News
icon share

ลูกเจ้าสัวซีพีแตกไลน์วัสดุตกแต่ง ลุยโกลบอลเทรดดิ้งป้อนอสังหา

LivingInsider Report 2017-03-30 12:56:27
ลูกเจ้าสัวซีพีแตกไลน์วัสดุตกแต่ง ลุยโกลบอลเทรดดิ้งป้อนอสังหา

 

 

กลุ่มบริษัท DTGO ส่งซิกลุยลงทุนอสังหาฯ แตกไลน์ซอร์ซซิ่งวัสดุ-ของตกแต่งจีนบุกไทยผ่านธุรกิจเทรดดิ้ง ปักธง MQDC China ชิมลางตลาดจีน เล็งลงทุนเพิ่ม 3-4 โครงการในกรุงเทพฯ พัทยา ปีที่แล้วมีรายได้ 1.3 หมื่นล้าน ปีนี้ตั้งเป้า 2 หมื่นล้าน

 

 

นายรัช ตันตนันตา ประธานผู้อำนวยการกลุ่มบริษัท ดีที (DTGO) เปิดเผยว่า บริษัทมีพอร์ตลงทุนหลัก 2 ธุรกิจประกอบด้วย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กับธุรกิจเทรดดิ้ง ผลประกอบการปี 2559 มีรายได้ 13,000 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้ 20,000 ล้านบาท เนื่องจากรายได้อสังหาฯมีการโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ ทำให้บริษัทมีอัตราเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 30-50% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และเป้าในปี 2563 คาดว่ามีรายได้ 35,000 ล้านบาท
 


สำหรับ DTGO เดิมชื่อบริษัทเทวาสิน เปลี่ยนเป็น DTGO ได้ 1 ปีเศษ โครงสร้างการทำธุรกิจมีบริษัทลูก 4 บริษัท คือ 1.ธุรกิจอสังหาฯ ภายใต้บริษัท MQDC สร้างรายได้ 60% 2.ธุรกิจเทรดดิ้งภายใต้บริษัท D Supreme สร้างรายได้เกือบ 40% 3.ธุรกิจออกแบบ DI Design และ 4.ธุรกิจที่ปรึกษาการก่อสร้าง D Plan
 


"บริษัทเตรียมความพร้อมเพิ่มการลงทุนในปีนี้ เป้าหมายต้องการปรับสัดส่วนรายได้จากอสังหาฯและเทรดดิ้งอย่างละ 50/50 ในขณะที่บริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างกับบริษัทออกแบบทำรายได้ให้กลุ่มรวมกันประมาณ 1%"
 


รายละเอียดแผนธุรกิจในส่วนของ MQDC ลงทุนพัฒนาโครงการทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม รวมทั้งจัดตั้งบริษัท MQDC China เนื่องจากตลาดมีขนาดใหญ่มาก แต่เพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้นจึงเป็นการโรดโชว์โครงการในประเทศไทยเป็นหลัก อนาคตแสวงโอกาสในการพัฒนาที่ดินในจีน
 


"MQDC คาดว่ามีแผนลงทุนเพิ่มอีก 3-4 โครงการในกรุงเทพฯและพัทยา มูลค่าโครงการหลัก 3 พันล้านจนถึงหลายหมื่นล้าน"
 


จุดเน้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ธุรกิจเทรดดิ้ง D Supreme เดิมเน้นซัพพลายสินค้าไอทีป้อนให้กับร้านอิ่มสะดวกเซเว่นอีเลฟเว่น แผนธุรกิจจากนี้ไปยกระดับเป็นโกลบอลเทรดดิ้ง สามารถค้าขายได้ทั่วโลก สินค้าแตกไลน์กลุ่มวัสดุและตกแต่งมากขึ้น โดยมีสินค้าทั้งอุปกรณ์สื่อสารและวัสดุก่อสร้าง อยู่ระหว่างลงลึกรายละเอียดและการพัฒนาซอฟต์แวร์ ตั้งเป้าทำให้เสร็จในปีนี้ ควบคู่ไปกับหาซัพพลายเออร์ทั่วโลก
 


ในขณะที่บริษัท DI Design เดิมรับงานออกแบบป้อนให้กลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีการขยายรับลูกค้าภายนอกมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าในตลาดอาเซียนที่มีงานในประเทศเมียนมา ล่าสุดเพิ่งเซ็นสัญญาออกแบบในเมืองคุนหมิง ประเทศจีน กับบริษัท D Plan จดทะเบียนในเมืองเซี่ยงไฮ้ ล่าสุดเข้ามาจดทะเบียนในประเทศไทย
 


นายรัชกล่าวถึงโมเดลธุรกิจว่า โจทย์ใหญ่คือต้องปรับบริษัทนี้ให้มีศักยภาพรับงานขนาดใหญ่ ทั้งมิติการติดต่อหน่วยงานรัฐ พาร์ตเนอร์ โนว์ฮาว กฎหมาย ฯลฯ ขณะนี้มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น เริ่มจากบีทูบี จากนั้นเตรียมขยายไปบีทูซี กำลังจะเริ่มทำในประเทศไทยก่อน โดยซื้อสินค้าจากจีน 90% แล้วขยายไปยังแหล่งผลิตทั่วโลก
 


"ธุรกิจเทรดดิ้งเราทำหน้าที่ซอร์ซซิ่งสินค้าให้กับลูกค้า มีทั้งรายใหญ่และเอนด์ยูสเซอร์ แต่เราทำอะไรต้องไม่เหมือนคนอื่น และต้องมีอะไรที่มากกว่า 1 ชอต เพราะทำอะไรเหมือนคนอื่นเราจะไม่ทำ ตอนนี้ยังเป็นความลับทางการค้า น่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ตอนนี้ผมบอกได้แค่เรามองเห็นโอกาสทางธุรกิจ เข้าไปแก้ Pain Point ให้กับลูกค้า"
 


อนึ่ง นางทิพาภรณ์ (เจียรวนนท์) อริยวรารมย์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท DTGO มีการลงทุนตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์ทุกธุรกิจประมาณ 1 แสนล้านบาท ในปี 2555 มีรายได้ 3,000 ล้านบาท ล่าสุดปี 2559 มีรายได้ 13,000 ล้านบาท ตั้งเป้าภายในปี 2563 มีรายได้ 35,000 ล้านบาท และมีนโยบายนำ 2% ของรายรับสำหรับใช้ในกิจกรรมซีเอสอาร์

 

 

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

 

 

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1490772702

 

 

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider