รายการโปรด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.ฉช) ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ… นั้น สาระสำคัญในร่างพระราชบัญญัติ ฯ นี้ กำหนดให้ผู้เสียภาษีมีหน้าที่ต้องเสียภาษีจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของที่ดินหรือห้องชุด ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีดังต่อไปนี้
1.เมื่อมีการซื้อขายที่ดินและห้องชุดในระหว่างวันที่รัฐเริ่มดำเนินโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐถึงวันที่โครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐดำเนินการแล้วเสร็จ “ให้ผู้ขายที่ดินหรือห้องชุดเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี” ทั้งนี้ ให้กรมที่ดินมีอำนาจจัดเก็บภาษีดังกล่าว
2.เมื่อโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐดำเนินการแล้วเสร็จ ให้บุคคลดังต่อไปนี้เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี ภายใน 30 วัน นับจากวันที่โครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐดำเนินการแล้วเสร็จ
กรณีที่ดินหรือห้องชุดที่มีมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท และใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินหรือเจ้าของห้องชุดดังกล่าวเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี
กรณีห้องชุดที่เจ้าของโครงการอาคารชุดยังไม่ได้จำหน่ายให้เจ้าของโครงการอาคารชุดที่เป็นเจ้าของห้องชุดเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี ทั้งนี้ ให้อปท. ที่มีโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐตั้งอยู่มีอำนาจจัดเก็บภาษีดังกล่าว
3.กำหนดให้ฐานภาษีเพื่อการคำนวณภาษี แบ่งเป็น 4 กลุ่มดังนี้ กลุ่มที่ 1 กรณีโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐเริ่มดำเนินการก่อนร่างพระราชบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้ แต่มีการซื้อขายก่อนโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐแล้วเสร็จ ให้คำนวณส่วนต่างของมูลค่าที่ดินหรือห้องชุด ดังนี้
1.การซื้อขายที่ดินหรือห้องชุดที่ผู้ขายได้มาก่อนร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีผลบังคับใช้ ให้คำนวณส่วนต่างของมูลค่าที่ดินหรือห้องชุดในร่างพระราชบัญญัติฯ มีผลบังคับใช้กับมูลค่าที่ดินหรือห้องชุดในวันที่ทำการซื้อขาย
2.การซื้อขายที่ดินหรือห้องชุดที่ผู้ขายได้มาหลังจากพระราชบัญญัติ ฯ มีผลบังคับใช้ ให้คำนวณส่วนต่างของมูลค่าที่ดินหรือห้องชุด ณ วันที่ได้มากับวันที่ทำการซื้อขาย
กลุ่มที่ 2 กรณีโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐเริ่มดำเนินการก่อนพระราชบัญญัติ ฯ มีผลบังคับใช้ แต่มีหรือไม่มีการซื้อขายหลังโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐแล้วเสร็จ
ให้คำนวณส่วนต่างของมูลค่าที่ดินหรือห้องชุดโดยให้คำนวณส่วนต่างของมูลค่าที่ดินหรือห้องชุดในวันที่พระราชบัญญัติ ฯ มีผลบังคับใช้ หรือ วันที่เจ้าของได้มา กับมูลค่าที่ดินหรือห้องชุดในวันที่โครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐดำเนินการแล้วเสร็จ
กลุ่มที่ 3 กรณีโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ เริ่มดำเนินการหลังพระราชบัญญัติ ฯ มีผลบังคับใช้ แต่มีการซื้อขายที่ดินหรือห้องชุดก่อนโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐแล้วเสร็จ ให้คำนวณส่วนต่างของมูลค่าที่ดินและห้องชุด ดังนี้
1.การซื้อขายที่ดินหรือห้องชุดที่ผู้ขายได้มาก่อนวันที่รัฐเริ่มดำเนินโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ ให้คำนวณส่วนต่างของมูลค่าที่ดินหรือห้องชุดในวันที่รัฐเริ่มดำเนินโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ กับมูลค่าที่ดินหรือห้องชุดในวันที่ทำการซื้อขาย
2.การซื้อขายที่ดินหรือห้องชุดที่ผู้ขายได้มาระหว่างวันที่รัฐเริ่มดำเนินโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ ให้คำนวณส่วนต่างของมูลค่าที่ดินหรือห้องชุด ณ วันที่ได้มากับวันที่ทำการซื้อขาย
กลุ่มที่ 4 กรณีโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐเริ่มดำเนินการหลังพระราชบัญญัติ ฯ มีผลบังคับใช้ แต่มีหรือไม่มีการซื้อขายหลังโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐแล้วเสร็จ
ให้คำนวณส่วนต่างของมูลค่าที่ดินหรือห้องชุดในวันที่รัฐเริ่มดำเนินโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ หรือ วันที่เจ้าของได้มา กับมูลค่าที่ดินหรือห้องชุดในวันที่โครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐดำเนินการแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ การคำนวณมูลค่าที่ดินและห้องชุด ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุดเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินที่คณะกรรมการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์กำหนดเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ
4.การคำนวณภาษีให้ใช้ฐานภาษีของที่ดินหรือห้องชุดที่คำนวณได้คูณด้วยอัตราภาษี
5.กำหนดให้ในการจัดเก็บภาษีต้องไม่เกินร้อยละ 5 และพื้นที่ที่ให้มีการจัดเก็บภาษี ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการพิจารณากำหนดพื้นที่จัดเก็บภาษีประกาศกำหนด
6.กำหนดให้การจัดเก็บภาษีในอัตราไม่เกินร้อยละ 5 ทั้งนี้ อัตราภาษีที่อปท. หรือ กรมที่ดินใช้จัดเก็บให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
7.กำหนดให้เงินภาษีที่จัดเก็บตามร่างพระราชบัญญัตินี้ ให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
8.กำหนดให้กรณีผู้เสียภาษีมิได้ชำระภาษีค้างชำระ เบี้ยปรับและเงินเพิ่มภายในเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือแจ้งเตือน เมื่อพ้น 90 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งเตือนดังกล่าวแล้ว
ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือยึด อายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้เสียภาษีเพื่อนำเงินมาชำระภาษีค้างชำระ เบี้ยปรับ เงินเพิ่มและค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการยึด อายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นได้
แต่ห้ามมิให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้เสียภาษีเกินกว่าความจำเป็นที่พอจะชำระภาษีค้างชำระ เบี้ยปรับ เงินเพิ่มและค่าใช้จ่ายดังกล่าว
9.กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามกฎหมายนี้
ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ
https://www.prachachat.net/property/news-188139
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้านคุณภาพการบริหารจัดการระดับสากล กวาด ISO มากที่สุด ครบ 3 มาตรฐานครอบคลุมทุกมิติ เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย
2022-07-14
นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ ส่งโครงการ THE ONE life bangna บุกเมกาบางนา บ้านเดี่ยวอารมณ์รีสอร์ตใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ทำเลต้นบางนา
2022-07-14
Last Call Promotion!! กับแคมเปญ “ชีวาทัยเป็นได้มากกว่าเพื่อน” หมดเขต 31 ก.ค.นี้เท่านั้น
2022-07-14
ASW เสริมกลยุทธ์ Lifestyle Community จัด Monstr Concert Festival Series#1 ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกบ้านโครงการคอนโดฯ เคฟทาวน์ สเปซ
2022-07-14
เตือนภัยขอสินเชื่อบ้าน-ที่ดินระวังโดนโกง
2022-07-11
ข้อมูลละเอียดดีครับ ขอบคุนสำหรับ ข้อมูลนะครับ
รายละเอียดครบถ้วนมาก ตอบทุกข้อสงสัยเลยครับ
ดีไซน์เว็บสวยดีค่ะ ดูง่าย ชอบมาก
บอความดี ขออนุญาตแชร์ครับ