บิ๊กรับสร้างบ้าน-อสังหาฯระบุขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกระทบไม่หนัก จับตาแรงงานต่างด้าวทะลักเข้าไทย

บิ๊กรับสร้างบ้าน-อสังหาฯระบุขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกระทบไม่หนัก จับตาแรงงานต่างด้าวทะลักเข้าไทย

บิ๊กสมาคมไทยรับสร้างบ้าน-ภาคอสังหาฯ วิเคราะห์ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ไม่กระทบต่อภาคอสังหาฯหนักเท่าปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวที่จะทะลักเข้าไทย ขณะที่ต้นทุนของอสังหาฯ หลักๆมาจากค่าที่ดิน 

นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THBA) กล่าวถึงการประกาศปรับค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศว่า ไม่น่ากระทบกับกลุ่มแรงงานฝีมือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นช่างฝีมือคนไทยและมีจำนวนไม่มาก อย่างไรก็ตาม ต้องมาติดตามและพิจารณาว่าการปรับค่าแรงในครั้งนี้ จะส่งผลต่อการปรับค่าแรงของกรรมกรหรือแรงงานต่างด้าวหรือไม่

เนื่องจากในปัจจุบันแรงงานระดับกรรมกรนั้นเกือบ100% เป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าว ดังนั้น หากการปรับค่าแรงดังกล่าว นับรวมถึงการปรับค่าแรงกรรมกรต่างด้าวด้วย เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนแรงงานพอสมควร 

“ต้นทุนแรงงานต่อการก่อสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้น ถือไม่สูง แต่หากเป็นการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ถือว่าต้นทุนแรงงานมีค่อนข้างสูง เพราะผู้รับเหมาส่วนใหญ่จะใช้แรงงานกรรมการในการแบกหามและงานเบ็ดเตล็ด ทำให้ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก”

ทั้งนี้ สิ่งที่กังวลคือ ผลพวงจากการปรับค่าแรง เพราะหากมีการปรับค่าแรงให้แรงงานระดับกรรมกร ก็จะต้องมีการปรับค่าแรงให้กับช่างฝีมือเพิ่ม เพราะการปรับค่าแรงจะต้องให้สอดคล้องกัน ระหว่างค่าแรงของกรรมกรและช่างฝีมือ และที่สำคัญต้องดูผลกระทบที่จะเกิดกับค่าครองชีพด้วยว่าจะปรับตัวสูงขึ้นหรือไม่ เพราะแน่นอนจะมีการร้องขอ ให้มีการปรับค่าแรงในระดับบนขึ้นไปด้วย

นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH กล่าวว่า มีผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างน้อย เนื่องจากในปัจจุบันบริษัทอสังหาฯส่วนใหญ่นำเทคโนโลยีด้านการก่อสร้างเข้ามาใช้ทดแทนการใช้แรงงานค่อนข้างมากแล้ว โดยเฉพาะระบบก่อสร้างแบบพรีแฟบ หรือ ระบบก่อสร้างสำเร็จรูป ซึ่งช่วยในเรื่องการลดการใช้แรงงานการก่อสร้างและเพิ่มศักยภาพงานก่อสร้าง โดยเฉพาะลดระยะเวลาการก่อสร้างได้ดีขึ้น 

“แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ นำระบบก่อสร้างสำเร็จรูปเข้ามาใช้ตั้งแต่ช่วง 7-8ปี ที่แล้ว ทำให้ลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานและปัญหาค่าแรง หรือใช้แรงงานลดลง ดังนั้นแรงงานหลักๆที่มีอยู่ในปัจจุบันคือแรงงานฝีมือหรือช่างฝีมือ”

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ตนเป็นห่วงภาคธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) รวมถึงร้านค้าโชห่วย ที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรง เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เข้าถึงแหล่งเงินได้ต่ำกว่าธุรกิจอื่น ขณะที่เป็นกลุ่มที่มีค่าจ้างต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ นั่นจะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับเอสเอ็มอี

ซึ่งผลที่จะอาจจะตามเรื่องการขึ้นค่าแรง คงต้องมามองเรื่อง แรงงานต่างด้าว ที่จะไหลเข้ามาและกลายเป็นปัญหา เนื่องจากค่าแรงในประเทศเพื่อนบ้าน ยังต่ำกว่าประเทศไทย ยกเว้นประเทศมาเลเซียที่อัตราค่าจ้างยังสูงอยู่ ดังนั้น เรื่องกระบวนการดูแลแรงงานต่างด้าว จะต้องดำเนินการให้มีความถูกต้องและสมบูรณ์ และมีการตรวจสอบคุณสมบัติในประเทศไทย แทนที่ต้องเดินทางไปตรวจยังประเทศตนเอง ซึ่งใช้เวลาที่นาน 

" แม้ว่าที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ จะนำระบบก่อสร้างสำเร็จรูปมาใช้ในการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัย แต่จริงๆแล้ว ต้นทุนยังไม่ถูกปรับลดลง ยังสูงประมาณ 10-13% ตรงนี้ยังไม่คุ้ม เพราะวอลุ่มการใช้ยังไม่มีปริมาณที่มาก สปรีดไม่เร็ว ไม่เร็วเหมือนการเทน้ำ "

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ "SIRI" กล่าวว่า การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ไม่กระทบต่อต้นทุนของการพัฒนาโครงการ มากกว่าต้นทุนจากราคาที่ดิน ซึ่งการขยับค่าแรงครั้งนี้ น่าจะมีผลต่อทุนการก่อสร้างไม่มากประมาณ 2-3% และตนเชื่อว่า รัฐบาลจะมีวิธีบริหารจัดการเรื่องการขึ้นค่าแรงอยู่แล้ว.

ขอบคุณภาพและข่าวจาก MGR ONLINE

https://mgronline.com/stockmarket/detail/9610000005962