ผู้ถือหุ้นบีทีเอสไฟเขียวลงทุนสาย สีชมพู-เหลือง แสนล้าน คีรี ลุยรถไฟฟ้าเมืองจีน

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 3 เม.ย.2560 มีมติเห็นชอบอนุมัติก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรีระยะทาง 34.5 กม.และสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรงระยะทาง 30.4 กม. วงเงินลงทุนรวมกว่า 1 แสนล้านบาทใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี 3 เดือนระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี
 

ซึ่งบริษัทได้ร่วมกับบริษัท ซิโนไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโอลดิ้งส์จำกัด(มหาชน) ในรูปแบบกิจการร่วมค้า บีเอสอาร์( BSR Joint Venture ) สัดส่วน 75:15:10 ตามลำดับ ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 3,500 ล้านบาท ก่อนเปิดเดินรถบริษัทต้องมีทุนจดทะเบียน 14,000-17,423 ล้านบาทและต้องรับประกันการปฏิบัติงาน
 

รูปแบบการลงทุนคือ PPP Net Cost คาดว่า พ.ค.60 จะสามารถลงนามสัญญาได้โดยขณะนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) อยู่ในระหว่างให้อัยการสูงสุดพิจารณาร่างสัญญา และภายในเดือน เม.ย. 60 จะได้ข้อสรุปตัวรถที่จะนำมาดำเนินการ
 

สำหรับการประมาณการลงทุนสายสีชมพู วงเงิน 47,314 ล้านบาทร่วมส่วนต่อขยายจากสถานีศรีรัช ถนนแจ้งวัฒนะ ระยะทาง 2.8 กม. วิ่งไปตามแนวทางด่วนเข้าเมืองทองธานี มี 2 สถานี อยู่ติดอาคารชาแลนเจอร์ กับสนามฟุตบอลเอสซีจี และสายสีเหลือง วงเงิน 46,404 ล้านบาทรวมส่วนต่อขยายไปอีก 2.6 กม. จากแยกลาดพร้าวสร้างบนถนนรัชดาภิเษกผ่านศาลอาญาไปเชื่อมสีเขียว (หมอชิต-คูคต) ที่สถานีรัชโยธิน มี 2 สถานี 
 

ซึ่งรัฐสนับสนุนไม่เกิน 10 ปี ของสายสีชมพู วงเงิน 22,500 ล้านบาทและสายสีเหลือง 25,050 ล้านบาท ด้านส่วนแบ่งรายได้ แบ่งให้กับรฟม. ตั้งแต่ปีที่ 11-30 แยกเป็นสายสีชมพูจำนวน  250ล้านบาทและสายสีเหลืองจำนวน 250 ล้านบาท
 

ด้านแหล่งเงินทุน มาจากเงินตามสัดส่วนการถือหุ้นสถาบันการเงินและบมจ.บางกอกแลนด์ (บีแลนด์) ช่วยสายสีชมพูอีก 1,250 ล้านบาทสำหรับสร้างส่วนต่อขยายเข้าไปเมืองทองธานี
 

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทพร้อมประมูลทุกโครงการต่างๆของภาครัฐ โดยในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยังประเทศจีน เบื้องต้นประมาณ 40 จังหวัด ที่มีความต้องการใช้ระบบรถไฟฟ้าในรูปแบบให้สัมปทาน 25-30 ปี คาดว่าปีนี้จะได้ข้อสรุปว่าจะเริ่มทำที่ไหนบ้าง ทำอะไร แต่คงเป็นระบบขนส่ง ให้ทำอย่างอื่นคงไม่ถนัด

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1491218416