รายการโปรด
ปูนนครหลวงทุ่ม 800 ล้าน ขยายโรงงานผลิต "ปูนอินทรีมอร์ตาร์" เพิ่มกำลังผลิต 6 แสนตัน/ปี รองรับเมกะโปรเจ็กต์รัฐ-อสังหาฯหนุนตลาดโต 10-15% ชู "อินทรีพ่น" นวัตกรรมใหม่ ฉาบเร็วถึง 3 เท่าตีตลาดคู่แข่ง
นายขจรศักดิ์ มโนทรัพย์ศักดิ์ ผู้จัดการทั่วไปอินทรีมอร์ตาร์ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC เปิดเผยว่า ตลาดปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างปีนี้มีทิศทางจะขยายตัวดีขึ้น จากปัจจัยบวกงานก่อสร้างของภาครัฐ และเอกชน ที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาดเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยโครงการรัฐจะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาด ได้แก่ โครงการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งระบบราง ถนน ท่าเรือและสนามบิน มีถึง 36 โครงการ เงินลงทุนกว่า 8.95 แสนล้านบาท
"ตลาดปูนซีเมนต์เติบโตตามโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ และธุรกิจอสังหาฯ มองว่าปีนี้จะเติบโตได้ถึง 1-3% จากมูลค่าตลาดรวม 4 แสนล้านบาท และสถานการณ์ธุรกิจวัสดุก่อสร้างจะแข่งขันรุนแรงกว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมา เพราะทุกบริษัทต่างเห็นตลาดมีโอกาสขยายตัวสูงในบางพื้นที่จากปัจจัยบวก ทั้งการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์จากรัฐที่ทำให้เกิดการก่อสร้างของเอกชนตามมา บริษัทของเราจะส่งปูนมอร์ตาร์ชิงตลาด เชื่อว่าลูกค้าจะหันมาใช้เพื่อทดแทนปูนชนิดอื่น ๆ มากขึ้นเพราะใช้ง่ายเพียงผสมน้ำก็ใช้ได้ ตลาดที่ขยายตัวมากสุดคือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต"
ในปีนี้บริษัทได้ลงทุนขยายโรงงานการผลิตปูนมอร์ตาร์ไลน์ที่ 4 ที่ จ.สระบุรี ใกล้เคียงกับโรงงานเดิม วงเงิน 800 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 1-2 ปี มีกำลังการผลิต 6 แสนตัน/ปี จากปัจจุบันมีการผลิต 3 ไลน์ มีกำลังการผลิต 7.5 แสนตัน/ปี หรืออยู่ที่ 80% และใกล้จะเต็มกำลังการผลิต จึงต้องเตรียมแผนลงทุนไว้รองรับตลาดในอนาคต โดยจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งรัฐและเอกชน อีกทั้งยังมุ่งเน้นการขายแบบให้บริการครบวงจรแบบอินทรีพ่น เป็นนวัตกรรมใหม่ของการฉาบปูน ที่ใช้ได้กับทั้งปูนสำเร็จรูปมอร์ตาร์ ชนิดถุงและผง ทำให้สะดวก รวดเร็ว งานเสร็จเร็วขึ้น 3 เท่า ลดต้นทุนและแรงงานของผู้รับเหมากว่า 50% คาดว่าจากแผนที่วางไว้จะทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์อินทรีมอร์ตาร์ เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 10-15%
สำหรับอินทรีมอร์ตาร์เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่บริษัทจะทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าทดแทนที่กำลังมาแรงในอนาคต สามารถใช้งานได้ง่ายกว่าปูนชนิดอื่น ๆ ปัจจุบันมอร์ตาร์มีส่วนแบ่งการตลาด 25% ของตลาดปูนซีเมนต์ทั้งหมด ตั้งเป้าปีนี้จะมียอดขายอยู่ที่ 800 ล้านบาท เติบโตจากปี 2559 อยู่ที่ 10-15% ส่วนรายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท มีมาร์เก็ตแชร์ 27.5% เป็นอันดับ 2 ของตลาดรองจากเอสซีจี โดยมีกำลังการผลิตโดยรวมทั้งหมดประมาณ 15 ล้านตัน/ปี
ขณะเดียวกันบริษัทปรับแผนการลงทุนโดยเข้าไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น เช่น บังกลาเทศ เวียดนาม สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมา จากปัจจุบันอยู่ที่ 10% เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียนกำลังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ตลาดต่างประเทศในอนาคตจะเติบโตขึ้นอีกมาก ล่าสุดบริษัทเข้าไปลงทุนร่วมกับเอกชนกัมพูชา โดยบริษัทถือหุ้น 40% ลงทุนโรงงานปูนซีเมนต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง
ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1489988410
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้านคุณภาพการบริหารจัดการระดับสากล กวาด ISO มากที่สุด ครบ 3 มาตรฐานครอบคลุมทุกมิติ เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย
2022-07-14
นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ ส่งโครงการ THE ONE life bangna บุกเมกาบางนา บ้านเดี่ยวอารมณ์รีสอร์ตใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ทำเลต้นบางนา
2022-07-14
Last Call Promotion!! กับแคมเปญ “ชีวาทัยเป็นได้มากกว่าเพื่อน” หมดเขต 31 ก.ค.นี้เท่านั้น
2022-07-14
ASW เสริมกลยุทธ์ Lifestyle Community จัด Monstr Concert Festival Series#1 ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกบ้านโครงการคอนโดฯ เคฟทาวน์ สเปซ
2022-07-14
เตือนภัยขอสินเชื่อบ้าน-ที่ดินระวังโดนโกง
2022-07-11
เหมาะสำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลในการที่จะซื้อคอนโดซักที่มากๆเลยครับ
น่าอยู่มากเลย ต้องเก็บเงินหน่อยล่ะ
อ่านยังไงให้เสียตังงงงงงงง เขียนแบบนี้ต้องเสียตังแน่ๆ
อ่านแล้ว เหมือนได้ได้ไปดูโครงการเลยค่ะ ละเอียดดีจริงๆ
ได้ความรู้