รายการโปรด
เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน 30+ หลายคนมักจะเกิดวิกฤตทางความคิด สับสนถึงเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต จนหลายๆ ครั้ง เลยเถิดไปถึงการไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตทั้งๆที่ก็ตอบไม่ได้ว่าทำไมตัวเองไม่มีความสุข แปลกไหมครับ? ฟังดู unreal มาก คนเรามันจะไม่มีความสุขได้ไง ถ้าบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เพิ่งผ่านวัยนี้มาน่าจะเข้าใจ ผมขอเล่าเรื่องจริงที่เกิดกับเพื่อนๆ รอบตัวซักหน่อยละกันครับ
คนแรก นาง ก โดยปกติ ก จะเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตมาก ตั้งใจทำงาน เรียกได้ว่าเป็น working women ตัวท๊อปเลยก็ว่าได้ ชีวิตของ ก ตลอด 10 ปีหลังเรียนจบมาก็มีแต่ งาน งาน และก็งาน เป้าหมายในชีวิต(เคย)ชัดเจน ว่าอยากประสบความสำเร็จด้านการงาน ทุกวันนี้ ก ก้าวหน้าในการงานอย่างที่หวัง เป็น young manager สวย โสด (เลิกกับแฟนไปหลายปีแล้ว) ในวัย 30 ต้นๆ กินข้าวเย็นกับน้องๆ ในทีม แล้วอัพfacbook enjoy eating มีความสุข ยิ้มกว้าง ทุกอาทิตย์ วันนึง เรื่องที่ผมไม่เคยคิดก็เกิดขึ้น ก แชทมา "ทำไงดีวะ กูไม่รู้ทำไงแล้วหวะ ชีวิตแม่งเหมือนไม่มีเป้าหมาย ทำงาน ได้เงิน เงินเดือนเพิ่มทุกปี แล้วไงวะ วันนึงกูก็ต้องลาออกอยู่ดี งานมันไม่ใช่เป้าหมายหวะ รู้สึกมันไม่ใช่เลย ไม่รู้ว่าทุกวันนี้ทำไปเพื่ออะไร" ผมถึงกับไปไม่ถูกได้ ไม่รู้จะพูดอะไร
คนที่สอง นาย ข เค้าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จด้านการเรียนมากตั้งแต่เด็ก สอบเข้าโรงเรียนอันดับ 1 ได้ สอบเข้าคณะที่ต้องการได้ ตั้งแต่ ม.5 (สำหรับน้องๆ รุ่นใหม่ อาจยังไม่รู้ว่า สมัยก่อนมันมีให้สอบเทียบ) เรียนจนจบปริญญาโทตามต้องการ ในคณะที่ต้องการ หลังจากเรียนจบ ข เริ่มทำงานในบริษัทชั้นนำ ได้เงินเดือนเริ่มต้นดีเยี่ยม ผ่านไป 10 ปี ข กลับเปลี่ยนงานมาแล้วมากกว่า 10 ที่ แม้หลายๆ ที่จะให้เงินเดือนดี ก็รู้สึกว่าไม่ใช่สายงานที่ชอบ พอเปลี่ยนไปสายงานที่ชอบ ก็ดันรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เลยเปลี่ยนอีก เปลี่ยนไปหลายงานมาก จนเริ่มรู้สึกว่างานอะไรๆ ก็ไม่น่าจะใช่ น่าเบื่อไปทุกอย่าง เลยตัดสินใจไปรับงานที่ใจรักล้วนๆ ในต่างจังหวัด เงินเดือน 20,000 แค่ให้พอมีรายได้ประจำพอค่าใช้จ่ายประจำของครอบครัว ความวุ่นวายอันยาวนานในชีวิต ข กำลังจะเปลี่ยนเป็นความสงบ (ข เพิ่งแต่งงานด้วย) จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมได้รับโทรศัพท์จาก ข ว่า "เห้ย แย่ละหวะ หัวหน้าอาจจะให้ออกใน 3 เดือน ถ้ายังทำผลงานไม่ได้ ไม่อยากเปลี่ยนงานละหวะ งานนี้มันใช่"
คนสุดท้าย นาย ค คนคนนี้มาเส้นทางเดียวกับนาย ข เลย จบมาจากที่เดียวกัน มาแตกต่างกันตรงที่ว่า ค เป็นคนที่ปรับตัวเก่ง ไม่ว่าจะทำงานอะไรจะหามุมมองที่ดีกับงานนั้นๆ และทำมันออกมาได้ดีเสมอ มีคู่ชีวิตที่ดี มีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำงานบริษัทไปด้วย ลงทุนอสังหาฯ ไปด้วย ทุกอย่างไปได้สวยใครๆ ก็อยากเป็นแบบ ค วันนึงผมนั่งคุยกับ ค ผู้ซึ่งดูแล้วเก่งทุกอย่าง ผิดคาดอีกครั้ง มันปรับทุกข์ "บางครั้งกูก็ไม่ค่อยมีความสุขหวะ เป้าหมายเห็นอยู่ ทุกอย่างไปได้ดี แต่ความรู้สึกกูมันบอกว่าช้าเหลือเกิน เป้าหมายกูใหญ่ ดูแล้วมันน่าจะไปถึงแน่ๆ แต่บางเวลาก็อยากไปถึงเป้าหมายแล้วหวะ อยากไปถึงมันวันนี้เลย สมองมันหยุดไม่ได้ มุ่งมั่นตลอดเวลาจนล้า"
31 วัยว้าวุ่น มันคือวัยที่เราผ่านอะไรมาเยอะแล้ว ความโลกสวยแบบตอนเด็กมันลดลง มันเป็นวัยที่มองไปข้างหน้าเห็นชัดเจน จนบางครั้งดันไปเห็นว่า "ไม่เห็นมีอะไร รออยู่เลย" เป็นวัยที่ต้องรับผิดชอบ รวมถึงภาระอย่างเต็มตัว ทั้งตัวเอง ครอบครัว และพ่อแม่ที่เริ่มต้องการการดูแล --- ไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นคนวัยนี้ทำอะไรแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนอยู่บ่อยครั้ง บางคนลาออกจากงานดีๆ บางคนจากคนไม่เที่ยวกลายเป็นขี้เมา บางคนจากเด็กเที่ยวกลายเป็นตั้งใจ คนที่ไม่เข้าใจ มักจะงงว่า "อะไรของมันฟระ"
เรามักจะบอกกับตัวเองว่า"อยากมีความสุข"แต่เราดันเอาเรื่องอื่นเข้ามาบั่นทอนความสุขของตัวเองอยู่เสมอ นาง ก สำเร็จเรื่องการงานและการเงิน จนมีเวลาคิดเรื่องชีวิตในอนาคต และก็ดันไปไม่มีความสุขเพราะอนาคตไม่มีอะไรรออยู่ นาย ข ยังคงหางานที่รัก ดูแล้วคงไม่ได้มาว่างจนนั่งคิดเรื่องอนาคตเหมือน ก แต่ก็ต้องเป็นทุกข์ว่าอาจจะโดนออกจากงานที่รัก ทั้งๆ ที่ถ้าเรารักงานนี้จริง ยังไงมันก็มีทางไปต่อได้ นักลงทุน ค ยิ่งหนัก ประสบความสำเร็จทั้งด้านการงาน การลงทุน และความรัก แต่มาเป็นทุกข์ได้เพราะ มันช้าไป
ผมเห็นนักลงทุนจำนวนมาก ไม่ค่อยมีความสุขเพราะหลายๆ ครั้งการลงทุนต้องใช้เวลา และหลายๆ ครั้งจะเป็นกังวลว่าการลงทุนที่ลงไปจะเป็นดังหวังรึเปล่า กังวลถึงสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น กังวลถึงอนาคต ถ้าคุณกังวลถึงอนาคต คุณจะกังวลตลอดไปครับ เพราะเรามีอนาคตเสมอ "ความสุขอยู่รอบตัวเรา ความทุกข์ก็อยู่รอบตัวเราเหมือนกัน เราจะเลือกเอาอะไรเข้าตัวหละ?"
ใครกำลังประสบปัญหานี้อยู่ผมอยากให้ลองคิดตาม 3 อย่าง ง่ายๆ ครับ
1. อะไรคือเป้าหมายระยะยาวของตัวเอง เอาแบบที่ตัวเองต้องการจริงๆ นะครับ ไม่ใช่สิ่งที่อยากให้คนอื่นเห็น หรือจำใครมา เช่นบางคนตั้งว่ามี 100 ล้าน คำถามคือมีไปทำไม? ถ้ายังตอบไม่ได้แสดงว่ายังไม่ใช่เป้าหมายของตัวเราครับ เอาให้ชัดๆ และเป็นของตัวเอง ทำงานเงินเดือนขึ้นไปเรื่อยๆ เอาเงินเดือนไปลงทุนจนมีทรัพย์สินพอเลี้ยงตัวเอง แล้วลาออกมาตามฝันการเป็นนักลงทุนเต็มตัวเพราะรักการลงทุน อะไรก็ว่าไป ถ้ามันใช่เป้าของเรา เราจะไม่ต้องพยายามคิดมัน
2. วางเป้าเกี่ยวกับคนที่เรารัก เอาให้ชัดระหว่างที่เราไปตามเป้าที่เราวางไว้ แฟนเรา พ่อแม่เรา ไปกับเรายังไง เราอยากทำอะไรให้พวกเค้าบ้างระหว่างทาง
3. เรียงลำดับความสำคัญครับ ความสำเร็จ(successful) ควรจะเป็นแค่เป้าหมายรองของชีวิต สำหรับผม happy-healthy-successful สำหรับคุณอาจจะมีลำดับที่ต่างออกไป วางลำดับความสำคัญให้ชัด เราจะรู้เอง ว่าอะไรที่มันทำให้เรามีความสุขน้อยลงหรือสุขภาพเสีย ต่อให้มันจะทำให้เราประสบความสำเร็จเร็วขึ้น มันก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีอะไรเลย และถ้าความสุขสำคัญที่สุด แล้วเราจะมานั่งกังวลถึงความสำเร็จจนทำให้มีความสุขลดลงทำไม?
ลองดูนะครับ ถ้าเป้าหมายของคุณ(เน้นนะครับว่าของคุณ) ชัดเจนว่าเราทำเพื่ออะไร และเพื่อใคร มีเป้าหมายของความสำเร็จเป็นขั้นๆ รวมถึงลำดับความสำคัญ ที่ไม่ได้ใส่ใจแต่ความสำเร็จ จนลืมไปว่ามันไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับแรกของชีวิต ผมว่าน่าจะมีความสุขขึ้นนะ
ที่เขียนมาทั้งหมด ผมไม่ได้กำลังบอกว่ามันคือทางออกนะ คนทุกคนไม่ได้เกิดมาเพื่อเหมือนกัน คุณอาจมีทางในแบบของคุณ แต่ที่แน่ๆ ผมอยากบอกคุณว่า "คุณมีเพื่อนร่วมชะตากรรมเยอะ และปัญหาทุกอย่างมีทางออกครับ"
ผมขอเป็นกำลังใจให้ครับ เรียงลำดับ(ของตัวเอง)ดู
Happy-Healthy-Successful
5 ไอเดีย แต่งห้องง่ายๆ ด้วยเทรนด์สีแห่งปี 2023 ‘Viva Magenta’
2023-01-20
Livinginsider Happy New Years แจกจริง คุ้มยิ่งกว่าถูกหวย ลุ้นรับโชคเป็นล้าน ส่งท้ายปี ลุ้นโชค 2 ต่อ ลุ้นอยู่ Penthouse สุดหรูใจกลางเมือง ในราคาสุดพิเศษ พร้อมของรางวัลอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท
2022-12-02
รวม 10 คอนโดใหม่ Presale ปี'66 ราคาไม่เกิน 2-3 ล้านบาท
2023-07-17
🇨🇳 10 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ทุนจีน ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
2023-07-11
กฎแรงดึงดูด กฎแห่งการกระทำ กฎอะไรนักหนา
2018-02-05
เขียนได้เชิญชวนซื้อมากๆ
เว็บนี้ทำรีวิวได้ดีมากๆ
รีวิวได้ชวนซื้อมากๆครับ ฮ่าๆ