รายการโปรด
จากกระแสในช่วงที่ผ่านมา ที่มีการดีเบตเรื่องการลงทุนแบบไหนดีกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นเงินสด หุ้น และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นมุมมองของแต่ละคนที่มีช่วงอายุต่างกัน ดังนั้นประสบการณ์และปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ของแต่ละบุคคล ทำให้มุมมองและวิธีคิดแตกต่างกันไป
ขณะที่การลงทุนในแต่ละรูปแบบนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อด้อย และสร้างผลตอบแทนที่แตกต่างกันทั้งสิ้น ขึ้นอยู่ที่ความพร้อม ความรู้ เงินลงทุน และความชอบ รวมไปถึงระยะเวลา และผลตอบแทนที่ต้องการได้ หรืออยากได้อะไรจากการลงทุน แต่ถ้าพิจารณายาว ๆ แล้ว อสังหาฯ (ที่อยู่อาศัย) ยังเป็นรูปแบบการลงทุนที่ปลอดภัย และมีความผันผวนน้อยมาก ๆ ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา
นายสุรเชษฐ์ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ พร็อพเพอร์ตี้ดีเอ็นเอ (Property DNA) ให้ความเห็นว่า คนรุ่นใหม่ คนวัยทำงาน หรือกลุ่มคนที่มีอายุยังไม่ถึง 30 ปี ในปัจจุบัน อาจจะมองว่าการซื้อที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด เป็นการสร้างภาระระยะยาว อีกทั้งยังเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแต่ความเสื่อม และไม่ก่อให้เกิดรายได้
รวมทั้งผลตอบแทนจากการลงทุนในอสังหาฯ ต้องใช้เวลานานอาจจะมากกว่า 10 ปี เมื่อเทียบกับการลงทุนใน หุ้น สินทรัพย์ดิจิทัล หรือช่องทางอื่น ๆ ที่สร้างผลตอบแทนได้เร็วกว่าและมากกว่า ใช้เงินลงทุนน้อยกว่ามาก และมีคนที่ประสบความสำเร็จให้เห็นในโลกปัจจุบันต่อเนื่องโดยเฉพาะในสังคมออนไลน์
แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว คนที่สำเร็จอาจจะมีจำนวนไม่มาก แต่กลายเป็นบุคคลต้นแบบหรือตัวแทนความสำเร็จที่คนรุ่นใหม่เลือกที่จะเดินตาม ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจ และพยายามหาข้อมูลประกอบเพื่อเดินตามคนเหล่านั้นด้วย ไม่ใช่แค่เปิดบัญชีการลงทุนแล้วจะสำเร็จได้ตามแบบพวกเขา ดังนั้นการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดก็ตามล้วนมีประโยชน์ และสามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาว หรืออาจจะสั้น ๆ ได้ทั้งหมด ถ้ามีความเข้าใจในสินทรัพย์ที่ลงทุน และสามารถที่จะรอคอยได้
รูปแบบการลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่อายุไม่เกิน 30-35 ปี ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตชัดเจน เพราะคนรุ่นนี้มีความอดทนรอคอยได้ไม่นานเทียบเท่าคนในอดีต เพราะโลกปัจจุบันเอื้อประโยชน์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง และมีผลให้ความอดทนของคนในยุคหลัง ๆ ลดน้อยลง
ทำให้มองว่า การลงทุนในอสังหาฯ อาจจะไม่น่าสนใจ มีความเสี่ยงที่ชัดเจนจากเรื่องของอุปทานจำนวนมากในตลาด ใช้เงินลงทุนเยอะ เพราะราคาขายที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง สวนทางกับรายได้ของพวกเขา หรือถ้าจะลงทุนในทองคำก็เป็นการลงทุนที่ต้องใช้เวลาในการถือครองยาวนาน (ยกเว้นช่วงนี้ที่ทำ All Time High แทบทุกวัน) และต้องลงทุนจำนวนมากจึงจะเห็นผลตอบแทน
ส่วนการลงทุนในพระเครื่อง นาฬิกา หรือของสะสมต่าง ๆ ก็เป็นที่นิยมในวงแคบมาก ๆ โดยเฉพาะพระเครื่อง ที่แม้จะมีกลุ่มชาวต่างชาติให้ความสนใจลงทุน แต่ก็ไม่ได้มีความต้องการมากมายนัก ส่วนนาฬิกา หรือ ของสะสม อาจจะขายในตลาดต่างประเทศได้
คนรุ่นใหม่ที่ได้รับสินทรัพย์ประเภทนี้ตกทอดมาจากบรรพบุรุษจึงอาจจะมีการขายต่อหรือส่งต่อให้กับนักลงทุนที่สนใจทันทีไม่ถือไว้นาน ส่งผลให้รูปแบบการลงทุนในอดีตเหล่านี้จึงไม่เป็นที่สนใจในสายตาของคนรุ่นใหม่ซึ่งความอดทนไม่มาก และไม่อยากรอคอยอะไรนาน ๆ ไม่ต้องการตำนานการสร้างตัว สร้างฐานะมากกว่า 10 ปี ทำให้หุ้น คริปโตเคอเรนซี่ อาจจะเป็นการลงทุนที่ถูกใจของคนรุ่นใหม่มากกว่า เพราะรวดเร็ว ง่าย เห็นเงินเร็ว และลงทุนได้ครั้งละไม่มาก แต่มีความเสี่ยงสูง ความผันผวนก็มาก
ขณะที่การลงทุนในอสังหาฯ ยังสามารถทำได้ แต่ต้องพิจารณาปัจจัยหลาย ๆ อย่างก่อนจะลงทุน เพราะการลงทุนในอสังหาฯ มีหลายประเภทและหลายรูปแบบ โดยหนึ่งในรูปแบบที่คนที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไปคุ้นเคยและเห็นคนรุ่นก่อนหน้านี้ทำมานานแล้ว คือ การลงทุนใน “ที่ดิน”
ซึ่งถ้าพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เพิ่มขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยอ้างอิงจากดัชนีราคาอสังหาฯ ของธนาคารแห่งประเทศไทยในเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา พบว่าที่ดินในกรุงเทพฯ–ปริมณฑลปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 52% จากปี 2557 แต่อาจจะมีบางพื้นที่ที่ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ เช่น พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ หรือบางพื้นที่ที่มีโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลเข้าไปลงทุน และเริ่มการก่อสร้างแล้ว รวมไปถึงมีการกว้านซื้อที่ดินจากเอกชนเพื่อพัฒนาโครงการประเภทต่าง ๆ
แต่ก็มีอีกหลายทำเลที่ราคาที่ดินไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นเลย หรือมีมูลค่าลดลงด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง แต่ปัจจัยที่ส่งเสริมให้การลงทุนที่ดินยังคงเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่น่าลงทุน คือ ที่ดินไม่สามารถสร้างขึ้นมาทดแทนได้ แม้ว่าจะมีการถมทะเลสร้างที่ดินเพิ่มขึ้น แต่ทุกโครงการที่มีการถมทะเลล้วนเป็นโครงการที่พัฒนาโดยรัฐบาลหรือภายใต้การอนุญาตจากรัฐบาลทั้งนั้น
ส่วนการลงทุนในคอนโดฯ อาจจะสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าที่ดิน เพราะราคาคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ–ปริมณฑล ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงระหว่าง ปี 2557–2567 ประมาณ 63% และอาจจะมีหลายโครงการที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ในทำเลที่มีความต้องการสูง รวมไปถึงยังสามารถสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าได้ ซึ่งเป็นการลงทุนในระยะยาวรูปแบบหนึ่ง โดยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าในปัจจุบันอาจจะอยู่ในช่วง 4–7% ต่อปี หรือมากกว่านี้ แล้วแต่ทำเลและรูปแบบของโครงการ
“แม้ว่าปัจจุบันการลงทุนในตลาดอสังหาฯ อาจจะดูแล้วไม่น่าสนใจจากข่าวลบที่ออกมารายวัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอสังหาฯ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยจะลงทุนไม่ได้อีกต่อไป เมื่อเทียบกับผลตอบแทนจากตลาดหุ้นไทย ที่อ้างอิงจากดัชนีผลตอบแทนรวม (Total Return Index: TRI) ณ 10 ปี อยู่ที่ 34%
แต่ระหว่างทางก็มีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงไปมาเช่นกัน ขณะท่าที่ดิน คอนโดฯ หรือบ้านแนวราบค่อนข้างมีความคงที่มากกว่า แม้ว่าอาจจะมีภาระเรื่องของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่ก็ยังสามารถรวมเข้าใปในราคาขายได้” นายสุรเชษฐ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลงทุนในอสังหาฯ เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบใหม่ ๆ หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจอาจจะสร้างผลตอบแทนได้ไม่มาก แต่ก็ยังเป็นที่ต้องการเช่นเดิม เพราะไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้นก็ตาม ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินก็ยังคงอยู่ ยกเว้นหากเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงจริง ๆ ที่บางพื้นที่มูลค่าของที่ดินหรืออสังหาฯ อาจจะลดลงได้ แต่ถ้าจะลงทุนในอสังหาฯ ก็ควรต้องมีความรู้ และการศึกษาข้อมูลเหมือนการลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบต่าง ๆ เช่นกัน
นอกจากนี้การลงทุนในอสังหาฯ ปัจจุบันยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายของบุตรหลานหรือคนรุ่นหลังในอนาคตได้ เพราะที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มที่จะมีราคาเพิ่มขึ้นตลอด โดยเฉพาะโลกในอนาคตที่ไม่มีพรมแดน และภาษาอาจจะไม่ใช่ปัจจัยจำกัดในการทำงานหรือใช้ชีวิตอีกต่อไป รวมถึงการทำงานแบบ Hybrid Working อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนทำงานออฟฟิศ
ทำให้ที่อยู่อาศัยก็ยังเป็นที่ต้องการทั้งคนไทยและต่างชาติ สำหรับการซื้อขายเพื่ออยู่ถาวร หรือเป็นเพื่อการอยู่อาศัยในระยะเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น ที่เกิดจากการโยกย้ายถิ่นฐาน เพราะปัญหาบางอย่าง เช่น สงคราม โรคระบาด ศาสนา การเมือง แหล่งงาน และอาหาร
A5 ตั้งเป้ารายได้แตะ 5,000 ลบ. ในปี 70 พร้อมวางโรดแมปพัฒนาบ้านหรูต่อเนื่องถึงปี 69 รวม 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 16,800 ลบ.
51 นาทีที่แล้ว
ศุภาลัย บุกอสังหาฯ จ.สุราษฎร์ฯ ครั้งแรก พร้อมเปิดตัว “ศุภาลัย ปาล์มวิลล์ โกเตง” บ้านซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern เริ่ม 3.49 ลบ.*
1 ชั่วโมงที่แล้ว
อนันดาฯ ส่งแคมเปญ “อนันดา สุดสุด ดีล” กระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี พร้อมมอบส่วนลดสูงสุด 7 ล้าน* วันนี้–31 ธ.ค. 67
1 ชั่วโมงที่แล้ว
“NARINSIRI” ไพรเวทเรสซิเดนซ์ แบรนด์ใหม่ระดับมาสเตอร์พีซ เหนือระดับในทุกมิติ ควรค่าแก่การครอบครอง 2 โครงการ บนทำเล “กรุงเทพกรีฑา” ราคา 40 - 100 ล้านบาท*
8 ชั่วโมงที่แล้ว
“NARINSIRI” ไพรเวทเรสซิเดนซ์ แบรนด์ใหม่ระดับมาสเตอร์พีซ เหนือระดับในทุกมิติ ควรค่าแก่การครอบครอง 2 โครงการ บนทำเล “กรุงเทพกรีฑา” ราคา 40 - 100 ล้านบาท*
8 ชั่วโมงที่แล้ว
บทความดี น่าติดตามครับ
รูปในรีวิวสวยดี เห็นล่ะชอบเลย *-*
มีประโยชน์มากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลน่ะค่ะ