The Reserve 61 Hideaway – บรรทัดฐานใหม่ของคอนโด Luxury ในสังคมมีระดับ ใจกลางสุขุมวิท พร้อมสรรพทุกมิติการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ

The Reserve 61 Hideaway - บรรทัดฐานใหม่ของคอนโด Luxury ในสังคมมีระดับใจกลางสุขุมวิท พร้อมสรรพทุกมิติการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ

โดย Gott

ผมคิดว่าใครหลายคน เคยคิดจะมีที่อยู่อาศัยในย่านที่ถือว่าเป็นสุดยอดของประเทศอย่าง เอกมัย-ทองหล่อ แน่นอนว่าเมื่อมีความต้องการสูงก็ย่อมมีผู้ประกอบการหลายเจ้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลายโครงการออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนซื้อ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนี่ยม

ปัจจุบันเราจึงเห็นการก่อสร้างของคอนโดหลายโครงการในย่าน เอกมัย-ทองหล่อ ทุกๆแบรนด์แข่งกันเรื่องความ Luxury แต่ผมก็เห็นแค่ไม่กี่เจ้าที่ทำออกมาแล้ว เป็นคอนโด Luxury จริงๆ คอนโด Luxury ไม่ได้หมายถึงคอนโดราคาแพงและมี Facility เยอะๆ

ความ Luxury ที่แท้จริงๆ ต้องมาพร้อมขนาดและฟังชั่นห้องที่ตอบโจทย์ รวมถึงความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งเอาจริงๆ ผมยังไม่ค่อยเห็นคอนโดที่อ้างว่า Luxury เป็น Luxury จริงๆในแบบที่ผมคิดเลย เพราะทุกเจ้ากลัวว่าการทำห้องใหญ่เกินไปจะทำให้ราคาแพง แล้วจะขายไม่ได้ จึงทำเป็นห้องเล็กๆเพื่อให้ราคา Compact ดึงดูดใจมากกว่า

 

อีกเรื่องที่สำคัญคือ จำนวนที่จอดรถ หลายๆคอนโดที่บอกว่าเป็น Luxury ที่จอดรถไม่ถึง 70% ด้วยซ้ำ คนซื้อคอนโดระดับนี้ ผมว่าที่จอดรถสำคัญมากๆ

หลายปีที่ผ่านมาผมเลยยังไม่เจอคอนโด Luxury ที่เรียกได้เต็มปากจริงๆซักที จนกระทั่งมีโอกาสได้ไปชม THE RESERVE – 61 HIDEAWAY ซึ่งตามความคิดผม สำหรับคอนโดของพฤกษา ผมไม่เคยคิดว่าพฤกษาจะถนัดเรื่องคอนโด Luxury เท่าไร แต่พอได้มาดูของจริง ความคิดผมก็เปลี่ยนทันที

พฤกษาได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ของคอนโด Luxury ที่เรียกได้เต็มปากว่ามัน Luxury จริงๆ โดยเน้นห้องใหญ่ อยู่ได้จริง บางห้องมีห้อง Maid ด้วย (ห้อง Maid มีห้องน้ำของตัวเองเลย)  เรียกได้ว่า ใจถึง พึ่งได้มากๆ 

 

การทำได้แบบนี้ แสดงว่าทางทีมงานต้อง Research ข้อมูลลูกค้าเยอะพอสมควร จนเข้าใจว่าคนอยู่อาศัยระดับนี้เค้าต้องการอะไร ราคายอมรับว่าสูงครับ แต่บอกเลยว่าคุ้ม ถ้าคุณมีเงิน มันน่าซื้อเก็บไว้มากๆ

 

สำหรับคนมีฐานะและประสบความสำเร็จ บางครั้งสิ่งที่ควรจะเสียเงินให้มากที่สุดก็คือบ้านดีๆซักหลัง จะพูดว่าเสียเงินก็คงไม่ถูก เพราะนี่คือที่สินทรัพย์ที่จะสร้างมูลค่ามากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งจะเป็นสมบัติที่จะส่งต่อลูกหลานได้อย่างดี

ครั้งที่แล้ว The Editor ของเราได้วิเคราะห์ถึงความน่าสนใจของโครงการเบื้องต้นไว้ดีมากๆ ใครสนใจลองอ่านตามลิ้งค์นี้ได้ครับ THE RESERVE 61 HIDEAWAY-ไม่ใช่แค่ที่สุดของสินทรัพย์ แต่นี่คือสังคมมีระดับใจกลางสุขุมวิท

มาคราวนี้ห้องตัวอย่าง พร้อมให้ชมกันแล้ว ผมจะพามาชมกันครับ บอกเลยว่า ถึงเจ็บคอ ก็ต้องพูดเยอะ เพราะเค้าจัดเต็มจริงๆ

THE RESERVE – 61 HIDEAWAY เป็นโครงการ Low Rise 2 อาคาร 7 ชั้น มีจำนวนห้องเพียง 164 ยูนิต ถือเป็นเฟส 2 ต่อยอดจาก The Reserve Sukhumvit 61 ซึ่งมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดตรงที่การออกแบบภายนอกให้ความรู้สึกโมเดิร์นมากขึ้น แต่ยังคงความคลาสสิกเพื่อให้เชื่อมโยงกับโครงการแรกอยู่ ลดทอนรายละเอียด Facade ต่างๆ ให้ออกมาเรียบหรู เปิดกว้างทัศนียภาพด้วยกระจกบานใหญ่ พร้อมทั้งสร้างบรรยากาศโดยรอบให้เสมือนการพักอยู่ในรีสอร์ทในบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ บนทำเลใจกลางสุขุมวิท (เอกมัย – ทองหล่อ) อีกทั้งยกระดับวัสดุภายในโครงการ และภายในห้องพักให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น

ทำเลที่ตั้งของโครงการ THE RESERVE – 61 HIDEAWAY อยู่ในผืนที่ดินเดียวกันกับโครงการแรก ในซอยสุขุมวิท 61 ซึ่งถือเป็นที่ดินแปลงสุดท้าย และยังอยู่ในซอยคุณภาพ มีความสะอาด น่าอยู่ สงบร่มรื่น จึงไม่แปลกที่ซอยนี้ได้รับรางวัลชุมชนน่าอยู่ของกรุงเทพฯ ไปครอง ซึ่งพอเดินทางถึงสำนักงานขาย(ที่เดียวกับโครงการ) ก็เห็นได้ชัดถึงความหรูหรา ในด้านของการตกแต่งตั้งแต่ภายนอกที่ฉากหน้าต้อนรับด้วยหินอ่อนตั้งเด่นสง่า การจัดสวนสไตล์อังกฤษ พรรณไม้ทรงพุ่มที่มีโลโก้โครงการแฝงอยู่ และภายในที่เด่นชัดด้วยการใช้หินเป็นวัสดุหลักในตกแต่งและกระจกเปิดกว้างรับแสงภายนอก พร้อมวิวสวนสวยให้ได้ผ่อนคลาย

เรื่องการเดินทางสะดวกแน่นอน เพราะตัวโครงการมีระยะห่างจากปากซอยประมาณ 800 เมตร อาจจะดูไกล แต่โครงการมี Shuttle Service ไปส่งให้ที่ปากซอย แล้วเดินขึ้นรถไฟฟ้า BTS เอกมัย หรือทองหล่อได้ตามต้องการ อีกทั้งสามารถเดินทะลุออกเอกมัย ซอย 1 ก็ยังได้ หรือหากใครใช้รถส่วนตัว สามารถขับออกปากซอยสุขุมวิท 61 แล้วสามารถเลือกเลี้ยวซ้าย – ขวา เพื่อไปต่อสถานที่อื่นๆ ได้ตามต้องการ ซึ่งมีเพียงไม่กี่ซอยในสุขุมวิทเท่านั้นที่สามารถทำได้แบบนี้

ความสมบูรณ์ในย่านนี้ไม่ต้องพูดไรมากก็คงรู้กันดีอยู่แล้ว เพราะอัดแน่นไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล และโรงเรียนชั้นนำเต็มไปหมด ทั้ง The Emquartier, Emporium, J avenue, The Common, Rain hill, Trinity international school และโรงพยาบาลสมิติเวช นี่ขนาดเพียงแค่ยกตัวอย่างเท่านั้น ของจริงมีอีกเพียบ

ส่วนกลางเป็น Extraordinary Triple Facilities ในพื้นที่กว่า 3,600 ตร.ม. จัดวางเป็นคอร์ทตรงกลาง แล้วตัวอาคารเป็นกรอบนอก รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ โดยทุกส่วนจะเล่นระดับสายตาของมุมมองผู้พักอาศัย ไม่ให้เห็นกันได้ง่ายๆ เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้เกิดสูงสุด มีส่วนของ Hideaway Garden ให้ความสงบท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่น ด้วย Pocket Seat พร้อมกับ Infinite Pool สระว่ายน้ำที่ว่ายได้รอบ และพื้นที่นั่งริมสระน้ำที่มีม่านน้ำตกกั้นความเป็นส่วนตัวระหว่างนอนอาบแดด

ลงบันไดไปชั้นล่างยังมี Wellness Retreat & Onsen ที่ลูกบ้านสามารถมาฟื้นฟูร่างกายได้เต็มที่ และ Private Salon & Spa

ภายในอาคารยังมี The Reserve Lounge และ Concierge สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ เพื่อรองรับผู้เช่าชาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เชื่อมต่อขึ้นไปชั้น 3 เดินผ่าน Pathway On 3rd เพื่อไปยัง Fitness Suite ที่มีอุปกรณ์รองรับให้อย่างครบครัน

โครงการมาพร้อมที่จอดรถ 100% พร้อมรองรับรถ Super Car และ EV Charger

Facility

Unit Walkthrough

ทุกห้องตกแต่งให้แบบ Fully Fitted พร้อมแพคเกจเฟอร์นิเจอร์จาก Olivia ประตูห้องบานกว้าง 2 บาน เพื่อความสะดวกของลูกบ้าน พร้อมการออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้กว้างอย่างลงตัว มีห้องทั้งหมด 5 แบบ คือ 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus, 2 Bedroom, 3 Bedroom, Duplex และ Triplex

2 Bedroom (121.36 sq.m.)

ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางจึงสามารถจัดวางพื้นที่ได้อย่างลงตัวเป็นสัดส่วนชัดเจน และจุดเด่นห้องนี้ อยู่ตรง Master Bedroom ที่มีห้องน้ำขนาดใหญ่พิเศษ ให้อารมณ์สไตล์โรงแรม 5 ดาว พร้อมฟังก์ชั่นน่าสนใจที่เราจะมาพูดให้ฟังกัน

แค่เพียงหน้าห้องก็มีความสนใจแล้ว ด้วยประตูบานกว้าง (90 cm. + 40cm.) เปิดได้ 2 บาน สะดวกมากกับการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ มาพร้อม Digital Door Lock ของ Yale, Mail Box ที่ลูกบ้านสามารถรับพัสดุได้จากภายในห้องเลยทันที, Video Door Phone ให้ลูกบ้านติดต่อกับแขกที่เข้ามาหาได้

เข้ามาภายในห้อง ด้านซ้ายมือมีห้องสำหรับจัดเก็บของต่างๆ และตู้จัดเก็บรองเท้าบิลท์อินกับผนัง สำหรับส่วนครัว พื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหาร เปิดกว้างเชื่อมต่อกันหมด ด้วยการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์จาก Olivia และการใช้วัสดุคุณภาพตั้งแต่พื้นส่วนพื้นที่นั่งเล่นเป็น Engineering Wood ลายก้างปลา ส่วนพื้นครัวเป็น Porcelain ลายหินอ่อน ซึ่งแม้แตกต่างกัน แต่ยังดูเชื่อมโยงกันอย่างลงตัว

พื้นที่ครัวเป็นแบบเปิด มี Island มาพร้อม ซึ่งออกแบบแพนทรีให้มีพื้นที่สำหรับพักจาน พร้อมฟังก์ชั่นไว้แช่เครื่องดื่มได้ภายในอันเดียว อ่างล้านจานมีเครื่องปั่นเศษอาหารลดปัญหาการอุดตัน เตาอบ เตาไฟฟ้า และฮูด เป็นของ Gorenje รุ่นที่ออกแบบโดย Philippe Starck สถาปนิกชื่อดังระดับโลก ในเรื่องของวัสดุใช้ท็อปหิน Quartz และหินอ่อน Black Forest มาตกแต่งตรงด้านข้างของ Island ให้ดูโดดเด่น เป็นเสมือนประติมากรรมที่ไว้อวดโฉมภายในห้อง

พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่มาก เปิดรับวิวด้วยกระจกเต็มบาน ความสูง 2.7 เมตร มีการลดทอนรายละเอียดของเฟรมกระจกให้แตกต่างจากโครงการเฟสแรก และกระจกทรงโค้งให้ลูกบ้านได้เต็มอิ่มกับวิวในส่วนนี้ให้มากที่สุด ส่วนการใช้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ใช้ของ Olivia ทั้งหมดเหมือนที่บอกไว้ตอนแรก

ห้องอเนกประสงค์ที่ถือเป็นไฮไลท์เลยสำหรับห้องนี้ โดยจัดให้เป็นแบบ Semi – Outdoor เมื่อลูกบ้านต้องการบรรยากาศเสมือนนั่งอยู่ตรงระเบียง ก็เพียงเปิดกระจกบานกระทุ้งพร้อมรับลมจากภายนอก และชมวิวทิวทัศน์ผ่านกระจกโดยรอบ แต่ถ้าหากต้องการบรรยากาศภายใน ก็เพียงปิดกระจกและเปิดแอร์ก็ได้เช่นกัน ซึ่งในห้องนี้ลูกบ้านสามารถสร้างไอเดียการจัดห้องให้เป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ หรืออื่นๆ ได้เต็มที่เลย

ห้องนอนเล็กถือว่าใหญ่พอสมควร เพราะสามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ แล้วยังเหลือพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ ได้อย่างเหลือเฟือ การตกแต่งเน้นการใช้กระจกเงาเพื่อให้ห้องดูหรูและกว้างขึ้น

Walk-in closet ขนาดพอดีที่เป็นเหมือนตู้โชว์ เมื่อเวลาเปิดไฟ และห้องน้ำจัดวางพื้นที่ใช้งานส่วนต่างๆ ได้อย่างลงตัว

สำหรับในห้องนี้จะมีกระจกบานใหญ่ข้างเตียงและพื้นที่ระเบียงไว้ออกไปนั่งเล่นรับลมได้อีกด้วย

Master Bedroom เป็นห้องขนาดกว้างมาก จัดวางเตียงคิงไซส์และโต๊ะนั่งเล่นได้แบบยังมีพื้นที่เหลือเฟือ จุดเด่นของห้องนี้จะอยู่ตรงกระจก Full Height ตรงข้างเตียงเพื่อให้สามารถรับวิวได้ 180 องศา และห้องน้ำสไตล์รีสอร์ท

พื้นที่ส่วน Walk-in closet ขนาดใหญ่ มีตู้เสื้อผ้าเหมือนกับห้องแรก เคาน์เตอร์ล้างหน้ากลางห้องแบบ His & Her ที่สามารถใช้พร้อมกันได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

ห้องน้ำได้สุนทรียภาพมากขึ้นด้วยอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว พร้อมจัดพื้นที่อาบน้ำและส่วนขับถ่ายไว้ด้านซ้าย-ขวา การเลือกใช้สุขภัณฑ์เป็นแบรนด์คุณภาพของ Villeroy & Boch และการใช้วัสดุภายในห้องน้ำยังคงด้วยหินอ่อน Black Forest เพิ่มความมีระดับได้ดียิ่งขึ้น

ถ้าคุณได้มาดูด้วยตาตัวเอง คุณจะเห็นว่า THE RESERVE – 61 HIDEAWAY เป็นโครงการ Luxury ที่ให้เหมาะกับการเป็นบ้านซักหลังใจกลางสุขุมวิทจริงๆ ไม่ใช่แค่การอยู่อาศัยเท่านั้นหากจะเก็บไว้ลงทุนก็เป็นเสมือนสินทรัพย์มีค่าที่อนาคตมูลค่ามีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เอาล่ะครับ อ่านรีวิวแล้วก็อย่าพึ่งเชื่อเยอะ ไปดูของจริงให้เห็นกันก่อนนะครับ รีบหน่อย Open House 10-11 พฤศจิกายนนี้ ได้ข่าวว่ายอดขายของเฟสนี้ก็ไม่ธรรมดา