ดีเดย์คืนนี้ ปิด 2 เลน พหลฯขาเข้า หน้า ธ.ทหารไทย สร้างตอม่อสายสีเขียว

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าในการกก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวและผลกระทบจากการปิดเส้นทางการจราจรเพื่อใช้พื้นที่ก่อสร้างว่า จากที่เริ่มวางแนวก่อสร้างตอม่อบริเวณแยกลาดพร้าวตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยตั้งแต่คืนนี้ เวลา 24.00 น. เป็นต้นไปจะเริ่มปิดแนวถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้าจากพหลฯ มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณหน้าธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ เพิ่มเติม โดยเชื่อว่าจะไม่กระทบการจราจรมากนัก

ทั้งนี้ ในการกั้นพื้นที่ก่อสร้างจะเสียช่องทางไป 2 เลน แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนได้แก้ไขโดยจะเปิดช่องทางพิเศษ เบียดพื้นที่ขาออก 1 หรือ 2 เลน ขึ้นอยู่กับสภาพจราจร ซึ่งจะเริ่มประมาณ 06.00-10.00 น.ของทุกวัน นอกจากนี้ ในเวลาปกติ แก้ไขโดยมีการปาดเกาะพื้นผิวจราจรเพิ่มช่องทางจราจร โดยจะใช้เวลาก่อสร้างในส่วนนี้ประมาณ 4 เดือน แต่ยอมรับว่าอาจเกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนักช่วงต้นเดือนมีนาคม เป็นต้นไป เพราะต้องเริ่มก่อสร้างกลางแยกลาดพร้าว ด้วยการยกระดับแนวรางรถไฟฟ้าให้สูงกว่าทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ อย่างไรก็ตามสำหรับการปิดในส่วนนี้ซึ่งเป็นโซนอี เชื่อว่าวันเปิดทำการหลังหยุดยาวในวันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ จะไม่มีปัญหารถติดขัดหนักจนกระทบเส้นทางโดยรอบมากนัก

ด้าน พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า การวางแนวก่อสร้างด้านหน้าธนาคารทหารไทย จะทำให้ถนนพหลโยธินขาเข้ามุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากเดิมที่มี 6 ช่องทาง แนวก่อสร้างจะเพิ่มจากเกาะกลาง ส่งผลให้เสียช่องทางเดินรถไป 2 ช่องทาง ซึ่งตำรวจจะเปิดช่องทางพิเศษเพิ่มเติมในช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้า และปรับตามสถานการณ์ โดยแนะนำว่าในช่องทางพิเศษ ควรเป็นผู้ที่จะใช้ช่องทางเลี้ยวขวาไปทาง อตก. โดยในจุดที่ปิดพื้นที่และเปิดช่องทางพิเศษ จะจัดกำลังจราจรดูแลอำนวยความสะดวก
 

รอง ผบช.น.กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการปิดพื้นที่บริเวณแยกรัชโยธิน จนถึงวันนี้ผู้ใช้รถใช้ถนนเริ่มปรับตัวทั้งเวลาและเปลี่ยนไปใช้เส้นทางเลี่ยง ทั้งนี้ เมื่อมีการปิดพื้นที่ก่อสร้างมากขึ้น นอกจากจะปรับพื้นที่บริเวณสวนสมเด็จฯ จุด 5 แยกลาดพร้าวเป็นช่องทางพิเศษ ให้รถจากถนนวิภาวดีรังสิตตัดเข้าถนนลาดพร้าวได้ง่ายขึ้นแล้ว จากนี้จะปรับพื้นที่ถนนกำแพงเพชร ผู้ใช้รถจะให้เป็นเส้นทางเลี่ยง โดยในขั้นนี้จะขอช่องทางจักรยานหรือไบซิเคิลเลนมาใช้เป็นช่องทางจราจรปกติ รองรับปริมาณรถที่เชื่อว่าจะไปใช้เส้นทางถนนกำแพงเพชรมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถสอบถามการใช้เส้นทางได้ที่สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร โทร 1197

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1486709918