จับตาคู่ปรับเก่า”เบสท์ริน-ช.ทวี” ชิงดำเค้ก 3 พันล้านซื้อเมล์ NGV

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) อยู่ระหว่างเปิดประมูลซื้อรถโดยสาร NGV จำนวน 489 คัน วงเงิน 3,387 ล้านบาท คาดว่าจะได้ผู้ชนะประมูลภายในเดือน ก.ย.นี้ ส่วนรถโดยสารใหม่กว่า 1,000 คันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2561 นั้น จะเป็นการจัดซื้อรถเมล์ระยะต่อไปที่เหลือจากโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 3,183 คัน วงเงินกว่า 13,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลปัจจุบันได้ปรับแผนการจัดหารถโดยสารใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเป็นรถเมล์ประเภทไหน ระหว่าง NGV ระบบไฟฟ้าและไฮบริด

“เดิม ขสมก.มีแผนจะซื้อรถโดยสารใหม่เป็น NGV จำนวน 3,183 คัน ล่าสุดปรับแผนการจัดหาใหม่ เหลือ 3,000 คัน แยกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.ปรับปรุงรถเมล์เดิม 646 คัน 2.จัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน ซึ่งกำลังประมูล และ 3.การจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน ที่เหลืออีก 1,665 คันจะเป็นเฟสต่อไป”

นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ ขสมก.เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน ผลเปิดขายซองประมูลวันที่ 7 ส.ค.-11 ส.ค.ที่ผ่านมา มีเอกชนสนใจซื้อซอง 3 ราย ได้แก่ บริษัท ไทยเทคโนโลยี แอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด , บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด และกิจการร่วมค้า เจวีซีซี ประกอบด้วย บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน และ บจ.ขอนแก่น ช.ทวี (1993) มีกำหนดยื่นซองราคาในวันที่ 24 ส.ค. และเคาะราคาวันที่ 8 ก.ย.คาดว่าจะลงนามสัญญาภายในเดือน ก.ย.นี้ หลังจากนั้นจะมีการส่งมอบรถให้ภายใน 90 วัน คาดว่าจะได้รถเมล์ใหม่ลอตแรกภายในเดือน ธ.ค. 2560

“วันที่ 23 ส.ค.จะมีการประชุมบอร์ด หารือตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายให้จัดหารถเมล์ NGV ให้ได้เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน” นายประยูร

รายงานข่าวแจ้งว่า เป็นที่น่าจับตาว่าการประมูลครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีหรือไม่ เนื่องจากทั้ง 3 บริษัทที่ซื้อซองประมูล เป็นรายเก่าที่เคยยื่นประมูลมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด กับ กลุ่ม ช.ทวี ที่มีข้อร้องเรียนกันมาตลอด แม้ว่าประมูลครั้งล่าสุดบริษัท เบสท์รินจะเสนอราคาต่ำกว่าราคากลาง จาก 4,020 ล้านบาท มาอยู่ที่ 3,387 ล้านบาท แต่สุดท้าย ขสมก.ต้องยกเลิกผลประมูลและยกเลิกสัญญากับบริษัทเบสท์ริน เนื่องจากไม่จ่ายภาษีนำเข้าให้กับกรมศุลกากร ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังสามารถเข้าร่วมประมูลได้ หลังจาก ขสมก.ไม่ขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์)

อนึ่ง โครงการจัดหารถเมล์ NGV เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2548 จำนวน 6,000 คัน วงเงิน 1 แสนล้านบาท จากนั้นปรับเหลือ 4,000 คัน วงเงิน 1 แสนล้านบาท และปรับเป็นการเช่า 4,000 คัน วงเงิน 60,000 ล้านบาท จนมาเหลือ 3,183 คัน วงเงิน 13,162 ล้านบาท จนถึงปัจจุบันรวมเป็นระยะเวลา 12 ปี

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

https://www.prachachat.net/property/news-25788