รายการโปรด
ขณะที่ “รัฐบาล คสช.” กำลังเฝ้ารอผลประมูลโครงสร้างพื้นฐาน 5 โครงการยักษ์ มูลค่ากว่า 6.5 แสนล้านบาท จะมาบูตนักลงทุนทั่วโลกตบเท้าเข้ามาพัฒนาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในส่วนของนักลงทุนก็กำลังเฝ้ารอความชัดเจน “ผังเมืองรวมอีอีซี”
ที่กรมโยธาธิการและผังเมือง รับหน้าเสื่อรวบ 3 จังหวัด “ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง” ที่ถูกกำหนดเป็นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษอีอีซี ดีไซน์การใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นพื้นที่เดียวกัน รับกับพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายและเมืองใหม่ เพื่อนำประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน
“คณิศ แสงสุพรรณ” เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) กล่าวว่า อีก 5 ปี หรือในปี 2566 รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินกับสนามบินอู่ตะเภาจะเสร็จ ถึงเวลานั้นอีอีซีจะเริ่มมีการพัฒนาเป็นเมืองใหม่ทางภาคตะวันออก จึงต้องเตรียมผังเมืองไว้สำหรับจัดพื้นที่ให้นักลงทุนเป็นโซนเฉพาะตั้งแต่วันนี้ สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี และระยอง มีพื้นที่รวมกัน 8.3 ล้านไร่ มีผู้อยู่อาศัยรวม 1.5 ล้านคน
ในมาตรา 29-30 ตาม พ.ร.บ.อีอีซีระบุว่า ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก จัดทำแผนภาพรวมการพัฒนาพื้นที่ให้เสร็จใน 1 ปี พร้อมทั้งกำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบเสนอต่อบอร์ดอีอีซี โดยมอบให้กรมโยธาธิการและผังเมืองจัดทำรายละเอียดแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินและแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครอบคลุม 8 ระบบ
ได้แก่ ระบบสาธารณูปโภค, ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, ระบบการตั้งถิ่นฐานและภูมิสังคม, ระบบป้องกันอุบัติภัย, ระบบควบคุมและขจัดมลพิษ, ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม, ระบบคมนาคมขนส่ง และระบบบริหารจัดการน้ำ จะครบกำหนด 1 ปี ในวันที่ 9 ส.ค. 2562
“ร่างแรกของผังเมืองจะทำเสร็จในเดือน ธ.ค.นี้ และจะเริ่มรับฟังความคิดเห็นของประชาชน คาดว่าประมาณกลางปี 2562 น่าจะประกาศใช้ แบ่งเป็นโซนสีเขียว พื้นที่เกษตรชั้นดีและป่าอนุรักษ์ จะอยู่บริเวณ จ.ชลบุรีแถบนอกเมือง และ จ.ระยองที่มีไม้ยืนต้น สวนผลไม้ที่มีชื่อเสียง และแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของจังหวัด ส่วนโซนสีเหลือง ในข้อกำหนดจะเปิดช่องให้เกิดการพัฒนาได้ เช่น โมเดลเมืองใหม่ เพราะมีเอกชนสนใจมาก แต่เรายังไม่ได้ระบุตำแหน่งชัดเจน” นายคณิศกล่าวและว่า
สำหรับพื้นที่อุตสาหกรรม (สีม่วง) ในพื้นที่เดิมกำหนดไม่มากนัก แต่พอรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) และเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (Digital Park Thailand หรือ EECd) ที่ต้องใช้พื้นที่รวมกัน 18,000 ไร่ รวมถึงนโยบาย 21 เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายของอีอีซี ที่ต้องใช้พื้นที่รวม 86,000 ไร่
เมื่อมีความต้องการใช้ที่ดินสำหรับอุตสาหกรรมจำนวนมาก เราจึงต้องวางแผนเผื่อไว้ในอนาคต โดยจัดเตรียมที่ดินไว้ประมาณ 300,000 ไร่ ที่ต่อเนื่องกับเขตส่งเสริมเดิมและที่มีศักยภาพที่อนุญาตให้มีที่พักอาศัยเกิดขึ้นได้ คิดเป็น 3-4% ของพื้นที่รวมทั้ง 3 จังหวัด (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง) ซึ่งจะรองรับคนได้ถึง 6-7 ล้านคนแบบสบาย ๆ
ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ
https://www.prachachat.net/property/news-262978
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้านคุณภาพการบริหารจัดการระดับสากล กวาด ISO มากที่สุด ครบ 3 มาตรฐานครอบคลุมทุกมิติ เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย
2022-07-14
นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ ส่งโครงการ THE ONE life bangna บุกเมกาบางนา บ้านเดี่ยวอารมณ์รีสอร์ตใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ทำเลต้นบางนา
2022-07-14
Last Call Promotion!! กับแคมเปญ “ชีวาทัยเป็นได้มากกว่าเพื่อน” หมดเขต 31 ก.ค.นี้เท่านั้น
2022-07-14
ASW เสริมกลยุทธ์ Lifestyle Community จัด Monstr Concert Festival Series#1 ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกบ้านโครงการคอนโดฯ เคฟทาวน์ สเปซ
2022-07-14
เตือนภัยขอสินเชื่อบ้าน-ที่ดินระวังโดนโกง
2022-07-11
ขอบคุณที่คอยอัพเดทข่าวสารให้ทราบค่ะ
ดีๆๆๆๆๆๆ มากๆเลย หาอ่านแบบนี้มานานแล้ว
ขอบคุณมาดครับ
ชอบลิฟวิ่งอินไซเดอร์มากค่ะ มีบทความดีๆให้อ่านแบบนี้ตลอดไปน่ะค่ะ
ข้อมูลดีมาก ระเอียดมากครับ