News
icon share

พิชิต บี้แอร์พอร์ตลิ้งก์เร่งหาตู้รถเพิ่มรองรับผู้โดยสารให้เสร็จภายในปีนี้

LivingInsider Report 2017-04-11 13:14:05
พิชิต บี้แอร์พอร์ตลิ้งก์เร่งหาตู้รถเพิ่มรองรับผู้โดยสารให้เสร็จภายในปีนี้

 

 

นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังจากการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ แอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ ณ ศูนย์ซ่อมบำรุงคลองตัน ว่า ปัจจุบันแอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ ยังประสบภาวะขาดทุนเฉลี่ยปีละ 300 ล้านบาท เนื่องจากการบริหารงานยังขาดประสิทธิภาพ ไม่สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพียงพอ แม้ว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงวันละ 60,000 คน/เที่ยว/วัน และบางวันสูงสุดถึง 85,000 คน ดังนั้นแอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ จะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขในหลายด้าน โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างขบวนรถเพิ่มเติมอีก 9 ขบวน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 7 ขบวน เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 130,000 คน/เที่ยว/วัน ซึ่งจะต้องแล้วเสร็จภายในปีนี้
 


นายพิชิตกล่าวว่า นอกจากนี้ได้สั่งการให้แอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ เร่งรัดจัดทำแผนบริหารทรัพย์สิน ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดการพัฒนาและใช้ประโยชน์สูงสุดจากพื้นที่โดยรอบสถานี หลังจากที่พบว่า ขณะนี้ยังมีการใช้พื้นที่โดยรอบสถานีไม่เกิดประโยชน์ และมีพื้นที่ว่างอีกมาก รวมทั้งจะต้องเร่งสรรหากรรมการผู้จัดการ แอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ ให้ได้ทันตามแผนภายใน 2 เดือนนับจากนี้
 


"ภายในปีนี้ แอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ จะต้องปรับรูปแบบธุรกิจของตัวเอง ให้เป็นผู้บริหารเดินรถเต็มรูปแบบ หลังจากที่ผ่านมาเป็นเพียงผู้รับจ้างเดินรถ โดยจะต้องสร้างความคล่องตัว โดยให้สามารถตัดสินใจด้วยตนเองได้ มีการบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีรายได้ มีการบริหารความเสี่ยง เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดทุน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในระยะยาว ส่วนการจะยุบรวมแอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ เข้ากับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพ-ระยอง หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (คณะกรรมการอีอีซี) ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้" นายพิชิตกล่าว

 

 

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

 

 

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1491817724

 

 

 

 

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider