รายการโปรด
นายแสนผิน สุขี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลดำเนินการครึ่งปีแรก 2560 มียอดขายแล้ว 11,000 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ 6,600 ล้านบาท สูงกว่าเป้า 67% เป็นผลมาจากการเปิด 5 โครงการใหม่มีผลตอบรับดีมาก
ดังนั้น แผนธุรกิจครึ่งปีหลังจึงปรับเป้ายอดขายใหม่ จากเดิมตั้งไว้ 18,000 ล้านบาท เป้าใหม่เพิ่มเป็น 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% ในขณะที่เป้าหมายยอดรับรู้รายได้คงไว้เท่าเดิมที่ 12,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แผนเปิดตัวโครงการใหม่มีการปรับปรุงด้วยเช่นกัน เนื่องจากประสบปัญหาซื้อแลนด์แบงก์แล้วแต่ผู้พักอาศัยเดิมยังไม่ย้ายออกจากพื้นที่ อาทิ ทำเลแจ้งวัฒนะ พื้นที่ 70-80 ไร่ ต้องเลื่อนเปิดตัวไป 3 โครงการ, โซนกัลปพฤกษ์อีกหลายแปลง นับ 100 ไร่, ซอยคู้บอนอีก 70-80 ไร่ ทำให้ต้องเลื่อนพัฒนาโครงการ 2 โครงการ
“ต้องใช้หลักรัฐศาสตร์ ค่อยๆ เจรจาในการขอให้ย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้มีปัญหา มั่นใจว่าสามารถบริหารจัดการได้อย่างเรียบร้อย
นายแสนผินกล่าวว่า ภาวะการขายดีในครึ่งปีแรกทำให้บริษัทมีแบ็กลอกเพิ่มขึ้นเป็น 4,000 กว่าล้านบาท โดยยอดขายมีสัดส่วนจากบ้านเดี่ยว 4,000 ล้านบาท บ้านแฝด 2,500 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 13,000 กว่าล้านบาท
กลยุทธ์ครึ่งปีหลังมี 6 เรื่องหลัก 1.เปิดตัวโปรเจ็กต์คอนเซ็ปต์ใหม่ “British Avenue” ย่านเกษตร-นวมินทร์ ใกล้ช็อกโกแลตวิลล์ สามารถเข้าออกซอยนวมินทร์ 42 ได้ บนเนื้อที่ 120 ไร่ เตรียมแบ่งพัฒนา 5 โครงการในทำเลเดียวกัน รวม 950 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท มีโปรดักต์ทั้งทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 โครงการ, ทาวน์โฮม 3 ชั้น, บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว
2.ทำเลซื้อทดแทนคอนโดฯ โดยเฉพาะโฟกัสใกล้แนวรถไฟฟ้า มีรัศมีห่างสถานีรถไฟฟ้า 700 เมตร-1 กิโลเมตร
3.นวัตกรรมบ้านแฝด ราคา 4-6 ล้านบาท ซื้อทดแทนบ้านในเมืองที่มีราคา 7-10 ล้านบาท โดยออกแบบบ้านสไตล์อังกฤษ (British Mansion) เพิ่มฟังก์ชันพิเศษที่เรียกว่า Dormer หมายถึงหน้าต่างส่วนที่ยื่นจากหลังคา ทำให้สามารถเพิ่มฟังก์ชันห้องพระ และทำให้ดีไซน์สวยงามในเวลาเดียวกัน
4.ขยายการลงทุนทาวน์โฮมในต่างจังหวัดมากขึ้น จุดเน้นคืออีอีซี โดยมีสัดส่วนพัฒนาโครงการ 20% ของเป้าลงทุนรวม
ทั้งนี้ บริษัทประสบความสำเร็จในการลงทุนโครงการทำเลอีอีซี (ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) โดยมีปัจจัยบวกมาจากการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ภาครัฐ อาทิ การยกระดับสนามบินอู่ตะเภาให้เป็น “สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ชลบุรี-ระยอง”
5.ลงทุนบ้านเดี่ยวฉมใหม่ราคา 20-40 ล้านบาท ทำเลใกล้เมือง โดยประเดิมในทำเลย่านเกษตร-นวมินทร์ และ 6.เพิ่มเซกเมนต์ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัวโกลเด้นทาวน์ อ่อนนุช-ลาดกระบัง มีราคา 1.69-1.79 ล้านบาทจำนวน 70% ของแปลงจัดสรร และมีผลตอบรับท่วมท้นมาแล้ว
ปีนี้ตั้งเป้าจัดซื้อแลนด์แบงก์ 7,800 ล้านบาท ใช้ไปหมดแล้ว ปีหน้าต้องเพิ่มเป้าจัดซื้อที่ดิน เพราะมองเป้าหมายยอดโอน 25,000 ล้านบาทในปี 2564
เทียบกับช่วงครึ่งปีแรก 2559 มียอดขาย 8,000 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นปี 2559 ทำยอดพรีเซล 14,000 ล้านบาท
ทำเลอีอีซีสำหรับรองรับการพัฒนาโครงการในปีหน้า โดยต้องการที่ดิน 3 แปลงอยู่ในศรีราชา ชลบุรี 1 แปลง กับจังหวัดระยองเขตตัวเมืองอีกสัก 2 แปลง และที่ดินในทำเลในเมือง มีโอกาสพัฒนาทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด
“บริษัทมองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในโซนอีอีซี มีกลุ่มลูกค้าซื้อลงทุนเพราะมีผลตอบแทนน่าพอใจ ทำเลที่เข้าไปลงทุนต้องมีรายได้ต่อหัวสูง โดยระยองมีรายได้ต่อหัวเดือนละ 42,000 บาท”
“อุปสรรคการลงทุนในต่างจังหวัดคือราคาที่ดินที่ครอบครองโดยคนท้องถิ่นในราคาไม่แพง ถ้าบริษัทเข้าไปลงทุนอาจมีต้นทุนที่สูงกว่า ทำให้ตั้งราคาขายลำบากเหมือนกัน”
สำหรับยอดปฏิเสธสินเชื่อปีนี้มองว่าดีขึ้นอยู่ที่ 30-40% จากปีที่แล้วมี 40-50% ในส่วนบริษัทมียอดปฏิเสธสินเชื่อ 30% สถานการณ์ดีขึ้นเพราะร่วมมือกับพันธมิตรสถาบันการเงินในการคัดลูกค้าสินเชื่อในเบื้องต้น ทำให้ยอดปล่อยสินเชื่อมีโอกาสกู้ผ่านมากขึ้น
“ผมเคยเห็นผู้ประกอบการพรีแอพพรูฟก่อน กลายเป็นว่าลูกค้าหนีหมด แต่ถ้าขายก่อนแล้วค่อยพรีฯ ยอดเหลือ (สินเชื่อกู้ผ่าน) ยังมีมากกว่าพรีแอพพรูฟก่อนจอง เพราะข้อเท็จจริงอย่างเดียวมันก็ไม่ได้ ชีวิตต้องมีสีสันบ้าง จะสมบูรณ์แบบเกินไป”
แนวโน้มต้นทุนครึ่งปีหลัง ปัญหาแรงงานต่างด้าวคาดว่าค่าแรงสูงขึ้น ทำให้มีผลกระทบต่อต้นทุนในปีหน้าที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากกม.แรงงานต่างด้าวมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2561 คาดว่ามีผลกระทบต่อต้นทุนค่าแรงประมาณ 5% ในขณะที่มีผลกระทบเล็กน้อยต่อราคาอสังหาริมทรัพย์
“ราคาอสังหาฯ ต้องดูปัจจัยการแข่งขันในพื้นที่ บางทำเลอาจต้องยอมลดกำไรขั้นต้นลง บางทำเลการแข่งขันน้อยอาจต้องเพิ่มราคา เป็นต้น โดยกำไรเบื้องต้นจากค่าเฉลี่ย 35% อาจเหลือ 32-33% ส่วนกำไรสุทธิขึ้นกับโอเวอร์เฮด อยู่ที่สามารถควบคุมค่าโสหุ้ยได้ดีหรือไม่”
ในด้านการตลาดยุคออนไลน์ ใช้มากขึ้นในยุคบีโลว์เดอะไลน์ มีบิลบอร์ดบ้าง สื่อสิ่งพิมพ์ไม่ได้ใช้เลยหันไปเน้นออนไลน์เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่เสพข้อมูลข่าวสารบนสมาร์ทโฟน แม้แต่การซื้อของออนไลน์ โดยลูกค้าแวะมาวิสิตไซต์จากช่องทางออนไลน์ครึ่งต่อครึ่ง
ทั้งนี้ สินค้าแนวราบยังไม่สามารถปิดการขายผ่านออนไลน์โดยไม่วิสิตไซต์ เทียบกับคอนโดฯ สามารถทำได้ เพราะลูกค้าต้องเลือกแปลง ดูทำเล ซึ่งทำเลคอนโดฯ คนจะคุ้นเคยมากกว่า ในขณะที่ทำเลแนวราบอาจอยู่ในซอย ยังมีเรื่องฟังก์ชันที่สลับซับซ้อนกว่าคอนโดฯ
เช่น คอนโดฯ ฟังก์ชันเหมือนเป็นแพลตฟอร์ม ในขณะที่แนวราบต้องดุว่าด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลังอยู่ติดกับใคร มีผลต่อการตัดสินใจซื้อทั้งหมด จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าซื้อผ่านออนไลน์
ขณะเดียวกัน การสื่อสารออนไลน์ในตลาดต่างจังหวัดผลตอบรับไม่ดีเท่ากรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังต้องอาศัยบิลบอร์ด กระแสปากต่อปาก โดยบริษัทมียอดลงทะเบียนออนไลน์น้อยมากแต่สามารถปิดการขายได้เร็ว โดยเพิ่มป้ายคัตเอาต์ ป้ายชี้ทาง
“ตอนเปิดที่ศรีราชา ป้ายยังไม่เสร็จ พื้นที่ส่วนกลางยังไม่สวย เลื่อนเปิดตัว 1 สัปดาห์เพื่อรอให้เห็นพื้นที่ส่วนกลางก่อน ตัวอย่าง โครงการโกลเด้นทาวน์ ศรีราชา-อัสสัมชัญ จากเดิมตั้งเป้าเปิดปลายมิถุนายน เลื่อนเปิดเป็นวันที่ 1 กรกฎาคมแทน มียอดพรีเซล 80% ทำให้โฟกัสทำเลอีอีซีได้ชัดเจนขึ้น”
ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ
https://www.prachachat.net/property/news-9279
คอนโดโครงการใหม่ 2567 บนทำเลศักยภาพ มีที่ไหนบ้าง?
12 นาทีที่แล้ว
“มาร์ควิส พญาไท” กระแสดีเกินคาด เหตุอยู่บนทำเลศักยภาพ หนุนยอดจองรอบพิเศษเป็นที่น่าพอใจ
54 นาทีที่แล้ว
Honour Group เปิดตัว “Once Wongamat” คอนโดหรูทำเลพัทยา พร้อมวิวทะเลแบบพาโนรามา เริ่ม 5.9 ลบ. เจาะกลุ่มไฮเอนด์ที่มองหาที่พักในเมืองตากอากาศ
เมื่อวานนี้
แกรนด์ ยูนิตี้ เตรียมจัดกิจกรรม “Holiday Cookies Workshop” ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสให้กับลูกบ้าน ณ ณ โครงการ แมสซารีน รัชโยธิน และ บลู สุขุมวิท 105
เมื่อวานนี้
แสนสิริปรับเป้าโอนคอนโดเป็น 14,500 ลบ. หลัง 10 เดือนแรกมียอดทะลุ 11,300 ลบ. พร้อม Sold Out รวด 4 โครงการ
เมื่อวานนี้
บทความมีประโยชน์มากค่ะ
ดีมากๆเลยค่ะ ลงบ่อยๆนะคะ
รูปในรีวิวสวยดี เห็นล่ะชอบเลย *-*
บทความดีครับ
อ่านเพลินครับ