รายการโปรด
บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมแห่งการอยู่อาศัย เดินหน้าแผนการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบ แบรนด์ใหม่ “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” ที่อยู่อาศัยแห่งอนาคตภายใต้แนวคิด “สมาร์ท ลิฟวิ่ง – Smart Living”
โครงการแรกของประเทศไทย ที่ผสานเทคโนโลยีการก่อสร้างอันล้ำสมัยจากประเทศญี่ปุ่นเข้ากับนวัตกรรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย ด้วยมูลค่าการลงทุน กว่า1,000 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนด้านการตลาดและเทคโนโลยี จาก บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านระบบโมดูลาร์อันดับหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น ชูจุดเด่นโครงสร้างแบบโมดูลาร์ (Modular) ที่มีความแข็งแกร่ง
ช่วยป้องกันภัยแผ่นดินไหวได้สูงสุดที่ 350 แกล (7 ริกเตอร์) และนวัตกรรมแห่งการอยู่อาศัยที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ของคนยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง โดยเปิดโครงการด้วยราคาเริ่มต้น 5.8 ล้านบาท มั่นใจสามารถปิดการขายได้ภายปี 2560
คุณขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างที่สั่งสมมาจากบริษัท ฤทธา จำกัด ประกอบกับความสำเร็จในการสร้างสรรค์โครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ “SIAMESE – ไซมิส” นับเป็นการการันตีถึงคุณภาพ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยอย่าง
ด้วยความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์ ในทุกรายละเอียด จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับประสบการณ์ในการอยู่อาศัย และการใช้ชีวิตในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ตามสโลแกน “Asset of life…สร้างกำไรให้ทุกการใช้ชีวิต” ของบริษัทฯ ล่าสุดเราได้เล็งเห็นความสำคัญ ของนวัตกรรมที่มีผลต่อการดำรงชีวิตของคนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบภายใต้แบรนด์ “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” แบรนด์ใหม่ของบริษัทฯ
ซึ่งคำว่า “คิน – KIN” มีความหมายว่า “ทองคำ” ในภาษาญี่ปุ่น สื่อถึงคุณภาพอันสูงสุดของโครงการที่ทรงคุณค่าอันคู่ควรต่อการครอบครองดั่งทองคำ โดยได้รับการสนับสนุนด้านการตลาดและเทคโนโลยี จาก บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านระบบโมดูลาร์อันดับหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น
โดยบ้านทุกหลังในโครงการ “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” โดดเด่นด้วยการสร้างสรรค์และพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด “สมาร์ท ลิฟวิ่ง – Smart Living” ที่นำจุดเด่นจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทั้งสองบริษัทมาประยุกต์จนเกิดเป็นโครงการบ้านจัดสรร โครงการแรกของประเทศไทย ที่เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยในการประหยัดพลังงาน และเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวก ในการอยู่อาศัย และป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ตามมาตรฐานระดับโลก
รวมถึงทำเลที่ตั้งบนพื้นที่กว่า 23 ไร่บริเวณซอยรามอินทรา 64 ที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย- มีนบุรี สถานีวงแหวนตะวันออกซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2563 ทางด่วนฉลองรัชหรือทางด่วนเอกมัย-รามอินทราที่เชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว, รวมถึงวงแหวนรอบนอกตะวันออก (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9) ที่จะทำให้การเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ ออกไปตอนเหนือ หรือภาคตะวันออกก็ทำได้ง่ายไม่แพ้กัน
และแหล่งไลฟ์สไตล์อย่างศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ และเดอะ พรอมมานาด รวมถึงโรงพยาบาลสินแพทย์ และพญาไทนวมินทร์ หรือถ้าเป็นสถาบันการศึกษา ก็มีทั้งโรงเรียนสาธิตพัฒนา เลิศหล้า โรงเรียนบดินทร์เดชา 2 เป็นต้น
ซึ่งโครงการ “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” ประกอบด้วยบ้านจำนวน 107 ยูนิต แบ่งออกเป็นบ้าน KIN CHOU พื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร จำนวน 12 ยูนิต KIN OKU พื้นที่ใช้สอย 200 ตารางเมตร จำนวน 31 ยูนิต KIN MAN พื้นที่ใช้สอย 182 – 188 ตารางเมตร จำนวน 28 ยูนิต และทาวน์โฮม KIN SEN พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร จำนวน 36 ยูนิต โดยราคาเริ่มต้นของโครงการอยู่ที่ 5.8 ล้านบาท
ซึ่งเหตุผลที่บริษัทสามารถกำหนดราคาได้ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาดเป็นเพราะบริษัท วางกลยุทธ์ในการบริหารสินทรัพย์ (Land Bank) ควบคู่กับการหาพันธมิตรในการ ทำการตลาดเพื่อนำเสนอโครงการที่มีคุณภาพสูงภายใต้วิสัยทัศน์ที่ต้องการมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าได้มากที่สุด
คุณคาทสึมิ ฮอมมะ ผู้อำนวยการแผนกส่งเสริมกิจการต่างประเทศ บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์ในการสร้างบ้านที่นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยภายในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 70 ปี ทำให้บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและรับรู้ถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ซึ่งภายใต้การสนับสนุนในด้านการตลาดและเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต “ไซมิส คิน –SIAMESE KIN”
บริษัทฯ ได้วางรากฐานความมั่นคงของการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยี การก่อสร้างบ้านตั้งแต่โครงสร้างและงานระบบ อาทิ
• โครงสร้างบ้านแบบโมดูลาร์ (Modular) ที่ออกแบบโครงเหล็กคุณภาพสูงแบบ Box Ramen Structure Module ที่แข็งแรง ทนทาน และสามารถยืดหยุ่นได้ ทำให้รองรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้สูงถึง 350 แกล (ประมาณ 7 ริกเตอร์) ตามมาตรฐาน JIS ประเทศญี่ปุ่น พร้อมเคลือบสาร ZAM ที่ช่วยป้องกันสนิมให้กับโครงสร้างเหล็ก สามารถยืดอายุการใช้งานได้นับร้อยปี
• ระบบผนัง Thermal & Sound Insulated System ผนังป้องกันความร้อนและเสียงรบกวนด้วย Ceramic wall ภายนอก และ Insulated Wall ผนังสมาร์ทบอร์ดที่มีฉนวนภายใน ควบคู่กับ Air Tightness System วงกบที่ฝังลงไปในโครงสร้างบ้านรวมถึงระบบซีลปิดช่องว่างทุกรอยต่อช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก
• ระบบหมุนเวียนอากาศ Air Factory ช่วยเติมอากาศบริสุทธิ์และออกซิเจนภายในบ้าน พร้อมการ กรองอากาศด้วยฟิลเตอร์ถึง 3 ชั้น อาทิ ฝุ่นละออง สารเคมี กลิ่น เป็นต้น
• ระบบห้องน้ำแบบญี่ปุ่น ที่มีโครงสร้างเป็นอิสระกับบ้านหมดปัญหาน้ำรั่วซึมสู่ส่วนอื่นๆ
• ระบบ Solar Power System ที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 17,500 บาท/ ปี
พร้อมทั้งเพิ่มนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์และช่วยเพิ่มคุณภาพในการอยู่อาศัยอาทิ ระบบความปลอดภัยด้วยระบบประตูบ้านนิรภัยที่เปิดปิดง่ายเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินและระบบล็อกจากภายในถึง 3 ชั้น ซึ่งทั้งหมดผลิตภายในการควบคุมด้วยหุ่นยนต์ของโรงงาน SCG HEIM ที่มีมาตรฐานสามารถตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยในทุกขั้นตอน
นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วย Home Automation ระบบอัจฉริยะควบคุมการทำงาน ด้วยโทรศัพท์มือถือ อาทิ ควบคุมการทำงานการเปิดปิดแสงสว่าง ระบบม่านไฟฟ้า ระบบเครื่องปรับอากาศ และระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านอย่าง Door Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในบ้าน และ CCTV รวมทั้ง Floor Service ที่ได้วางงานระบบท่อทุกอย่างใต้พื้นบ้าน ซึ่งถูกยกสูงขึ้นมา 55 เซนติเมตรจากระดับดิน หากต้องการซ่อมแซมท่อในอนาคต ก็สามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องทุบพื้น
คุณขจรศิษฐ์ กล่าวเสริมว่า “โครงการนี้มุ่งเน้นการสื่อสารเจาะกลุ่มครอบครัวที่มองหาที่อยู่อาศัยที่รองรับด้วยนวัตกรรมแห่งอนาคตเป็นหลัก โดยได้ทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท พร้อมทั้งสร้างบ้านนวัตกรรมตัวอย่าง (Pavilion) เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์โดยตรงให้กับลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมภายในโครงการได้เห็นถึงนวัตกรรมสำคัญของบ้าน อาทิระบบการซ่อมบำรุงท่อ และระบบไฟฟ้า ระบบหมุนเวียนอากาศ โครงสร้างเหล็กแบบ โมดูลาร์ (Modular) ระบบผนัง Insulated ที่มีฉนวนกั้นความร้อนและเสียง เป็นต้น
ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าโครงการจะเสร็จสิ้นภายในปี พ.ศ. 2561 โดยโครงการ Siamese KIN มีกำหนดการเปิดจองอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 และมั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายภายในปลายปีนี้ ด้วยยอดสูงถึง 100%”และพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนสมาชิก Exclusive Members กับทางโครงการผ่านทางเว็บไซต์ www.siameseasset.co.th
รับสิทธิ์เข้าชมโครงการก่อนใครในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 พร้อมรับของสมนาคุณพิเศษมูลค่ากว่า 1,500,000 บาท โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานขาย “ไซมิส คิน – SIAMESE KIN” โทร 081-931-411หรือ www.siameseasset.co.th
CMC ฉลอง 30 ปี มาพร้อมดีลแรง แจกรับรถหรู AVATR 11 มูลค่า 2,099,000 บาท พร้อมของแถม 30 เด้ง ในงาน มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46
2024-11-01
“ออริจิ้น-บริทาเนีย” ขนทัพบ้าน-คอนโด จัดแคมเปญ “จุ่มเด็ด Secret Deals” ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46
2024-10-31
เปิดตัว ‘Whizdom The Forestias Petopia’ คอนโดเพื่อคนรักสัตว์ สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ครบทุกฟังก์ชันเพื่อสัตว์เลี้ยง พร้อมบริการ day care ภายในโครงการ
2024-10-31
ศุภาลัย เปิดตัว Hub ใหม่พื้นที่ 205 ไร่ ประเดิมบ้านเดี่ยว “ศุภาลัย แกรนด์วิลล์ สุขุมวิท-บางนา” ชูไฮไลต์ฟังก์ชันใหญ่ สไตล์ Tropical Modern เริ่ม 5.99 ลบ.*
2024-10-30
บ้านในฝันของคุณเป็นอย่างไร? เปลี่ยนฝันให้เป็นจริงกับ 6 โครงการน่าอยู่!
2024-10-30
รอติดตามเธออยู่นะจ๊ะ
ดีค่ะ มีแต่เรื่องน่าสนใจ
ริวิวเวอร์จริงๆค่ะ ฮ่าๆ ครบถ้วนดี
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ
ชอบไอเดียค่ะ ได้แบบใหม่ๆอีกเยอะเลย