รายการโปรด
ห้องประกาศ-ซื้อขาย ไฮด์ สุขุมวิท 11
เคยมั้ยครับ? ไปพักผ่อนที่โรงแรมแล้วรู้สึกสบายจนไม่อยาก Check out ก่อนจะเดินออกจากโรงแรมรู้สึกฝืน ไม่อยากกลับ ห้องนอนของโรงแรมก็ขนาดใกล้เคียงกับห้องนอนที่บ้าน แต่กลับรู้สึกสบายและผ่อนคลายกว่า จนบางครั้งก็สงสัยตัวเองว่า อะไรทำให้เรารู้สึกแบบนั้น จริงๆแล้วมันมีหลายปัจจัยประกอบกันครับ
Location โรงแรมมักจะอยู่ใน Location ที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาขับรถวันละ 3 ชั่วโมง การใช้เวลากว่า 10% ของวันบนท้องถนนนี่หละครับ ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า ดึงพลังบวกและความรู้สึกผ่อนคลายออกไปจากตัวเราโดยเราไม่รู้ตัว เวลาเราพักผ่อนที่โรงแรมเราจะได้พลังส่วนนี้กลับมา
Facility ที่เพียบพร้อมก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้โรงแรมแตกต่าง พอเราไม่ต้องเสียเวลาไปบนท้องถนนทำให้เรามีเวลาว่างมากขึ้น ทำให้ Facility ที่เราอาจไม่เคยได้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านจะเริ่มเป็นสิ่งที่เรามองหา การมี Rooftop pool และ Rooftop Garden ไว้นอนจิบเครื่องดื่มเย็นในวันว่างเป็นเรื่องที่สุดพิเศษเลยทีเดียว
Service เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสุขจนไม่อยาก Check out การจัดการงานที่เป็นระบบและเข้าใจผู้อยู่อาศัยตั้งแต่เลี้ยวรถเข้ามาจนถึงห้องพัก ถ้าคุณลองสังเกตเวลาเข้าพักตามโรงแรมระดับสากล เมื่อคุณรู้สึกเหนื่อยจะมีโซฟาตั้งอยู่แถวนั้น เมื่อคุณถือของมาเยอะไม่มีมือเปิดประตูจะมีคนคอยเปิดประตูให้ เมื่อคุณกำลังมองหากาแฟดื่มจะหันไปเจอ Coffee shop ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะครับ ทุกอย่างเป็นสิ่งที่เจ้าของโรงแรมออกแบบมาเพื่อตอบสนอง Customer Journey ของโรงแรม
ห้องพักถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและตอบโจทย์การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นแปลนห้อง เครื่องใช้ไฟฟ้า Furniture แม้แต่กระจกระเบียงก็ต้องเป็นบานเต็ม ทำให้ได้รับ View จากมุมสูง High Rise Hotel แบบเต็มๆ
ปัจจัยพวกนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เมื่อเราใช้ชีวิตอยู่ในโรงแรมซักระยะแล้วจะไม่อยาก Check out จนหลายครั้งอดคิดไม่ได้ว่า…
“อยู่ต่อเลยได้มั้ย อยู่ยาวเลยได้รึเปล่า”
แต่เมื่อคำนวณค่าโรงแรมก็จำเป็นต้องตัดใจทุกครั้ง
“ซื้อเลยได้มั้ย ซื้อไว้ซักห้อง”
ความคิดพวกนี้ผมมีมาตั้งแต่เด็ก จนโตมาก็ลืมมันไปเพราะเริ่มเข้าใจว่า ”มันคงเป็นไปได้ยากที่ใครจะมาขายโรงแรมให้เรา เพราะมันไม่ได้ออกโฉนดได้เป็นห้องๆแบบคอนโด”
จนวันนึง ผมเดินทางไปต่างประเทศเจอโรงแรม HYATT ที่สร้าง Condominium ติดกับพื้นที่โรงแรมด้วยคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน หรือพูดอีกมุมนึงก็คือ เค้าสร้างมาสองตึก เหมือนกัน บนที่ดินผืนเดียวกัน ตึกนึงเอาไว้ทำเป็นโรงแรมเช่ารายวัน ส่วนอีกตึกนึงก็เอาไว้ทำเป็นโรงแรมแต่เอาไว้ขาย ทำให้คอนโดแบบนี้มีข้อดีเพราะนอกจากจะอยู่ในโลเคชั่นที่ดีเหมือนโรงแรมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ต่างจากโรงแรม 5 ดาวอีกด้วย
ผมเริ่มค้นใน Google ทันทีว่ามีแบบนี้ที่ไทยรึเปล่า ด้วยความเชื่อมั่นว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองเศรษฐกิจระดับต้นๆ ของเอเชีย อะไรที่ต่างประเทศมี กรุงเทพฯ ก็น่าจะมีเหมือนกัน
ปรากฎว่ามาเจอโครงการ HYDE Sukhumvit 11 ของ Grande Asset ซึ่งบริหารโรงแรมดังๆ มาแล้วมากมาย ทั้ง Sheraton huahin, Sheraton Pranburi, The Westin Grande และ Hyatt Regency โมเดลของโครงการนี้เหมือนที่ผมไปเจอที่ต่างประเทศเลย สร้างคอนโดด้วยมาตรฐานและอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงแรม (ปากซอยสุขุมวิท 11 ถึง 13 กำลังสร้างโรงแรม HYATT นะครับ อีกไม่ถึงปีก็น่าจะเปิดให้บริการ)
HYDE Sukhuvit 11
HYDE Sukhumvit 11 เป็นคอนโด High Rise สุดหรูที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง A49 ที่มีผลงานในโครงการใหญ่ๆ ในกรุงเทพมาแล้วมากมาย สูง 39 ชั้น มีทั้งหมด 453 ยูนิต สร้างอยู่บนพื้นที่ 2.5 ไร่
มาตรฐานของโครงการนี้ทั้ง Location ส่วนกลาง และ ตัวห้อง มันคือโรงแรมเลยทั้ง Automated Parking System และส่วนกลางลอยฟ้า เรียกได้ว่า HYDE Sukhumvit 11 เสมือนโรงแรมหรูที่ถูกเอามาแบ่งขายเป็นห้องๆ
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยความที่เป็นโรงแรมเลยถูกออกแบบให้มีห้องขนาด 1 ห้องนอน และ Studio ประมาณ 27-34.5 ตารางเมตร แตกต่างจากคอนโดระดับ Super Luxury ทั่วไปที่จะไม่ได้ทำห้องขนาดกะทัดรัดไว้เลย ทำให้ราคาเริ่มต้นของโครงการนี้คนทั่วไปจับต้องได้ เพียงแค่ 5 ล้านกว่าบาทเท่านั้น หายากนะครับคอนโดระดับนี้ที่ราคา 7 หลักกลาง ส่วนใหญ่เปิดมาก็เลย 8 หลักไปแล้ว
โครงการได้แรงบันดาลใจจากการตกผลึกของ Crystal ออกแบบยอดตึกเป็นรูปทรง Crystal shape ทั้งหมด 9 เหลี่ยม การตกกระทบของแสงบนยอด Crystal ผสมผสานทำให้ HYDE Sukhumvit 11 ดูโดดเด่น เมื่อเทียบกับตึกใกล้เคียงในบริเวณสุขุมวิทตอนต้นและ BTS นานา
ช่วงกลางวันอาคารจะดูเรียบง่ายอย่างมีระดับ เป็น Landmark ของโซนสุขุมวิทตอนต้น เพราะมีรูปทรง Crystal สะดุดตา ผนังภายนอกอาคารใช้กระจกเป็นวัสดุหลัก และมีการติดตั้งแผงอลูมิเนียมรอบด้าน สูงตลอดแนวอาคาร เปรียบได้กับผู้บริหารระดับสูง ฉลาด และมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จ
ส่วนเวลากลางคืนจะกลายเป็นตึกที่โดดเด่น ดึงดูด และน่าค้นหา ด้วยลูกเล่นการออกแบบ Lighting ที่สามารถปรับระดับแสงและสีสันไปตามแต่ละช่วงเวลา เปรียบได้กับสีสันของชีวิตที่มีระดับ
ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 11 ปากซอยเป็น BTS นานาและโรงแรม HYATT Regency ห่างเพียง 1 สถานีจากแยกอโศก เดินไป Terminal 21 สบายๆ ตรงนี้ถ้าคุณมาเดิน จะแทบไม่เห็นคนไทยเลย ถือเป็นย่าน International อย่างแท้จริง โดยผมสรุปข้อดีของย่านนี้ได้ดังนี้
1. เป็นศูนย์รวมของหลักของการคมนาคมทุกรูปแบบไม่ว่าจะ BTS หรือ MRT ทางด่วน หรือถนนธรรมดาก็ทะลุออกได้ทุกทิศทางของกรุงเทพฯ อีกทั้งยังใกล้ Airport Link อีกด้วย
2. เป็นจุดเชื่อมของเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสยามพารากอน EmQuartier สีลม ทองหล่อ หรือ พระราม 9 ไม่แปลกเลยที่อโศกจะกลายเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมของ Office ของบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก และแน่นอน สิ่งที่ตามมาคือเม็ดเงินและความต้องการที่อยู่อาศัย
3. รายล้อมไปด้วยสถานที่ตอบโจทย์ในการอยู่อาศัย โรงแรม โรงเรียน ออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาลมา.ตรฐานระดับโลก Heathland สถานทูต รวมไปถึง Exhibition hall และ สวนสาธารณะพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ผมเองก็ยังคิดไม่ออกว่าทำเลนี้ยังขาดอะไรอีก เท่าที่เห็นก็มีครบแล้วทุกอย่างแล้วจริงๆ
4. แหล่งรวมของอร่อย ร้านอาหารทั้งอาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารเยอรมัน อาหาร อิตาลี ว่ากันจริงๆ แล้วมีอาหารครบทุกชาติครับ ไม่เว้นแม้แต่อาหารตะวันออกกลางก็มีอร่อยหลายร้าน ราคาและคุณภาพมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งร้านอาหารราคาย่อมเยาว์สำหรับวันธรรมดา และร้านสำหรับวันพิเศษ หรือถ้าวันไหนอากาศร้อนก็เดินเข้าไปหาอาหารจานเด็ดในห้างสรรพสินค้าก็มีร้านดีๆ ไม่น้อย ลองร้านใหม่ได้ทุกวัน
HYDE Sukhumvit 11 ประกอบด้วย 2 อาคาร คือ
อาคาร A (อาคารพักอาศัย) 39 ชั้น จำนวน 453 ยูนิต (Facilities ที่อยู่ชั้นบนสุดตั้ง 37 -39)
อาคาร B (เป็นอาคารจอดรถ) Automate Parking Tower ที่มีชั้นบนสุดเป็นส่วนพักอาศัย (ที่จอดรถ 60%) 9 ชั้น จำนวน 45 ยูนิต
ห้องที่นี่แบ่งเป็น 6 ประเภท ตามนี้ครับ
ห้องสตูดิโอ ขนาด 27 - 28 ตร.ม. , 1 ห้องนอน ขนาด 33 - 34.5 ตร.ม. , 2 ห้องนอน ขนาด 53 - 63 ตร.ม. , 3 ห้องนอน ขนาด 85 - 88 ตร.ม. , Duplex ขนาด 60 ตร.ม. , Penthouse ขนาด 132 - 160 ตร.ม และ Villa ขนาด 178 ตร.ม. ซึ่งปัจจุบันห้อง Penthouse และ Villa หมดไปเรียบร้อยแล้ว
Facilities
ตัวโครงการมีการออกแบบ Facilities ต่างๆอยู่ด้านบนดาดฟ้าของอาคาร ทำให้คุณสามารถผ่อนคลายพร้อมทั้งชมวิวขอบฟ้าของเมืองหลวงไปด้วย นี่ถือเป็นโครงการที่มีส่วนกลางอลังการงานสร้างมากๆ สุดยอดจริงๆ
Double Volume Lobby
Rooftop-Fitness
Jacuzzi Swimming Pool
Green Garden
Meeting Area
Personal Theatre
Golf Simulator
Library
นอกจากนี้ยังมี Sauna Room & Steam Room, Kid’s Room และ Game Room เอาไว้เติมเต็มความสนุกให้กับเด็กๆ อีกด้วย เรียกได้ว่ามีทุกอย่างที่โรงแรม 5 ดาวมีครับ
อีกประเด็นนึงที่สำคัญคือ การมี Facilities ที่อยู่ชั้นบนสุดตั้งแต่ชั้น 37 -39 ทำให้ไม่ว่าลูกค้าของโครงการจะซื้อห้องชั้นไหน ลูกค้าก็สามารถเห็นวิวสูงจากยอด Crystalได้เหมือนกันหมด อีกทั้งยังมีนวัตกรรม Automatic Parking System ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นได้ ไม่ว่าจะซื้อห้องชั้นไหน ขนาดไหน เรียกได้ว่ารับส่วนกลางระดับ Super Premium จริงๆ
มาดูห้องตัวอย่างกันครับ
Floor Plan ของชั้น 2 ถึง 30 จะคล้ายกันคือเป็นรูปสี่เหลี่ยม มุมทั้ง 4 มุมเป็นห้องขนาด 2 ห้องนอน และด้านที่เหลือเกือบทั้งหมดเป็นห้อง 1 ห้องนอน มีห้อง Studio อยู่เพียง 1 ห้องต่อชั้น ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการเตรียมไว้คือห้องขนาด 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอนขนาด 58 ตารางเมตร ที่หันออกทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันตก (ด้านบนของรูปภาพด้านล่างคือทิศเหนือ)
ถ้าคุณซื้อไว้อยู่เองคงแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ถ้าคุณปล่อยเช่าให้กับคนเอเชียคุณอาจต้องเลี่ยงทิศตะวันตก แต่ถ้าคุณปล่อยเช่าให้คนอเมริกันหรือยุโรป บ่อยครั้งที่เค้าจะถามหาห้องทิศตะวันตก ถ้าคุณมีจุดประสงค์ในการซื้อชัดเจนจะทำให้เลือกห้องได้ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ
2 ห้องนอน 58 ตารางเมตร
กระจก ระเบียง และห้อง Master Bedroom ถูกออกแบบให้หันออกทางด้านทิศตะวันตก แทนที่จะเป็นทิศเหนือ เพราะทางทิศเหนือจะติดกับอาคารสูงอีกอาคารนึงทำให้บล็อควิวพอสมควร การออกแบบกระจกไปทางตะวันตกทำให้แม้ห้องจะอยู่ติดทิศเหนือแต่จะไม่เห็น และไม่รู้สึกถึงตึกที่อยู่ติดกัน แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบของ Developer จริงๆ ครับ
ห้องขนาด 2 ห้องนอน 58 ตารางเมตร มีให้เลือกสองด้านคือ ห้องระเบียงหันทางทิศตะวันตก และทิศตะวันออก โดยส่วนตัวผมชอบทิศตะวันตกมากกว่าสำหรับโครงการนี้ เพราะวิวหันไปทางฝั่งสยามพารากอน โล่งและสวยกกว่าอีกฝั่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นชั้นสูงกว่าชั้น 25 ขึ้นไป ได้เป็น Full Panoramic City view เลยครับ
ห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้าง เปิดเข้ามาจะเจอส่วนของห้องทานอาหารและนั่งเล่น เพดานสูงถึง 2.8 เมตร แอร์ฝังใต้เพดานมาตรฐานโรงแรม เย็นสบาย กระจกเต็มบาน ปูพื้นด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ทุกห้องมี Inter com สะดวกสำหรับเวลามีคนมาหา สามารถคุยและดูก่อนที่จะเปิดประตูได้
ตู้เย็นที่ได้เป็นของ Samsung ตู้เก็บของทุกใบเป็นแบบ Soft closed โดยมีตู้เก็บของอยู่บริเวณ Kitchen area และมีตู้ขนาดใหญ่ Hi-Gloss ติดตั้งบริเวณทางเข้าเพื่อสะดวกต่อการเก็บของและรองเท้า
ใกล้กับ Kitchen Area มีห้องนอนย่อย แม้ว่าจะเป็นห้องนอนย่อยก็ยังกว้าง วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบาย มีกระจกชมวิวเต็มบาน พร้อมตกแต่งด้วยพื้น Engineering wood แถมยังสว่างและโปร่งเพราะได้แสงธรรมชาติเต็มทั้งห้องอีกด้วย หรือถ้าใครอยากใช้เป็นห้องอ่านหนังสือหรือห้องทำงานก็เหมาะครับ
Master Bedroom กว้างและมีตู้เสื้อผ้า 2 ชั้นให้ พื้นทั้งหมดยังคงคุณภาพเป็น engineering wood มี Dressing zone แยกไว้อีกฝั่งของห้อง ใกล้กับห้องน้ำ เพื่อสะดวกต่อการอาบน้ำและแต่งตัว
ห้องน้ำเป็นพื้นเกรนิตโต้หินอ่อน ตกแต่งด้วยสีขาวครีม แยกพื้นที่เปียกและแห้ง มีห้องอาบน้ำแยกฝั่ง และห้องน้ำทั้ง 2 ห้องมีขนาดกว้าง ใช้สขุภัณฑ์ของ Kohler ตกแต่งด้วยกระจก อ่างล้างหน้าข้างล่างยังทำเป็นตู้เก็บของ เพื่อความสะดวกต่อการใช้งานอีกด้วย
1 ห้องนอน 34 ตรม
สำหรับใครที่มองหาห้องขนาดกะทัดรัดลงหน่อย ทางโครงการมีห้องขนาด 1 ห้องนอน และ Studio มาให้เป็นทางเลือกครับ แม้ขนาดจะไม่ใหญ่แต่ไม่อึดอัดเลย ออกแบบมาได้สมส่วน ลองไปดูรูปห้องกันเลยดีกว่าครับ แล้วคุณจะสงสัยเหมือนผมว่า นี่มันห้องขนาด 1 ห้องนอนจริงๆ เหรอ? เพราะมันให้ความรู้สึกกว้างมาก
การได้กระจกแบบ Full Height สูงจากพื้นจรดเพดาน ทำให้ดูสูงโปร่งและหรูหราจริงๆครับ
มีครบทุกฟังชั่น
HYDE Sukhumvit 11 เหมาะสำหรับใคร
ใครกำลังมองหาบ้านคุณภาพโรงแรม 5 ดาว ในทำเล 5 ดาว เพื่อใช้อยู่อาศัยเอง ผมแนะนำให้แวะมาดู HYDE Sukhumvit 11 เลยครับ ถึงแม้ราคาจะสูงซะหน่อยแต่ยังถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพและโครงการอื่นที่เป็น Super Luxury เหมือนกัน แถม HYDE Sukhumvit 11 ยังมีห้องขนาดไม่ใหญ่มากให้เป็นทางเลือก สำหรับคนที่ต้องการห้องขนาดพอประมาณ ในทำเล Super Luxury ในราคาไม่เกิน 6 ล้านอีกด้วย
อย่างที่ผมเขียนถึงอโศกอยู่เสมอ ทำเลนี้เป็น Now Or Never ที่ดินแทบไม่เหลือให้ใครซื้อกันได้อีกแล้ว นั่นหมายถึง Supply ที่แทบจะเพิ่มไม่ได้แล้ว ในขณะที่ Demand ของคนที่ต้องการเข้ามาในบริเวณนี้มากขึ้นทุกปี ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ถ้าเราอยากอยู่อาศัยในทำเลนี้ในระยะยาว แต่ตัดสินใจยังไม่ซื้อตอนนี้ ในอนาคตราคาอาจจะสูงขึ้นไปอีกมาก จนยากที่คนทั่วไปจะเป็นเจ้าของได้
สำหรับนักลงทุน แม้ว่า Yield ค่าเช่าของ HYDE Sukhumvit 11 จะดูค่อนข้างดี ประมาณ 5% แต่คงยากที่จะได้ Yield 8% ซึ่งเป็นระดับที่นักลงทุนปล่อยเช่ามักจะมองหา แต่ถ้าคุณพิจารณา Capital Gain (ราคาที่เพิ่มขึ้นในอนาคต) ซึ่งคาดหวังได้สูงจากทำเลนี้เข้าไปด้วย คุณสามารถคาดหวัง Net Yield ได้เกิน 10%
สำหรับการลงทุน ที่เน้นผลตอบแทนจากการเช่า ผมแนะนำห้องขนาด 1 ห้องนอนชั้น 20 ขึ้นไปนะครับ เพราะตลาดเช่าย่านนี้มีความต้องการเช่าที่มีงบประมาณไม่เกิน 50,000 บาท หนาแน่น และชั้น 20 ขึ้นไปจะไม่โดนบล็อควิวจากตึกรอบๆ จะปล่อยเช่าได้ง่ายครับ แต่ถ้าคุณสนใจห้องแบบ 1 ห้องนอนหรือสตูดิโอ ผมแนะนำว่าควรรีบเลยครับ เพราะเหลือน้อยมากๆแล้ว
แต่ถ้าท่านต้องการผลตอบแทนที่ได้ Capital Gain สูง (กำไรที่ได้ตอนขายต่อสูง) ผมแนะนำว่าต้องเป็นห้องใหญ่อย่างห้องแบบ 2-3 ห้องนอนเท่านั้นครับ เพราะจากประสบการณ์ของผม ห้องยิ่งใหญ่กำไรขายต่อยิ่งเยอะ แต่ค่าเช่าอาจได้ Yield น้อยกว่าห้องเล็กอยู่นิดนึงครับ
การลงทุนที่สามารถใช้เงินคนอื่นได้ 100% แถมคาดหวังกำไรได้ระดับ 10% นี่ไม่ธรรมดานะครับ ถ้าคุณมี Credit เหลือเพียงพอในการลงทุน และงบประมาณ 5-10 ล้าน ผมอยากให้คุณเก็บ HYDE Sukhumvit 11 ไว้เป็นทางเลือกในการลงทุนครับ โดยโครงการคาดว่าจะเสร็จช่วงเดือนกันยายน 2560 นี้แล้ว
ผมชอบ HYDE Sukhumvit 11 สำหรับ Section: Super Luxury สามารถตอบโจทย์ความเป็นโรงแรมและมีคุณภาพสุดๆ เหมือนซื้อโรงแรมเป็นของตัวเอง ตอนนี้ HYDE Sukhumvit 11 อยู่ใน Investment List ของผมละ
ใครสนใจจริงๆ อยากให้ลองเข้าไปดูครับ โครงการกำลังมี Promotion 158,000 บาทต่อตารางเมตรสำหรับ 2 ห้องนอน และ Fully Furnished สำหรับ 1 ห้องนอนและ Studio ให้ทุกอย่างที่ผมเขียนถึง
HYDE Sukhumvit 11
Video Presentation
ราคาเริ่มต้นที่ 5.8 ล้านบาท*
ข้อมูลเพิ่มเติม
02 651 0011
Website Developer
Website โครงการ
Livinginsider - Weekly Insight Report [08-14 Dec 2024]
2024-12-15
Aspire อิสรภาพ สเตชั่น คอนโดหนึ่งเดียวบนถนนวังเดิม ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินเพียง 350 ม. พุ่งตรงสู่ CBD โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย ตอบโจทย์คนวัยทำงาน
2024-12-13
Livinginsider - Weekly Insight Report [01-07 Dec 2024]
2024-12-09
เตรียมพบกับ… Nirvana @WORK กรุงเทพกรีฑา โมเดิร์น โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น 6 ระดับ ติดมอลล์ Early Bird Booking ราคาพิเศษเริ่ม 13.99 ลบ.*
2024-12-05
Livinginsider - Weekly Insight Report [24-30 Nov 2024]
2024-12-02
เหนือ Developer ก็มี Blogger นี่แหล่ะค่ะ ทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น ขอบคุณค่ะ
รีวิวเนียนดีค่ะ
5 ดาวไปเลยครับ
อ่านยังไงให้เสียตังงงงงงงง เขียนแบบนี้ต้องเสียตังแน่ๆ
well