รายการโปรด
ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนรู้จักแบรนด์ สิงห์ (Singha) กันเป็นอย่างดี ในนามของแบรนด์ระดับโลกของคนไทย ก่อตั้งโดยคนไทย และเป็นที่ภาคภูมิใจของคนไทยมายาวนานหลายทศวรรษ และคงมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่รู้จักคอนโดมีเนียม Luxury ใจกลางสุขุมวิทโครงการ The ESSE ที่ใครไปเห็นก็ต้องยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า...
“คำว่า Luxury ไม่ใช่เพียงแค่การใช้วัสดุราคาแพง แต่หมายถึงการเข้าใจความต้องการของผู้อาศัยที่มีรสนิยมและตอบโจทย์ได้อย่างมีระดับ”
หลายคนอาจสงสัยว่าใครเป็นเจ้าของโครงการ The ESSE? เค้าสามารถสร้างคอนโด Luxury ที่ใช้ต้นทุนการสร้างระดับหมื่นล้านบาท มีทั้งเงินทุนและความเข้าใจความต้องการของคนที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ เป็นอย่างดี
THE ESSE Condominium สร้างโดยบริษัท SINGHA ESTATE หนึ่งในบริษัทในเครือของ SINGHA แถมยังเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อย่างถูกต้อง เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ชื่อย่อในตลาดหุ้นคือ “S” ซึ่งเป็นบริษัทที่ทางกลุ่ม SINGHA ตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับ High-end โดยเฉพาะ
SINGHA ESTATE เน้นการลงทุนสร้างคอนโดมีเนียม Luxury พร้อม Facility อลังการเพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าโดยไม่พะวงเรื่องค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป ตามแนวคิดที่ว่า
Best In Class
คือ การสร้างคอนโด Luxury ต้องไปให้สุด อย่าลดอะไรลงเพียงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะผู้อยู่อาศัยกลุ่มนี้ต้องการความพิเศษแบบที่ไม่เหมือนใคร
ไม่ใช่แค่คอนโดนะครับ… SINGHA ESTATE ยังเป็นเจ้าของโครงการบ้านเดี่ยวและโรงแรม 5 ดาว อีกหลายแห่งตามสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังทั่วโลก อย่างเกาะพีพี เกาะสมุย มัลดีฟส์ และฟิจิ และสหราชอาณาจักร
ที่ว่าเป็นเจ้าของนี่ไม่ใช่แค่โรงแรมเล็กๆ นะครับ บางโครงการเค้าได้ที่ดินใหญ่มาก อย่างที่ Maldives เอง S กำลังพัฒนาที่ดินทั้งเกาะ!!! ผู้บริหาร SINGHA ESTATE ทำให้ผมทึ่งในความสามารถอยู่เสมอ การได้กรรมสิทธิพัฒนาที่ดินบนเกาะ Maldives เป็นตัวยืนยันได้อย่างดีว่าพวกเค้าเชื่อมั่นในบริษัท SINGHA ESTATE มากแค่ไหน ผมเองก็ไม่พลาด กำลังติดตามทั้งหุ้นและคอนโดมีเนียมของ SINGHA ESTATE อย่างใกล้ชิด
3 ปีที่ผ่านมา SINGHA ESTATE ได้มีการเปิดตัวโครงการภายใต้ Brand THE ESSE รวมทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 15,000 ล้านบาท ทั้ง 3 โครงการได้รับผลตอบรับที่ดี โกยยอดขายไปแล้วกว่า 11,000 ล้านบาท
1) THE ESSE Asoke เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2015 ปัจจุบันมียอดขายกว่า 80% ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนภายในปี 2018 ซึ่งจะถือว่าเป็นโครงการแรกของ SINGHA ESTATE ที่จะสร้างเสร็จ
2) THE ESSE at SINGHA COMPLEX เปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2017 โครงการสามารถ Sold out และปิดการขายได้ภายใน 6 เดือน
3) THE ESSE Sukhumvit 36 เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 ซึ่งเป็นโครงการที่เรียกได้ว่าเป็น New High ของโครงการติดรถไฟฟ้า ปัจจุบันมียอดขายไปแล้วกว่า 60%
ทั้ง 3 โครงการได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะเป็นโครงการระดับ Luxury ที่ตอบโจทย์เรื่องความหรูหราได้อย่างครบถ้วนมากที่สุดแบรนด์หนึ่งในตลาด ภายใต้ Brand Concept “ THE ESSENCE OF LUXURIOUS LIVING” ซึ่งทุก ESSENCE ของความ LUXURY ได้ถูกสร้างสรรค์ด้วยความใส่ใจ เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างดีที่สุด
Luxurious Location ตั้งอยู่ในทำเลที่พรีเมี่ยม และใกล้กับ Mass Transit เดินทางสะดวกทุกโครงการ
Luxurious Design การออกแบบที่มีความโดดเด่น เป็น Iconic ในแต่ละทำเล สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้อยู่อาศัย โดยได้ Partner ระดับโลก อาทิ KPF , SOM มาดูแลด้านการออกแบบ การวางผังห้องชุดทั้งหมดเป็นแบบ Single Corridor (ทางเดินเดี่ยวไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม) เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด
Luxurious Specification เลือกใช้วัสดุที่มีคุณค่า โดยเลือกสรรแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เป็นความหรูหราที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าที่หาไม่ได้ที่โครงการอื่น
Luxurious Amenities พื้นที่ส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่ รวมถึง Sky Amenities ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย เหมาะกับ Lifestyle ของแต่ละคน
Luxurious Services บริการระดับโรงแรม 5 ดาวที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัย มั่นใจได้แน่นอนว่าต้องเป็นมาตรฐานระดับ 5 ดาวเพราะ SINGHA ESTATE เองก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโรงแรม 5 ดาว
โครงการ The ESSE ทั้งหมดน่าสนใจมากนะครับ โดยเฉพาะในแง่การลงทุน แต่ในแง่ของการอยู่อาศัยเอง ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ชอบอยู่ห้องบนตึกสูงๆ ถ้าซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองจะเลือกห้องไม่เกินชั้น 8
ความสูงไม่ใช่สิ่งที่ผมมองหา… ผมมักจะมองหาความเงียบสงบ ความเป็นส่วนตัวสามารถผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ ความรู้สึกเหมือนบ้าน ขนาดห้องไม่น้อยกว่า 50 ตารางเมตร แน่นอนว่าต้องเป็นความเงียบสงบที่มาพร้อมความปลอดภัย และยังคงตั้งอยู่กลางเมืองเพื่อตอบโจทย์ Lifestyle ของแต่ละวัน
เยอะใช่ไหมล่ะครับ แต่คุณเชื่อผมเถอะ คนเราทุกคนมีความต้องการที่แอบซ่อนอยู่
ความต้องการที่เป็นของเราจริงๆ อาจมีมาตั้งแต่เรายังเป็นวัยรุ่น ความเป็นตัวเราแบบที่เป็นเรา ที่เราแอบซ่อนไว้ภายในจนลืมไปแล้วว่านี่คือตัวตนของเรา
ลองคิดดูเล่นๆ นะครับ…ความฝันของคุณตอนที่เรียนจบใหม่ๆ คืออะไร เวลานี้มันยังอยู่กับคุณรึเปล่าครับ?
ถ้าไม่! ดึงมันออกมาครับ มันยังอยู่ในตัวคุณนั่นแหละ ดึงความต้องการในแบบที่เป็นตัวคุณออกมา พยายามไขว่คว้า วิ่งตามความฝัน ครอบครองสิ่งที่จะทำให้คุณยิ้มได้ทุกวัน คุณจะรู้สึกสนุกกับการใช้ชีวิตมากขึ้นอีกเยอะเลย
ผมเองก็วิ่งตามหาบ้านในแบบที่ผมชอบแต่ผมมักหาบ้านแบบที่ว่าไม่เจอ เพราะส่วนใหญ่คอนโดที่มีคุณสมบัติดังกล่าวจะเป็นคอนโด High Rise ที่มีจำนวนห้องอย่างน้อย 300 ยูนิต หรืออยู่ติดถนนใหญ่ไม่สามารถอยู่ชั้นต่ำกว่าชั้น 8 โดยไม่มีเสียงภายนอกรบกวนได้ หากเป็นคอนโด Low Rise ที่เงียบสงบก็มักจะมีห้องขนาดเล็กและจำนวนห้องปริมาณมาก มาพร้อมส่วนกลางที่ตอบโจทย์คนปริมาณมาก ไม่ใช่ Facility สำหรับคนที่มองหาความพิเศษที่เงียบสงบ
จนผมได้มาเจอคอนโดใหม่ของ SINGHA ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ “An Urban Sanctuary Condominium” NEW LOW RISE BRAND by SINGHA ESTATE
แบรนด์ใหม่ของ SINGHA ESTATE สำหรับคอนโดมิเนียม Low-Rise ระดับลักชัวรี่ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของ “Urban Self lover” หรือกลุ่มคนเมืองที่รู้ว่าความต้องการที่แท้จริงของตัวเองเป็นอย่างไร จึงมองหาคอนโดมิเนียมที่เป็น “Absolute Urban Retreat” หรือที่อยู่อาศัยที่ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัย (SAFE) ความเป็นส่วนตัว (PRIVATE) ความผ่อนคลาย (SANCTUARY)
และให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน (LIKE A HOUSE) เพื่อให้เขาสามารถชาร์ทพลัง มีเวลาพักผ่อนได้อย่างมีความสุขกับคนที่รักได้ในทุกวัน ภายใต้คอนเซป THE HIDDEN TREASURE เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้เผยตัวตนที่ซ่อนอยู่เมื่อได้ใช้เวลาอยู่ในโลกส่วนตัวของตน
แนวคิดทั้งหมดนี้เพื่อสร้างบรรยากาศที่อยู่อาศัยที่เป็นเสมือนโลกส่วนตัว ที่จะทำให้คุณสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ในทุกวัน
การอยู่อาศัยที่นี่ คือ ศิลปะของการผสมผสานการใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเองในโลกส่วนตัว กับความมีชีวิตชีวาแบบเฉพาะตัวของย่านพร้อมพงษ์ ทางโครงการจึงสะท้อนภาพ Fascinate Moment หรือช่วงเวลาที่มีความสุขและมีชีวิตชีวาของการอยู่อาศัยที่นี่ ผ่านภาพวาดลายเส้นใน สไตล์ Contemporary Impressionism
โดยภาพดังกล่าวถูกนำมาใช้ในงาน communication ของโครงการ An Urban Sanctuary Condominium เพื่อสะท้อนแนวคิดของโครงการภายใต้ Concept “EMBRACE YOUR HIDDEN FASCINATION- เผยตัวตนที่มีชีวิตชีวาได้อย่างเต็มที่ เพราะที่นี่ คือ โลกส่วนตัวของคุณ
Safe & Comfort :
Hidden Gem Location
อารมณ์ของโครงการมีการผสมผสานระหว่างความเป็นสงบ ความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และ Prime Location Lifestyle ใจกลางสุขุมวิทได้อย่างลงตัว ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 43 ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ และ Shopping Mall ชื่อดังอย่าง Emquatier และ Emporium อีกทั้งยังใกล้โรงพยาบาลและสวนเบญจสิริสำหรับ Moment แบบคนรักสุขภาพอีกด้วย
โครงการรายล้อมด้วยเพื่อนบ้านระดับคุณภาพ และเป็นซอยมีความเงียบสงบมากที่สุดของทำเลสุขุมวิท รายล้อมด้วยเพื่อนบ้านระดับคุณภาพ ทำให้เป็นทำเลที่เหมาะแก่การอยู่อาศัย เรียกได้ว่าเป็น Hidden Gem Location อย่างแท้จริง
Private :
Hidden Life in a nature
ในด้านความสงบ โครงการนี้ถือว่าพิเศษมากๆ ทั้งโครงการมีเพียงประมาณ 100 ยูนิต บนพื้นที่เกือบ 2 ไร่ใจกลางเมือง ใช่ครับ! ผมเขียนไม่ผิด มีแค่ประมาณ 100 ยูนิต จริงๆ จากโครงการคอนโดทั่วไปที่มักมีถึง 400-500 ห้อง จำนวนยูนิตของ An Urban Sanctuary Condominium ยังน้อยกว่าโครงการบ้านจัดสรรบางโครงการซะอีก คุณสามารถคาดหวังความเป็นส่วนตัวระดับ *5 ได้เลยทีเดียว
“Disconnect to the world outside”
ด้วยจำนวนห้องที่น้อย และมีการดีไซน์ที่เน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ การออกแบบที่คำนึงถึงทิศทางลม และแดด และพื้นที่สีเขียวที่ออกแบบให้ใกล้ชิดกับผู้อยู่อาศัย
Sanctuary :
Serve everyone hidden needs
คนที่เลือกอยู่อาศัยในคอนโด Luxury Low Rise ใจกลางเมืองมักเป็นคนที่เข้าใจความต้องการของตนเองเป็นอย่างดี ทำให้เลือกที่อยู่อาศัยที่มีการตอบสนองการใช้งานจริงๆ ของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แต่มีทุกอย่างในแบบที่เราต้องการ เช่น ขับรถทุกวัน-ไม่จำเป็นต้องอยู่ติดรถไฟฟ้า เลือกทำเลที่เดินทางสะดวก Location ดี มีที่จอดรถเพียงพอ / ชอบอยู่บ้านมากกว่าอยู่ข้างนอก ดังนั้น คอนโดมิเนียมต้องมีพื้นที่ เป็นต้น
Like A House :
Multi-functional Facilities
ห้องทั้งหมดของ An Urban Sanctuary Condominium เป็นห้องขนาดใหญ่เพื่อให้ได้อารมณ์การอยู่อาศัยแบบ ”บ้าน” ขนาดมีตั้งแต่ 52 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ไปจนถึง 100 ตารางเมตร 2 ห้องนอน มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางครบครันอารมณ์บ้าน ออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานให้สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย และเพิ่มโอกาสการพบปะกันระหว่างผู้อยู่อาศัย
นอกจากรูปแบบโครงการที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยแล้ว ผมอยากเน้นย้ำในเรื่องทำเลของโครงการ An Urban Sanctuary Condominium ที่ถือว่าโดดเด่นและน่าจับตามองครับ
พร้อมพงษ์เป็นหนึ่งในทำเลที่มีศักยภาพที่สุดของเมืองไทยครับ
Mid Sukhumvit หรือสุขุมวิทตอนกลาง (อโศก-พร้อมพงษ์-ทองหล่อ) โดยมีพร้อมพงษ์เป็นเสมือนศูนย์กลางของความเป็น ‘Mid สุขุมวิท’ อย่างแท้จริง เราจึงได้เห็นการลงทุนมูลค่าสูงๆ และการเปิดโครงการมากมายในย่านนี้
เป็นไปตาม Trend ของ Mega International City ทั่วโลก ความเจริญอัดแน่นกันอยู่ตรงกลางเมือง เพราะคนจากทั่วโลกต้องแย่งกันมาอยู่ที่ศูนย์กลาง ลองคิดดูเล่นๆ นะครับ ถ้าคุณต้องไปอยู่ต่างประเทศคุณจะอยากอยู่อาศัยตามรอบนอกแล้วนั่งรถเข้ามาทำงานรึเปล่าครับ? แน่นอนว่าคำตอบคือ ”ไม่” การเดินทางหนึ่งชั่วโมงจากบ้านถึงที่ทำงานอาจสะดวกสำหรับคนเจ้าของประเทศแต่สำหรับพวก Expats ไม่ใช่สิ่งที่เค้าจะเลือกครับ
นอกจากทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองแล้ว พร้อมพงษ์ยังเป็นทำเลที่มีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง Working Life, Dining Life, Healthy Life, Relaxation Life และ Family Life ที่ลงตัวอีกด้วย นั่นคืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คนระดับ Luxury และ Expats ต่างประเทศมองหาครับ
ถ้าคุณถามผมว่า ผมอยากชวนใครให้ลองมาชมโครงการ An Urban Sanctuary Condominium บ้าง ผมอยากจะบอกว่าทุกคน! ฮ่าๆ ผมหมายความอย่างงั้นจริงๆ เพราะผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องอยากเป็นเจ้าของบ้านแบบนี้ไว้ซักหลังไม่ว่าจะเอาไว้เพื่อตัวเองหรือครอบครัว
โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังมองหาบ้านที่ตอบโจทย์ในด้าน SAFETY, PRIVATE, SANTAURY, Like a House เหมือนผม สะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ใกล้ที่ทำงาน ใกล้โรงเรียนลูก ใกล้ห้างสรรพสินค้า สามารถหาอาหารอร่อยๆ ทานทุกวัน มองว่าการไม่อยู่ติดรถไฟฟ้าจนเกินไปเป็นเรื่องดีเพราะขับรถเป็นหลักอยู่แล้ว และจะได้ความสงบเป็นส่วนตัว ที่จอดรถที่จัดมาให้มากเกินพอของ An Urban Sanctuary Condominium น่าจะสำคัญกว่าการอยู่ติดบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้า
โครงการนี้เหมาะกับทั้งคนโสดที่ Mature กับการใช้ชีวิต ครอบครัวใหม่พร้อมลูกเล็ก คนที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สองใจกลางเมือง คนที่เพิ่งเกษียณซึ่งไม่ต้องการอยู่บ้านนอกเมือง และไม่ต้องการที่จะดูแลบ้านหลังใหญ่ แต่อยากได้ที่อยู่อาศัยที่สามารถไปไหนมาไหน พบปะเพื่อนฝูงได้สะดวก แต่ยังคงมีความเหมือนบ้าน
ถ้ามองในแง่ของนักลงทุน พร้อมพงษ์เป็นทำเลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวต่างชาติที่มาทำงานในเมืองไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวญี่ปุ่น และยังเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีค่าเช่าต่อตารางเมตรสูงที่สุดของกรุงเทพอีกด้วย ซึ่งนอกจากความทันสมัยไปจนถึงความครบครันที่เป็นจุดดึงดูดให้ชาวต่างชาติชอบมาอาศัยอยู่ในทำเลนี้แล้ว ความสงบร่มรื่นๆ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชุมชน หรือแม้กระทั่งความผสมผสานกันของความแตกต่างหลากหลายที่ลงตัวก็ทำให้ชาวต่างชาติหลงใหล
หากมองแบบ Thoughtful Investor คุณอาจจะซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัยเองและลงทุนไปในตัว ทำเลแบบนี้ถ้าซื้อไว้แล้วอยู่อาศัยไปซัก 5-10 ปี ยังไงก็กำไรครับ เหมือนอยู่ฟรีแถมกำไร
เป็นยังไงกันบ้างครับ An Urban Sanctuary Condominium by SINGHA ESTATE น่าสนใจใช่ไหมล่ะครับ ผมเองพิมพ์ไปก็บัตรเครดิตสั่นไป… ราคาเปิดตัวน่าจะประมาณ 200,000 บาทต่อตารางเมตร หรือ 10-20 ล้านบาท ซึ่งผมเชื่อว่าคุ้มเกินคุ้ม คุณจะไม่เสียใจที่ซื้อบ้านหลังนี้เลย
โครงการจะเปิด Pre sales เร็วๆนี้ ถ้าใครสนใจจริงๆ
แนะนำให้ลงทะเบียนไว้ได้เลยครับที่ >> http://bit.ly/2LRHdTW
YouTube Video:
An Urban Sanctuary Condominium by SINGHA ESTATE
Urban Sanctuary Condominium
Livinginsider - Weekly Insight Report [08-14 Dec 2024]
2024-12-15
Aspire อิสรภาพ สเตชั่น คอนโดหนึ่งเดียวบนถนนวังเดิม ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินเพียง 350 ม. พุ่งตรงสู่ CBD โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย ตอบโจทย์คนวัยทำงาน
2024-12-13
Livinginsider - Weekly Insight Report [01-07 Dec 2024]
2024-12-09
เตรียมพบกับ… Nirvana @WORK กรุงเทพกรีฑา โมเดิร์น โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น 6 ระดับ ติดมอลล์ Early Bird Booking ราคาพิเศษเริ่ม 13.99 ลบ.*
2024-12-05
Livinginsider - Weekly Insight Report [24-30 Nov 2024]
2024-12-02
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากๆ เลย
อ่านง่ายดีค่ะ
ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย รู้เรื่องดีค่ะ
ชอบมาก ขอบคุณมากคะ