คำถามปลายเปิด รับสร้างบ้าน 3 อยากให้รัฐหนุนบ้านโซลาร์เซลล์

ซีรีส์วงการธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นคิวของ "พี่เอี่ยน-ศิริพร สิงหรัญ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีอาร์คีเทค จำกัด กับหมวกอีกใบเป็นอุปนายกฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA-Home Builder Association) ร่วมเปิดมุมมองปัจจุบันและอนาคตธุรกิจนี้

"ปี′60 เป็นปีแห่งการปรับตัว ตั้งแต่ต้นทางคือผลิตภัณฑ์ เนื่องจากโลกการติดต่อแบบเวิลด์ไวด์ ข้อมูลท่วมและเชิงลึก ดังนั้นเราทำงานด้านบริการไม่ว่าการติดต่อ ออกแบบ ลูกค้ารู้มากกว่าเรา ลูกค้าเห็นอะไรแปลกใหม่ เสิร์ชข้อมูลมาเยอะก่อนจะมาหาเรา"
 

ลูกค้าเปลี่ยนแปลงเร็ว บริษัทรับสร้างบ้านก็ต้องปรับตัวให้เร็วกว่า อาทิ พัฒนาความรู้ตลอดเวลา การออกแบบ เทรนด์ก็เปลี่ยน ลูกค้ามีความต้องการยูนีคมากสำหรับการออกแบบ
 

ความต้องการที่มากกว่าแค่การสร้างตึกโบกปูนยังรวมถึงรับสร้างบ้านต้องเป็นมนุษย์พหูสูตรสามารถตอบคำถามได้หมดว่าอยากตกแต่งบ้านควรทำยังไงเริ่มต้นแบบไหนการใช้สอยแต่ละฟังก์ชั่นในบ้าน การจัดสวน กันขโมย ไปจนถึงปรึกษาว่าใช้แอร์รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี
 

เรื่องถัดมาคือการก่อสร้างก็ต้องปรับตัว ลูกค้ามีข้อมูลมาเยอะเช่นกัน ต้องสร้างความมั่นใจ ทำงานให้ได้มาตรฐาน เชื่อว่าการทำงานแล้วไม่ได้มาตรฐานจะอยู่ไม่ได้ในปัจจุบันบทฟันธงแบบเข้าใจง่ายที่สุด สั้นที่สุดคือ "การหลอกลวงน่าจะตายไปจากโลกนี้"
 

"เราสร้างบ้านหลังละ 5-30 ล้าน จับลูกค้าตลาดกลาง-บน ส่วนใหญ่ใช้เงินสด 70% กำลังซื้อสม่ำเสมอ กลุ่มนี้เราจะเหนื่อย อายุ 30-40 ปี ข้อมูลแน่น บ้านสไตล์โมเดิร์นก็ต้องโมเดิร์นจ๋า"
 

กลัวซะที่ไหน...สำหรับลีอาร์คีเทคเจ้าตัวบอกว่า โดดเด่นจากพื้นฐานเดิมที่เป็นสถาปนิกมาก่อน จึงทำในเรื่องแบบบ้านนวัตกรรมโครงสร้างเหล็กเข้ามาช่วยสร้างความแตกต่าง ช่วยพัฒนาแบบบ้านไม่เหมือนบ้านคอนกรีตเดิม ๆ
 

"ปกติโครงสร้างบ้านทั่วไปใช้เสา คานที่ใช้คอนกรีต เราใช้เหล็กเพราะบางเบา สามารถทำในสิ่งที่คอนกรีตทำไม่ได้ เช่น ทำตัวห้องยื่นออกมา 4 เมตรโดยไม่มีเสารองรับก็สามารถทำได้ แต่คอนกรีตทำไม่ได้ หรือต้องการห้องกว้าง 6 เมตร โครงสร้างคอนกรีตจะหนามากแต่เหล็กเบาบางกว่า"
 

นวัตกรรมนี้ลีอาร์คีเทคเรียกว่า "กรีนโนเวทีฟ" โดยอธิบายว่า วัสดุเหล็กถือว่าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเนื่องจากรียูส (นำกลับมาใช้ใหม่) ได้ แต่คอนกรีตหากมีการทุบบ้านทิ้งกลายเป็นขยะทันที
 

เทรนด์ที่มาแรงแห่งยุคว่าด้วยกระแสโลกร้อน กลายเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคทุกวันนี้ที่ใส่ใจการประหยัดพลังงาน
 

สโลแกนบริษัท "ร่างฝัน สร้างบ้านบนรอยยิ้ม" ก็เลยมอบรอยยิ้มให้ผู้บริโภคด้วยรางวัลแบบบ้านประหยัดพลังงาน 2 ปีซ้อนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หรือ พพ.
 

แบบบ้านประหยัดพลังงาน มีคำอธิบายว่า เป็นแบบบ้าน 2 ประหยัด เริ่มจาก"ประหยัดไฟ" ออกแบบบ้านให้ตรงกับทิศทางแสงแดด สายลม ใช้วัสดุก่อสร้างที่มีผล ทนความร้อน เริ่มตั้งแต่วางผังอาคาร ใช้วัสดุ-อุปกรณ์เบอร์ 5
 

"ประหยัดน้ำ" ด้วยการใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ วางแผนเส้นทางท่อน้ำ ส่วนใหญ่เน้นไม่ให้รั่วซึม ด้วยการออกแบบให้วางทะลุตรงได้เลย วางตำแหน่งให้อยู่ด้านนอกเพื่อไม่ให้เส้นทางระบบน้ำดีน้ำใช้มาขวางกัน ลดภาระการอยู่อาศัยในบ้านในระยะยาว
 

โฟกัสเรื่องประหยัดไฟทำให้โยงไปถึงการใช้โซลาร์เซลล์ มีสิ่งน่าสนใจตรงที่บริษัททำบ้านโซลาร์เซลล์ให้ลูกค้าเป็น 10 ปีมาแล้ว เริ่มจากเป็นของแถมให้กับลูกค้า มีคนสนใจยอมใช้สัดส่วน 10% โดยเริ่มจากไฟฟ้าแสงสว่าง เลือกเฉพาะส่วนที่จำเป็นต้องเปิดไฟตลอดเวลา เช่น นอกอาคาร รั้ว สวน
 

แบบนี้เรียกว่าเป็นไฟฟ้าแสงสว่างเพื่อกันขโมยนั่นเอง
 

ประเด็นนำเสนอคือ เปิดตลาดโซลาร์เซลล์ 10 ปีเต็ม สัดส่วนลูกค้าที่เลือกใช้ยังมี 10% เท่าเดิม เหตุผลหลักเพราะต้นทุนแพง อย่างต่ำหลัก 1 แสนบาทขึ้นไป
 

"ทุกวันนี้อยากให้ภาครัฐสนับสนุนในการลงทุนทำบ้านโซลาร์เซลล์ อาจมีวงเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษหรือหักภาษี เพราะลูกค้าบางคนอยากใช้ทั้งหลังซึ่งลงทุนเยอะ มีบางหลังศึกษาดู โซลาร์ทำให้ครบระบบทั้งหลังต้องลงทุนเป็นล้าน"

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1489987995