลาระบายน้ำนานหลายชั่วโมง เมื่อติดตั้งเครื่องสูบน้ำหวังว่าจะระบายได้เร็วขึ้น โดยจะหาหลาย ๆ สูตรเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม
 


"งานหาบเร่แผงลอยที่ กทม.รื้อย้ายสำเร็จลุล่วง เราก็ต้องช่วยกันรักษาไว้ไม่ให้เขากลับมาทำอีก เช่น คลองโอ่งอ่าง จัดระเบียบไปแล้วจะทำยังไงให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างถาวร ซึ่งริมทางเท้าก็เช่นเดียวกัน ต้องดูแลให้ใกล้ชิด การแก้ไขปัญหาจราจร ต้องไม่ให้มีสิ่งกีดขวางบนพื้นผิวถนน ไม่ว่าจะเป็นริมทางเท้าที่มีการตั้งร้านขายของ ทำให้คนใช้ฟุตบาทต้องลงมาเดินถนนจนเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง"
 


ดรีมทีม "รองผู้ว่าฯ"
 


ในขณะที่ทีมรองผู้ว่าราชการ กทม. เริ่มจาก "จักกพันธุ์ ผิวงาม" อดีตรองปลัดกรุงเทพมหานคร รับผิดชอบภารกิจด้านน้ำ ระบุว่า ปัจจุบันอุโมงค์ระบายน้ำในกรุงเทพฯมี 7 แห่ง ความยาวรวม 19 กิโลเมตร ในปี 2560-2562 อุโมงค์บางซื่อกับหนองบอนจะก่อสร้างแล้วเสร็จ เพิ่มความยาว 15.8 กิโลเมตรเข้ามาช่วยรองรับน้ำได้มากขึ้น
 


เช่น บริเวณหน้าศาลอาญา รัชดาภิเษก ปัจจุบันมีคลองรับน้ำ 3 คลอง คือ คลองเปรมประชากร คลองบางซื่อ คลองลาดพร้าว ในปี 2559 สถานีสูบน้ำรัชดา-วิภา สูบน้ำได้ 28.50 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ภายในมกราคม 2560 ที่อุโมงค์บางซื่อแล้วเสร็จ จะเพิ่มขีดความสามารถในการสูบน้ำเป็น 54 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำให้การระบายน้ำทำได้รวดเร็วขึ้น
 


"ทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์" อดีตผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เป็นรองผู้ว่าฯด้านการแพทย์และสาธารณสุข บอกว่า นโยบายผู้สูงอายุ อยากทำโรงพยาบาลอยู่ที่บ้าน ภายใต้แนวคิดศูนย์สุขภาพผู้สูงอายุ วิธีการจัดทำโครงการอบรมอาสาสมัคร 2,400 คน สำหรับดูแลผู้สูงอายุติดเตียงที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้
 


และ "วรรณวิไล พรหมลักขโณ" อดีตสมาชิกสภา กทม. และอดีตรองปลัด กทม. ได้รับบทบาทเป็นรองผู้ว่าฯด้านการศึกษา นำเสนอโครงการนำข้อสอบโอเน็ตอัพโหลดบนเว็บไซต์โรงเรียนในสังกัด กทม. เพื่อให้ประชาชนและผู้ปกครองที่ไม่สามารถส่งลูกหลานไปเรียนพิเศษ สามารถดาวน์โหลดมาศึกษาด้วยตนเอง เป็นต้น
 


เชื่อว่านาทีนี้คนกรุงเทพฯคงทั้งลุ้นทั้งเชียร์ เพราะทีมงานดรีมทีมชุดนี้เข้ามาเป็นผู้บริหารงบประมาณ 7.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินตามปีงบประมาณ 2560 ของกรุงเทพมหานคร

 

 

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

 

 

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1482314874

 

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider