รายการโปรด
รู้ไหมว่า ส่วนไหนของโลก ที่ถูกจัดอันดับว่าเป็น “ดินแดนที่มีความสุขที่สุด”
นอร์ดิกหรือสแกนดิเนเวีย เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มประเทศในแถบยุโรปเหนืออย่างเดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน ฯลฯ ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่ค่อยมีข่าวหวือหวาสักเท่าไรนัก แต่กลับมีชื่อเสียงทางด้านสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ที่นี่มีภูมิประเทศสวยราวกับอยู่ในฝัน และที่สำคัญคือ ความสงบและการใช้ชีวิตที่มีการจัดอันดับว่า มีความสุขที่สุดมากกว่าที่อื่นๆ
ต้องยอมรับว่า สภาพแวดล้อมที่สวยงามย่อมทำให้คนที่เห็นมีความสุขเมื่อได้เห็น และนี่อาจจะเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ SC Asset หยิบยกเสี้ยวหนึ่งของดินแดนที่มีความสุขที่สุดในโลกอย่างชาวนอร์ดิก มาเป็นไอเดียในการออกแบบบ้านโครงการใหม่อย่าง ‘บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9’ ให้กลายเป็นดินแดนเพื่อการอยู่อาศัยที่มีความสุขที่สุดแบบรอบด้าน
บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9 ออกแบบมาภายใต้คอนเซ็ตป์ Nordic Collection ที่อัพเกรดความสุขเพิ่มขึ้นอีกระดับด้วยการเติมเต็มความหรูหราให้เป็น Luxury Nordic ที่มีจำกัดเพียง 108 ยูนิตเท่านั้น แต่ก่อนที่จะไปดูว่าภายในดินแดนแห่งความสุขอย่าง บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9 มีหน้าตาเป็นอย่างไรนั้น เรามาเริ่มต้นดู “ทำเลแห่งความสุข” กันก่อนดีกว่า
สำหรับทำเลที่ตั้งของ บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9 อาจจะดูเหมือนไกล แต่เพราะมีถนนสายสำคัญหลายสายตัดผ่าน ทำให้กลายเป็นทำเลทองเพื่อการอยู่อาศัยที่น่าจับตามองอีกแห่งหนึ่งก็ว่าได้ ซึ่งถนนสายหลักที่ตัดผ่านก็คือ ถ.กรุงเทพกรีฑา ถ.ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก (บางนา-บางปะอิน)
นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจาก ถ.ศรีนครินทร์ ถ. มอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ-ชลบุรี) ถ.รามคำแหง ถ.ราษฎร์พัฒนา ซึ่งทุกสายสามารถเชื่อมต่อพุ่งตรงสู่ใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญ ตัวโครงการอยู่ไม่ห่างจาก รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) และ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งเป็นสายที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าได้อีก 4 สาย นั่นคือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-แบริ่ง) ที่สถานีสำโรง / รถไฟฟ้าสายสีม่วง (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ที่สถานีลำสาลี / รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ (พญาไท-สุวรรณภูมิ) ที่สถานีหัวหมาก และรถไฟฟ้า MRT (บางซื่อ-หัวลำโพง) ที่สถานีรัชดา
ส่วนบรรยากาศโดยรวมบริเวณรอบๆ โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9 ถือว่าค่อนข้างโปร่งสบาย เพราะบริเวณรอบนอกยังไม่ค่อยมีตึกสูง มีแต่หมู่บ้านขนาดใหญ่หลายโครงการอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ส่วนพวกร้านอาหาร ตลาด และห้างสรรพสินค้าก็อาจต้องเดินทางสักนิด เช่น
จากความสุขรอบโครงการ มาเปิดรั้วบ้าน บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9 กันดูเลยดีกว่าว่าน่าอยู่น่ามีความสุขอย่างไรบ้าง
บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9 เป็นบ้านเดี่ยวที่ออกแบบมาเพื่อเน้นให้มีความสุขกับการพักผ่อนมากยิ่งขึ้นภายในบ้านหรู สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปเหนือ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสนสไตล์ฮุกกะ (Hygge) ซึ่งคำว่าฮุกกะเป็นปรัชญาความสุขแบบชาวเดนมาร์ค มาจากภาษานอร์เวย์ที่แปลว่า ‘การอยู่ดีมีสุข’ การผ่อนคลายและหาความสุขได้จากสิ่งเล็กๆ รอบตัว
สำหรับใครที่อยากสัมผัสงานดีไซน์สไตล์นอร์ดิกของจริง สามารถไปดูได้แล้ววันนี้ที่โครงการ ซึ่งเราเองก็ได้เก็บภาพมาฝากกันแบบจุใจเหมือนเคย
เริ่มจากหน้าโครงการกันเลย... กับซุ้มประตูทางเข้าทรงข้าวหลามตัด โทนสีดำ ขาว เทา และทอง ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้สีเขียวและสวนสน ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Easy pass ระบบ Triple security ภายในโครงการเป็นระบบประตู 2 ชั้น Double Gate เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยการแบ่งโซน Guest Area (ส่วนผู้มาติดต่อ) และ Residential Area (ส่วนพักอาศัย)
ทางเข้าโครงการเป็นถนนกว้าง 23 เมตร พร้อมแนวต้นไม้แยกเป็นเกาะกลาง เพื่อให้มีทางสำหรับปั่นจักรยานและวิ่งออกกำลังกายเป็นสัดส่วน
พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดออกแบบสไตล์นอร์ดิก โดดเด่นที่สุดก็เห็นจะเป็นคลับเฮ้าส์ทรงจั่วตามตัวอย่างภาพ ที่ตกแต่งด้วยสวนสนรอบๆ คลับเฮ้าส์ เพิ่มความโปร่งโล่งด้วยเพดานทรงสูง ซึ่งตอนนี้มีของจริงให้เข้าไปดูกันได้แล้ว
ขนาดคลับเฮ้าส์ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว มีทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องฟิตเนส ห้องสตรีม Kidsroom สวนส่วนกลาง บรรยากาศภายในเน้นความโปร่งโล่งแต่เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยม่านธรรมชาติจากพันธุ์ไม้สีเขียว ห้องน้ำและห้องสตรีมมีความเป็นส่วนตัวแต่โปร่งโล่งตามตัวอย่างภาพด้านล่าง
สำหรับแบบบ้านมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ซึ่งทุกแบบมีจุดเด่นเหมือนกันคือ ‘มีห้องน้ำในตัวทุกแบบ’ ได้แก่
มาเริ่มกันที่แบบแรกกับ Narvik บ้านเดี่ยว 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ Double living room, Family area, Dining room, ห้องครัวไทย และ 2 ที่จอดรถ
ภาพด้านล่างเป็นภาพจริงเทียบกับภาพ tive ที่ทางโครงการเคยทำออกมา รายละเอียดค่อนข้างเหมือนกัน โดยเฉพาะตรงจั่วบริเวณหลังคาบ้านที่เป็นทรงสูงเปิดรับแสงบริเวณชั้นสองได้อย่างเต็มที่ แต่เพิ่มความกว้างของหลังคาให้ยื่นออกมาเหนือระเบียงเพื่อป้องกันความร้อนไม่ให้เข้ามาในบ้านโดยตรง
สำหรับแปลนบ้านแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างประกอบด้วย ห้องรับแขก Family Room ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว ห้องเก็บของ ห้องน้ำ ลานซักล้าง และลานจอดรถได้ 2 คัน และลานบริเวณหน้าบ้าน
ส่วนชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว และมีพื้นที่นั่งเล่นส่วนกลาง
มาเริ่มกันที่ด้านล่าง เมื่อเข้ามาก็จะเจอส่วนรับแขกที่ติดกับโซนโต๊ะทานข้าวด้านใน ซึ่งจะเห็นว่าภายในบ้านค่อนข้างโปร่งโล่ง ประตูด้านเข้าเป็นบานเลื่อนกว้างเต็มพื้นที่ ส่วนด้านในก็มีประตูกระจกซ้ายขวา เปิดรับวิวพื้นที่สวนสีเขียวได้โดยรอบ พื้นด้านล่างปูกระเบื้องหินอ่อนแผ่นใหญ่ทุกห้อง
ส่วนอีกด้านของห้องรับแขกเป็นส่วนของห้องรับแขกอีกห้องที่มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาอีกนิด สามารถเพิ่มมุมทำงานหรือมุมอื่นเพิ่มได้อีก
ส่วนห้องครัวอยู่ติดกับลานซักล้างที่มีประตูเปิดถึงกันได้ สามารถเปิดกระจกระบายอากาศ ขนาดพื้นที่ครัวค่อนข้างใหญ่ และอยู่ติดกับทางเข้าห้องน้ำด้านล่าง ที่มีสุขภัณฑ์ครบรวมทั้งฝักบัวอาบน้ำ เครื่องระบายอากาศ และหน้าต่างบ้านใหญ่สำหรับเปิดรับแสงแดดด้านนอก
สำหรับห้องนอนใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 2 เท่าของห้องนอนเล็ก ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ตรงหลังคาจั่วตรงชั้นสองพอดี ภายในห้องแบ่งเป็นโซนที่นอน วางที่นอนขนาดใหญ่ได้ ปลายเตียงมีพื้นที่วางตู้บิ้วท์อินหรือชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้สบาย
มีประตูบานใหญ่ออกไประเบียงด้านนอก มีพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk-in Closet ติดกับห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีช่องหน้าต่างเปิดรับแสงจากภายนอก ภายในห้องน้ำบุด้วยกระเบื้องหินอ่อนแผ่นใหญ่ที่ทำความสะอาดง่าย พื้นห้องนอนปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตทั้งหมด
ส่วนของห้องนอนเล็ก แม้ว่าจะมีขนาดเล็กลงครึ่งนึง แต่ก็มีพื้นที่ใช้สอยครบ คือวางเตียงขนาดใหญ่ได้ มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และมีห้องน้ำส่วนตัว ซึ่งเป็นห้องน้ำที่มีสุขภัณฑ์ครบ พร้อมหน้าต่างเปิดรับแสงจากด้านนอก ซึ่งบ้านตัวอย่างที่เปิดให้ดูได้ตกแต่งห้องนอนเล็กอีกห้องเป็นห้องแต่งตัว ก็เป็นไอเดียให้อีกแบบสำหรับบ้านที่มีห้องนอนเหลือ
และขาดไม่ได้กับพื้นที่ส่วนพักผ่อนของชั้น 2 ที่ใหญ่พอๆ กับส่วนรับแขกที่ชั้นล่าง ติดกับประตูระเบียงด้านนอก ซึ่งเป็นพื้นที่ระหว่างห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง
มาต่อกันที่แบบบ้านแบบที่ 2 Bergen บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ Double living room, Family area, Dining area, ห้องครัวไทย, ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ
จุดเด่นของแบบบ้านแบบนี้ก็คือห้องนอน Master bedroom เป็นโถงสูงสไตล์สถาปัตยกรรมสแกนดิเนเวีย เพดานสูงถึง 4.5 เมตร ด้านหน้าบ้านเป็นหลังคาจั่วมุมตัด แถมยังดีไซน์เป็นกระจกทรงสูงตัดตามรูปจั่ว ค่อนข้างมีลูกเล่นสไตล์โมเดิร์นพอสมควร
บริเวณทางเข้าด้านล่างสามารถเข้าได้ 2 ประตู ประตูเล็กสีขาวด้านข้าง หรือจะเข้าประตูใหญ่บานเลื่อนตรงห้องรับแขกก็ได้
ชั้นล่างประกอบด้วย โซนรับแขก โซนรับประทานอาหาร ห้องโฮมเธียเตอร์ ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องเก็บของ ลานซักล้าง ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ
ชั้นสองเหมือนกับบ้านแบบ Narvik ประกอบด้วยห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว และมีพื้นที่นั่งเล่นส่วนกลาง
เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในบ้านก็จะเป็นห้องรับแขก ซึ่งชั้นล่างทั้งหมดปูด้วยพื้นหินอ่อนสีอ่อน มองเข้าไปด้านในจะเป็นโต๊ะรับทานอาหาร และประตูเปิดออกไปสวนหลังบ้าน
ภาพด้านล่างเป็นมุมโต๊ะทานอาหารที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีประตูบานเลื่อนเปิดออกได้ทั้งทางด้านหลังและด้านข้าง สามารถวางโซฟาเล็กๆ เป็นมุมนั่งพักผ่อนหลบด้านในได้อีก
จากห้องรับแขกเดินไปด้านซ้ายจะเป็นทางเดินไปยังห้องต่างๆ ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ขวามือเป็นห้องโฮมเธียเตอร์ ขวามือด้านในสุดเป็นห้องครัวและห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ตามภาพตัวอย่างด้านล่าง
ไฮไลท์ที่สุดของบ้านแบบ Bergen คือ ห้องนอน Master bedroom เป็นโถงสูงสไตล์สถาปัตยกรรมสแกนดิเนเวีย เพดานสูงถึง 4.5 เมตร ตามตัวอย่างด้านล่าง
จะเห็นได้ว่าห้องนอนใหญ่จะอยู่ตรงบริเวณหลังคาทรงจั่วพอดี ทำให้มีพื้นที่หลังคา Slope ไปตามรูปทรงจั่ว หน้าต่างกระจกทรงสูง 4.4 เมตร และตัดกระจกตามรูปทรงพอดี สามารถเปิดรับแสงได้อย่างเต็มที่ และให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนอยู่ใต้ห้องหลังคาเหมือนบ้านในเมืองหนาว แต่สำหรับเมืองร้อนอย่างเราก็ถือว่ามีพื้นที่รับแสงและเพิ่มพื้นที่ไหลเวียนอากาศให้มากขึ้น
เพราะหน้าต่างทรงสูงถึง 4.4 เมตร ทำให้ภาพรวมของห้องนอนใหญ่ค่อนข้างโปร่ง โล่ง สบาย มีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ เปิดรับแสงได้ทั่วถึงทั้งห้องนอนและห้องน้ำขนาดใหญ่ แต่ไม่ต้องกลัวว่าความร้อนจะเข้ามาในบ้าน
เพราะคุณสมบัติพิเศษของทรงจั่วที่ยืนออกมาเหนือระเบียงก็คือช่วยกันความร้อนตกกระทบเข้าไปในตัวบ้านโดยตรง ส่วนของกระจกทั้งบริเวณระเบียงและหน้าต่างก็เป็นกระจกสีชาช่วยกันแสงกันความร้อนได้บางส่วน
ส่วนห้องนอนเล็กก็คล้ายกับบ้านแบบแรกที่มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างมากพอสมควร สามารถวางโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะวางทีวีในห้องนอนได้ มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ มีหน้าต่างเปิดรับแสงทั้งในห้องนอนและห้องน้ำ
ด้านล่างเป็นห้องนอนเล็กอีกห้อง ซึ่งทั้งสองห้องมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่หรือทำเป็น Walk-in Closet มุมเล็กๆ ได้ค่อนข้างน่ารักเลยทีเดียว แถมยังมีช่องรับแสงตลอดทั้งห้อง ลดมุมอับชื้น ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติพิเศษของบ้านเมืองหนาวที่ต้องรักษาความอบอุ่นในบ้านไว้ให้ได้ แต่ก็ยังต้องการรับแสงแดดและความอบอุ่นจากภายนอกเพื่อลดความอับชื้นภายในบ้าน
ปิดท้ายบ้านแบบ Bergen ด้วยมุมพักผ่อนบริเวณชั้น 2 ที่กั้นกลางระหว่างห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง
ปิดท้ายด้วยแบบบ้านแบบสุดท้าย OSLO บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ Double living room, Family area, Dining area, ห้องครัวไทย, ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ซึ่งไฮไลท์ของ Oslo คือ มีที่จอดรถ 3 คัน ห้องนอน Master bedroom เป็นโถงสูงสไตล์สถาปัตยกรรมสแกนดิเนเวีย เพดานสูงถึง 4.5 เมตร
สำหรับ Oslo เป็นแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดของโครงการ เพราะมีถึง 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน โดยชั้นล่างประกอบด้วย ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่นสำหรับครอบครัว ห้องครัว ห้องน้ำ ลานซักล้าง ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ และที่เพิ่มขึ้นมาคือห้องนอนชั้นล่าง แต่ไม่มีห้องน้ำในตัว
ส่วนชั้นสองเป็นห้องนอนใหญ่เพดานสูง 4.4 เมตร พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องก็มีพื้นที่เพิ่มขึ้น พร้อมด้วยห้องนั่งเล่นส่วนกลางที่ชั้นสอง
ส่วนของทางเข้าเรียกว่าหรูหราสุดๆ เพราะมีพื้นที่ส่วนรับแขกค่อนข้างกว้างมากๆ วางโซฟาขนาดใฟญ่พร้อมเสริมโซฟาขนาดเล็กด้านข้างได้ทั้งสองฝั่ง ชั้นวางทีวีและตู้โชว์ขนาดใหญ่ ด้านในเป็นโซนทานอาหารที่มีพื้นที่สำหรับนั่งเล่นด้านข้างอีก
จากการดูแบบบ้านมาทั้ง 3 แบบ ต้องยอมรับเลยว่าจุดเด่นของโครงการนี้นอกจากการออกแบบสไตล์นอร์ดิกแบบชาวยุโรปเหนือแล้ว ยังเป็นแบบบ้านที่ถูกปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเมืองไทยได้ค่อนข้างดี นั่นคือมีทางลมเข้าออกในทุกจุด จากภาพด้านบนจะเห็นได้ว่า เป็นโครงการที่ทุ่มใช้ประตูบานเลื่อนแบบกระจกทรงสูงเกือบทั้งหลัง ใช้เป็นทางลมผ่านก็ได้ รับแสงก็ดี หรือเป็นชมวิวด้านนอกก็ได้
จากห้องรับแขกไปทางขวาจะมีทางเดินแบ่งไปตามห้องต่างๆ ซ้ายมือเป็นทางขึ้นชั้น 2 ติดกับห้องน้ำ ส่วนขวามือเป็นห้องนอนชั้น 1 ซึ่งน่าจะเหมาะกับบ้านที่มีผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่ไม่เหมาะขึ้นลงบันไดบ่อยๆ ด้านในสุดเป็นห้องครัว ห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำและลานซักล้าง
ภาพตัวอย่างห้องนอนด้านล่าง ซึ่งปกติชั้นล่างทั้งหมดจะปูกระเบื้องหินอ่อน แต่ภายในห้องนอนจะปูพื้นไม้ลามิเนต Soft Floor มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างครบ กว้างใหญ่ มีประตูเปิดรับแสงและออกไปด้านนอกได้
ภาพรวมของชั้นล่างถือว่าค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างมาก พื้นปูกระเบื้องหินอ่อน ภายในห้องครัวมีพื้นที่ใช้สอยใช้เป็นครัวไทยได้สบายๆ ใต้บันไดมีห้องเก็บของเช่นเดียวกัน ส่วนบันไดเป็นราวอลูมิเนียมพร้อมพื้นไม้และที่จับกันลื่น
ไฮไลท์ของ Oslo ก็คือเพดานห้องนอนสูง 4.5 เมตร รูปทรงตามหน้าจั่วที่มองเห็นจากภายนอก ตัดกระจกไปตามรูปทรงเช่นเดียวกัน เพิ่มความหรูหราและอบอุ่นด้วยพื้นปาเก้ไม้สักสีเข้มตัดกับสีอ่อนของผนังและบรรยากาศโดยรวม พื้นที่ใช้สอยโดยรวมค่อนข้างกว้างขวางมากเลยทีเดียว
ภายในห้องนอนใหญ่ มีพื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่เกือบเท่าห้องนอนนึงเลยทีเดียว แถมยังมีพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนขนาดย่อมในห้อง Walk-in Closet อีกด้วย ส่วนระเบียงด้านนอกก็มีที่นั่งหลบมุมค่อนข้างเป็นส่วนตัว
อีกไฮไลท์ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ที่มีขนาดใหญ่ โปร่ง มาพร้อมอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ มีหน้าต่างเปิดรับแสงรอบด้าน ตกแต่งด้วยพื้นและผนังหินอ่อนแผ่นใหญ่ ค่อนข้างหรูหราเลยทีเดียว
ห้องนอนเล็กเบอร์รองลงมาก็นับว่าไม่เล็กเลย เพราะสามารถวางที่นอนขนาดใหญ่สุดได้สบายๆ แถมยังเหลือที่วางโต๊ะวางทีวี โต๊ะทำงาน Walk-in Closet ขนาดใหญ่บริเวณหน้าห้องน้ำ หรือจะเปลี่ยนเป็นมุมห้องทำงานหรือนั่งเล่นก็ได้
ส่วนห้องนอนเล็กอีกห้องที่แม้ว่าจะเล็กลงมาหน่อย แต่ก็มีพื้นที่ใช้สอยครบเหมือนเดิม จากห้องนอนเดินไปห้องน้ำ ก็มี Walk-in Closet ขนาดย่อมๆ คั่นอยู่ มีห้องน้ำและมุมเล็กๆ ในห้องพอสมควร
ปิดท้ายด้วยห้องนั่งเล่นบริเวณชั้นสองที่กว้างขวางตามไปด้วย ซึ่งสรุปจุดเด่นของ Oslo ก็คงเป็นขนาดพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น แต่ละห้องมีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น สามารถมีพื้นที่ส่วนตัวในห้องใครห้องมันได้เลย
จากตัวอย่างบ้านทั้ง 3 แบบของ ‘บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9’ ไม่เพียงแค่ออกแบบบ้านตามสไตล์นอร์ดิกเท่านั้น แต่ยังปรับเปลี่ยนแบบบ้านและฟังก์ชั่นในบ้านไปตามความต้องการของทุกคนในครอบครัวได้ค่อนข้างดี
เห็นได้ถึงความใส่ใจในเรื่องของ ‘ความเป็นส่วนตัวของทุกคนในบ้าน’ ด้วยการออกแบบให้ทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัว มีพื้นที่ใช้สอยส่วนตัว รวมทั้งการออกแบบให้ทุกห้องมีประตู หน้าต่าง และบานกระจกทรงสูงในทุกห้อง ที่สำคัญ ยังเพิ่มพื้นที่พักผ่อนกระจายไปตามมุมต่างๆ ของบ้าน โดยเฉพาะบ้านทุกแบบมี Family Area ในทุกมุม ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง
และสิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ‘ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Premium Security ตลอด 24 ชม.’ พร้อมกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการ 49 จุด รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร พร้อมเหล็กแหลมสูง 60 เซนติเมตรติดตั้งสัญญาณกันขโมยในตัวบ้านระบบ Magnetic และ Shock Censer ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Easy Pass ระบบ Triple security โดยภายในโครงการเป็นระบบประตู 2 ชั้น Double Gate ในโครงการแบ่งโซน Guest Area (ส่วนผู้มาติดต่อ) และ Residential Area (ส่วนพักอาศัย)
แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่บนดินแดนที่มีความสุขที่สุดในโลกของจริงแต่ ‘บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9’ ก็ทำให้เราเห็นว่า เราสามารถสร้างดินแดนแห่งความสุข สร้างบ้านให้เป็นพื้นแห่งความสุขที่สุดได้อย่างแท้จริง
ร่วมสัมผัสดินแดนเพื่อการอยู่อาศัยที่มีความสุขที่สุดแบบรอบด้านด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้ที่ โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9 บ้านหรูสไตล์ Luxury Nordic ราคาเริ่มต้น 9.9-20 ล้านบาท
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ http://bit.ly/2P6aNWU
รายละเอียดเพิ่มเติม โทร.061-414-2244 หรือ 1749 LINE @bbpr9-2
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-11
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-04
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-10-28
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-10-21
Reference Ekkamai | ที่สุดของทำเลที่เป็นมากกว่าใจกลางเมือง เพราะนี่คือเอกมัยย่านแห่ง Design District สุดเจ๋ง ติดอันดับ 27 ของโลก ให้คุณสามารถออกแบบชีวิตอย่างมีสไตล์ได้แบบอิสระ
2024-10-17
ได้ไอเดียๆ ดีๆ จากนี้นี่เลย ขอบคุณค่ะ เขียนบทความบ่อยๆ น๊าา
ก็ดีได้รู้ข่าวสารเกี่ยวกับคอนโดเร็วดีค่ะ
เขียนรีวิวน่าอ่าน เทคนิคการเขียนดีค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
ดีค่ะ เขียนดี
อันนี้รีวิวหรือวิทยานิพนธ์คะ ละเอียดจริงๆ สุดยอดเลยค่ะ