รายการโปรด
ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ...ที่จะหาคอนโดใจกลางเมืองที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบายเรื่องการเดินทาง เข้าเมืองก็ง่าย มีทั้งทางด่วน รถไฟฟ้าหลายสาย ใกล้ย่าน CBD อย่างพระราม 9 มีพื้นที่ส่วนตัวขนาดใหญ่ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ที่สำคัญขอราคาเริ่มต้นไม่เกิน 2 ล้าน
ถ้าตัดเงื่อนไข “พระราม 9” ออกไป เหลือแต่ข้ออื่นๆ ก็พอเป็นไปได้ในราคาไม่เกิน 2 ล้าน แต่ทว่า Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง ผลงานการสร้างสรรค์ของ AssetWise กลับดึงดูดผู้คนด้วยจุดขายว่า เป็นคอนโดที่อยู่ใกล้ย่าน New CBD อย่างพระราม 9 และนานาสรรพสิ่งที่บรรยายไป ในราคาเริ่มต้นไม่เกิน 2 ล้าน
และไม่ใช่ว่าของไม่แพงมากจะราคาสู้ของแพงไม่ได้... เพราะจากภาพดราฟท์โครงการปล่อยมาตามด้านบน แค่เห็นก็รู้สึกเลยว่ามีอะไรให้น่าค้นหา ทั้งงานดีไซน์สไตล์โมเดิร์นแต่มีความเป็นธรรมชาติ เป็นคอนโดที่ดูเหมือนจะเป็นบล็อค แต่กลับมีการเล่นเส้นสายตามตัวอาคารให้ดูเหมือนมีการเคลื่อนพลิ้วไหวตลอดเวลา ผสานกับพื้นที่สีเขียว และการใช้ระแนงไม้เข้ามาตกแต่ง ก็ยิ่งเพิ่มความเป็นธรรมชาติ และมีความอบอุ่นน่าพักผ่อน
Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง โครงการใหม่ของ AssetWise ตั้งอยู่ในซอยประชาอุทิศ หรือแถวๆนั้น คนจะเรียกติดปากว่า ซอยสถานทูตลาว โลเคชั่นถือว่า ไม่ไกลจากย่านรัชดา พระราม 9 เลย แม้จะเป็นอีกถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องรถติด แต่ทว่าก็มีวิธีการเดินทางและเส้นทางลัดเลาะเป็นตัวเลือกมากมาย
เจาะลึกโลเคชั่น
บริเวณปากซอยสหการประมูลเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ส่วนตรงข้ามโครงการก็เป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชฑูตลาว ถ้ามาจากถนนพระราม 9 → เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ วิ่งตรงไปก็จะถึงสี่แยกด่วนประชาอุทิศ → ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยประชาอุทิศ → เลี้ยวขวาเข้าซอยสหการประมูล ตรงเข้าไปก็จะเจอตัวโครงการอยู่ฝั่งขวามือ
• จากประชาอุทิศไปถนนรัชดาภิเษก สี่แยกห้วยขวาง ถนนพระราม 9 ถนนอโศก และถนนเพชรบุรี หากขับรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถมาทะลุออกทางสี่แยกห้วยขวางก็ได้ หรือจะเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกเหม่งจ๋ายแล้วตัดเข้าถนนเทียมร่วมมิตรก็จะไปโผล่บริเวณแถวหน้าห้าง The Street แล้วเบี่ยงซ้ายเพื่อไปยังฝั่งตึกทรู เอไอเอ ทาวเวอร์ เซ็นทรัลพระราม 9 ฟอร์จูนทาวเวอร์ สี่แยกอโศก ถนนเพชรบุรี ฯลฯ ก็ได้เช่นกัน หรือจากถนนเทียมร่วมมิตร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวัฒนธรรมเพื่อตรงไปยังแยกผังเมือง แล้วเลี้ยวขวาไปยังถนนพระราม 9 ตัดไปถนนอโศกและถนนเพชรบุรี
ถ้าไม่อยากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือจะหนีรถติดก็สามารถใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ที่มีให้บริการตลอด นอกจากนี้ก็ยังมีรถสองแถวสีแดงคอยวิ่งให้บริการ 2 เส้นทาง มาจนถึงคอนโดเลย นั่นคือ ตลาดห้วยขวาง-รามคำแหง และสายตลาดห้วยขวาง-จันทร์หุ่น
• จากประชาอุทิศไปถนนลาดพร้าว สามารถใช้เส้นทางหลักได้ 3 เส้นทางหลักๆ คือ วิ่งตรงเข้าไปในซอยสหการประมูล → เจอสามแยกให้เลี้ยวขวาจะเป็นซอยส่วนบุคคล วิ่งตรงไป → เลี้ยวซ้ายเข้าซอยจันทิมา หรือบริเวณซอยลาดพร้าว 80 แยก 21 วิ่งตรงไป → ถึงปากซอยลาดพร้าว 80
เมื่อออกจากซอยสหการประมูล → เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาอุทิศ → เลี้ยวซ้ายวิ่งไปตามถนนเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ → เบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนลาดพร้าวช่วงประมาณซอยลาดพร้าว 84
เมื่อออกจากซอยสหการประมูล → เลี้ยวขวาวิ่งไปตามถนนประชาอุทิศ ตัดผ่านประชาราษฏร์บำเพ็ญ 13 และซอยคุ้มเกล้า 14 → เข้าสู่ถนนสุทธิสารวินิจฉัยและแยกอินทามระ
• จากประชาอุทิศไปถนนเอกมัย ทองหล่อ จากตัวโครงการสามารถออกมาทางปากซอยประชาอุทิศ บริเวณแยกด่วนประชาอุทิศ ให้รอสัญญาณไฟเขียวเพื่อเลี้ยวขวา → วิ่งตรงอย่างเดียวก็จะผ่านสี่แยกที่ตัดกับถนนพระราม 9 → แล้วตรงไปก็จะตัดกับถนนเพชรบุรีหรือเรียกว่าแยกเอกมัยเหนือ ก็จะเข้าสู่ซอยเอกมัยหรือซอยสุขุมวิท 63 หรือตัดผ่านซอยเอกมัย 21 หรือซอยเอกมัย 5 เพื่อไปยังซอยทองหล่อก็ได้
อยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นลงทางด่วนเข้าออกเมือง
จุดขึ้นทางด่วน เมื่อออกจากโครงการมาทางปากซอยประชาอุทิศบริเวณแยกด่วนประชาอุทิศ → ให้เลี้ยวซ้ายวิ่งไปตามถนนเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ → ชิดขวาเตรียมยูเทิร์น → ขับตรงไปทางฝั่งขาเข้าก็จะเจอกับขุดขึ้นทางด่วน
จุดลงทางด่วน จะอยู่เลยปากซอยประชาอุทิศไปหน่อย เมื่อลงทางด่วนมาแล้วให้ชิดขวายูเทิร์น → ชิดขวาอีกครั้งเพื่อเลี้ยวขวาเข้าซอยประชาอุทิศบริเวณแยกด่วนประชาอุทิศ
รายล้อมด้วยรถไฟฟ้า 3 สาย ที่แม้จะไม่ได้อยู่ใกล้มาก แต่ถ้าสร้างเสร็จครบทั้งหมดเมื่อไร ก็จะช่วยให้เดินทางสะดวกสบายมากขึ้น
รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน บางซื่อ-หัวลำโพง ซึ่งเป็นสายที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งสถานีศูนย์วัฒนธรรมจะอยู่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุด แถมยังมีอาคารจอดรถยนต์รองรับได้ 200 คัน และลานจอดอีก 30 คัน
รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง คาดว่าจะเปิดใช้บริการปี 2563 โดยเริ่มวิ่งจากสถานีรัชดา ไปตามถนนลาดพร้าว และเลี้ยวขวาไปตามถนนศรีนครินทร์บริเวณแยกบางกะปิ วิ่งผ่านแยกศรีนุช ศรีเอี่ยม แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนเทพารักษ์ สิ้นสุดที่ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ซึ่งสถานีที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุดก็คือสถานีโชคชัย 4
รถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-สุวินทวงศ์ คาดว่าจะเปิดใช้บริการปี 2566 เริ่มวิ่งจากบริเวณศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ผ่านมาทางถนนพระราม 9 ที่สถานี รฟม. และสถานีประดิษฐ์มนูธรรมแถวหน้าวันพระราม 9 ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้โครงการ Atmoz มากที่สุด และวิ่งต่อไปตามถนนรามคำแหง สิ้นสุดที่สุวินทวงศ์
เพราะการเดินทางที่ค่อนข้างสะดวกสบาย แถมยังเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณถนนเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทั้งโซนสำนักงานออฟฟิศ และโซนพักอาศัยตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงระดับบน ทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทั้ง 4 ปัจจัย ซึ่งนอกจากบ้านพักและคอนโดแล้วยังมีโรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงเรียน ห้างสรรพสินค้าและ Community Mall หลากสไตล์
จากรอบๆ โครงการ ก็ถึงเวลาเข้ามาสำรวจภายในบริเวณโครงการกันบ้าง สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการก็อย่างที่บอกว่าอยู่ตรงข้ามกับสถานทูตลาว และปากซอยเป็นสถานทูตกัมพูชา ฝั่งตรงข้ามโครงการมี Family Mart และ 7-11 และมีร้านอาหารตามสั่ง ผลไม้ ขนม รวมทั้งของสดอีกเล็กน้อย รอบๆ โครงการเป็นอาคารบ้านพัก มีทั้งอพาร์ทเม้นท์ คอนโด Low Rise และบ้านเดี่ยวบ้างประปราย
Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดว่า “เพราะชีวิตไม่ได้มีแค่ Mode เดียว” Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง จึงถูกออกแบบให้เราสามารถเปิด-ปิดชีวิตเข้าสู่ทุกโหมดได้ทันทีที่ต้องการทั้ง Rest Mode การพักผ่อนที่สุขสงบท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวและพื้นที่ส่วนกลางที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ หรือจะกลับไป Active Mode ใช้ชีวิตสุดแอ็คทีฟไปกับสีสันของชีวิตเมืองก็ทำได้เพียงพริบตาเพราะอยู่ใกล้ทำเลศักยภาพและการเดินทางที่สะดวกสบายตามที่ได้รีวิวไปแล้วด้านบน
การออกแบบตัวอาคารได้ใช้ระแนงไม้เข้ามาประดับตกแต่งรอบโครงการและตัวอาคาร เพิ่มความร่มเงาและสร้างบรรยากาศให้เหมือนพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ท เน้นสีเอิร์ธโทน อ่อนนุ่ม กลมกลืนกับธรรมชาติ และอบอุ่นสบายตา
Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร รวมทั้งหมด 595 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3-3-10 ไร่ แบ่งเป็น อาคาร A 214 ยูนิต อาคาร B 214 ยูนิต และอาคาร C 166 ยูนิต ร้านค้า 1 ยูนิต มีพื้นที่จอดรถประมาณ 40%
ผังโครงการโดยรวมจะเป็นรูปตัว U คว่ำหัว เมื่อเข้าไปในโครงการด้านซ้ายเป็นอาคาร A ด้านขวาเป็นอาคาร B และด้านหลังเป็นอาคาร C มีพื้นที่สีเขียวและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่คั่นกลางระหว่างอาคาร A กับ B ส่วนพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ ก็กระจายอยู่ทั้งในอาคาร A B และ C แต่จะเน้นหนักไปที่อาคาร C
พื้นที่ส่วนกลางทุกๆ ส่วนจะเติมแต่งด้วยพื้นที่สีเขียวให้ผู้พักอาศัยสามารถเชื่อมต่อกับธรรมชาติรอบตัวได้อย่างกลมกลืน มีสระว่ายน้ำ 2 สระ และพื้นที่ส่วนกลางกระจายออกไปทั้ง 3 ตึก โดยสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ รวมแล้วมีส่วนกลางให้ถึง 30 กิจกรรม
พื้นที่ส่วนกลางหนักๆ เลยจะไปอยู่ที่อาคาร B และ C เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอาคาร C จัดเต็มมีทั้งโซนพักผ่อน สระว่ายน้ำ, Workspace, Creative และห้องชมภาพยนตร์
ด้านบนเป็นภาพตัวอย่างของโซนล็อบบี้ที่สามารถใช้รับแขกก็ได้ นั่งพักผ่อนก็ได้ หรือจะนั่งอ่านหนังสือก็ได้ โดยออกแบบให้เป็นกระจกทรงสูงเปิดโล่งรับแสงธรรมชาติ และพื้นที่สีเขียวจากด้านนอก เน้นสีเอิร์ธโทน ให้ความรู้สึกเย็นสบายตา เพิ่มความอบอุ่นด้วยแสงไฟอ่อนๆ
Gym & Boxing Studio ที่เน้นสีโทนครีมน้ำตาลอ่อนๆ ตกแต่งด้วยกระจกทรงสูง เปิดรับแสงแดดอ่อนๆ และช่วยพรางสายตาจากด้านนอกด้วยม่านธรรมชาติสีเขียว
Fit Studio สตูดิโอโยคะที่สามารถดัดแปลงใช้เพื่อการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ ได้ เน้นการออกแบบภายในเช่นเดียวกับ Gym & Boxing Studio มีกระจกทรงสูงเปิดรับแสงแดด แต่ลดแสงแดดที่จัดจ้าลงด้วยต้นไม้สีเขียวรอบนอก
ส่วนโซนพักอาศัยแบ่งห้องพักเป็น 4 แบบ
- ห้อง Studio ขนาดพื้นที่ประมาณ 21.10 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ประมาณ 22.35-25.90 ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive ขนาดพื้นที่ประมาณ 25.95-30.05 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ประมาณ 31.25-34.40 ตร.ม.
Atmoz ได้เปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่าง 3 ห้องคือ 1 Bedroom, 1 Bed Exclusive และ 1 Bed Plus
เริ่มจากห้องแบบแรกที่จะพาไปดูก็คือ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ประมาณ 22.35-25.90 ตร.ม. ลักษณะผังห้องจะเป็นแนวยาว คือเมื่อเปิดประตูเข้าไป ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ขวามือเป็นโซนครัว ตรงกลางเป็นโซนห้องนั่งเล่นและดูทีวี ด้านในสุดมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเป็นห้องนอน และภายในห้องนอนมีประตูเปิดออกไประเบียง
ภาพด้านล่าง เมื่อเปิดประตูเข้าห้องไป ประตูด้านซ้ายที่เห็นในภาพเป็นประตูห้องที่บังประตูห้องน้ำอยู่
เมื่อปิดประตูห้อง จะเห็นโซนครัวขนาดเล็กพอดี ซึ่งทางโครงการจะให้ทุกอย่างตามที่เห็นในภาพ คือ บิ้วอินท์เก็บของทั้งชั้นบนและชั้นล่าง เตาไฟฟ้า 2 หัว ซิงค์ล้างจาน ยกเว้นตู้เย็นกับไมโครเวฟ
โซนครัวจะอยู่ติดกับโซนนั่งเล่นและดูทีวี เนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด การวางเครื่องใช้ไฟฟ้าอาจจะต้องระวังเรื่องระยะเว้นว่างระหว่างกัน เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนสะสม
ส่วนห้องน้ำ มีการแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียก โดยทางโครงการติดฉากกั้นส่วนอาบน้ำมาให้เลย เนื่องจากมีพื้นที่จำกัดจึงทำเป็นบานเลื่อน 3 ตอนที่ช่วยให้ทางเข้ากว้างมากขึ้น มาพร้อมสุขภัณฑ์ครบ ปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องที่ทำความสะอาดง่าย
ถัดจากห้องครัวเป็นโซนห้องนั่งเล่น ซึ่งมีทั้งชั้นวางทีวีให้โซฟาตามแบบเลย ส่วนพื้นห้องทั้งหมดปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต ระหว่างโซนนั่งเล่นและห้องนอน กั้นด้วยบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนเช่นกัน สามารถเปิดรับแสงจากระเบียง หรือเปิดเพื่อระบายอากาศได้ค่อนข้างกว้าง
มุมตรงเมื่อมองเข้าไปในห้องนอน จะเห็นว่าบานเลื่อน 3 ตอนเปิดได้ค่อนข้างกว้างมาก ภายในห้องนอนมีเตียงนอนให้เห็นตามภาพ พร้อมด้วยตู้บิ้วอินท์ปลายเตียงที่ทำเป็นตู้เสื้อผ้ายาวตลอดแนวห้องนอน และสามารถทำเป็นที่แขวนทีวีบริเวณตู้เสื้อผ้าปลายเตียงได้ด้วย
ซูมใกล้เข้ามาหน่อยจะเห็นว่าตรงที่แขวนทีวีปลายเตียงนั้นเป็นตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อิน ที่ทำไว้ยาวตลอดแนวห้อง ซึ่งจะเห็นได้ว่าพื้นที่ที่เหลือรอบเตียงค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว มีประตูออกไปบริเวณระเบียง และมีมุมสำหรับเป็นมุมอ่านหนังสือหรือโต๊ะทำงานพร้อมรับวิวจากด้านนอก
ตรงมุมโต๊ะทำงานเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่เกือบเต็มบาน มีพื้นพอสมควร
ภาพซ้ายด้านล่างจะเห็นว่าเป็นกระจกเข้ามุมบริเวณโต๊ะทำงานที่สามารถเปิดรับแสงชมวิวภายนอกได้ตลอด ส่วนบริเวณระเบียงเป็นระแนงเหล็กสีดำ ด้านบนเป็นที่แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ 1 ตัวที่ให้มาพร้อมโครงการ
ภาพด้านล่างเป็นตัวอย่างเตียงที่โครงการให้มาพร้อมห้อง Fully Furnish ที่มีฟังก์ชั่นสำหรับเป็นที่เก็บของใต้เตียง
1 Bedroom Exclusive ขนาดพื้นที่ประมาณ 25.95-28.95 ตร.ม. ที่มีพื้นใช้สอยมากกว่าห้อง 1 Bedroom ประมาณ 3-6 ตร.ม. องค์ประกอบหลักๆ ของห้องเหมือนกัน คือมีห้องนอน โซนครัว ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่น แต่ว่าจะมีขนาดพื้นที่ในแต่ละห้องเพิ่มมากขึ้น
จุดเด่นของห้อง 1 bedroom exclusiveexclusive คือ ห้องครัวแบบปิด ที่สามารถใช้งานได้จริง มีประตูปิดสามารถเก็บกลิ่น ไม่ให้เล็ดรอดออกไปข้างนอกได้ หากทำอาหารที่กลิ่นแรง ก็สามารถทำได้สบายๆ กลิ่นจะไม่ติดที่เฟอร์นิเจอร์หรือผ้าม่านด้วย
นอกจากนั้นตำแหน่งครัวนี้จะอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งจะทำให้การระบายกลิ่นดียิ่งขึ้น และโครงการยังจัดเคาน์เตอร์ครัวแบบยาวมาให้ และมีตู้เก็บของมาให้ด้วย ครัวแบบปิดนี้ถือเป็น function function function function ที่ลูกค้าชอบมากที่สุด
ซึ่งวันนี้จะพามาชมห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom Exclusive โดยห้องจะมีขนาดค่อนข้างยาว จุดเด่นคือห้องนอนอยู่ริมหน้าต่าง ส่วนครัวอยู่ติดกับระเบียง มีพื้นที่สำหรับอยู่อาศัย 2 คนได้สบายๆ
เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาก็จะพบกับโซนรับแขกในฝั่งซ้ายมือมีพื้นที่เหลือเฟือไว้สำหรับวางโซฟา ส่วนด้านขวามือเป็นบิวท์อินชั้นวางทีวี ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาในแต่ละห้องจะแตกต่างกันไปตามผังห้องที่เราเลือก อีกทั้งภายในห้องปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต รวมถึงมีเครื่องปรับอากาศให้ทั้งโซนรับแขกและห้องนอน
โซนรับแขกมีประตูทางเข้าห้องอยู่ตรงกลางพอดี แต่การจัดวางองค์ประกอบของ โต๊ะวางของตรงโซฟาจะเน้นใช้โต๊ะตัวเล็กเพื่อประหยัดพื้นที่ รวมถึงชั้นวางทีวีขนาดพอเหมาะ ช่วยทำให้พื้นที่จำกัดในส่วนนี้ดูกว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังมีพื้นที่พอสำหรับแขวนทีวีติดผนังได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการจัดสรรพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
แต่จุดที่ชอบห้องแบบ 1 Exclusive มากๆ เลยก็คือ โซนครัวขนาดกำลังดีที่อยู่ติดกับประตูระเบียง เอาใจคนชอบทำอาหาร มาพร้อมตู้บิ้วท์อินที่มีทั้งตู้ด้านบน ตู้ด้านล่าง เตาไฟฟ้า 2 หัว ซิงค์ล้างจาน และตู้แนวสูงอีก 1 ตู้ ที่สามารถเก็บได้ทั้งเครื่องครัว หรือจะปรับเป็นตู้เก็บของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ก็ได้ บริเวณใต้เคาน์เตอร์ทำครัวเป็นที่วางเครื่องซักผ้าที่ช่วยลดการใช้พื้นที่ตรงระเบียง
ถ้ามองจากระเบียงเข้าไปจะเห็นโซนครัวและเป็นห้องน้ำอยู่ด้านใน ส่วนท๊อปของเคาน์เตอร์และผนังครัวทำมาจากวัสดุกันรอย ป้องกันคราบเปื้อน และทำความสะอาดออกง่าย ให้ Backsplash มาด้วยเหมือนกับในห้องตัวอย่าง
ขนาดห้องน้ำก็กว้างขึ้นเช่นกัน มีครบทั้งเคาน์เตอร์ล้างหน้า ตู้เก็บของด้านใต้ กระจกเงาบานใหญ่จรดเพดาน ชักโครก และประตูกั้นส่วนเปียกบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนเช่นกัน ผนังและพื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีอ่อนทำความสะอาดง่าย พร้อมด้วยเครื่องระบายอากาศ
ส่วนของห้องนอนก็ค่อนข้างกว้าง มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านข้างเตียง แต่ขนาดของตู้เสื้อผ้าจะเล็กกว่าห้องแบบ 1 Bedroom เดาว่าพื้นที่ส่วนปลายเตียงตรงกับโซนห้องครัวพอดีจึงเทพื้นที่ส่วนหนึ่งให้กับห้องครัว จึงต้องเป็นตู้เสื้อผ้าแยกออกมาไว้ด้านข้างเตียงแทน
ปิดท้ายที่ระเบียงด้านนอกที่มีคอมเพรสเซอร์แอร์ 2 ตัวแขวนลอยอยู่ ทำให้พอมีพื้นที่ตากผ้า ปลูกต้นไม้ขนาดย่อม หรือนั่งเล่นชมวิวได้อยู่
1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ประมาณ 31.25-34.40 ตร.ม. เป็นขนาดห้องใหญ่ที่สุดของโครงการ ประกอบด้วยห้องนอนใหญ่ 1 ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารได้ และมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ห้อง
จุดเด่นของห้อง 1 bedroom plus คือ มีห้องอเนกประสงค์ ซึ่งห้องนี้สามารถปรับการใช้งานได้หลากหลาย เช่นเป็นห้องนอนเล็ก ห้องทำงาน ห้องแต่งตัว
ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ทางโครงการได้ออกแบบห้องที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่า โดยเฉพาะในส่วนของห้องรับแขกและห้องอเนกประสงค์ เรียกว่าจุใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบห้องที่มีพื้นที่ เพื่อปรับใช้กับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างหลากหลาย
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับโซนรับแขกที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างทีเดียว แต่สำหรับห้องตัวอย่างทางโครงการได้แบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็นห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งก็วางโต๊ะทานข้าวขนาด 2 คนไว้ด้านหลังโซฟา
ด้านซ้ายของประตูทางเข้าบานใหญ่เป็นห้องน้ำ ถัดจากห้องน้ำที่เห็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนสีเทาๆ นั่นคือห้องครัว ด้านในซ้ายมือเป็นห้องนอนที่อยู่ติดกับกระจก ส่วนด้านขวาเป็นห้องอเนกประสงค์กั้นด้วยกระจกรอบทั้ง 4 ด้าน และอยู่ติดกับระเบียง
ด้านขวาของประตูทางเข้าเป็นโซนรับแขกหรือนั่งเล่น ที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถแบ่งเป็นโซนรับแขกและโต๊ะทานข้าวได้ ซึ่งทางโครงการมีให้ทั้งโซฟา ชั้นวางทีวี และโต๊ะทานข้าว
ส่วนห้องครัวมีการแบ่งโซนอย่างเป็นสัดส่วนชัดเจนด้วยประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ซึ่งมีพื้นที่พอเหมาะสำหรับ 2 คน ภายในมีตู้บิ้วท์อินมาพร้อมซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน อีกทั้งยังมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าและตู้เย็นขนาด 2 ประตูได้พอดี
ภายในห้องนอนมีพื้นที่เพิ่มขึ้น และอยู่ติดหน้าต่างกระจกบานใหญ่ยิ่งช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งได้มาก ภายในห้องประกอบด้วยเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และชั้นวางทีวีปลายเตียง
หน้าต่างภายในห้องนอนเป็นกระจกบานใหญ่ เปิดรับวิวด้านนอกได้เต็มที่
ส่วนของห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับประตูออกไประเบียง ทางโครงการให้มาพร้อมเตียงนอนขนาดเล็ก สามารถทำเป็นห้องนอนเด็ก หรือห้องนอนแขกก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับเป็นห้องทำงาน ห้องดนตรี ห้องแต่งตัว หรืออื่นๆ ก็ได้
ปิดท้ายด้วยห้องน้ำและระเบียงด้านนอกที่มีฟังก์ชั่นเหมือนกับห้อง 2 แบบ แต่มีขนาดพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้น สะดวกขึ้น
นอกจากจะมาพร้อมกับ Fully Furnished แล้วยังเป็นคอนโดที่ใช้ Smart Technology เข้ามาช่วยเติมเต็มคุณภาพชีวิตให้ดีและเหนือระดับยิ่งขึ้น เช่น
จัดเต็มขนาดนี้ อยากให้ลองแวะเวียนไปดูให้เห็นกับตากันที่ Sales Gallery Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง ที่ซอยสหการประมูล ภายในซอยประชาอุทิศ แล้วคุณจะพบว่า... ไม่ต้องหนีออกนอกเมืองไปไกล ก็สามารถพักผ่อนท่ามกลางความสะดวกสบายรายล้อมด้วยพื้นที่ธรรมชาติได้เต็มที่ที่ Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง คอนโดที่จะมาเติมเต็มทุกการใช้ชีวิตด้วย “ธรรมชาติส่วนตัว... ใจกลางเมือง” ในราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท ผ่อนเพียง 5,900 บาท / เดือนเท่านั้น ราคาแบบนี้บอกเลยว่าคุ้ม
ลงทะเบียนรับส่วนลด 50,000 บาท ที่ http://bit.ly/2NtQJNk
สอบถามเพิ่มเติม @atmozrh หรือ http://bit.ly/lineAtmozRH
Livinginsider - Weekly Insight Report [10-16 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-11-18
ขอบคุณความรู้มากๆครับ เขียนดี
โดยรวมโอเค พัฒนาต่อไปครับ
ดีคะ ไม่พูดมากเจ็บคอ
อ่านเยอะเกินไป อยากได้ไปหมดทุกที่เลย