รายการโปรด
นายก ส.อสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุนักธุรกิจท้องถิ่นรวมตัวตั้ง “บริษัทพัฒนาเมือง” นำร่อง 14 จังหวัด โดยเน้นลงทุนและพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชน พร้อมหารือกับ กคช. ลงทุนร่วมกับบริษัทลูก “แซมโก้” กับโครงการบิ๊กโปรเจกต์ ยอมรับเรื่องบิ๊กดาต้าเป็นสิ่งสำคัญในพื้นฐานธุรกิจ เผยภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปี 61 โต กำลังซื้ออายุน้อยลง ผู้ประกอบการหันพัฒนาห้องชุดขนาดเล็ก ขายราคาถูกลง สวนทางที่ดินราคาแพงลิ่ว บ้าน 2-3 ล้าน คอนโดฯ ตร.ม. ละ 1 แสน ยังมีความร้องการสูง
นายพรนิศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึงความคืบหน้าของการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ว่า ปัจจุบันได้มีนักธุรกิจท้องถิ่นรวมตัวจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทพัฒนาเมืองรวม 14 แห่ง และคาดว่าจะถึงสิ้นปี 2561 จะมีเพิ่มรวมประมาณ 20 แห่ง
โดยวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งบริษัทพัฒนาเมือง เพื่อร่วมลงทุนและพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในหัวเมืองต่าง ๆ ที่สำคัญเช่นจังหวัดที่มีความพร้อมอย่างจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการนำร่องโครงการสมาร์ทบัสจากท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ผ่านนิมมานเหมินท์ และเมืองเก่า
ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยบริษัท รีเจียนนอล ทรานซิสท์ คอร์เปอร์เรชั่น (RTC) เป็นบริษัทร่วมทุนของบริษัทพัฒนาเมือง ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้บริหารเครือข่ายพัฒนาเมืองหลายจังหวัด เพื่อพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในเขตเมือง และการพัฒนาเศรษฐกิจรอบพื้นที่สถานีขนส่งมวลชน (TOD)
สำหรับในปีนี้ จะมีการขยายร่วมมือ ไม่ว่าจะกับกรมการขนส่งทางบก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พัฒนาระบบขนส่งมวลชนในหัวเมืองหลัก 5 แห่ง เช่น สระบุรี ระยอง และอุดรธานี
ขณะที่ล่าสุด ได้มีการหารือกับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) โดยมีแนวโน้มจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทพัฒนาเมืองกับบริษัทแซมโก้ บริษัทลูกของการเคหะฯ เพื่อดำเนินการพัฒนาโปรเจกต์ร่วมกัน เพราะมีความคล่องตัวมากกว่าการเคหะฯ โดยจะเน้นเรื่องของการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน คาดว่าอีก 3 เดือนจะได้ความชัดเจน
อย่างไรก็ตาม มองว่าเรื่องของบิ๊กดาต้ามีความสำคัญ และจำเป็นสำหรับการพัฒนาเมือง ทั้งนี้ เห็นว่าควรมีดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อให้บริษัทพัฒนาเมืองสามารถนำข้อมูลเหล่านี้พัฒนาแพลตฟอร์ม สร้างแอปพลิเคชันขึ้นมาใช้งานร่วมกัน ซึ่งจะทำให้สามารถติดตาม คำนวณ ประเมินผลโครงการที่จะพัฒนาว่ามีความคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ เป็นต้น อีกทั้งประชาชนในพื้นที่ควรมีส่วนรวมแชร์ข้อมูลสร้างการรับรู้ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาเมือง และพัฒนาเมืองไปด้วยกัน
นายพรนริศ กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ คาดว่าตลาดจะมีอัตรการเติบโต แม้จะยอดปฏิเสธสินเชื่อและหนี้ครัวเรือนจะยังสูง แต่ก็ลดลงจากปีที่แล้ว ขณะที่สถาบันการเงินจะผ่อนปรนเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยแบงก์ขนาดกลางและเล็กรุกปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น แต่จะพิจารณาให้เป็นรายโครงการ
ด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเจนวายตอนปลาย และเจนเอ็กซ์ตอนต้น (30-40 ปี) ยังไปได้ดี ตลาดกลุ่มนี้จะมีรายได้ประจำ และรายได้เสริม รวมถึงกำลังซื้อจากต่างชาติยังคงดีต่อเนื่องทั้งจีน และญี่ปุ่น โดยเฉพาะจีนที่เข้ามาซื้อเพื่อลงทุน
ขณะที่ผู้ประกอบการเองต่างพัฒนาสินค้าเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว แม้ว่าต้นทุนราคาที่ดินจะปรับสูงขึ้นมาก แต่จะต้องพัฒนาห้องชุดที่มีขนาดเล็กลง เพื่อขายในราคาที่ลูกค้าสามารถซื้อหาได้
ปัจจุบัน ตลาดเป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่เพียง 29 รายแรก ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 80% ดังนั้น รายกลาง รายเล็ก จึงต้งปรับตัวเพื่อไม่ทำตลาดแข่งกับรายใหญ่โดยตรง อาทิ การลงทุนพัฒนาบ้านหรูกลางเมือง ราคประมาณ 20-50 ล้านบาท เพียงไม่กี่อยูนิต
อย่างไรก็ตาม ฐานตลาดกลุ่มใหญ่ ยังคงเป็นกลุ่มทาวน์โฮม 2-3 ล้านบาท และคอนโดระดับราคาราว 1 แสนบาทต่อตารางเมตร ที่ยังมีความต้องการในตลาดสูง
โหมโปรโมตงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ
ด้านนายวรัทภพ แพทยานันท์ ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 38 เปิดเผยว่า งานดังกล่าวเป็นความร่วมมือของ 3 สมาคมหลักด้านอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย
ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมผู้ประกอบการเกือบ 200 ราย ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่, ภูเก็ต, ชลบุรี, และระยอง เป็นต้น นำที่อยู่อาศัยมากว่า 1,000 โครงการที่หลากหลาย ทั้งเรื่องของทำเล และราคา มาเปิดขายพร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษภายในงาน ทั้งนี้ แบ่งเป็นคอนโดพร้อมอยู่ 40% ทาวน์เฮาส์ 20% บ้านเดี่ยว 10% ที่เหลือเป็นบ้านมือสอง หรือทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ)
สำหรับงานจะจัดขึ้นในวันที่ 15-18 มี.ค. 2561 ณ บริเวณโซนซี ชั้น 1 ชั้น 2 ของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยทางผู้จัดตั้งเป้าผู้เข้าชมงานตลอด 4 วัน ประมาณ 1 แสนคน คาดว่าจะมียอดขายภายในงานและหลังงานต่อเนื่องราว 10,000 ล้านบาท
ด้านแคมเปญและโปรโมชั่นในงาน ถือว่ามีความหลากหลายการแข่งขันยังคงสูง ซึ่งบริษัทที่ร่วมออกบูทส่วนใหญ่จะเน้นเพื่อตอบโจทย์ และเป็นการช่วยลดภาระทางการเงินให้กับกลุ่มผู้บริโภค โดยเฉพาะระดับกลาง
โดยไฮไลต์ที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการซื้อคอนโดแถมรถยนต์ ฟรีทุกค่าใช้จ่ายในวันโอน การรับส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท การอยู่ฟรี 1 ปี ฯลฯ การนอกเหลือจากโปรโมชั่นหลักที่ผู้จัดงานมอบให้ภายในงานที่มีมูลค่ารวมกว่า 1.28 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากทุ่มงบการตลาดกว่า 20 ล้านบาท สำหรับเร่งการประชาสัมพันธ์ต่อเนื่องทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ซึ่งก็พบว่า ขณะนี้มีผู้สนใจเข้าชมรายละเอียดของงานผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ กว่า 15 ล้านคน และคาดว่าจนถึงวันงาน จะมียอดผู้เข้าชมรายละเอียดทางออนไลน์ถึง 30 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นอีกช่องทางที่สร้างการรับรู้และเข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างขึ้น.
ขอบคุณภาพและข่าวจาก MGR ONLINE
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9610000024655
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้านคุณภาพการบริหารจัดการระดับสากล กวาด ISO มากที่สุด ครบ 3 มาตรฐานครอบคลุมทุกมิติ เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย
2022-07-14
นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ ส่งโครงการ THE ONE life bangna บุกเมกาบางนา บ้านเดี่ยวอารมณ์รีสอร์ตใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ทำเลต้นบางนา
2022-07-14
Last Call Promotion!! กับแคมเปญ “ชีวาทัยเป็นได้มากกว่าเพื่อน” หมดเขต 31 ก.ค.นี้เท่านั้น
2022-07-14
ASW เสริมกลยุทธ์ Lifestyle Community จัด Monstr Concert Festival Series#1 ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกบ้านโครงการคอนโดฯ เคฟทาวน์ สเปซ
2022-07-14
เตือนภัยขอสินเชื่อบ้าน-ที่ดินระวังโดนโกง
2022-07-11
ชอบมาก ขอบคุณมากคะ
ขอบคุุณบทความดีดีค่ะ
ชอบเข้ามาอ่านบทความที่นี่ค่ะ รายละเอียดเยอะดี