รายการโปรด
ห้องประกาศซื้อ-ขาย แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด-ศรีนครินทร์
เวลาเราไปเยี่ยมชมโครงการต่างๆไม่ว่าบ้านหรือคอนโด เราทุกคนมักจะได้ยินฝ่ายขายถามคำนี้เสมอใช่มั้ยครับ
"ซื้อไปอยู่เองหรือซื้อไปลงทุน"
โดยทั่วไปถ้าคิดถึงการซื้อไปลงทุน ผมคิดว่าส่วนใหญ่เกือบ 100% คนจะคิดถึงการซื้อคอนโด เพราะมีสภาพคล่องสูง ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเช่าหรือขายต่อในอนาคต ใช่แล้วครับ ส่วนใหญ่แล้วคอนโดจะเหมาะกับการลงทุนมากกว่าบ้านครับ แต่ก็ไม่ใช่บ้านจะลงทุนไม่ได้ครับ
ถ้าคุณมีเงินเย็นและเข้าใจโลเคชั่นรวมถึงความต้องการของคนซื้อบ้านในแต่ละย่านๆ บ้านเป็นอีกทางที่ลงทุนได้ และมีผลตอบแทนมากกว่าคอนโดหลายเท่าเลยครับ โดยเฉพาะ Capital Gain
ผมมีพี่คนนึงที่เค้าชอบซื้ออสังหาฯลงทุนครับ แกค่อนข้างเก่งเลย เรียกว่าเชี่ยวชาญระดับเทพเลยก็ได้ ปัจจุบันแกเล่นแต่ที่ดินละครับ มีเงินเย็นแล้วและกำไรมากกว่าอสังหาฯประเภทอื่นหลายเท่าตัว สมัยก่อนแกก็ชอบซื้อคอนโดลงทุนนี่แหละครับ เพราะคอนโดมันซื้อง่ายขายคล่องและไม่มีคู่แข่งเยอะเหมือนสมัยนี้ สมัยนี้แกบอกว่าคอนโดไม่ได้น่าสนใจเหมือนแต่ก่อนแล้ว มีแต่นักพนันมากกว่านักลงทุน ทำให้ราคาเสียไปหมด
ในขณะที่คนอื่นเรียนรู้แต่การซื้อคอนโดลงทุน แกเรียนรู้และเข้าใจคนซื้อบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะออกไปดูบ้านประจำทุกเสาร์อาทิตย์
แกบอกว่าจริงๆแล้ว บ้านกำไรมากกว่าเล่นคอนโดเยอะนะ แต่คุณต้องโอน ไม่ใช่จะมาเล่นขายใบจองแบบคอนโด แกบอกว่าบางหลัง แกโอนทิ้งไว้เฉยๆ ไม่ให้เช่าด้วยนะ เพราะคนซื้อชอบบ้านใหม่มากกว่าบ้านที่เคยมีคนอยู่ ไม่เกิน 2 ปีก็ขายได้ ผมเลยถามว่าได้กำไรมากกว่าคอนโดมั้ย แกบอกว่าถ้าเทียบกันคอนโดน่ะ เด็กๆไปเลย แต่ถ้าเป็นบ้าน คุณเลือกเป็น หลังไหนถูกใจเค้า ขายได้กำไรมากกว่าคอนโดเป็นสิบเท่า เพราะคนซื้อบ้าน ถ้าเค้าอยากได้จริงๆ เค้าไม่สนหรอกว่าคุณจะขายเท่าไร ขอแค่ไม่เว่อร์ไป ขายได้แน่นอน
ผมเลยแอบถามเคล็ดลับเรื่องการเลือกซื้อบ้านมาแชร์กันด้วยครับ
"หลักในการเลือกบ้านเป็นยังไง"
แกบอกว่า ส่วนใหญ่ให้เลือกบ้านเดี่ยวไปเลย ดีกว่าพวกทาวน์โฮม บ้านแฝด เพราะคนที่มีเงินแล้ว เค้าชอบบ้านเดี่ยว หลังใหญ่ๆ ที่จอดรถต้องมี 3-4 คันขึ้นไป พวกนี้มีรถเยอะ จริงๆ 3-4 คันไม่พอหรอก แต่พวกนี้เค้ามีบ้านหลายหลัง บางทีก็เอาไปจอดหลังอื่น
ให้เลือกหลังมุม หรือถ้ามีเงิน เอาหลังที่ใหญ่ที่สุดไปเลย หมู่บ้านแพงๆ คุณไปดูได้เลย หลังใหญ่สุดแพงสุด ขายหมดก่อน หลังเล็กสุดถูกสุด ไม่มีคนสนใจ ต่างกับคอนโดที่คนมักจะแย่งห้องที่ถูกที่สุด
"เลือกโลเคชั่นแบบไหน"
แกบอกว่า จริงๆถ้าให้ไปศึกษาหรือดูเองคงยาก เพราะใช้เวลาหลายปีกว่าจะรู้ว่าย่านไหนที่มีคนหาบ้านเยอะ ย่านไหนที่กำลังพัฒนา ตรงนี้ต้องใช้ประสบการณ์ในการมอง ที่สำคัญต้องติดถนนใหญ่ อันนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเข้าซอยมันดูไม่แกรนด์ ส่วนย่านไหน เอาง่ายๆ ปัจจุบันก็มี เลียบทางด่วนรามอินทรา, พระราม 9, ศรีนครินทร์, บางนา
ย่านไหนที่กำลังมีรถไฟฟ้ามาลงยิ่งดี คุณต้องมองให้ออกว่าย่านไหนเป็นย่านคนรวย เพราะพวกนี้เค้าจะไปอยู่รวมๆกัน แนะนำกันมา ปกติบ้านที่ขายกันมักจะมาจาการชักชวนกันแบบปากต่อปาก มากกว่าสื่อแบบอื่นๆ
หลังจากได้คุยกับแก ผมได้รู้อะไรมากขึ้นหลายอย่างเลย เกี่ยวกับมุมมองคนหาซื้อบ้าน จนเมื่อวันก่อนได้มีโอกาสมาทำรีวิวโครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด-ศรีนครินทร์ หลังจากชมบ้านแล้ว ผมนึกถึงคำพูดของแกขึ้นมาเลย ว่าบ้านแบบนี้เองที่แกพูดถึง
Grand Bangkok Boulevard Srinakarin
แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด-ศรีนครินทร์
ผมใช้เส้นศรีนครินทร์เป็นทางผ่านบ่อยๆ ถนนเส้นนี้ ปัจจุบันเป็นถนนเส้นใหญ่ถึง 8 เลน ส่วนใหญ่ผมจะเห็นตลอด 2 ข้างทางเป็นโชว์รูมสินค้าต่างๆและอาคารสำนักงาน ราคาที่ดินปัจจุบันน่าจะแพงเกินกว่าที่จะซื้อมาพัฒนาโครงการบ้าน
ตอนแรกที่เดินทางมาชมหมู่บ้าน คิดว่าจะเข้าซอย ที่ไหนได้อยู่ติดถนนใหญ่เลยครับ
โครงการอยู่บริเวณใกล้ๆซอยศรีนครินทร์ 38 (ศรีนครินทร์ ขาเข้า) เยื้อง Seacon Square จุดสังเกตคือก่อนถึงทางเข้าหมู่บ้านจะเป็นโชว์รูม Isuzu ครับ
ในปัจจุบันย่านถนนศรีนครินทร์ ถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีศักยภาพสูงและมีอนาคตที่จะเจริญขึ้นอีกมาก เรื่องความอุดมสมบูรณ์ไม่ต้องพูดถึงเพราะมีห้างใหญ่ๆอย่าง Seacon Square, Paradise Park ซึ่งถ้าใครเคยมาเดินจะรู้ว่า เป็นห้างที่มีครบทุกอย่าง ตอบโจทย์คนทุกวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุเลย
นอกจากนี้แถวนี้ยังใกล้โรงเรียนนานาชาติชื่อดังอีกหลายโรงเรียนมากๆ โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติ อาทิ , Bangkok International Academic School, St.Andrew’s International School, St. Mark International Kindergarten, Concordian International School, Charter International School, Bangkok Windsor International School, Berkeley International School และ Pan Asia International School และยังมีโรงเรียนชื่อดัง อย่าง ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา-พัฒนาการ ด้วย
โรงเรียนนานาชาติเยอะๆแบบนี้ ผมบอกได้เลยครับ ชาวต่างชาติที่เป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆในเมืองไทย ชอบมาหาเช่าบ้านแถวนี้แน่นอนครับ เพราะจะได้ไปรับไปส่งลูกง่ายๆ
นอกจากนี้ยังใกล้โรงพยาบาลอีกหลายแห่ง อาทิ รพ.ไทยนครินทร์, รพ.สมิติเวช, รพ.ศิครินทร์
การเดินทางย่านนี้สามารถไปได้หลายเส้นทาง ทั้งเข้าเมืองย่าน สุขุมวิท พระราม 9 หรือจะไปสุวรรณภูมิ สมุทปราการ ชลบุรี ก็สะดวกรวดเร็ว
ที่สำคัญคือในอนาคต เส้นศรีนครินทร์ จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมาผ่านเกือบตลอดทั้งเส้น โดยรถไฟฟ้าจะวิ่งจากแยกรัชดา-ลาดพร้าว ไปตามถนนลาดพร้าว-พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ และไปสิ้นสุดที่สำโรง โดยตามแผนมีกำหนดสร้างเสร็จปี 2563
แต่ที่สุดยอดกว่าคือ สถานี ศรีนครินทร์ 38 จะอยู่ห่างหมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด-ศรีนครินทร์ เพียงแค่ไม่กี่เมตร เท่ากับว่า ในอนาคตนี่จะเป็นบ้านที่เรียกได้ว่าติดรถไฟฟ้าเลย คงไม่ต้องพูดถึงมูลค่าที่จะเพิ่มขึ้นไม่รู้เท่าไร
ก่อนเข้าถึงโครงการ ผมอยากพูดถึงจุดนี้ก่อน เพราะไม่ว่าไปดูบ้านของ SC Asset ที่ไหน เค้าจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากๆ โดยทางเข้าหมู่บ้านจะมีการใช้ระบบ Double Gate ระบบประตู 2 ชั้น แบ่งโซน Guest Area (ส่วนผู้มาติดต่อ) และ Residential Area (ส่วนพักอาศัย) อย่างชัดเจน โดยใช้ระบบ Easy Pass เวลามีใครมาหา เจ้าของบ้านจะสามารถดู VDO Door Phone ที่เชื่อมต่อกับป้อม รปภ.เพื่อ เป็นการคัดกรองสำหรับผู้ที่เข้ามาติดต่อก่อนเข้าพบได้
ประตูชั้นนอก
ประตูชั้นใน
เมื่อเข้ามาถึงโครงการ คุณจะรู้สึกได้ตั้งแต่ผ่านประตูเข้ามาเลยว่า ที่นี่น่าอยู่จริงๆ โครงการมีถนนเมนหลักกว้างถึง 14 เมตร การนำต้นไม้มาปลูกที่เกาะกลางถนนและนำพื้นที่คลับเฮ้าส์มาวางตรงทางเข้าหมู่บ้าน ทำให้ทุกคนที่เข้ามาที่นี่รู้สึกถึงความร่มรื่นจริงๆ
ผมคิดว่าใครที่มีกำลังพอ แค่คุณมาเห็นตรงนี้โดยยังไม่ต้องเข้าไปในบ้าน ก็อยากเป็นเจ้าของกันแล้ว ตัวโครงการอยู่บนที่ดิน 37 ไร่ มีบ้านแค่เพียง 73 หลังเท่านั้น ทำให้เป็นส่วนตัวมากๆ สิ่งที่ผมชอบ SC Asset ในการทำโครงการหมู่บ้านมากๆคือ เค้าชอบนำสไตล์ต่างๆมาผสมผสานตัวบ้านได้อย่างลงตัว ในขณะที่เจ้าอื่นๆ ส่วนใหญ่บ้านยังเป็นรูปแบบเดิมๆไม่ต่างกัน
โดยโครงการนี้ ได้นำสไตล์ สถาปัตยกรรมของเมือง Marrakesh ประเทศ โมร็อกโก มาผสมผสานฟังชั่นที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนไทย ภายใต้แนวคิด THE GLAMOORISH LUXURY (GLAMOROUS + MOORISH) ผมว่าคุณควรมาดูด้วยตาตัวเอง เพราะมันดูลงตัวและหรูหราจริงๆ
ก่อนชมตัวบ้าน ผมขอพาชมส่วนกลางกันก่อนครับ บริเวณคลับเฮ้าส์ ที่นี่เค้าให้พื้นถึง 2 ไร่ ประกอบด้วยส่วนของอาคาร สวนและสระว่ายน้ำ
ภายในคลับเฮ้าส์ ตกแต่งหรูหรามากๆ
จากตรงนี้สามารถดูวิวสระว่ายน้ำได้ด้วย
ภายนอกจัดสวนมีอุโมงค์น้ำพุด้วย พร้อมศาลานั่งเล่นแบบ MOORISH
สำหรับคนที่กลัวแดดเวลาว่ายน้ำ ที่นี่มีสระว่ายน้ำในร่ม ขนาด 5 x 25 เมตร มีทั้งสระเด็ก สระผู้ใหญ่ โดยมีการทำหลังคาเท่ๆแบบ Sky light เปิดรับแสงธรรมชาติด้วย ส่วนบริเวณชั้น 2 ของคลับเฮ้าส์จะเป็นห้อง FITNESS
แค่คลับเฮ้าส์ ก็จัดเต็มแล้ว มาดูบ้านกันบ้างครับ บ้านที่นี่จะมีทั้งหมด 3 แบบนะครับ คือ
1. Meknes (แม็กแน็ส) เนื้อที่ประมาณ 82-100.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย: 390 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
2. Kenitra (เกไนตรา) เนื้อที่ประมาณ ที่ 101.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย: 485 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
3. Marrakech (มาราเคช) เนื้อที่ประมาณ ที่ 111.7 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย: 534 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
โดยตัวบ้านที่เราจะพาไปชมวันนี้เป็นแบบหลังใหญ่ที่สุดนะครับ คือแบบ Marrakech (มาราเคช) เห็นภายนอกแล้ว เป็นบ้านที่ดูมีพลังจริงๆ
หลังนี้ประกอบด้วย 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ , มี Double Living Room, Family Area, Double Volume ห้องรับประทานอาหาร, ครัวไทย, ห้องพระ, ห้องใส่รองเท้า (ห้อง Shoe Cabinet) และ Maid Plazza ที่แบ่งเป็นโซน Laundry วางเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าได้ และโซนซักล้าง พร้อมห้องแม่บ้าน 2 ห้อง และห้องน้ำแม่บ้านแยกต่างหาก
ส่วนตรงอาคารจอดรถ สามารถจอดในร่มโดยมีพื้นที่พอสำหรับ3 คัน (จริงๆแล้วจอดหน้าบ้านได้อีก 1 คัน) บริเวณที่จอดมีระบบ EV Charger สำหรับรถระบบไฟฟ้าเตรียมไว้ให้ด้วย
บริเวณทางเข้าจะมีทางลาดให้ด้วยครับ ตรงนี้ผมต้องขอชื่นชมครับ ทุกครั้งที่ผมไปดูบ้าน SC Asset จะสังเกตเห็นว่าเค้าจะให้ความสำคัญ ในการออกแบบ Universal Design เพื่อให้ผู้สูงอายุหรือผู้ใช้รถเข็นสามารถใช้งานใช้ Wheelchair ได้สะดวก
ประตูทางเข้าก็มีสไตล์แล้วครับ ให้แบบนี้เลยครับ ทำจากไม้สักอย่างดี
เมื่อเข้าสู่ตัวบ้าน จะเจอ Foyer (โถงทางเข้าบ้าน) ที่ทำไว้ค่อนข้างกว้างทีเดียวครับ
โดยพื้นที่ส่วนนี้จะไปเชื่อมต่อพื้นที่ของห้องรับแขกและพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งจะปูด้วยกระเบื้องหินที่นำเข้าจากอิตาลีทั้งหมด
ห้องรับแขก วางโซฟาขนาดใหญ่ได้หลายชุด ใช้กระจกหน้าต่างบานใหญ่ติดตั้งให้โดยรอบ ช่วยให้บ้านดูโปร่งและสว่าง โดยจะสามารถเห็นวิวรอบๆบ้านได้หมด
พื้นที่รับประทานอาหารถือเป็นอีกจุดที่เป็นไฮไลต์ของบ้านเลยครับ เพราะเป็นโถงแบบ Double Volume สูงประมาณ 6.8 เมตร ช่วยให้บ้านดูหรูหราขึ้นเยอะเลยครับ
วางโต๊ะทานอาหารชุดใหญ่ได้เลย
บริเวณนี้มีพื้นที่ตรงมุมที่สามารถบิ้วอินเป็นตู้เก็บของใช้สำหรับการเตรียมจัดวางอาหารได้ด้วยครับ ผมว่าตรงนี้อาจทำเป็นตู้เก็บไวน์ก็ได้นะครับ
พื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร เชื่อมต่อกับชานหลังบ้าน ซึ่งที่มีพื้นที่พอสมควร พอจะจัดสวนหรือทำน้ำพุสวยๆได้ครับ
ถัดจากพื้นที่รับประทานอาหารเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนครัว (ซ้ายมือ) และห้องเก็บรองเท้า
ห้องเก็บรองเท้าใหญ่มาก คุณผู้หญิงที่มีร้องเท้าเยอะๆต้องชอบแน่ๆ
พื้นที่ครัวจะมีประตูบานเลื่อนกั้นเป็นโซนปิดให้ด้วย ทำให้สามารถทำอาหารหนักๆได้หรือเป็นส่วนของครัวไทยได้เลย
จะเห็นว่ามีพื้นที่ให้บิ้วท์อินชุดครัวได้ใหญ่มากเลยครับ และยังมีหน้าต่างระบายอากาศให้ด้วยครับ
ประตูตรงส่วนครัวจะนำออกไปสู่ห้องแม่บ้านครับ
โถงหน้าห้องแม่บ้าน เป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งพวกเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าได้ครับ
ที่นี่มีห้องแม่บ้านถึง 2 ห้อง และยังมีห้องน้ำให้แม่บ้านด้วยครับ
พื้นที่ชานข้างบ้านที่ติดกับพื้นที่ของแม่บ้าน สามารถใช้ตากผ้าได้
พื้นที่หลังห้องแม่บ้าน ถ้าต่อเติมออกมา จะมีพื้นที่ขึ้นมาอีกพอสมควรเลยครับ น่าจะใช้ประโยชน์ได้อีก
กลับมาดูในบ้านอีกที ส่วนนี้เป็นห้องที่ผมชอบมากเลยครับ เป็นห้องเอนกประสงค์ จะเห็นว่ามีทางเข้าเชื่อมต่อกับส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร
ตรงนี้ทางโครงการออกแบบเป็น ห้องเล่นหุ้นครับ ผมว่าเหมาะมากๆ เพราะพ่อบ้านสามารถเล่นหุ้นได้โดยไม่ต้องรู้สึกตัดขาดจากกิจกรรมภายในบ้าน เดินออกมาจากห้องก็เป็นห้องรับประทานอาหารและห้องรับแขกแล้ว
ส่วนของชั้น 1 ยังมีห้องนอนอีกนะครับ ซึ่งห้องนี้จะรองรับสำหรับเป็น ห้องนอนผู้สูงอายุได้อย่างดี เพราะไม่ต้องคอยขึ้นลงบันไดครับ
ห้องนอนดูกว้างทีเดียวครับ นอนและยังทำกิจกรรมอื่นได้สบาย ไม่อึดอัดเลย
มีฟังชั่น Eldercare Solution เพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุเตรียมไว้หมด ไม่ว่าจะเป็น พื้น SCG Soft Floor พื้นกระเบื้องยาง กันลื่นและกันกระแทก
พื้นห้องนอนและห้องน้ำอยู่ในระนาบเดียวกัน เพื่อให้ Wheelchair สามารถเข้าไปได้ ในห้องน้ำมีราวจับเตรียมไว้ให้อย่างดี
สุขภัณฑ์อัตโนมัติของ Kotler
ขึ้นมาดูชั้น 2 กันบ้างครับ ตัวบันไดใช้เป็นไม้แท้พร้อมราวกันตกที่ออกแบบให้เข้ากันอย่างดี
โถงบันไดมีช่องรับแสงเป็นกระจกบานใหญ่ ทำให้นอกจากบ้านจะดูหรูหราขึ้นมากแล้ว ยังช่วยเพิ่มแสงภสยในบ้านได้อีกด้วย
พื้นชั้น 2 ปูด้วยปาร์เก้ไม้มะค่าทั้งหมด
โถงทางเดินชั้น 2 มองลงไปจะเชื่อมต่อกับโถงรับประทานหาอาหาร
ห้องเอนกประสงค์ บริเวณนี้เชื่อมต่อกับโถงทางเดินชั้น 2 สามารถเลือกกั้นตกแต่งเป็นห้องพระหรือห้องอะไรก็ได้
ส่วนของห้องพักชั้น 2 จะมี 3 ห้องนอน ซึ่งมีการออกแบบให้ห้องนอนแต่ละห้องผนังไม่เชื่อมต่อกัน เรียกว่าแยกกันอยู่คนละมุมไปเลย ตรงนี้เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้นครับ โดยแต่ละห้องนอนมีพื้นที่กว้างและมีห้องน้ำในตัวทุกห้องครับ
ห้องนอนใหญ่ ต้องบอกว่าใหญ่จริงๆครับ ใหญ่ขนาดภายในห้องนอน มีส่วนห้องนั่งเล่นของตัวเองอยู่ภายในห้องด้วย
ถัดเข้าไปด้านในห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนของห้องนอนครับ
ตัวห้องนอนนี้มีระเบียงเชื่อมต่อหน้าบ้านด้วยครับ
นอกจากห้องนั่งเล่นของตัวเองแล้วยังมีส่วนของ Walk in Closet ด้วย
ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ ต้องบอกว่าหรูหราและกว้างมากครับ
พื้นปูด้วยหินอ่อนนำเข้าจากประเทศอิตาลี พร้อมมีอ่างน้ำที่รองรับระบบ Double Massage
ส่วนสุขภัณฑ์ก็เป็นระบบอัตโนมัติซึ่งเป็นนวัตกรรมจาก Kotler มี Censor เปิด-ปิดใช้งาน และยังควบคุมการทำงานผ่านรีโมทคอนโทรลอีกด้วย ไฮเทคมากๆ
ห้องนอนที่ 2
ห้องนอนที่ 3
ยังไม่หมดนะครับ ยังเหลืออีกห้องนึง หากสมาชิกในครอบครัวไม่มากนัก สามารถปรับเปลี่ยนห้องนอนนี้เป็น Entertainment Room ได้ครับ ตรงห้องนี้ทางโครงการทำเป็นห้องดูหนังครับ
โครงการติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้าของ DAIKIN และติด Wall paper ให้ในทุกห้องด้วยนะครับ
แน่นอนบ้านระดับนี้ คนที่อยู่ก็ต้องการความปลอดภัยมากๆครับ ทางโครงการเลยมีการติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมยที่หน้าต่างหรือประตูทุกบาน ทั้งระบบ Magnetic และ Shock Censor เพื่อป้องกันเรื่องการสั่นกระเทือน แรงกระแทก หรือแม้แต่เสียงการกรีดกระจก โดยระบบก็จะร้อง Alarm และส่งสัญญาณไปที่ป้อม รปภ. พร้อมส่งข้อความเตือนเข้ามือถือของลูกบ้านด้วย
นอกจากนี้ยังเตรียมระบบรองรับ สำหรับติดตั้งเทคโนโลยี Smart home และมีระบบสำหรับติดตั้งกล้องวงจรปิด Camera Dome 2 จุด ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง สามารถ Zoom ดูภาพได้ 360 องศา (ทั่วทั้งบ้าน) ทั้งยังควบคุมการทำงานผ่าน Smart Phone ได้อีกด้วย
หลังจากชมบ้านแล้ว คงได้แต่ฝันว่า ถ้าชาตินี้มีเงิน คงต้องซื้อแน่ๆ นี่เป็นบ้านที่ออกแบบมาสำหรับนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งในด้านการงานและครอบครัวจริงๆครับ มันมีพร้อมทุกอย่างจริงๆ ไม่ใช่แค่ตัวบ้านเท่านั้น ที่ผมว่าสำคัญกว่าตัวบ้านอีกนั่นคือ โลเคชั่นครับ ต้องบอกว่า นี่เป็นบ้านเดี่ยวโลเคชั่นติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์แห่งเดียวจริงๆ ผมไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีใครหาที่ดินมาทำบ้านแบบนี้ได้อีกมั้ย
ถ้าคุณเป็นคนที่พร้อมด้านการเงิน ไม่ว่าคุณจะซื้ออยู่เองหรือลงทุน ผมรับรองว่าที่นี่คู่ควรแก่การซื้อเก็บไว้จริงๆ มันจะเป็นสมบัติที่มีค่ามากๆในอนาคต เพราะบ้านโลเคชั่นแบบนี้หายากและเป็น Limited Edition มากๆ วันที่ผมไปดูโครงการขายล๊อตแรกเกือบหมดแล้ว เหลือแค่ 2 หลัง ทั้งที่พึงเปิดขายเมื่อปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมานี่เอง
ยังไงก็แล้วแต่ บ้านจะสวยจะโลเคชั่นดีแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือความอบอุ่นของคนในบ้านครับ ต่อให้คุณมีบ้านที่ดีที่สุด แต่ไม่มีความสุขก็ไม่มีประโยชน์ครับ
ราคาเริ่ม 25-60 ล้านบาท
ข้อมูลเพิ่มเติมโทร 1749
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษที่
หมายเหตุ : บ้านที่ทีมงานพาไปชมเป็นบ้านตัวอย่างนะครับ บ้านจริงจะไม่ได้ตกแต่งแบบนั้นทั้งหมดนะครับ ส่วนรายการไหนที่แถมให้บ้างหรือช่วงนี้มีโปรโมชั่นอะไรบ้างสามารถติดต่อขอชมบ้านพร้อมสอบถามฝ่ายขายได้เลยครับ
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
เมื่อวานนี้
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-10-28
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-10-21
Reference Ekkamai | ที่สุดของทำเลที่เป็นมากกว่าใจกลางเมือง เพราะนี่คือเอกมัยย่านแห่ง Design District สุดเจ๋ง ติดอันดับ 27 ของโลก ให้คุณสามารถออกแบบชีวิตอย่างมีสไตล์ได้แบบอิสระ
2024-10-17
Livinginsider - Weekly Insight Report [06-12 Oct 2024]
2024-10-15
ขอบคุณที่คอยอัพเดทข่าวสารให้ทราบค่ะ
ขอบคุณบทความแนะนำการกู็ซื้อบ้านมากค่ะ
อ่านเเล้วอยยากเห็นหน้านักเขียนเลยค่ะ 555555
เป็นกำลังใจให้ค่ะ เขียนดี รอติดตาม
ชอบมากค่ะ อ่านๆฟรีด้วย
ได้รับความรู้เยอะเลย