รายการโปรด
บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบและแนวสูงในประเทศไทย ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล เน้นการสร้างความสุขและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนมาตลอด 3 ปี (Sustainable Happiness)
นำร่องสร้างศูนย์การเรียนรู้ในสถานที่ก่อสร้าง มุ่งพัฒนาความรู้และทักษะบุตรหลานแรงงาน ส่งเสริมและดูแลด้านบุคลากรที่เป็นแรงงานในทุกระดับ เพื่อการทำงานที่มีความสุข “สุขที่ยั่งยืน ตั้งแต่การสร้างบ้าน” ส่งผลถึงการสร้างงานที่มีประสิทธิภาพ
ดร.ทวีรัก กลิ่นสุคนธ์ ผู้อำนวยการสายงานส่งเสริมพัฒนามาตรฐานงาน งานชุมชนและการบริการลูกบ้าน บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อารียา พรอพเพอร์ตี้ เชื่อเรื่องความสุขที่ยั่งยืนโดยเริ่มต้นจากความสุขของบุคลากรที่เป็นแรงงานแข็งแกร่งทุกระดับ จึงสร้างสรรค์โครงการ “ศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในสถานที่ก่อสร้าง” (Child Friendly Space) ขึ้น
ซึ่งถูกริเริ่มจากการจัดมาตรฐานคุณภาพชีวิตแรงงานให้เกิดการดูแลพนักงานอย่างครบวงจร ลดความกังวลต่อบุตรหลานโดยให้เด็กอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุในพื้นที่ก่อสร้าง อีกทั้งยังได้รับการเรียนการสอนที่เป็นประโยชน์
ซึ่งอารียาฯ ได้ดำเนินกระบวนการบนพื้นฐานความคิดเป็นสำคัญ เมื่อแรงงานมีสุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี ไม่มีความกังวล จะมีความพร้อมและรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายได้ดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังรวมถึงความมั่นคงในด้านบุคลากรและแรงงาน หลีกเลี่ยงปัญหาการขาดแรงงานคุณภาพ เพื่อยกระดับมาตรฐานที่ดีอย่างยั่งยืน
“ในปี 2558 ทางอารียาฯ ได้นำร่องในพื้นที่โครงการหทัยราษฎร์ โดยการประชุมหาความต้องการร่วมกับผู้ปกครองที่เป็นแรงงาน เพื่อจัดทำทะเบียนประวัติเด็ก ทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะตามวัย การเรียนรู้การอ่านและเขียนเบื้องต้น ตลอดจนการฝึกระเบียบวินัย โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) ช่วยเป็นพี่เลี้ยงและให้การอบรมอาสาสมัครในโครงการศึกษาดูงานมูลนิธิรักษ์ไทยในการจัดรูปแบบการเรียนการสอน
หลังจากประสบความสำเร็จ และได้รับความพึงพอใจจากบุคลากรและแรงงานอย่างมาก ในปี 2559 ได้เดินหน้าขอความร่วมมือจากมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน ซึ่งมีองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ และการอยู่ร่วมกันในสังคมไทย จัดสรรให้มีครูผู้สอนประจำศูนย์การเรียนรู้ เพื่อดำเนินการตามแผนการเรียนการสอนที่มีมาตรฐาน
รวมถึงครูจิตอาสาที่สับเปลี่ยนมาให้ความรู้พื้นฐาน และเสริมทักษะต่าง ๆ ตามช่วงอายุวัย ตลอดจนจัดกิจกรรมพิเศษ ในวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.30 น. โดยมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนในสถานที่ก่อสร้างมีความรู้ความสามารถ เพื่อสร้างโอกาสเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษาตามระบบต่อไป”
นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการในปี 2558 อารียาฯ มีจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้รวมทั้งสิ้น 6 พื้นที่โครงการฯ ได้แก่ โครงการหทัยราษฎร์, ไทรน้อย จ.นนทบุรี, บางนา, บางบัวทอง, รังสิตคลอง 4 และ รังสิตคลอง 5 ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่ยังดำเนินงานอย่างต่อเนื่องอยู่ 2 พื้นที่หลัก ๆ ได้แก่ โครงการไทรน้อย จ.นนทบุรี และ โครงการรังสิตคลอง 5
โดยเกิดจากความตั้งใจที่มุ่งสร้างพัฒนาสุขภาวะเด็กและเยาวชนในด้านต่าง ๆ การรู้จักใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น การได้รู้จักเพื่อนใหม่ และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคม ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้านทักษะชีวิต รวมถึงวิชาความรู้ขั้นพื้นฐาน อาทิ วิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ศิลปะ และการปลูกฝังความคิดที่ดี
เช่น การปลูกต้นไม้ เพื่อให้ได้เรียนรู้และซึมซับด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและสะอาด รวมถึงการจัดกิจกรรมสันทนาการให้เด็ก ๆ สนุกสนานและผ่อนคลายร่วมกับครอบครัว เป็นต้น
“รวมทั้ง 6 พื้นที่โครงการฯ มีจำนวนเด็กที่ได้รับโอกาสทั้งสิ้น 149 คน คิดเป็น 95% ของจำนวนเด็กทั้งหมดในแคมป์ก่อสร้าง และจำนวน 5% เป็นเด็กที่ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาพร้อมกับครอบครัว นอกจากนี้ภายในระยะเวลากว่า 2 ปี สามารถนำพาเด็ก ๆ เข้าสู่การศึกษาตามระบบปกติได้จำนวน 24 คน แบ่งออกเป็นเด็กที่มีสัญชาติไทย 3 คน และเด็กสัญชาติกัมพูชา 21 คน
ซึ่งในอนาคต ทางอารียาฯ คาดหวังให้เด็ก ๆ มีทักษะทางด้านวิชาการควบคู่ไปกับทักษะการใช้ชีวิตที่มากยิ่งขึ้น โดยมุ่งส่งเสริมและผลักดันให้เด็กทุกคนสามารถเข้ารับการศึกษาในระบบการศึกษาของภาครัฐได้อย่างสมบูรณ์” ดร.ทวีรัก กล่าว
ด้าน นายสมพงษ์ สระแก้ว มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน กล่าวเสริมว่า ทางมูลนิธิฯ ได้ดำเนินงานตามแนวทางการบริหารจัดการด้านแรงงานข้ามชาติ และการอยู่ร่วมกันในสังคมไทย ให้ทุกภาคส่วนได้มองเห็นความสำคัญ และตระหนักถึงปัญหาอย่างจริงจัง อาทิ แรงงานข้ามชาติ เด็ก ครอบครัว และผู้ติดตามอาศัย จึงได้เล็งเห็นช่องว่างด้านคุณภาพชีวิตของแรงงานต่างชาติในไทย ที่สอดคล้องกันกับนโยบายทางอารียาฯ จึงตัดสินใจร่วมมือพัฒนาโครงการในพื้นที่ก่อสร้างให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่อเด็กและเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรม
และนอกจากการจัดสรรครูผู้สอนประจำ เพื่อให้ความรู้และเสริมด้านทักษะพื้นฐานต่าง ๆ แล้ว ยังวางรากฐานสู่การศึกษาตามระบบ ให้สามารถมีความรู้ที่ทัดเทียมเยาวชนไทย โดยขอความร่วมมือจากโรงเรียนภาครัฐบาลในพื้นที่ใกล้เคียงโครงการฯ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการเกื้อหนุนที่ดี มีโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้เข้ารับการศึกษาต่อ
ได้แก่ โรงเรียนวัดคลองขวาง (จรูญชนม์ราษฎร์บำรุง) ไทรน้อย จ. นนทบุรี ทั้งยังขยายต่อถึงผู้ปกครอง จัดสร้างให้มีการอบรมให้ความรู้ด้านสิทธิ สวัสดิการต่าง ๆ ตามกฎหมายแรงงานคุ้มครอง ตลอดจนพัฒนาด้านการฝึกวิชาชีพ เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว รวมถึงมีความรู้ประกอบอาชีพ เมื่อกลับสู่ภูมิลำเนาต่อไป
ด้วยความมุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ที่ดี เดินหน้าต่อยอดพื้นที่โครงการ “ศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในสถานที่ก่อสร้าง” (Child Friendly Space) โดยในอนาคตตั้งใจขยายไปในพื้นที่ที่มีการก่อสร้างขนาดใหญ่ทุกโซน เพื่อรองรับเด็กและเยาวชนที่เป็นบุตรหลานของแรงงานในสังกัดอารียา พรอพเพอร์ตี้ รวมถึงแรงงานในสังกัดผู้รับเหมา ได้มีโอกาสเรียนรู้เสริมทักษะอย่างรอบด้าน ส่งผลถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และพัฒนาเป็นเยาวชนที่ “เก่งและดี” อย่างยั่งยืน
เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ ยอดขายปี 67 พุ่ง 9,700 ลบ. ลุยต่อยอดธุรกิจ เร่งเครื่องก่อสร้าง 4 โครงการหลัก มูลค่ารวม 14,000 ลบ.
2025-01-30
เอพี ไทยแลนด์ คว้า 2 รางวัล บริษัทฯ ที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานมากที่สุด
2025-01-30
แสนสิริ เปิด 4 ทำเลทองบ้านเดี่ยวน่าลงทุน ผลตอบแทนคุ้มค่า ทั้งขายต่อและปล่อยเช่า
2025-01-30
Aspire อิสรภาพ สเตชั่น คอนโดใกล้ MRT อิสรภาพ 350 ม. ราคาพิเศษกับห้อง 1 Bedroom 28 ตร.ม. เพียง 2.79 ล้าน*
2025-01-29
ศุภาลัย ชูกลยุทธ์ธุรกิจปี 68 มุ่งสู่ Multi-National Company ความแข็งแกร่งทางการเงิน พร้อมดันยอดขายทะลุเป้า 32,000 ล้านบาท
2025-01-29
บทความมีประโยชน์มากค่ะ
เขียนรีวิวถูกใจเจ้มากค่ะ
ขอบคุณที่คอยอัพเดทข่าวสารให้ทราบค่ะ
ชอบที่ทำให้ได้รู้เรื่องราวคอนโดที่เรากำลังสนใจครับ
สระน้ำกว้างมากเลย น่าเล่นน่าอยู่
ดีมากเลย อ่านแล้วได้ความรู้และสนุกไปด้วย