แสนสิริเสือปืนไว งัดนวัตกรรมขายบ้านเดี่ยวลูกค้าต่างชาติ ทำสัญญาลีสโฮลด์ 30+30+30 ปี

แสนสิริเสือปืนไว งัดนวัตกรรมขายบ้านเดี่ยวลูกค้าต่างชาติ ทำสัญญาลีสโฮลด์ 30+30+30 ปี นักท่องเที่ยวฮ่องกงช็อปแล้ว 15 หลังในเชียงใหม่

นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้มีแผนลงทุนแนวราบ 11 โครงการ มูลค่ารวม 19,300 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 9 โครงการ ทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์อย่างละ 1 โครงการ

ปีที่แล้วบริษัทเปิดตัวแนวราบ 10 โครงการ แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์​3 โครงการ บ้านเดี่ยว่ 7 โครงการ โดยมียอดรับรู้รายได้ 11,000 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ 14,000 ล้านบาท มาจากบ้านเดี่ยว 9,500 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 1,500 ล้านบาท 

กลุ่มราคาบ้านเดี่ยว 8-20 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดพรีเซล 15,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตจากปี 2559 อยู่ที่ 30% แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 12,500 ล้านบาท ทาวน์โฮม 2,500 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ไตรมาส 1/60 เปิดสิริ อเวนิว สายไหม อาคารพาณิชย์หน้าโครงการบุราสิริ พหลโยธิน-สายไหม 16 ยูนิตขายหมดใน 2 ชั่วโมง ตั้งเป้าโอนภายในไตรมาส 3-4 ปีนี้

กับการ์เด้นสแควร์ สุขุมวิท 77 ซึ่งประวิงเวลารอทำเลบูม ล่าสุด คอนโดมิเนียมบริเวณใกล้เคียงเปิดจำนวนมาก ยอดขาย 70% จาก 35 ยูนิต ขายแล้ว 26 ยูนิต เทียบกับตอนเปิดตัวใหม่เมื่อ 5 ปีก่อนราคาเริ่ม 10 ล้านบาทเศษ ปัจจุบันราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท

นายเมธากล่าวว่า ไฮไลต์ตลาดแนวราบ เริ่มจาก 1.ไตรมาส 4/60 เตรียมลอนช์โครงการบ้านหรู "บ้านแสนสิริ" ทำเลพัฒนาการ 30 ก่อนหน้านี้เคยเปิดเพียงโครงการเดียวคือบ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67 เป็นแบรนด์เฉพาะกิจ ต้องมองหาที่ดินมีศักยภาพสูง เจาะตลาดซูเปอร์ลักเซอรี่ 

นายเมธากล่าวด้วยว่า จากนโยบายรัฐบาล คสช.ที่เตรียมแก้ไขกฎหมายเช่าสำหรับชาวต่างชาติ โดยขยายสิทธิการเช่าจาก 30 ปีเป็น 50 ปี เป็นปัจจัยบวกต่อการขายอสังหาริมทรัพย์แนวราบโดยตรง เนื่องจากโครงการนวราบชาวต่างชาติไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ ในขณะที่สิทธิการเช่าถ้าขยายเป็น 50 ปีมีความใกล้เคียงกับการถือกรรมสิทธิ์ ทำให้ดึงดูดลูกค้าต่างชาติสนใจโครงการมากขึ้น

"แสนสิริเพิ่มน้ำหนักกลุ่มลูกค้าต่างชาติปีที่แล้วปิดยอด5,000 ล้านบาท ปีนี้เพิ่มเป้ารายได้กลุ่มนี้เป็น 7,500 ล้านบาท โดยบริษัทเพิ่งปิดการขายลูกค้าชาวฮ่องกง ซื้อบ้านเดี่ยวในโครงการบุราสิริ สันผีเสื้อ จ.เชียงใหม่ 15 หลังๆ ละ 4 ล้านกว่าบาท ทำสัญญาลีสโฮลด์ 30 ปี ต่อสัญญาได้อีก 2 ครั้งๆ ละ 30 ปี เราเริ่มเห็นสัญญาณแล้วว่าตลาดไปได้และมีดีมานด์ ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจซึ่งจะวางแผนเจาะตลาดนี้เพิ่มขึ้น" นายเมธากล่าว

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1490765037