News
icon share

เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ ลุยอสังหาฯ ต่อเนื่อง

LivingInsider Report 2018-07-23 17:02:11
เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ ลุยอสังหาฯ ต่อเนื่อง

เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ ลุยอสังหาฯ ต่อเนื่อง เปิดตัวคอนโดใหม่ เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71 รองรับไลฟ์สไตล์คนเมือง ตั้งเป้ายอดขายรวม 2,500 ล้านบาท ในปี 2561

 

บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเครือของกลุ่มบริษัท พี.เอ็ม. กรุ๊ป ประกาศเดินหน้าลุยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโรงแรมย่าน ECBD เพิ่ม ยึดแนวใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT รองรับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าในเมือง

 

นำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ ออกแบบเรียบหรู ทันสมัย เพื่อคุณภาพการใช้ชีวิตที่ลงตัว ในราคาที่คุ้มค่า โดยไตรมาสที่ 3/2561 จะเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ “เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71” ตั้งเป้าสิ้นปี 2561 มียอดขายรวมทุกโครงการ 2,500 ล้านบาท ทั้งนี้ เตรียมงบลงทุนอีกไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท รุกสร้างโรงแรมบูติก 2 แห่ง ภายในปี 2566 

เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ ลุยอสังหาฯ ต่อเนื่อง

 

คุณอุษณา มหากิจศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า “สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2561 บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ฯ ยังคงมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ในการสร้างแบรนด์ “เดอะเนสท์” ให้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในด้านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองความต้องการและ life style ของคนเมือง อย่างแท้จริง

เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ ลุยอสังหาฯ ต่อเนื่อง

 

ทั้งทำเลที่ตั้งโครงการ ดีไซน์ที่เรียบหรูทันสมัย เฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งที่มีคุณภาพ แบบแปลนที่ลงตัวเหมาะสมกับการอยู่อาศัย ครบทั้งคุณภาพ  ความสะดวกสบาย และภาพลักษณ์ที่มี ความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละโครงการ ในราคาที่ลูกค้าจับต้องได้ คุ้มค่าหากเปรียบเทียบกับ โครงการที่อยู่อาศัยในเกรดเดียวกันหรือในละแวกเดียวกัน” 


บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ฯ ลงทุนต่อเนื่อง หลังจาก ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากโครงการแรก “เดอะเนสท์ เพลินจิต” ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ สูง 8 ชั้น มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ที่เปิดขายในปี 2556 จำนวน 64 ยูนิต ผลตอบรับดีมาก ปิดการขายได้ ตามเป้าหมาย

 

โดยกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มนักลงทุนและผู้มีรายได้ในระดับ Middle  Management ที่ทำงาน ย่านชิดลม เพลินจิต อาจจะมีบ้านอยู่แล้วและต้องการคอนโดเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง มีความสะดวกใน การเดินทางหรือเพื่อ การลงทุนในอนาคตสำหรับการซื้อไว้ปล่อยเช่า  


โครงการที่สอง “เดอะเนสท์ สุขุมวิท 22” ซึ่งป็นโครงการโลว์ไรซ์ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 316 ยูนิต ออกแบบโดย PAA มีมูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เปิดขายช่วงปลายปี 2558  สร้างเสร็จเมื่อปลายปี 2560 โดยกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ได้แก่ กลุ่มนักลงทุนและผู้มีรายได้ในระดับ Middle Management หรือพนักงานบริษัท ที่มีรายได้ 40,000 บาทขึ้นไป

เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ ลุยอสังหาฯ ต่อเนื่อง

 

อาจจะทำงานในย่านสุขุมวิท หรือกำลังมองหา ที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง มีไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตในเมือง เน้นการเดินทางที่คล่องตัวเป็นหลัก หรืออาจจะเป็นกลุ่มนักลงทุนที่มองหาคอนโดไว้เพื่อปล่อยเช่า เนื่องจากย่านนี้เป็นย่านที่ต่างชาติ ให้ความสนใจ เช่าสูงเพราะอยู่ระหว่างรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอโศกและพร้อมพงษ์  ปัจจุบัน เหลืออีก 10% เท่านั้น คาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปี 2561

 

สำหรับโครงการที่กำลัง Hot ในขณะนี้ อยู่ในทำเล Eastern Center Business District (ECBD) ซึ่ง เป็นทำเล ยอดนิยมที่กำลังมาแรง คือ โครงการ “เดอะเนสท์ สุขุมวิท 64” เป็นโครงการ โลว์ไรส์ สูง   8 ชั้น มี 3 อาคาร จำนวน 439 ยูนิต ออกแบบโดย Tandem ตกแต่งภายใน โดย Paradigm Shift และออกแบบ Landscape โดย Red Landscape

 

ภายใต้แนวคิด “Finest Nature Reflection” ออกแบบเพื่อที่สุดของชีวิตที่ลงตัว ตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบ 4 ไร่ สามารถเข้าออกได้ทั้งจากซอยสุขุวิท 64 ซึ่งปากซอยเป็น BTS ปุณณวิถี และซอยสุขุมวิท 66/1 ที่ปากซอยเป็น BTS อุดมสุข  เปิดให้จองเมื่อปลายปี 2560 คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2562 มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท  

 

ปัจจุบัน “เดอะเนสท์ สุขุมวิท 64” มียอดจองแล้วกว่า 80% คาดว่าปิดการขายได้ก่อนสิ้นปีนี้ โดยกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ได้แก่ กลุ่มนักลงทุน หรือกลุ่ม first jobber พนักงานบริษัทที่มีรายได้ 30,000 บาทขึ้นไป อาจจะทำงานย่านสุขุมวิท หรือออกไปทางบางนา และกำลัง มองหาที่อยู่อาศัย   เป็นของตัวเองที่สามารถเดินทางสะดวกใช้ชีวิตได้ในเมืองเนื่องจาก อยู่ใกล้ รถไฟฟ้าเพียง 600 เมตร รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่กำลังมองหาคอนโดให้เพื่อปล่อยเช่า

เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ ลุยอสังหาฯ ต่อเนื่อง

 

คุณอุษณา กล่าวว่า “ตลาดคอนโดมิเนียม ปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาครัฐมีการลงทุนโครงการสาธารณูปโภคต่อเนื่อง ผู้บริโภค  มีความเชื่อมั่น และ เริ่มกลับมาสนใจซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับ ปัจจุบันชาวต่างชาติสนใจเข้ามา ซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน สิงคโปร์ และ ฮ่องกง

 

ทำให้คอนโดมิเนียมในทำเลกรุงเทพชั้นในและเขตรอบกรุงเทพชั้นในที่ใกล้แนวรถไฟฟ้าเป็นทำเลที่มาแรง มีอุปทานใหม่เกิดขึ้นมาก เชื่อว่าการแข่งขันก็เข้มข้น ด้วยจำนวนโครงการใหม่   ที่จะทยอยเปิดตัว ด้านซัพพลายที่ตอบโจทย์ตลาดระดับ กลางบนขึ้นไปยังคงได้รับการตอบรับที่ดี โดยมีเงื่อนไข ของราคาเปรียบเทียบกับคุณภาพและ

 

ความสะดวกในการเดินทางซึ่งเป็น 3 ปัจจัยหลักในการตัดสินใจ ซื้อหรือลงทุน สำหรับลูกค้าของเดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ ส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองในสัดส่วนที่มากกว่า 50% จากยอดขายปัจจุบัน และ อีก 50% ซื้อเพื่อปล่อยเช่าเป็นการลงทุนในระยะยาว โดยมีสัดส่วนลูกค้าคนไทยและต่างชาติ คิดเป็น 70 : 30 และลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่เป็น ชาวจีน และฮ่องกง

 

เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่ยังมีอยู่บริษัท เดอะเนสท์ฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการ “เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71” ตรงสถานีพระโขนง  ราวเดือนสิงหาคมปีนี้ เป็นโครงการโลว์ไรส์ 8 ชั้นเช่นเดิม จำนวน 5 อาคาร มี 515 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท  เรามั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับสิ่งทีดีที่สุด มีคุณภาพที่สุดอย่างแน่นอน”


สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าปิดยอดขายรวมของทุกโครงการที่ 2,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 1,500 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังวางแผน ที่จะรุกธุรกิจโรงแรมบูติค 2 แห่ง รวมกันประมาณ 450 ห้อง ด้วยเงินลงทุน 2,000 ล้านบาท เล็งทำเลย่านเพลินจิต และย่านนานาไว้ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างราวปี 2563 – 2566 

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider