ธนาสิริ เร่งระบายสต๊อก 8 โครงการกว่า 2.1 พันล้าน จ่อตัดขายที่ภูเก็ต 105 ไร่

“ธนาสิริ” เร่งระบายสต๊อก 8 โครงการกว่า 2.1 พันล้าน จ่อตัดขายที่ภูเก็ต 105 ไร่

‘ธนาสิริ’ เผยยอดขายปี’60 โต 24% ปีนี้เร่งระบายสต๊อก 8 โครงการ 420 ยูนิต มูลค่ากว่า 2.1 พันล้าน เล็งนำที่ดิน ‘กมลา’ 105 ไร่ แบ่งขาย-หาผู้ร่วมทุน ตั้งเป้าโกยรายได้ 1,000 ล้าน

นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2560 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยเทียบกับปี 2559 มีรายได้รวม 836 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46 ล้านบาท มีรายได้จากการขาย 986 ล้านบาท เติบโตกว่า 24% และกำไรสุทธิ 32.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84% ส่วนปี 2561 ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 900-1,000 ล้านบาท หรือเติบโตที่ 10-20%

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการรวมทั้งสิ้น 27 โครงการ จำนวน 2,744 ยูนิต มูลค่า 11,084 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการใน จ.นนทบุรี 20 โครงการ จำนวน 2,344 ยูนิต มูลค่า 9,574 ล้านบาท จ.ภูเก็ต จำนวน 5 โครงการ 209 ยูนิต มูลค่า 729 ล้านบาท และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 โครงการ จำนวน 191 ยูนิต มูลค่า 781 ล้านบาท

“ปี 2560 บริษัทฯ มียอดโอน 828 ล้านบาท โตขึ้น 5.2% และยอดรอโอนอยู่ที่ 277 ล้านบาท มาจากโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขายทั้งหมด 8 โครงการ จำนวน 938 ยูนิต มูลค่า 4,497 ล้านบาท ขายไปแล้ว 518 ยูนิต มูลค่า 2,360 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% และยังคงเหลือสินค้า 420 ยูนิต หรือคิดเป็น 2,137 ล้านบาท”

ประกอบด้วย 7 โครงการที่ จ.นนทบุรี และ 1 โครงการที่ จ.อุดรธานี ได้แก่ โครงการธนาสิริ ราชพฤกษ์-ท่าน้ำนนท์บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 175 ยูนิต มูลค่า 950 ล้านบาท, โครงการธนาฮาบิแทต ราชพฤกษ์-สิรินธร บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 92 ยูนิต มูลค่า 455 ล้านบาท, โครงการธนาคลัสเตอร์ ราชพฤกษ์-สถานีบางพลู ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 77 ยูนิต มูลค่า 345 ล้านบาท, โครงการธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 95 ยูนิต มูลค่า 875 ล้านบาท

โครงการธนาซิโอ รัตนาธิเบศร์ ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 157 ยูนิต มูลค่า 405 ล้านบาท, โครงการธนาวิลเลจ 2 พระราม 5-บางใหญ่ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 86 ยูนิต มูลค่า 370 ล้านบาท, โครงการธนาคลัสเตอร์ สถานีเซ็นทรัล-บางใหญ่ บ้านแฝด จำนวน 77 ยูนิต มูลค่า 391 ล้านบาท และโครงการสิริวิลเลจ อุดรธานี-แอร์พอร์ตบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 179 ยูนิต มูลค่า 706 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีที่ดินรอการพัฒนาโครงการในอนาคต ทั้งหมด 3 แปลง คิดเป็นมูลค่ารวม 940.7 ล้านบาท ได้แก่ ที่ดินริมถนนรัตนาธิเบศร์ กรุงเทพฯ ขนาด 2-0-87.9 ไร่ มูลค่าราคาประเมิน 143.1 ล้านบาท, ที่ดินเปล่าในโครงการรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ขนาด 0-3-94.6 ไร่ มูลค่าราคาประเมิน 19.7 ล้านบาทและที่ดินเปล่า กมลา จ.ภูเก็ต ขนาด 105-2-76.9 ไร่ มูลค่าราคาประเมิน 777.9 ล้านบาท

นายสุทธิรักษ์กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯ จะเน้นระบายสินค้าที่ยังคงเหลือกว่า 420 ยูนิต โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย ประเภททาวน์โฮม พร้อมลดต้นทุนและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด ด้วยการหันมาใช้การตลาดแบบออนไลน์ และไดเร็กมาร์เก็ตติ้งให้มากขึ้น ตลอดจนปรับกระบวนการตรวจรับมอบบ้านและการยื่นขอสินเชื่อลูกค้า (Pre-approve)

ให้สอดคล้องกับการขายในปัจจุบัน รวมถึงนำที่ดินเปล่า จ.ภูเก็ต จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจได้เข้ามาทั้งร่วมลงทุน และซื้อขายที่ดินบางส่วน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมบุกตลาดในกลุ่มบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ โดยชูจุดขายด้วยการดีไซน์ที่แตกต่าง พร้อมการการันตีคุณภาพ จาก ASA Real Estate Awards 2018 รางวัลอสังหาริมทรัพย์เพื่อคุณภาพชีวิตดีเด่น ประจำปี 2018 ประเภทที่อยู่อาศัย สำหรับระดับราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท จากโครงการธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร โดยสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

https://www.prachachat.net/property/news-126101