อยุธยารีแบรนดิ้งดัน AYB บุกรับสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ท ปีหน้าส่งซิกเปิดรับพันธมิตรบุกต่างจังหวัด เจาะลูกค้า 8-40 ล้าน

อยุธยารีแบรนดิ้งดัน “AYB” บุกรับสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ท ปีหน้าส่งซิกเปิดรับพันธมิตรบุกต่างจังหวัด เจาะลูกค้า 8-40 ล้าน

นายธีร์ บุญวาสนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อยุธยา สร้างบ้าน จำกัด และกรรมการสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า หลังจากรีแบรนด์จากอยุธยา สร้างบ้าน มาเป็น AYB Resort House-AYB โดยมีจุดแข็งรับสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ต เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

ทั้งนี้ มุมมองของธุรกิจรับสร้างบ้าน ตัวบ้านควรมีฟังก์ชันสอดรับกับไลฟ์สไตล์เจ้าของบ้าน จุดโฟกัสอยู่ที่การสร้างบรรยากาศการอยู่อาศัย แยกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.บ้านริมน้ำ มีพื้นที่การพักผ่อน ระเบียงริมน้ำ บรรยากาศน้ำเป็นตัวเชื่อมโยงฟังก์ชันในบ้าน ภายใต้แบบบ้านวอเตอร์ฟรอนต์

“คำว่ารีสอร์ตเฮาส์ไม่จำเป็นต้องอยู่ตามภูเขา เราสามารถสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ตแต่ทำเลอยู่ใจกลางเมือง”

2.ฮิลล์ไซต์ซีรีส์ เน้นคนชอบธรรมชาติ เช่น สร้างบ้านบนเขาใหญ่ เขาค้อ เพราะต้องการเนินดินเนินหญ้า มีสเต็ป เวลามองวิวจากมุมที่สูงกว่าจะได้ทิศทางที่แตกต่าง เป็นบ้านเล่นระดับ มีเนินดิน คอนทัวร์ โดยสามารถก่อสร้างเป็นบ้านมีเนินดิน

3.กรีนเนอรี่ซีรีส์ บ้านที่เน้นสีเขียว บรรยากาศต้นไม้ ป่าไม้ นำคอนเซ็ปต์กรีนฟอเรสต์มาเชื่อมโยงในบ้าน มีฟังก์ชันสวนหลังบ้าน-กลางบ้าน-หน้าบ้าน เน้นความร่มรื่น การจัดภูมทัศน์ให้ทุกห้องได้สัมผัสธรรมชาติ

4.อะคิเทก-คัลเจอรัล เป็น “achitural” เน้นสื่อถึงสถาปัตยกรรมที่นำเสนอศิลปวัฒนธรรมด้วย เป็นแบบบ้านที่เป็นจุดเด่นของ AYB เช่น บ้านไทยภาคเหนือ บ้านสไตล์โคโลเนียลในยุครัฐบาลที่ 3-4-5 ไม่ใช่การสร้างบ้านเลียนแบบบ้านโบราณ แต่ดึงจุดเด่นของแบบบ้านแต่ละยุคสมัยมานำเสนอ

“ที่ผ่านมาเคยสร้างในซอยอ่องเอี่ยม ตรงข้ามเซ็นทรัล บางนา สร้างบ้านไทยประยุกต์ซึ่งปรับแบบบ้านมาจาก Achitural โดยแบบบ้าน 4 ซีรีส์มีแบบบ้านรวม 50 แบบบ้าน”

บริษัทเปิดกว้างในการรับพันธมิตรในต่างจังหวัด บริษัทมีรายได้จากค่าฟีของแบบบ้าน, ค่าบริการดูแลแนะนำให้คำปรึกษา 5% ขณะเดียวกันเปิดรับพันธมิตรจัดสวน เพื่อร่วมกันพัฒนาแบบบ้านตั้งแต่ต้นทาง เพื่อให้แบบบ้านเป็นแบบบ้านที่มีชีวิต

นายธีร์กล่าวว่า ก่อนรีแบรนด์บริษัทรับสร้างบ้านราคา 6 ล้านบาทขึ้น หลังจากใช้แบรนด์ AYB มีลูกค้าสร้างบ้านราคา 10-20 ล้านบาทขึ้น ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนานขึ้น โดยกลุ่มหลักราคา 10 ล้านบาท สัดส่วนลูกค้า 80%

ทั้งนี้ บริษัทรับสร้างบ้านตั้งแต่ราคา 8 ล้านบาท เฉลี่ยพื้นที่ใช้สอย 300 ตารางเมตร โดยบ้านหลังสูงสุด 40 ล้านบาท

โดยแบบบ้านสไตล์รีสอร์ตส่วนใหญ่ก่อสร้างบนที่ดิน 200 ตารางวาขึ้น เจาะลูกค้าแพทย์ ชาวต่างชาติ นักธุรกิจ มีไลฟ์สไตล์ชอบการท่องเที่ยว ใช้เวลาตัดสินใจสร้างนานขึ้นเป็น 6-8 เดือน โดยมีสัดส่วนลูกค้าบอกต่อ (word of mouth) 60% ของรายได้รวม

ปีนี้ตั้งเป้ายอดสัญญา 172 ล้านบาท แต่เนื่องจากระยะเวลาการก่อสร้างบ้านหลังใหญ่ทำให้การส่งมอบต้องสร้างนานข้ามปี ดังนั้นจึงปรับเป้าเหลือ 160 ล้านบาท ปีหน้าตั้งเป้ารายได้ 176 ล้านบาท โดยการรีแบรนดิ้งเป็นแผน 3 ปี (2560-2562) คาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

ก่อนรีแบรนด์ราคารับสร้างบ้าน 18,500-22,000 บาท/ตารางเมตร ปัจจุบันราคาเฉลี่ยปรับขึ้นเป็น 20,000-26,000 บาท/ตารางเมตร

สำหรับพื้นที่การตลาดรัศมี 200-300 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ โดยรายได้ 60% มาจากจังหวัดปริมณฑล โดยโซนหลักมากกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกเพราะมีเจ้าของโรงงานเยอะ กับโซนกรุงเทพฯ ตะวันออกเนื่องจากเป็นทำเลอยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม

“ลูกค้าใช้เวลาตัดสินใจนานขึ้นเนื่องจากเป็นบ้านหลังใหญ่ โดยการแข่งขันในธุรกิจรับสร้างบ้านไม่สูง แต่จะแข่งขันกับโครงการจัดสรรสไตล์รีสอร์ตมากกว่า ซึ่งลูก้ามีการเปรียบเทียบว่าจะซื้อบ้านในโครงการจัดสรรหรือซื้อที่ดินเปล่าแล้วสร้างบ้านเอง”

ในด้านแรงงานก่อสร้าง ปัจจุบันบริษัทใช้แรงงานต่างด้าวน้อยมาก โดยค่าช่างฝีมือปรับตัวขึ้นตกวันละ 500-600 บาท ซึ่งต้นทุนแรงงานเป็นส่วนหนึ่งทำให้ต้นทุนสร้างบ้านราคาสูงขึ้นในปัจจุบัน

นายธีร์กล่าวถึงภาพรวมตลาดรับสร้างบ้าน ไตรมาส 3/60 เป็นต้นมาตลาดเริ่มดีขึ้น โต 10% จากไตรมาส 3/59 คาดว่าปีหน้าจะเป็นทิศทางขาขึ้น มาจากปัจจัยการลงทุนภาครัฐทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลสัญญามีการเลือกตั้งทำให้คนเริ่มมีความั่นใจ

“เดิมลูกค้ามีที่ดิน รอการปลูกบ้านแต่รอความมั่นใจสร้างที่อยู่อาศัย ก่อนปี’58 เคยใช้เวลาตัดสินใจ 3-4 เดือน จากนั้นปี’58-60 ลูกค้าใช้เวลาตัดสินใจนานขึ้น 6-8 เดือน”

นายธีร์กล่าวตอนท้ายว่า คาพาซิตี้สร้างบ้านปีละ 15 หลังเพื่อต้องการควบคุมคุณภาพ โดยแต่ละหลังใช้เวลาก่อสร้าง 12-18 เดือน

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

https://www.prachachat.net/property/news-75530