รายการโปรด
เจ.ดี.พูลส์ เผยเทรนด์ตลาดสระว่ายน้ำปี 61 ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีไลฟสไตล์รักสุขภาพ แนะผู้ประกอบการควรใช้เทคโลยีพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองพฤติกรรมลูกค้าให้ตรงจุด ชี้ปีนี้สระว่ายน้ำขนาดกลางและขนาดเล็ก ราคา 5-7 แสนบาท และ 2-4 แสนบาท
มีแนวโน้มขยายตัวสูง คาดตลาดรวมสระว่ายน้ำทั้งปีโตกว่า 5-8% จากมูลค่าตลาดรวม 4,500 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว ‘คาดิโอ พูล’ นวัตกรรมสระว่ายน้ำรูปแบบใหม่ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ควบคู่ไปกับซอฟต์แวร์คู่มือการออกกำลังกายในน้ำ ผลักดันยอดขายรวมทั้งปีให้เข้าเป้า 900 ล้านบาท หรือเติบโต 12% จากปีก่อน
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เจ.ดี.พูลส์ ผู้นำด้านอุตสาหกรรมสระว่ายน้ำในรูปแบบแฟรนไชส์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดสระว่ายน้ำในประเทศไทยว่า ตลาดสระว่ายน้ำมีความหลากหลายมากขึ้น จากเดิมในช่วง 30-40 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตลาดเฉพาะ และจับกลุ่มผู้มีรายได้สูงที่มีบ้านและพื้นที่ขนาดใหญ่ นิยมสร้างสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้าน เนื่องจากสระว่ายน้ำมีราคาแพง
แต่ในปัจจุบัน ตลาดเปิดกว้างมากขึ้น เพราะราคาสระว่ายน้ำเริ่มมีราคาถูกลง ทำให้เกิดเซ็กเม้นต์ใหม่ๆ ของตลาดสระว่ายน้ำ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย เช่น กลุ่มลูกค้าในธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ท กลุ่มลูกค้าบุคคลซึ่งมีไลฟสไตล์ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายและชอบกีฬาทางน้ำ ตลอดจนกลุ่มที่ต้องการสร้างสระว่ายน้ำเพื่อตอบสนองค่านิยมทางสังคม
จากความต้องการที่หลากหลาย และ ไลฟสไตล์ที่ต่างกันของผู้บริโภคในตลาด ทำให้เกิดเซ็กเม้นต์ใหม่ๆ ในตลาดสระว่ายน้ำ ซึ่งมีราคาถูกลง ผู้บริโภคสามารถจับต้องผลิตภัณฑ์สระว่ายน้ำได้มากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านการผลิต ทำให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนา และผลิตสระว่ายน้ำสำเร็จรูปแบบไฟเบอร์กลาส
สระดีไซน์แบบสำเร็จรูป และ แบบไอพาแนลไลน์เนอร์พลู สระคอนกรีตผนังสำเร็จที่สร้างได้ตามแบบที่ต้องการ ซึ่งเป็นสินค้าทดแทนสระว่ายน้ำกระเบื้อง รวมถึงนวัตกรรมสระว่ายน้ำใหม่ๆ ซึ่งช่วยให้พัฒนาสินค้ารูปแบบใหม่ที่ทำให้สระว่ายน้ำมีขนาดที่หลากหลาย สามารถติดตั้งในบ้านที่มีขนาดพื้นที่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ส่งผลให้ปัจจุบันผู้บริโภคนิยมสร้างสระว่ายน้ำในบ้านเพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบัน ตลาดรวมสระว่ายน้ำมีมูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาท สามารถแบ่งตลาดออกเป็น 3 เซ็กเม้นต์ ใหญ่ๆ โดยแบ่งเกรดของสระว่ายน้ำ ซึ่งมีราคาขายเป็นตัวกำหนดนั้น แบ่งได้เป็น กลุ่มเอ สระว่ายน้ำราคาตั้งแต่ 8 แสนบาทขึ้นไป มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 30 และ กลุ่มบี สระว่ายน้ำราคา 5 -7 แสนบาท มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 40 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 30 นั้น เป็นกลุ่มซี ที่มีราคาอยู่ที่ 2-4 แสนบาท
โดยเซ็กต์เม้นที่เริ่มมีการแข่งขันสูง และมีแนวโน้มอัตราการขยายตัวของตลาดมากที่สุดคือ กลุ่มบีและซี ซึ่งเป็นกลุ่มสระว่ายน้ำขนาดกลางและขนาดพื้นที่จำกัดที่มีราคาประหยัด นับเป็นที่สนใจของผู้ประกอบการหน้าใหม่ โดยหลายๆ รายได้มีการนำเข้าสินค้าต้นทุนต่ำจากประเทศจีน และพบว่ามีการนำสระว่ายน้ำแบบชั่วคราวมาประยุกต์ติดตั้งและเคลมว่าเป็นแบบถาวร ทำให้พบปัญหาในเรื่องคุณภาพ โครงสร้าง การรั่วซึม อายุการใช้งาน และไม่มีการรับประกัน รวมไปถึงบริการหลังการขาย
‘อย่างไรก็ตาม เมื่อแบ่งสัดส่วนตลาดสระว่ายน้ำออกตามกลุ่มลูกค้า จะพบตลาดใหญ่ที่สุด คือ ตลาดธุรกิจ ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าหลักคือ โรงแรม รีสอร์ท วิลล่า อพาร์ทเม้นท์ บ้านเช่า ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 50 ส่วนที่เหลือคือ ตลาดบุคคล ร้อยละ 50 ซึ่งแบ่งย่อยออกได้เป็น กลุ่มบุคคลที่ซื้อเพื่อสะท้อนรสนิยมหรือฐานะทางสังคมร้อยละ 10,
กลุ่มบุคคลที่ซื้อให้ลูก-หลานร้อยละ 10, กลุ่มบุคคลที่ซื้อเพราะค่านิยมร้อยละ 10, กลุ่มบุคคลที่ซื้อเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน ซึ่งจะช่วยให้ขายได้ราคาสูงเมื่อขายต่อ อีกร้อยละ 10 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 5 คือ กลุ่มบุคคลที่ซื้อเพราะรักสุขภาพ ต้องการออกกำลังกายทางน้ำ และกลุ่มอื่นๆ อีกร้อยละ 5’ นายธนูศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้จากการขยายตัวของความต้องการลูกค้า การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเปิดกว้างของตลาด โดยเฉพาะตลาดสระว่ายน้ำเกรดบีและซี คาดว่าจะส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมสระว่ายน้ำในปี 2561 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ถึง ร้อยละ 8 จากมูลค่าตลาดรวม
ทั้งนี้การเติบโตด้านมูลค่าตลาดอาจดูไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากสระว่ายว่ายน้ำในปัจจุบันมีราคาถูกลง ดังนั้นแม้ว่าตลาดสระว่ายน้ำกลุ่มที่กล่าวมาจะมีการขยายตัวสูง จำนวนชิ้นที่ขายได้เพิ่มสูงขึ้น แต่ด้วยราคาที่ถูกลงทำให้มูลค่าตลาดรวมจึงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก จากการศึกษาพฤติกรรมและปัจจัยต่อการตัดสินใจซื้อสระว่ายน้ำไปจนถึงความต้องการของผู้บริโภคในตลาด พบว่าปัจจุบันพฤติกรรมการเลือกซื้อสระว่ายน้ำของผู้บริโภคจะสอดคล้องกับปัจจัยต่างๆ 4 ขั้นตอน
คือ 1.)ไลฟสไตล์การใช้ชีวิต 2.)เทรนด์การดูแลสุขภาพ 3.)ขนาดที่ดินของบ้าน และ 4.)ราคาสระว่ายน้ำ ซึ่งทุกส่วนมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสระว่ายน้ำขนาดต่างๆ ที่เหมาะสมกับพื้นที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคและกำลังซื้อของแต่ละคน ปัจจัยดังกล่าวทำให้ เจ.ดี.พูลส์ ศึกษาและพัฒนาสระว่ายน้ำสำเร็จในรูปไฟเบอร์กลาส
ด้วยการนำนวัตกรรมการออกกำลังกายมาผสมผสานการพัฒนาสระว่ายน้ำรุ่นใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคที่รักสุขภาพ และชื่นชอบการออกกำลังกายในน้ำ ภายใต้ชื่อ “คาร์ดิโอ พูล” ซึ่งเป็นสระไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูง ที่ใช้วัสดุเคลือบผิวนำเข้าจากออสเตรเลีย
โครงสร้างแข็งแรง รับประกัน 15 ปี มีทั้งหมด 6 ขนาด โดยทุกขนาดจะมีความกว้าง 2.20 เมตร ขนาดความยาวเริ่มต้นตั้งแต่ 3 เมตร ไปจนถึง 11 เมตร เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่มีขนาดพื้นที่อยู่อาศัยแบบจำกัด และมีกำลังซื้อที่แตกต่างกันออกไป
“สระว่ายน้ำรุ่น ‘คาร์ดิโอ พูล’ เกิดจากพฤติกรรมของลูกค้า ที่ซื้อสระว่ายน้ำไปแต่ไม่ค่อยได้ใช้งาน บางกลุ่มซื้อสระว่ายน้ำเพื่อบ่งบอกรสนิยม ฐานะทางสังคม รวมถึงบางส่วนซื้อให้ลูกหลาน ทางบริษัทฯ จึงเกิดแนวคิดการพัฒนาสินค้าสระว่ายน้ำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการผนวกนวัตกรรมการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ ทั้งยังเน้นซอฟต์แวร์ในรูปแบบการให้คำแนะนำการใช้สระว่ายน้ำเพื่อออกกำลังกาย
โดยได้นำ ผศ.ดร.ประภาส โพธิ์ทองสุนันท์ นักธาราบำบัดผู้เชี่ยวชาญ มาเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาและจัดทำคู่มือเกียวกับการออกกำลังกายในน้ำ เพื่อให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์และยังเป็นการเปิดตลาดใหม่ สำหรับกลุ่มคนรักสุขภาพและต้องการดูแลสุขภาพของคนในครอบครัว อาทิ ลูกซื้อให้พ่อ และแม่ที่ต้องการออกกำลังกาย หรือ กายภาพบำบัดจนถึงผู้สูงอายุที่ซื้อเองและต้องการออกกำลังกายให้เหมือนกับการออกกำลังกายอื่นๆ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ” นายธนูศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับกิจกรรมการตลาดปี 61 หลังจากที่ทางบริษัทฯ ได้มีการเปิดตัวสระว่ายน้ำรุ่น ‘คาร์ดิโอ พูล’ แล้ว จะมีการเปิดตัวหนังโฆษณา 3 เรื่อง คือ ใคร ๆ ก็มีได้, ห่วงใย, เพ้อ ตามลำดับ เพื่อเน้นช่องทางการสื่อสารการตลาดในรูปแบบออนไลน์ และยังเตรียมเปิดตัวนวัตกรรมสระว่ายน้ำรูปแบบใหม่ ภายในงานสถาปนิก 61 ระหว่างวันที่ 1-6 พ.ค. 2561 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
ทั้งนี้การเปิดตัวสระว่ายน้ำรุ่น ‘คาร์ดิโอ พูล’ ในครั้งนี้ เป็นเหมือนการสร้างตลาดใหม่ในธุรกิจสระว่ายน้ำ โดยคาดหวังส่วนแบ่งแชร์ในตลาดรวม 4,500 ล้านบาท อยู่ที่ร้อยละ 5 หรือ 200 ล้านบาทเศษ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ยอดขายของในปีนี้เติบโตตามเป้า โดยทางบริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายของ ‘คาร์ดิโอ พูล’ ในปีนี้ไว้ที่ 100 ลูก ทั้งนี้ในปี 2561 บริษัทฯ คาดว่าจะมียอดขาย 900 ล้านบาท หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดสระว่ายน้ำรวมอยู่ที่ร้อยละ 20 ซึ่งเติบโตขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ นับจากปีที่ผ่านมา
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ โชว์ยอดขายทะลุ 150 ลบ. ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 พร้อมเผยทำเลลาดพร้าวได้รับความนิยมมากที่สุด
เมื่อวานนี้
ธนาสิริ พาเหรด 11 โครงการบ้าน จัดโปรโมชันตลอดเดือนพ.ย. มอบส่วนลดสูงสุด 3 ลบ. เริ่ม 1.85–16.9 ลบ.*
เมื่อวานนี้
RHYTHM Ekkamai Estate คอนโดพร้อมเข้าอยู่ใจกลางเอกมัย Yield 7%* จัดเซอร์ไพรส์ให้ราคาพิเศษ 1 Bedroom 35 sq.m. 172,000 ฿/sq.m.* Free! Furniture package
เมื่อวานนี้
SC โกยยอดขาย 1,000 ลบ. ในงานมหกรรมบ้าน-คอนโด ครั้งที่ 46 พร้อมลุยต่องาน “SC Asset’s Heaven @Siam Paragon” โปรลดสูงสุด 10 ลบ.* วันที่ 7-11 พ.ย.นี้
เมื่อวานนี้
แสนสิริ เปิดตัว “The Manner” โรงแรมลักชูรีใจกลาง SoHo มหานครนิวยอร์ก มูลค่า 5,000 ลบ. เจาะกลุ่มนักเดินทางไฮเอนด์
เมื่อวานนี้
ขอบคุณมากครับ เอาใจไปเลยลูกพี่!!!
อ่านเเล้วอยยากเห็นหน้านักเขียนเลยค่ะ 555555
ชอบนะคะ บทความหลากหลายดี