Brown บราวน์ พหลโยธิน 67 ดีไซน์ เพื่อไลฟ์สไตล์ ที่ไม่ธรรมดา

 

Brown บราวน์ พหลโยธิน 67

“ดีไซน์ เพื่อไลฟ์สไตล์ ที่ไม่ธรรมดา”

โดย Salaryman Estator

 

ห้องประกาศซื้อ-ขาย Brown พหลโยธิน 67

คลิ๊กที่นี่

 

 

คิดว่าหลายคนคงจะหาอ่านรีวิวคอนโดแบบทั่วไปกันได้ไม่ยากครับ พอดีผมไม่ถนัดรีวิวแบบนั้นเท่าไร ส่วนใหญ่จะมองในมุมของการลงทุนเป็นหลักครับ จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ต่างกันมากนะครับ เพราะถ้าคอนโดไหนที่มีความน่าสนใจในการลงทุนมาก คอนโดนั้นก็ต้องมีคนสนใจซื้ออยู่มากด้วยเช่นกันครับ มันเป็นของคู่กันอยู่แล้ว

 

โลกการลงทุนจริงๆ ผมว่าเรียบง่ายนะ ไม่ได้ซับซ้อน แบ่งเป็นสองสายหลักๆ คือการลงทุนแบบเน้นกินยาว มาเรื่อยๆ เรียกเท่ๆ ว่า "การลงทุนเพื่อกระแสเงินสด" และการลงทุนแบบเน้นกินคำใหญ่ เน้นผลตอบแทนเร็วๆ หรือที่ชอบเรียกกันว่า "การลงทุนเพื่อส่วนต่างราคา" บางคนก็ให้ชื่อที่ดูฟังเป็นทางการไปอีกอย่าง Capital Gain Investment อืมม… แล้วแต่จะอยากเรียกเลยครับ ไม่มีผิด ไม่มีถูก แค่คุยกับคนอื่น(และตัวเอง) รู้เรื่องก็ถือว่าโอเคละครับ

 

อย่างการลงทุนอสังหาฯ ก็จะมีนักลงทุน ที่ชอบกินยาวๆ ปล่อยเช่า กินค่าเช่าไปเรื่อยๆ ซึ่งค่าเช่าแต่ละเดือนก็จะมาเป็นเงินผ่อนธนาคาร คุณคงเคยเห็นตาม Facebook บ่อยๆ “ลงทุนอสังหาฯ ไม่ต้องใช้เงินสักบาท” จริงๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยครับ หาคอนโดที่ถูกกว่าราคาประเมินของธนาคาร ถ้าเครดิตเราดี ธนาคารจะให้กู้ 100% เผลอๆ บางทีจะกู้ได้เกิน 100% (Cash-out) จากนั้น ถ้าค่าเช่าที่ได้พอผ่อนธนาคารแต่ละเดือน คุณก็จะได้เป็นเจ้าของคอนโดโดยไม่ต้องใช้เงินตัวเองซักบาทละ …

 

ทำได้นะครับ มีอยู่จริง อย่าคิดว่าสิ่งที่คุณไม่เคยทำ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นักลงทุนทุกคนรู้ดีว่ามีคนลงทุนแบบนี้เป็นปกติ แค่ช่วงปีหลังๆ คอนโดมือหนึ่งในกลางเมืองกรุงเทพฯ ราคามันพุ่งขึ้นแรงแซงค่าเช่าไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถลงทุนแบบนี้ได้

 

อีกแนวทางนึงคือการลงทุนเพื่อส่วนต่างราคา หลายๆ คนจะบอกว่าลงทุนแบบนี้ ยอดเยี่ยม รวยเร็วดี ขอแค่เลือกโครงการที่โลเคชั่นดีๆประเภทติดรถไฟฟ้าหรืออยู่ในย่านใจกลางเมือง แค่ซื้อแล้วทิ้งไว้ ยังไงราคาก็ขึ้นแน่ๆ

 

แต่ผมจะบอกว่าดังกล่าว มันจริงแค่สำหรับคนที่มีเงินเย็นเยอะๆและมีประสบการณ์ในการลงทุนมานาน ในชีวิตจริง ไม่ใช่ทุกคนที่มีเงินเย็นพอในการลงทุนคอนโดใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ปัจจุบันแค่ 1 ห้องนอนก็ราคาเกือบสิบล้านไปแล้ว

 

ทำไงดี ? แบบนี้นักลงทุนหน้าใหม่ไม่ได้เกิดมาเป็นลูกเจ้าสัวก็หมดสิทธิ์ดิ! นี่มันความเหลื่อมล้ำของสังคมชัดๆ! … ใจเย็นๆ ครับ นักลงทุนจำนวนมากก็ไม่ได้รวยตั้งแต่เกิด แค่คุณมีความ “อยาก” และ “มุ่งมั่น” ที่จะประสบความสำเร็จมากพอ กัดไม่ปล่อย เล่นไม่เลิก มองหาช่องทางตลอด แล้ววิธีการมันจะมาเอง ผมเห็นนักลงทุนหลายคนที่ปัจจุบันมีเงินเย็นแล้ว สมัยก่อนเค้าก็เริ่มจากคอนโดเล็กราคาไม่แพงนั่นแหละ ไม่ได้อยู่ๆเค้ามีเงินไปซื้อของแพงเลย

 

อย่างถ้าอยากลงทุนคอนโดในกรุงเทพฯ ตอนนี้เมืองขยายออกไปทางรอบนอกเยอะมาก และการขยายคงจะไม่ได้หยุดแค่นี้ คนเข้ามาอยู่กรุงเทพมากขึ้นทุกปีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ พื้นที่ใจกลางเมืองมันก็มีอยู่แค่นั้น คนจะไปซื้อบ้านที่ไหนกันหละ?

 

คิดง่ายๆ นะครับ คนไทยทั่วไปจะต้องการห้องขนาดประมาณ 25 ตรม ขึ้นไป และรายได้ก็จะประมาณ 20,000-30,000 บาทต่อเดือน ผ่อนได้เต็มที่ก็ประมาณ 10,000-15,000 บาท (มากกว่านี้คงต้องกินบ้านแทนข้าว^^) ลองคำนวณกลับจะพบว่าคอนโดต้องราคาไม่เกิน 2 ล้าน

 

ต้องยอมรับว่า คอนโดราคาไม่เกิน 2 ล้านที่ว่า มันหาได้แค่ตามกรุงเทพรอบนอกครับ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเมืองจะขยายต่อไปอีกเรื่อยๆ ในระยะยาว คำถามถัดมาคือ เราจะ "ดักกิน เมืองขยาย" ทางไหนดีหละ? เท่าที่ผมเห็นตอนนี้เมืองขยายออกทุกทิศทาง เหมือนลูกบอลที่โดนบีบ และ ทิศทางที่มีการขยายตัวสูงมากคือทิศเหนือ ช่วงรามอินทรา แจ้งวัฒนะ หลักสี่ และ พหลโยธิน

 

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ การลงทุนในกรุงเทพส่วนเมืองขยายถือว่าเป็นทางเลือกที่นึง ถ้าถือได้นานพอ มีโอกาสที่ตัวเมืองจะขยายมาปกคลุม สถานะของทำเลจะเปลี่ยนจาก “กรุงเทพรอบนอก” เป็น “ตัวเมืองกรุงเทพ” ลองดูตัวอย่างง่ายๆ สมัยนี้ไม่มีใครเรียกอ่อนนุชว่ากรุงเทพรอบนอกอีกแล้ว ระหว่างที่ถือครอง นักลงทุนให้เลือกทำเลที่ปล่อยเช่าได้ง่าย ถึงแม้ค่าเช่าจะไม่พอค่าผ่อน แต่ก็แบ่งเบาภาระไปได้กว่าครึ่ง

 

คราวนี้มันก็อยู่ที่ตัวคุณแล้วหละ ว่าคุณจะกล้าลงมาในสนาม “ดักกิน ส่วนขยาย” รึเปล่า อยากเป็นนักลงทุนแบบไหน และมีแผนการลงทุนยังไง ทุกอย่างมีทางของมันครับ --- “JUST STAY FOCUS AND NOT GIVE UP”

 

ผมเพิ่งแวะไปดูคอนโดนึงมา เพิ่งเปิดใหม่ “Brown 67” ของ Asset Wise แถบกรุงเทพรอบนอก ติดถนนใหญ่ตรงพหลโยธิน 67 ใกล้ Central รามอินทรา ม. เกษตร และศูนย์ราชการ เลยเก็บข้อมูลมาฝากครับ

 

จริงๆ ตอนแรกผมมาดูเพราะ “สงสัย” ว่าทำไมมาสร้างอยู่ตรงนี้ มันเหมือนกระเถิบออกมาจากแจ้งวัฒนะอีกนิดนึง แต่พอมาแล้วก็เริ่มหายสงสัยครับ ถึงแม้จะเป็นรอบนอกแต่แหล่งงานและคนอาศัยเพียบ โครงการติดรถไฟฟ้าแบบแนบชิด และดูจากแนวโน้มเมืองขยายตัวเข้ามาทางนี้อย่างชัดเจน แม้แต่ถนนยังมีถนนตัดใหม่ตรงข้าม โครงการ ตัดตรงไปยังทางด่วนรามอินทรา

 

ตำแหน่งของคอนโดอยู่ติดถนนใหญ่เลยครับ ห่างประมาณ 100 เมตรจากสถานีสายหยุด และไม่ไกลจากวงเวียนหลักสี่ จากหน้า ม.เกษตร ลอดใต้วงเวียนหลักสี่ ขึ้นมาก็ถึงเลย อยู่ซ้ายมือ

 

จากแผนที่จะเห็นถนนที่อยู่ตรงข้ามโครงการ นั่นคือถนนตัดใหม่ที่ผมบอกครับ ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แต่ในอนาคตน่าจะหนาแน่น เพราะมันเป็นถนนสายตรงไปขึ้นทางด่วนรามอินทราได้เลย ขนานกับถนนรามอินทรา ในอนาคต Traffic น่าจะแน่นไม่แพ้กัน และสำหรับคนที่อยากเดินทางไปสนามบินดอนเมืองก็อยู่ไม่ไกลครับ ช่วงนี้รถติดสุดๆๆๆ เพราะก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่ ยังดีที่รถไฟฟ้ามีกำหนดเสร็จก่อนที่คอนโดจะสร้างเสร็จครับ

 

“Brown 67” เป็นคอนโดที่ตั้งใจสร้างคอนโดเพื่อจับตลาดคนรุ่นใหม่ ดูอย่าง Promote Ads จากรูปได้ครับ อินดี้สุดๆ ตอนผมเห็นเวปแรกยังนึกว่าโปรโมตหนัง แนวคิดโครงการเค้าหละ “ดีไซน์ เพื่อไลฟ์สไตล์ ที่ไม่ธรรมดา”

 

ตำแหน่ง Sales office จากแผนที่ จะเห็นว่าไม่ได้อยู่ตรงตำแหน่งที่จะสร้างคอนโด (ระวังหลงนะครับ ผมหลงมาแล้ว^^) ถ้าขับมาจาก ม.เกษตร จะต้องขับเลย พหลโยธิน 67 มาประมาณ 200 เมตร ให้เลี้ยวขวาเข้าไปถนนตัดใหม่ข้าง Big C จะเห็น Sales office อยู่ซ้ายมือ

 

มาถึงแล้วครับ เข้ามาดูกันเลย

 

Brown มีทั้งหมดประมาณ 174 ห้อง เป็นโครงอาคารเดียว 8 ชั้น สีน้ำตาลสมชื่อโครงการ นอกจากการออกแบบภายนอกอาคารจะโดดเด่นแล้ว Facility ที่นี่ก็จัดเต็มอีกด้วย

 

สระว่ายน้ำแบบพาโนรามิก(ผมว่าเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลย ดู Cool ขึ้นอีกระดับ) ห้องอ่านหนังสือ สวนหย่อม และฟิตเนสจะอยุ่ชั้น 2 ส่วนชั้น Rooftop จะมี Wine Bar (เป็นไงหว่า ผมก็ยังนึกภาพไม่ออก แต่ฟังดูดี^^) Co-working space, BBQ Party และ สถานที่ออกกำลังกายแบบ Outdoor ลองดูจากโมเดลจะเห็นส่วนกลางค่อนข้างเยอะเลยครับ

 

ห้องทั้งหมดจะเป็นแบบ 1 ห้องนอน มี 4 ขนาดคือ 23, 25, 28 และ 32 ตรม. (คร่าวๆ นะครับ แต่ละห้องจะมีขนาดบวกลบไปนิดหน่อย) ทางโครงการเตรียมห้องตัวอย่างไว้ 2 แบบคือขนาด 23 และ 32 ตรม. ห้องออกแบบได้ดูกว้าง ไม่อึดอัด แบ่งสัดส่วนระหว่างห้องนั่งเล่น ห้องนอน ทำครัว และระเบียง สามารถอยู่ได้ 2-3 คนสบายๆ เพดานสูงประมาณ 2.45 เมตร ตามมาตรฐานของคอนโด Low rise ครับ

 

มาดูห้องแบบแรกกันครับ

1 ห้องนอน 23.55 ตรม.

แปลนห้องจะเป็นลัษณะลึก โดยกั้นส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนด้วยประตูกระจกสไลด์ ซึ่งห้องแบบนี้ถ้าเราไม่ได้ปิดประตูกระจก จะทำให้รู้สึกถึงพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นจากการรวมกันของ space ของห้องนั่งเล่นและห้องนอนเข้าด้วยกัน จะมีอีกจุดนึงที่ถือว่าทำให้มุมมองในการเทควิวจากภายในห้องเปิดกว้างขึ้นมาก เพราะตรงกระจกหน้าต่างห้องนอนที่เชื่อมต่อกับผนังระเบียง ทางโครงการทำเป็นกระจกเข้ามุม นอกจากจะทำให้ห้องดูสว่างขึ้นแล้ว ยังทำมห้เรามองออกไปเห็นวิวเปิดกว้างขึ้นมากด้วย

 

ห้องนั่งเล่น

 

ห้องนอน

 

บริเวณหน้าต่างห้องนอน มีพื้นที่ให้เราสามารถทำที่โซฟาริมหน้าต่างได้ นั่งอ่านหนังสือตรงนี้ไป ดูวิวไป น่าจะฟินเลยครับ

 

กระจกเข้ามุมแบบนี้ทำให้รับวิวได้กว้างขึ้น แล้วยังช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้นอีกด้วย

 

ชุดครัว

พร้อมซิ้งค์ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน

 

ห้องน้ำ

แถมฉากกั้นอาบน้ำด้วย

 

พื้นที่ระเบียง พอตากผ้าได้ครับ

 

 

1 Bedroom Plus 32.05 ตรม.

ถ้าดูจากแปลนห้องอาจดูแปลกๆนิดนึง เพราะถ้าจะเข้าห้องนอนเล็กต้องเดินผ่านครัวก่อน แต่ผมว่าที่เรามองว่าแปลกเพราะคิดจะทำห้องนี้ให้เป็นห้องนอนถาวรเลย แต่ถ้าเรามองว่านี่เป็นห้องเอนกประสงค์ตามชื่อห้องคือ 1bed plus เราจะมองไม่แปลกเท่าไรครับ เพราะห้องนี้อาจถูกปรับฟังชั่นเป็นห้องเก็บของหรือห้องทำงานยังได้ หรือจะท าเป็น walk in closet ส าหรับสุภาพสตรี ที่ชื่นชอบการแต่งตัวผมมองว่าเค้าจะออกแบบเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนตามปกติเลยก็ได้ แต่การทำห้องแบบนี้ทำให้เกิดฟังชั่นที่อาจมีประโยชน์ได้มากกว่าเดิมครับ

 

ห้องนั่งเล่น

 

ห้องนอน

 

ห้องเอนกประสงค์

(ทำเป็นห้องนอนเล็ก)

 

ชุดครัว

พร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ซิ้งค์

 

ห้องน้ำ

 

พื้นที่ระเบียง

 

 

ทุกห้องจะมีประตูระบบ Digital Door Lock ของ Samsung เพื่อให้เหมาะกับตลาดคนรุ่นใหม่ และเพิ่มระดับความปลอดภัยด้วยนะครับ

 

สรุปๆ …

 

สำหรับคนนักลงทุนที่อยากลงทุน แบบ “ดักกิน เมืองขยาย” สามารถเก็บที่นี่ไว้เป็นทางเลือกในการลงทุนได้ครับ ระยะยาวราคามันมีแนวโน้มขึ้นชัดเจนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่คำถามว่าราคาจะขึ้นรึเปล่า แต่เป็นคำถามว่า “คุณจะถือได้นานพอมั้ย” “ระหว่างถือคุณจะจัดการมันยังไง” และ “คอนโดนี้เป็นทางเลือกการลงทุนที่ดีที่สุดแล้วรึเปล่า” นั่นคือคำถามที่คุณต้องตอบตัวเองสำหรับการเป็นนักลงทุนครับ อย่าตามใคร อย่าถามใคร (ย้ำนะครับ อย่าถามใคร หาความรู้ได้ ผมก็เขียนบทความนี้เพื่อให้แง่คิด แต่สุดท้ายคุณต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง)

 

ราคาเริ่มต้นช่วงเปิดตัวจะอยู่ที่ 1.89 ล้านบาท ไม่ได้แรงเกินไปสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ ค่าเช่า Patio Apartment ที่อยู่ตรงข้ามโครงการอยู่ที่ 7,000 บาทต่อเดือน คอนโดนี้เสร็จแล้วก็ควรจะปล่อยเช่าได้ที่ราคาใกล้เคียงกันครับ ถ้าใครอยากลงทุน ซื้อเก็บไว้รอรถไฟฟ้ามา รับรองราคาวิ่งแน่ๆครับ ระหว่างรอก็ปล่อยเช่าไปด้วย

 

สำหรับคนที่ซื้ออยู่เอง อันนี้คงต้องแล้วแต่ความชอบ แต่ถ้าคุณทำงานหรือเรียนอยู่ไม่ไกล ต้องการแหล่งชุมชนที่ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า รวมถึงสนามบินและห้างสรรพสินค้า ชอบ ชีวิตแบบ Cool Cool หน่อย ก็ลองแวะเข้าไปดูได้ครับ

 

ผมแอบขอใบเสนอราคามาให้ดูกันด้วยครับ

 

ลืมบอกไป..เป็นเอกลักษณ์เลยครับ ทุกโครงการของ Asset Wise เค้าจะแถม Bluetooth sound system ให้ด้วย แต่เราต้องจ่าย จอง ทำสัญญา พร้อมดาวน์งวดแรก ในวันเดียวกันเลยนะครับ ใครที่ชอบฟังเพลงผมแนะนำเลยครับ คุ้มมากๆ

 

ใครสนใจจริงๆ แนะนำว่าให้คลิกที่เว็บด้านล่างเพื่อลงทะเบียนเลยครับ ได้ส่วนลดอีก 100,000 บาทด้วย

 

www.browncondo.com/phahol67

 

สอบถามโทร 081-617-6677

 

 

เหมือนเดิมครับ

 

อย่าเชื่อผมทั้งหมด อยากให้ลองเข้าไปดูเอง

 

ดูฟรี ไม่เสียตัง ^^

 

 

 

 

คลิ๊กที่นี่