ริชี่เพลซ จ่อผุด 4 คอนโดใหม่มูลค่ารวม 7พัน-1หมื่นล. บุกทำเลเอกมัยผุดคอนโดไฮไรส์ 39 ชั้น

“ริชี่เพลซ” จ่อผุด 4 คอนโดใหม่มูลค่ารวม 7พัน-1หมื่นล. บุกทำเลเอกมัยผุดคอนโดไฮไรส์ 39 ชั้น

“ริชี่เพลซ” จ่อผุด 4 คอนโดใหม่มูลค่ารวม 7 พัน-1 หมื่นล้าน บุกทำเลเอกมัยผุดคอนโดไฮไรส์ 39 ชั้นขายต่ำ 2 แสน/ตร.ม.

ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนเปิดตัวใหม่ 4-5 โครงการ มูลค่ารวมกันไม่เกิน 10,000 ล้านบาท โดยมี 2 โครงการพร้อมเปิดตัว มูลค่ารวมกัน 7,000 ล้านบาท และ 2 โครงการอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดิน

โดยโครงการใหม่ปีนี้ 1.ริชพาร์ค @ทริปเปิลสเตชัน เฟส 2 ออกแบบเป็นโครงการไฮไรส์ 34 ชั้น มีพื้นที่รีเทล 3 ชั้น ออฟฟิศบิลดิ้ง 4 ชั้น คอนโดมิเนียม 20 ชั้น ที่เหลือเป็นที่จอดรถ มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท สร้างบนที่ดิน 3 ไร่

2.เดอะริช เอกมัย ทำเลติดห้างบิ๊กซี สร้างบนที่ดิน 2 ไร่ สูง 39 ชั้น มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ตั้งเป้าก่อสร้างปีหน้า กำหนดแล้วเสร็จปี 2564 ราคาตลาดอยู่ที่ตารางเมตรละ 2 แสนบาทขึ้นไป แต่กลยุทธ์บริษัทจะขายต่ำกว่าตารางเมตรละ 2 แสนบาทเพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้าส่วนหนึ่ง

ขณะที่โครงการที่ 3-4 อยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินทำเลลาดพร้าวกับราชพฤกษ์ และถ้าเป็นไปได้ถ้าสามารถจัดซื้อแลนด์แบงก์ได้อาจมีโครงการที่ 5 เป็นโครงการแนวราบ บริษัทตั้งงบลงทุน 3,000 ล้านบาทในปีนี้ แบ่งเป็นงบจัดซื้อที่ดิน 1,000 ล้านบาท งบก่อสร้างอีก 2,000 ล้านบาท

ดร.อาภากล่าวถึงโครงการที่เปิดขายแล้ว ได้แก่ ดิเอท คอลเลคชัน คอนโดฯ โลว์ไรส์ 7 ชั้น ทำเลถนนวิสุทธิกษัตริย์ มูลค่า 350 ล้านบาท กับริชพาร์ค เทอมินอล หลักสี่สเตชัน คอนโดไฮไรส์​ 14 ชั้น มูลค่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งมีการปรับแบบโดยเชื่อมสกายวอล์กจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียวส่วนต่อขยายเข้าโครงการ และปรับเป็นโครงการมิกซ์ยูนมีพื้นที่รีเทล โดยตั้งราคาขายเริ่มต้น 9 หมื่นบาท/ตารางเมตร

บิสสิเนสโมเดล ถ้าทำเลอยู่ติดสถานีการพัฒนาโครงการเน้นลงทุนมิกซ์ยูส ในช่วงแรกยังเป็นต้นทุนก่อนจะผลักเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุน (REIT) ซึ่งต้องถือไว้กับมือ 1-2 ปีแรก โดยมีพื้นที่รีเทล 3 ทำเลที่สามารถเข้ากองรีทได้ มูลค่ารวมกัน 1,000 ล้านบาท

บริษัทตั้งเป้ารับรู้รายได้ปีนี้ 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นสถิตินิวไฮของบริษัท มียอดขายรอรับรู้รรายได้หรือแบ็กลอก 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ เจ้าของที่ดินมีการปล่อยขายที่ดินเปล่าออกมามากกว่าปกติ 20% คาดว่าเป็นผลกระทบจากภาษีใหม่ๆ อาทิ ภาษีลาภลอยซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่ปีนี้ และกำลังจะมีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2562

ในด้านราคาที่ดิน ทำเลติดถนนสุขุมวิทช่วงต้นจนถึงทำเลอ่อนนุชขึ้นเฉลี่ย 30% เทียบปีต่อปี เช่น ปากซอยสุขุมวิท 7 มีการเสนอจากตารางวาละ 1.6 ล้านบาท ไม่มีผู้ซื้อแต่เจ้าของที่ดินไล่ราคาขยับขึ้นมาเป็นตารางวาละ 2.2 ล้านบาท

“มีเงิน 500-1,000 ล้านจะซื้อที่ดิน ยังต้องง้อเจ้าของที่ การเจรจาซื้อที่ดินมีคำว่าอารมณ์สุขุมวิท อยากขายจึงจะขาย ซึ่งที่ดินเป็นวัตถุดิบพัฒนาโครงการถ้าขึ้นแพงย่อมส่งผลต่อการปรับราคาขาย”

อนึ่ง บริษัทมีหนี้สินต่อทุนน 1.93 เท่า และมีเงินรายรับจากการแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญหรือวอแรนต์ในปีนี้ RICHY-W1 282 ล้านบาท และ RICHY-W2 432 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดเป็นทุนหมุนเวียนอีก 70 ล้านบาท

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

https://www.prachachat.net/property/news-104251