รายการโปรด
ห้องประกาศซื้อ-ขาย The Nest สุขุมวิท 64
หลายปีที่ผ่านมา เมืองกรุงเทพฯ ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ความเจริญกระจายออกไปรอบทุกทิศทาง หนึ่งในทิศที่ความเจริญกระจายไปเยอะที่สุดคือด้านตะวันออก แม้ว่าถ้าคุณฟังนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์จะได้ยินคำติดปากที่ว่า…
”ข้ามคลองพระโขนงไปคือ สุขุมวิทตอนปลาย” ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงในอดีตครับ แต่ในปัจจุบันปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนไปมาก
ย่านปุณณวิถีถึงแยกบางนา กลายเป็นย่านคอนโดแนวรถไฟฟ้าทำเลทองของนักลงทุนและ Real Demand อย่างมนุษย์เงินเดือน ที่ต้องการหาบ้านที่สะดวกต่อการใช้ชีวิตและราคายังจับต้องได้ไม่แพงเกินไปจนได้แต่ฝัน
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบชั่วคราวนะครับ เพราะมันเกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของประเทศและเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนโลกไปอย่างรวดเร็ว Globalization ทำให้โลกเล็กลงเรื่อยๆ จากการติดต่อสื่อสารและการเดินทางข้ามประเทศที่รวดเร็ว
สมัยก่อนการทำงานต่างประเทศและเดินทางกลับไปหาครอบครัวทุกอาทิตย์แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่สมัยนี้ Expats ในไทยทำกันจนเป็นปกตินะครับ การเปลี่ยนแปลงนี้ดึงคนต่างชาติให้มาซื้อที่พักอาศัยและลงทุนในประเทศไทยจนทำให้ราคาที่ดินใน CBD ของไทยวิ่งตาม CBD ในต่างประเทศไปอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่ราคาเคยห่างกันเกินเท่าตัว
เมื่อราคาของอสังหาริมทรัพย์โซน CBD พุ่งสูงขึ้นมาก และไทยกำลังขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าที่สามารถทำให้การอยู่อาศัยห่างออกจากศูนย์กลางไม่ได้เป็นอุปสรรคอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นสำนักงานและแหล่งอำนวยความสะดวกเองก็กระจายตัวออกมา สร้างทำเลเปิดใหม่มากมายรอบกรุงเทพฯ
หนึ่งในทำเลเปิดใหม่ที่กำลังร้อนแรงเลยก็คือ…
Eastern Center Business District (ECBD) เป็นทำเลยอดนิยมที่กำลังมาแรง มีทั้งนักลงทุนและ Real Demand หนาแน่นในบริเวณนี้
อย่างที่เห็นกันไปแล้วคือสำนักงานใหญ่ของบริษัทข้ามชาติที่มีการจ้างงานกว่า 12,000 คน อย่างบริษัท DKSH อีกทั้งมีคลังน้ำมัน โครงการ Mixed use ขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างตรงรถไฟฟ้าปุณณวิถี BITEC Phase 2 ที่จะมีพื้นที่สำนักงานรวมถึงศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ และ Bangkok Mall ห้างสรรพสินค้าที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นหัวใจของกรุงเทพฯ ตะวันออก
การเดินทางจากปุณณวิถีในอดีตเคยต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงอโศก กลายเป็นแค่ 5-10 นาทีในปัจจุบัน ทำให้ปุณณวิถีและอุดมสุขไม่เป็นทำเลนอกเมืองอีกต่อไป
จุดเด่นที่ New CBD อื่นๆ ไม่มี แต่ ECBD มีคือ รถไฟฟ้าต่อเดียวถึงทองหล่อ อโศก และสยามครับ
ถ้าต่อรถไฟไปอีกเพียง 1 สถานี จะถึงสีลม สาธร และพระราม 9 อย่าลืมนะครับ จุดเด่นของทำเลประเภทนี้จะอยู่ไปตลอด ไม่เปลี่ยนไปตามเวลา
ทำเลคือคน แหล่งงาน แหล่งพักอาศัย การคมนาคม พาคนเข้ามาในพื้นที่ ไม่แปลกเลยที่ ECBD จะกลายเป็นทำเลยอดฮิตในปัจจุบัน เพราะการมาของคน จะนำสิ่งอำนวยความสะดวกมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารชื่อดัง ห้างสรรพสินค้า Tesco Lotus โรงเรียนนานาชาติ หรือโรงพยาบาล
ยิ่งไปกว่านั้น ในอนาคตย่านนี้จะมีไลฟ์สไตล์มอลล์เกิดขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะ Mega project Mix Used ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อย่างโครงการ " Bangkok Mall " ของกลุ่มเดอะมอลล์ มูลค่าลงทุนร่วมกว่า 20,000 ล้านบาท โดยมีพื้นที่รวมทั้งโครงการ 650,000 ตารางเมตร หากโครงการเสร็จสมบูรณ์จะเป็นศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ "กลุ่มโรงแรมชาเทรียม" ซึ่งมีพื้นที่รวมกันกว่า 100 ไร่ ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างปี 2561 นอกจากนี้ยังมีส่วนของอาคารสำนักงานและโรงแรมขนาดใหญ่อย่าง "ภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค" ซึ่งจะรองรับบริษัทอีกมากที่จะมาเช่าออฟฟิศที่นี่
Bangkok Mall
Mix Used By Chatrium
ภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค
ที่สำคัญที่สุดคือ Sky walk ระยะทางกว่า 1.7 กิโลเมตร เชื่อมจาก BTS บางนา – อุดมสุข ซึ่งปัจจุบันดำเนินการสร้างมาพอสมควรแล้ว ตรงนี้แหละจะทำให้ย่านนี้น่าอยู่ขึ้นอีกมากๆ เพราะจะเหมือน Skywalkที่คุณจะเดินเข้าออกห้างและไลฟ์สไตล์มอลล์ย่านนี้ได้ไม่ต่างจากแถวย่าน ราชประสงค์เลยครับ
เขียนมาถึงขนาดนี้ ผมคงต้องขอพาไปชมโครงการคอนโดที่น่าสนใจในทำเล ECBD ซะหน่อย เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาผมลงพื้นที่ วนดูคอนโดย่านสุขุมวิท 62, 64 และ 66 เพื่อมองหาคอนโดช้างเผือกครับ
ทำไมต้องเป็น 3 ซอยนี้ ?
3 ซอยนี้มี Real Demand หนาแน่น ปากซอยเป็นรถไฟฟ้าปุณณวิถี บางจากและอุดมสุข อีกทั้งเป็นสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ซึ่งราคาที่อยู่อาศัยยังไม่สูงมากนัก (แต่ก็สูงกว่า 5 ปีก่อนมาก) อีกทั้งยังใกล้ทางขึ้นลงทางด่วนตรงซอยสุขุมวิท 62 ทำให้ทำเลนี้สะดวกทั้งการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและรถส่วนตัว หรือแม้แต่ถ้าใครอยากไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ใช้เวลาไม่นานเลยครับ
จริงๆ ผมไม่ได้มาดูทำเลนี้หลายปีแล้ว พอมาอีกครั้งถึงได้รู้ว่าผมพลาดมากๆ เพราะทำเลแถวนี้ไม่ไกลจากทำเลที่ผมชอบลงทุนเลย และราคาขึ้นมาจากที่เคยตารางเมตรละประมาณไม่เกิน 60,000 บาท ตอนนี้ถึงแม้จะมีคอนโดอยู่ไม่น้อยทั้งเสร็จแล้วและกำลังจะเสร็จ แต่คอนโดเกือบทั้งหมดมียอดขายเกิน 80% และราคาเกิน 110,000 บาทต่อตารางเมตรไปแล้ว
ผมเลยรีบไปค้นข้อมูลราคาอสังหาริมทรัพย์ย้อนหลัง พบว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาราคาที่ดินบริเวณนี้ปรับขึ้นเฉลี่ยปีละ 15% และคอนโดปีละ 8-10% ซึ่งถือว่าสูง ที่สำคัญแนวโน้มนี้ไม่มีทีท่าจะผ่อนลงเลย สังเกตได้จากโครงการขนาดใหญ่ ที่กำลังจะเปิดในปีหน้า ซึ่งหากโครงการพวกนี้เปิดตัวได้อย่างสวยงามจะดึงศักยภาพของทำเลนี้ขึ้นไปอีกหลายระดับ
วนหาข้อมูลไปเรื่อยๆ จนมาสะดุดตากับคอนโดที่น่าสนใจโครงการนึง The Nest สุขุมวิท 64 สร้างโดย Developer เดียวกับ The Nest สุขุมวิท 22 ที่ผมเคยเขียนถึงในบทความก่อนหน้า ทำให้มั่นใจได้ในมาตรฐานของตัวโครงการ การออกแบบ และ คุณภาพของวัสดุที่ใช้ เพราะเราเห็นงานของเค้ามาแล้ว
ที่สำคัญคือ ราคา Excusive Presales (รอบก่อน Public Presales ที่เปิดให้เข้าเฉพาะคนลงทะเบียนเท่านั้น) อยู่ที่ประมาณ 88,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าคอนโดใกล้เคียงที่อยู่ในซอยบริเวณเดียวกันพอสมควร ประมาณ 15-20%
ทำเล The Nest สุขุมวิท 64 สามารถเข้าทั้งจากซอยสุขุวิท 64 ซึ่งปากซอยเป็น BTS ปุณณวิถี และซอยสุขุมวิท 66/1 ซึ่งปากซอยเป็น BTS อุดมสุข ที่ผมว่าสะดวกมากๆและเป็นจุดเด่นของซอยนี้ก็คือ สำหรับการใช้รถส่วนตัวคุณจะสามารถใช้ทางด่วนได้สะดวกมากๆครับ ตอบโจทย์ Mixed-Transportation Mode
เดี๋ยววันนี้ผมจะพาดูการเดินทางจากบีทีเอสไปที่โครงการกันครับ ถ้าเราลง บีทีเอสปุณณวิถี เราก็จะเจอปากซอยสุขุมวิท 64 เลยครับ
จากปากซอย ถ้าเราเดินเข้าไปในซอยจะเห็นว่า ซอยสุขุมวิท 64 เป็นซอยที่มีชุมชนที่พักอาศัยขนาดใหญ่ สภาพแวดล้อมของซอย ถือว่าปลอดภัยและสะอาดครับ โดยซอยนี้มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างบริการตลอดทั้งวันอีกด้วย
จากปากซอยก็ตรงมาเรื่อยๆเลยครับ ไปตามเส้นทางหลัก
จนมาเจอทางโค้งซ้าย จุดสังเกตคือเราจะเห็นคอนโด Elio อยู่ข้างหน้าเลย
บริเวณที่ว่างแปลงตรงทางโค้งซึ่งตรงข้ามคอนโด Elio นี่แหละครับคือ ที่ตั้งของโครงการ The Nest สุขุมวิท 64 ซึ่งจะอยู่ห่างจากบีทีเอสประมาณ 650 เมตรเท่านั้น
หรือถ้าเราจะใช้เส้นทางจากซอย สุขุมวิท 66/1 ก็ให้เราลงบีทีเอสสถานีอุดมสุขครับ
จากนั้นก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์เข้าไปที่โครงการ ก็จะมีระยะทางพอๆกันกับเข้าทางสุขุมวิท 64 ครับ
อย่างที่กล่าวไปตอนต้น ซอยนี้ไม่ได้ใกล้รถไฟฟ้าอย่างเดียวครับ ยังมีจุดเด่นอีกข้อนึงคือเรื่องของการใช้ทางด่วนที่สะดวกมากๆครับ โดยถ้าลงทางด่วน สามารถลงได้ตรงจุดที่จะออก สุขุมวิท 62 แล้วตรงลอดใต้สะพานไปเลย
ลอดใต้สะพานแล้วตรงไปเลยครับ
ตรงไปเรื่อยๆจนสุดทางแล้วเลี้ยวซ้าย
สังเกตด้านซ้ายมือจะมีคอนโดสีเหลืองๆครับ พอเลี้ยวซ้ายแล้ววิ่งไปตามทางหลักจะพาเรามาที่ซอยสุขุมวิท 64 เลยครับ สะดวกมากๆ
ส่วนขาขึ้นทางด่วนก็ใช้ถนนหลักสุขุมวิทแล้วมาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 62 แล้วตรงไปเรื่อยๆ จะเจอทางด่วนที่สามารถแยกไปได้ 2 ทางครับ คือ จะไปทาง ดาวคะนอง ดินแดง แจ้งวัฒนะ หรือ จะไป พระราม 9 รามอินทรา ก็ได้ เรียกว่าไปได้เกือบทุกที่เลยครับ (ถ้าไป พระราม 9 รามอินทรา สามารถเลี้ยวซ้ายออกก่อนถึงด่านเพื่อไปเข้าด่านข้างหน้าได้ จะเสียเงินต่อเดียวครับ)
นี่เป็นข้อดีมากๆ สำหรับซอยนี้เลย เพราะถ้าใช้รถส่วนตัวจะไปไหนมาไหน ค่อนข้างสะดวกมากๆ สำหรับคนที่จะไปอโศกหรือทองหล่อ แนะนำว่า ถ้าอยากเร็วอย่าใช้ถนนสุขุมวิทเพราะรถจะติดมาก ให้ใช้ทางด่วนตามนี้
ให้ขึ้นทางด่วนที่จะไป พระราม 9 รามอินทรา แล้วไปลงตรงพัฒนาการ(คลองตัน) จากนั้นเลี้ยวขวาขึ้นสะพานเข้าถนนเพชรบุรี ปกติใช้เส้นนี้ไปเอกมัย ทองหล่อ ไม่เกิน 20 นาที ถ้าไปถนนใหญ่บางวันเป็นเดินทางเป็นชั่วโมง
ลงทางด่วนเลี้ยวซ้ายหาจังหวะเบี่ยงขวาขึ้นสะพาน (ต้องระวังรถหน่อย) ถ้าเบี่ยงขวาไม่ได้ก็ตรงไปเลยครับ จะไปเข้าถนนเพชรบุรีบริเวณท้ายซอย เอกมัย ทองหล่อ
มาดูรายละเอียดโครงการกันบ้างครับ The Nest สุขุมวิท 64 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น สไตล์ Perfection in Practical Living มีด้วยกันทั้งหมด 3 Building (A, B, C) ทั้งหมด 439 ห้อง ตั้งอยู่บนเนื้อที่ถึงเกือบ 4 ไร่ ใหญ่มากนะครับเมื่อเทียบกับจำนวนห้อง
คุณจะได้พื้นที่ส่วนกลางที่กว้างขวางถ้าพักในโครงการนี้ ที่จอดรถได้ถึง 55% ไม่รวมซ้อนคัน อีกอย่างทำเลอย่างนี้คนที่อยู่อาศัยส่วนนึงจะเลือกไม่ใช้รถส่วนตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถไม่พอเลยครับ
ถนนด้านหน้าโครงการคือทิศตะวันตก ตรงข้ามเป็นคอนโด Low Rise ที่เกรดใกล้เคียงกัน แต่ราคาขายในตลาดตอนนี้สูงกว่าราคา Excusive Pre-Sales ของ The Nest สุขุมวิท 64 อยู่เกือบ 20%
ภายในโครงการแบ่งออกเป็น 3 อาคาร พื้นที่สีเขียวโดยรอบกว้างขวางเพื่อความเป็นส่วนตัวและกันเสียงรบกวนภายนอก
ส่วนทิศเหนือ ใต้ และตะวันออกยังคงความเงียบสงบ เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้ไม่สามารถสร้าง Condo สูงมากได้ ทำให้ความเงียบสงบนี้น่าจะอยู่คู่กับซอยสุขุวิท 64 ไปอีกนาน
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการถือว่ามีครบสมกับ Concept: Perfection of Practical Living ทั้ง Lobby, CCTV, Key card, Swimming pool, Fitness, Yoga, Movie room, Working space, Pantry area, Game room, Outdoor Living และ Rooftop Garden
Exclusive Lobby
Private Lobby
Private Lounge
Co-working Space
Swimming Pool
Outdoor Garden
Fitness Center
ห้องส่วนใหญ่ของโครงการเป็นแบบ Fully Furnished 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 28.5 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่พอดีสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยู่กัน 1-2 คน และมีห้องขนาด 2 ห้องนอนที่มีความกว้างประมาณ 40-50 ตารางเมตร ไว้สำหรับ New Family เพียงพอต่อการอยู่อาศัยระยะยาวของครอบครัวพ่อแม่ลูก
ตอนนี้ห้องตัวอย่างยังไม่เปิดให้เข้าชม จะเปิดให้เข้าชมวันแรกในงาน Exclusive Presales พร้อมกัน 26-27 สิงหาคม 2560 นี้ ตอนนี้ผมเลยขอเอา Room Plan มาฝากให้ดูกันก่อน
เปิดประตูเข้ามาจะเจอ Living Room โดยมี Dining room อยู่ด้านหลัง ออกแบบเผื่อไว้สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เน้นใช้ชีวิตแบบสบายๆ เปิดประตูเข้ามาก็ล้มลงพักบนโซฟา พักผ่อนได้ทันที หิวเมื่อไหร่ค่อยเดินไปห้องข้างหลัง
กระจกบานเต็มที่เปิดรับแสงตรงกับประตูทำให้ห้องดูโล่งขึ้น รวมไปถึงกระจกระเบียงในห้องนอนที่ทำให้ห้องนอนดูกว้างและโปร่ง พักผ่อนแล้วไม่อึดอัด
พื้นห้องใช้เป็นพื้นกระเบื้อง CERAMIC ผิวด้านและไม้ลามิเนตอย่างหนา สุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก American Standard ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ชุดครัวและตู้เสื้อผ้าให้เป็นแบบ Fitted Built-in
เรียกได้ว่าดูจาก Spec แล้วถือว่ามีมาตรฐานและใส่ใจรายละเอียด Room plan ก็แสดงให้เห็นถึงการใช้ประโยชน์จากทุกตารางเมตรของห้อง แม้จะเป็นห้อง 28 ตารางเมตร แต่คนอยู่อาศัยจะรู้สึกเหมือนห้องกว้างและประโยชน์ใช้สอยเกินพอครับ
นอกจากห้องขนาด 1 ห้องนอนแล้ว ทางโครงการยังเตรียมห้องขนาด 2 ห้องนอน ไว้รองรับ New Family อีกด้วย ถึงจะราคาสูงกว่าห้อง 1 ห้องนอน แต่จะได้ตำแหน่งห้องมุม สาสามารถติดกระจกรับวิวได้สองทิศทาง ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน ดูจาก Room Plan แล้ว ถือว่าออกแบบการใช้สอยได้ดีเหมือนห้อง 1 ห้องนอน แต่กว้างและโปร่งขึ้นมาก อีกทั้งยังมีห้องนอนเล็กไว้สำหรับรับรองแขกหรือเป็นห้องนอนลูกอีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับรายละเอียดเบื้องต้นของ The Nest สุขุมวิท 64 สำหรับผมถือว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจเลยทีเดียว ถ้าคุณกำลังมองหาบ้านสำหรับอยู่อาศัยที่สะดวกสบายทั้งความเป็นอยู่และการเดินทางในราคาที่คนรุ่นใหม่จ่ายไหว ผมอยากให้เก็บ The Nest สุขุมวิท 64 ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก
ราคาเฉลี่ยโครงการอยู่ที่ 88,000 บาทต่อตารางเมตร* ถูกกว่าโครงการเทียบเคียงถึงเกือบ 20% ถ้าซื้อตั้งแต่ตอน Exclusive Presales จะได้ราคาดีกว่าไปรอซื้อตอนเสร็จแล้วมาก ราคาตอนสร้างเสร็จน่าจะสูงกว่าตอน Exclusive Pre-sales ถึง 4-5 แสนต่อห้องขนาด 1 ห้องนอน
ที่สำคัญคุณยังมีเวลาเตรียมตัวอีกถึง 1-2 ปี ไม่ต้องซื้อแล้วรีบโอนทันทีเหมือนโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว หลายๆ ครั้งถ้าต้องรีบโอนอาจจะไม่สามารถหาธนาคารได้ทัน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ Bank ค่อนข้างระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่ออย่างช่วงนี้
ถ้าใครสนใจลงทุนบริเวณนี้และไม่ได้รีบมาก มีเงินเย็น The Nest สุขุมวิท 64 จะเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้และเสร็จพร้อมโอนในปี 2019 สามารถคาดหวังผลกำไร capital gain จากการลงทุนได้เกินกว่า 20% ในระยะเวลา 1-2 ปี เพราะยังไงราคาขายก็น่าจะขึ้นไปเทียบเคียงกับคอนโดข้างเคียงเมื่อก่อสร้างเรียบร้อย เผลอๆอาจจะสูงกว่าเพราะใหม่กว่าครับ
สำหรับคนที่สนใจลงทุนปล่อยเช่า(แบบผม) ทำเล Real Demand แบบนี้ ปล่อยเช่าได้ราคาพอสมควร ผมมอง Yield สำหรับปล่อยเช่าไว้ที่ประมาณ 6-7% ถือครองยาวๆ บนทำเลอนาคตอย่าง ECBD น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าขายทำกำไรออกไปตรงๆ
ถ้าคุณเป็นคนที่กำลังมองหาคอนโดที่มี Real Demand ผมไม่อยากให้พลาดที่จะเข้ามางาน Exclusive Pre-sales ครับ
มาเถอะครับ แล้วคุณจะรู้ว่า… “คอนโดทำเล Real Demand ในย่าน ECBD เป็นยังไง”
ใครสนใจจริงๆ ลงทะเบียนเพื่อเข้างาน Exclusive Pre-Sales ชมห้องตัวอย่างจริง พร้อมจองห้องได้วันที่ 26-27 สิงหาคม 2560 นี้ ตามลิงค์ข้างล่างได้เลยครับ
Website:
สอบถามข้อมูล
089-999-5181
092-354-9955
02-258-5553 ถึง 5
Website:
แผนที่โครงการ
https://goo.gl/maps/KwDgbto6ED62
Livinginsider - Weekly Insight Report [10-16 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-11-18
ขอบคุณบทความดีๆค่ะ
ชอบในการการลงบทความที่รวดเร็วค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกดี จะดีกว่านี้ถ้าโครงการลดราคาและให้ของฟรีด้วย อิอิ
น่าติดตามค่ะ