ช.การช่างเร่งระบบสายสีน้ำเงิน ซีเมนส์-ญี่ปุ่น ฝุ่นตลบขายโบกี้

"สมคิด ปิดดีลมหากาพย์เดินรถสายสีน้ำเงิน "บางซื่อ-ท่าพระและหัวล..าโพง-บางแค" คิวต่อไป "สีชมพู-เหลือง" จ่อเซ็น เม.ย.นี้แสนล้าน"ช.การช่าง" เร่งสั่งซื้อรถใหม่ 35 ขบวน รับเปิดหวูดปี"62 คาดคนใช้บริการ 8 แสนเที่ยวคน/วัน จับตา "ซีเมนส์-JR-East" ซิวเค้กรถไฟฟ้า 2 หมื่นล้าน 1 เม.ย. กทม.เก็บ 15 บาทส่วนต่อขยาย
 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 31 มี.ค. 60 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เซ็นสัญญาเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค 27 กม.กับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ผู้รับสัมปทาน 30 ปี ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะเป็นการเชื่อมโครงข่ายการเดินทางคนกรุงเทพฯและฝั่งธนบุรี ทำให้เกิดการพัฒนาเมืองและเศรษฐกิจ ส่วนสายสีชมพูและสีเหลืองให้เอกชนลงทุนรูปแบบ PPP Net Cost ทั้งโครงการกว่า 1 แสนล้านบาท ขณะนี้เจรจากับกลุ่มบีทีเอสเสร็จแล้ว จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเดือน เม.ย.นี้ จากนั้นเริ่มก่อสร้าง 
 

"ปีนี้มีรถไฟฟ้า 3-4 สายจะเสนอ ครม.ขออนุมัติเปิดประมูล รวมถึงรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง ระยง 193 กม. วงเงินกว่า 1.52 แสนล้านบาท จะเร่งพิจารณาให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อส่งสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรืออีอีซี"
 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ครม. วันที่ 28 มี.ค. 60 เห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาร่วมลงทุนเดินรถสายสีน้ำเงินทั้งโครงการ ประกอบด้วย ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ (สายเดิม) ส่วนต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค ตามที่เจรจากับ BEM (เครือ ช.การช่าง) โดยเอกชนจะลงทุน 20,826 ล้านบาทติดตั้งระบบ จัดหารถและรับสัมปทาน 30 ปี เก็บค่าโดยสาร พัฒนาพื้นที่สถานีและบริหารโครงการถึงปี 2592 โดยเก็บค่าโดยสาร 16-42 บาท คิดค่าแรกเข้าครั้งเดียวและปรับขึ้นทุก 2 ปีตามดัชนีผู้บริโภค 
 

ส่วนผลตอบแทนที่รัฐจะได้รับ แยกเป็น 2 ส่วน คือสายสีน้ำเงินหัวลำโพง-บางซื่อ (สายเดิม) ช่วงปี 2560-2572 อยู่ที่ 28,577 ล้านบาท และสายสีน้ำเงินต่อขยายช่วงปี 2560-2592 และสีน้ำเงินเดิมช่วงปี 2573-2592 หาก IRR อยู่ที่ 9.75-11% ส่วนแบ่งรายได้ รฟม.กับ BEM อยู่ที่ 50 : 50 ตั้งแต่ 11-15% อยู่ที่ 60 : 40 และเกิน 15% อยู่ที่ 75 : 25 
 

"ส.ค.นี้จะเปิดเดินรถสถานีเตาปูน-บางซื่อ ส่วนหัวลำโพง-ท่าพระเปิดปลายปี"62 และเปิดเต็มโครงการต้นปี"63 แต่ขอ BEM ให้เร่งเปิดเดินรถหัวลำโพง-ท่าพระก่อนกำหนด ทั้งนี้หลังเปิดสายสีน้ำเงินทั้งโครงข่ายคาดว่าจะมีผู้โดยสารเกือบ 8 แสนเที่ยวคน/วัน จากปัจจุบัน 3 แสนเที่ยวคน/วัน"
 

ภายใน เม.ย.นี้จะเสนอ ครม.อนุมัติผลประมูลสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) 34.5 กม. 53,519.50 ล้านบาท สีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) 30.4 กม. 51,931.15 ล้านบาท ส่วนสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี 23 กม. ค่าก่อสร้าง 79,221 ล้านบาท ตั้งแต่ พ.ค.จะเริ่มให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ก่อสร้าง
 

ส่วนสีม่วง (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) 23.6 กม. 131,004 ล้านบาท สีส้มศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ 90,271 ล้านบาท สีน้ำเงินต่อขยายบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 8 กม. วงเงิน 21,197 ล้านบาท และสีแดงต่อขยายตลิ่งชัน-ศิริราช-ศาลายา 26,639 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอ ครม.ขออนุมัติโครงการเร็ว ๆ นี้
 

นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.BEM กล่าวว่า สายสีน้ำเงินเมื่อสร้างเสร็จจะเป็นรถไฟฟ้าสายแรกที่เดินรถต่อเนื่องเป็นวงกลม จะเป็นโครงข่ายเชื่อมการเดินทางของประชาชนพื้นที่กรุงเทพฯและธนบุรีให้เกิดความสะดวกและจ่ายค่าโดยสารในราคาถูกสูงสุดอยู่ที่ 42 บาท เนื่องจากเก็บค่าแรกเข้าครั้งเดียว 
 

"แม้บริษัทจะมีความเสี่ยงในการลงทุนและได้ผลตอบแทนที่น้อย แต่ก็ดีใจมีโอกาสรับงาน เพราะประชาชนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง จะเร่งจัดหารถให้เปิดได้ตามกำหนด ตอนนี้นับว่าเป็นการนับหนึ่งหลังรอมานาน จากนี้จะคัดเลือกระบบและขบวนรถ 35 ขบวน ใช้เงินลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างพิจารณาระบบของซีเมนส์จากเยอรมนีเป็นระบบเดียวกับรถไฟฟ้าใต้ดินกับระบบของ JR-East จากญี่ปุ่นระบบเดียวกับสายสีม่วง จะสรุปเร็ว ๆ นี้" 
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 3 เม.ย. 60 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในพิธีเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการจากสถานีแบริ่ง-สำโรง ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ โดยไม่เก็บค่าโดยสารถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้
 

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 เม.ย. กทม.ได้ปรับค่าโดยสารบีทีเอสต่อขยายช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และตากสิน-บางหว้า จาก 10 บาท เป็น 15 บาทตลอดสาย

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1491059125