เช็กสุขภาพอสังหาต่างจังหวัด 5 สายสีม่วง นนทบุรี โอเวอร์ซัพพลาย

คลินิกตรวจสอบสุขภาพธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัดวันนี้ขยับทำเลประชิดมหานครกรุงเทพ "เลิศมงคล วราเวณุชย์" นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี แบเบอร์ข้อมูลให้ฟังและน่าสนใจมาก

"ผมอยู่นนท์ 16 ปียังลืมไปว่าไม่ใช่คนกรุงเทพฯ มาร์เก็ตไซซ์เราเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ถามว่าได้รับการดูแลดีพอไหม ตอบได้ว่าไม่ดีพอ ดีเวลอปเปอร์ก็ไม่ค่อยให้ความสนใจพัฒนาเมืองนนท์ เช่น ผังเมือง ระบบบริหารราชการแบบเดียวกับภูมิภาค เทียบกับกรุงเทพฯที่การบริหารราชการแผ่นดินเป็นอิสระ"

สถานการณ์จังหวัดนนทบุรี การพัฒนาโครงการอสังหาฯดูเหมือนจะง่ายกว่าภูมิภาค มีดีเวลอปเปอร์ 80% เป็นคนกรุงเทพฯ ไม่เหมือนเชียงใหม่ ขอนแก่น ฯลฯ ที่ดีเวลอปเปอร์ท้องถิ่น 80% ทุกคนจะเดือดร้อนเวลามีปัญหาอะไร ขณะที่ดีเวลอปเปอร์เมืองนนท์ทุกคนไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่

ทั้งนี้ ทั้งนั้น นนทบุรีเป็น 1 ใน 5 จังหวัดปริมณฑลของกรุงเทพฯ แต่มีขนาดตลาดอสังหาฯใหญ่เป็นอันดับ 3 โฟกัสเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม ทาง REIC (ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์) สำรวจห้องชุดเหลือขายปี2558-2559 ในกรุงเทพฯมีจำนวน 27,951 หน่วย อันดับ 2 ชลบุรี 16,367 หน่วย และอันดับ 3 นนทบุรี 10,188 หน่วย

คำนิยามที่เข้าใจง่ายที่สุด ไซซิ่งตลาดอันดับ 3 ของประเทศทำให้โปรดักต์แชมเปี้ยนของจังหวัดนนทบุรีคือรายได้จากธุรกิจโครงการที่อยู่อาศัย โดยบ้านที่พัฒนาในเมืองนนท์ไม่ใช่บ้านของคนนนท์ แต่เป็นบ้านของคนทั้งประเทศ เพราะคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ซื้อบ้านในกรุงเทพฯไม่ไหวเนื่องจากมีราคาสูงมาก

ข้อคิดเห็นแบบตรงไปตรงมา ทำเลตั้งติดกรุงเทพฯทำให้รับอานิสงส์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่โดยอัตโนมัติ กลายเป็นทั้งขั้วบวกและขั้วลบ

"ตัวอย่างกรณีรถไฟฟ้าสายสีม่วง เป็นภาพที่ทำให้เห็นชัดเจนว่ารถไฟฟ้าสายนี้คนเมืองนนท์ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมจึงมีปัญหา เห็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวเปิดต้องเปิด แต่สายสีม่วงเปิดแล้วคอนโดฯซัดไป 30,000 ยูนิต ขณะที่ไม่ได้ศึกษาว่าดีมานด์รองรับไหวไหม"

ภาพสะท้อนคือตลาดมีขนาดใหญ่มาก ถ้านนทบุรีมีปัญหา หมายความว่ากรุงเทพฯจะมีปัญหาด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างอีกโครงการ คือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู มีระยะทางครึ่งสายวิ่งในนนทบุรี และสตาร์ตที่นนทบุรี ในขณะที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงลงทุน 7 หมื่นล้านบาท ขาดทุนวันละ 300 ล้านบาท

คำถามสำคัญในภาวะที่รัฐบาลส่วนกลางกำลังเข้าไปช่วยดูในเรื่องการลงทุนอินฟราสตรักเจอร์ขนาดใหญ่ในหัวเมืองหลักนอกกรุงเทพฯอยากให้เกิดปัญหาซ้ำรอย"สายสีม่วงโมเดล"ในจังหวัดอื่นอีกไหม เพราะเป็นภาษีของคนทั้งประเทศ

การรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนเพื่อดูแลกันเองในหมู่ผู้ประกอบการเป็นความจำเป็นในยุคนี้รวมทั้งการมีส่วนร่วมกับภาครัฐก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1495431879