News
icon share

แสนสิริเปิดกลยุทธ์ โตนอกบ้าน

LivingInsider Report 2017-10-16 15:39:52
แสนสิริเปิดกลยุทธ์ โตนอกบ้าน

 

แสนสิริเปิดกลยุทธ์ โตนอกบ้าน

 

การรุกตลาดและสร้างการเติบโตของยอดขายในต่างแดนเป็นแนวทางที่ เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มองไว้ว่าจะให้เป็นอีกช่องทางสร้างการเติบโตให้กับภาพรวมธุรกิจ 


หลังประเมินสภาพเศรษฐกิจในประเทศไทยช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ที่ยังขาดปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจขยายตัว“ที่ผ่านมายอดขายเรา 3 หมื่นล้านบาทและอยู่ระดับนี้มา ลองมานั่งคิดว่า ครั้งล่าสุดที่ประเทศพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเมื่อไหร่ น่าจะเป็น สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนหน้านั้นก็อีสเทิร์นซีบอร์ด ผมว่าเกือบๆ 30 ปีมาแล้ว ซึ่งเศรษฐกิจไทยจะบูมได้ต้องทำเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้นการจะสร้างการเติบโตได้ก็ต้องมาจากต่างประเทศ” เศรษฐา กล่าว


นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้แสนสิริ วางกลยุทธ์และรูปแบบการทำงาน พร้อมกับพัฒนาทีมงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา


โดยมองศักยภาพของตลาดจีน ว่ายังเติบโตได้อีกมาก จาก 5 ปัจจัย คือ “สภาพอากาศ” ประเทศจีนมีอากาศหนาวเย็นทำให้มีความต้องการเลี่ยงอากาศหนาวด้วยการหาที่พักอาศัยอีกแห่ง ซึ่งไทยเป็นอีกตลาดที่คนจีนให้ความสนใจ


“ราคา” และ “โอนกรรมสิทธิ์” เป็นอีก 2 ปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย  เพราะราคาในจีนแพงกว่า 3-4 เท่า


ที่จีนจะเป็น lease hold แต่ไทย free hold ที่โอนเป็นสมบัติได้ชั่วลูกชั่วหลาน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ “ผลตอบแทน” เฉลี่ย 5-7% จากการปล่อยเช่า และสุดท้าย บริการหลังการขาย ที่แม้จะอยู่ไกลแค่ไหนก็ออนไลน์ได้ง่ายๆ ด้วยโซลูชั่นต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นมารองรับ


ปัจจุบันแสนสิริเปิดสำนักงานในจีนแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ ปักกิ่ง เซินเจิ้น กวางโจว และเซี่ยงไฮ้ แต่ละเมืองจะมีกลยุทธ์ทางการตลาดจะแตกต่างกัน


กรุงปักกิ่ง เป็นฐานของตลาดชนชั้นกลางที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ ทั้งที่เป็นนักลงทุน และลูกค้าบุคคล


กวางโจว และเซินเจิ้น สภาพทางสังคมวัฒนธรรมและที่ตั้งอยู่ใกล้กับฮ่องกง จึงสามารถใช้วิธีการทำตลาดในรูปแบบเดียวกันได้


นอกจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน กลุ่มลูกค้าในจีนยังมองหาบ้านพักตากอากาศ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว อาทิ ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา


โมเดลการเติบโตทางธุรกิจของแสนสิริในช่วง 5 ปีมานี้และมองอนาคต มุ่งประสาน “จุดแข็ง” ที่ตัวเองมีกับพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกัน


การจับมือกันระหว่างแสนสิริ กับ บีทีเอส กรุ๊ป ที่ร่วมกันพัฒนาโครงการในแนวรถไฟฟ้า เป็นอีกกำลังสำคัญที่ทำให้แสนสิริ เร่งการเติบโตได้อีกมากในทันทีที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานพัฒนาได้อย่างเต็มรูปแบบและเศรษฐกิจในไทยขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้น


“โตคิวกรุ๊ป” พันธมิตรอีกรายที่ร่วมลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียม “taka HAUS (ทากะ เฮ้าส์)” รองรับกำลังซื้อลูกค้าจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่นเป็นอีกกำลังสำคัญของแสนสิริในการทำตลาดลูกค้าญี่ปุ่น


ล่าสุดเป็นการจับมือระหว่าง แสนสิริ และ Luen Thai Group Limited กลุ่มบรรษัทข้ามชาติซึ่งมีฐานการดำเนินธุรกิจอยู่ในฮ่องกง ทั้งธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ การประมง การท่องเที่ยว โลจิสติกส์และซัพพลายเชน ในตลาดประเทศจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจะเป็นอีกกำลังสำคัญในการเจาะกำลังซื้อกลุ่มลูกค้าชาวจีน


“การขยายเครือข่ายใน 4 เมืองก็เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มตามเมืองต่างๆ ได้มากขึ้น และการมีพันธมิตรทำให้เรามีความสัมพันธ์และฐานข้อมูลลูกค้าที่แข็งแกร่งขึ้น สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่มีศักยภาพได้” เศรษฐา กล่าว


ถึงตอนนี้ ตลาดจีนมาแรงแซงหน้า ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน ในฐานะตลาดต่างชาติหลักของแสนสิริในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยตั้งเป้าว่าจะมียอดขายที่ 3,500 ล้านบาทในปี 2560 และคาดว่าจะแตะ 4,500 ล้านบาทได้ในปี 2561


โดยภาพรวมของยอดขายตลาดต่างชาติเพิ่มขึ้นจาก 8,500 ล้านบาทในปี 2560 เป็น 12,000 ล้านบาทในปี 2561


ตั้งแต่ปี 2559 ตลาดฮ่องกง จีน และไต้หวัน เป็นตลาดต่างชาติสำคัญของแสนสิริ


จากข้อมูลการขายจนถึงวันที่ 31 มิ.ย.2560 แบ่งได้เป็นตลาดฮ่องกง 39%,จีน 32% สิงคโปร์ 18% และไต้หวัน 5%

 

 

ขอบคุณภาพและข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ

 

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/777099

 

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider