News
icon share

ที่ปรึกษาอสังหาฯ’บูม แห่ใช้บริการขายลักชัวรีดันยอด1.8หมื่นล้าน

LivingInsider Report 2017-03-14 14:25:23
ที่ปรึกษาอสังหาฯ’บูม แห่ใช้บริการขายลักชัวรีดันยอด1.8หมื่นล้าน

 

 

บริษัทที่ปรึกษาอสังหาฯ คอนเฟิร์มตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี-ซูเปอร์ลักชัวรียังดีต่อเนื่อง ซีบีอาร์อีชี้บิ๊กเนมอสังหาฯแห่ใช้บริการ ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว คาดปี 60 กวาดยอดขายกว่า 1.87 หมื่นล้านบาทเจแอลแอล แนะพัฒนาอย่างระมัดระวัง พฤกษา รับเล็งให้บริษัทที่ปรึกษาบริหารงานขาย หวังฐานลูกค้า

 

 

ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องประกอบกับปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนในกลุ่มกลาง-ล่างที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นสูงถึง 30-40% ส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่หันไปพัฒนาโครงการระดับบนมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากตลาดในกลุ่มกลาง-ล่าง อีกทั้งยังมองว่าตลาดบนเป็นกลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อสูง

 

 

นางสาวอลิวัสสาพัฒนถาบุตรกรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทยบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าความต้องการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี-ซูเปอร์ลักชัวรี(คอนโดมิเนียมราคาขายมากกว่า 2.2 แสนบาทต่อตารางเมตร และโครงการแนวราบราคาขายมากกว่า 10 ล้านบาท) จะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องแม้ว่าผู้ซื้อจะมีความพิถีพิถันในการเลือกซื้อมากขึ้นก็ตาม ทั้งนี้ ความต้องการส่วนใหญ่จะยังคงมาจากผู้ซื้อชาวไทยเป็นหลักในสัดส่วน 85%โดยคาดการณ์ได้ว่าในปี 2560 บริษัทจะมียอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยในระดับนี้อยู่ที่ประมาณ 1.87 หมื่นล้านบาท จำนวน 28 โครงการ เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ประมาณ 15% ซึ่งมียอดขาย 1.63 หมื่นล้านบาท จำนวน 24 โครงการ 817 หน่วย

 

 

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่รับบริหารงานขายแบบระยะยาว (สัญญาปีต่อปี) ไม่นับรวมโครงการที่ให้บริหารงานขายระยะสั้นจำนวน 8 โครงการ ในจำนวนนี้มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่บางรายให้บริษัทบริหารงานขายเป็นครั้งแรก อาทิ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ให้บริษัทเป็นตัวแทนขายอย่างเป็นทางการโครงการบ้านเดี่ยวอาร์เทล พัฒนาการ – ทองหล่อ ระดับราคาเริ่มต้น 28 ล้านบาท โครงการ ดิเอสแอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ คอนโดมิเนียมระดับลักซัวรีที่พัฒนาโดย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)ราคาเริ่มต้น 8.6 ล้านบาท

 

 

“ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทรับบริหารงานขายให้กับโครงการระดับลักชัวรี-ซูเปอร์ลักชัวรีที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงกว่า 70% ขณะที่มีฐานลูกค้าถึงกว่า 2 หมื่นราย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บริษัทอสังหาฯที่คิดจะพัฒนาโครงการในระดับนี้จะมาใช้บริการของเรา ซึ่งก็มีทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนี้ยังมีบริษัทอื่นที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียดอีกหลายโครงการ”นางสาวอลิวัสสา กล่าว

 

 

ด้าน นายศรัณย์คุณะกูลผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัย เจแอลแอล กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของบริษัทเกี่ยวกับตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีและซูเปอร์ลักชัวรีในปี 2560 ความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีและซูเปอร์ลักชัวรียังคงมีอยู่ในระดับสูง แต่ก็มีตัวเลือกมากขึ้นจากการที่ผู้ประกอบการลงมาพัฒนาโครงการในระดับนี้เพิ่มมากขึ้นนั้นเอง

 

 

“ผู้ประกอบการจำเป็นต้องคอยจับตาดูจำนวนโครงการใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวเพิ่มขึ้นอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้โครงการที่จะมีโอกาสประสบความสำเร็จ จำเป็นจะต้องมีการออกแบบ ทำเล และจุดขายที่โดดเด่นอย่างชัดเจนจากโครงการอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด” นายศรัณย์กล่าว

 

 

ด้าน นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม เปิดเผยว่าตลาดลักชัวรี-ซูเปอร์ลักชัวรีมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 22 – 32% ของตลาดรวม ซึ่งในปีนี้คาดว่าตลาดจะเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาประมาณ 1% โดยมีมูลค่าประมาณ 1.069 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 1.05533 แสนล้านบาทโดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดนี้เพิ่มมากขึ้น เบื้องต้นได้มีการเจรจากับซีบีอาร์อี ประเทศไทยให้เข้ามาช่วยบริหารงานขายโครงการเดอะ รีเซิร์ฟ

 

 

“หลังจากที่เปิดตัวโครงการเดอะ รีเซิร์ฟ ทองหล่อไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยโครงการที่ทองหล่อบริษัทจะบริหารงานขายเอง แต่ในส่วนของโครงการใหม่อาจจะต้องให้ซีบีอาร์อีเข้ามาช่วยบริหาร เนื่องจากมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นในรูปแบบใดนั้นคงต้องสรุปอีกครั้งหนึ่ง”นายประเสริฐ กล่าว

 

 

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ

 

 

http://www.thansettakij.com/2017/03/13/134477

 

 

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider