รายการโปรด
ถ้าต้องตัดสินใจซื้อคอนโดสักห้องจะตัดสินใจจากอะไร? สองเหตุผลสำคัญที่ติดโผแน่ๆ เลยก็คือ ราคาและทำเลต้องใช่จริงๆ ส่วนอีกเหตุผลที่สำคัญมากๆพอๆกับสองข้อแรก ที่จริงๆแล้วสำคัญไม่แพ้กันเลย คือ “เจ้าของโครงการเป็นบริษัทอะไร”
วันนี้ได้มีโอกาสมารีวิวคอนโดย่านพระราม 2 ซึ่งต้องบอกว่า พระราม 2 ในปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็นทำเลที่น่าจับตามองมากๆ ทั้งในเชิงธุรกิจและที่อยู่อาศัย ย่านนี้เป็นด่านสำคัญก่อนลงสู่ภาคใต้ของประเทศ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางแหล่งอุตสาหกรรมที่สำคัญ รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายของความเงียบสงบที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน
เข้าเรื่องเลยดีกว่า วันนี้ได้มีโอกาสมาชมคอนโดคุณภาพที่ใครมาเห็นแล้ว ต้องสนใจแน่ๆ โดยเฉพาะคนที่กำลังหาคอนโดย่าน พระราม 2 หรือ คอนโดที่เข้าเมืองฝั่ง สีลม สาธร ได้ง่ายๆ ที่สำคัญเลยคือ ราคาคอนโดเทียบกับคุณภาพที่ให้มาคุ้มค่ามาก ขอบอก
EASE 2 พระราม 2 โครงการน้องใหม่จาก แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ที่มาพร้อมกับสโลแกนตอบโจทย์ชีวิตมนุษย์คอนโดที่ไม่อยากคิดหลายตลบกับ “คิดมาครบ พบความสุขคุณภาพอย่างลงตัว” กับการคัดสรรทำเลใจกลาง “พระราม 2” อีกหนึ่งทำเลศักยภาพที่กำลังเติบโตขึ้นกับผังเมืองที่เริ่มลงตัว
EASE 2 พระราม 2 ตั้งอยู่บน ถ.พระรามสอง ซ.พระรามสอง 54 หรือเอาง่ายๆ ก็คืออยู่หลังเซ็นทรัลพระราม 2 ที่ห่างกันเพียง 800 เมตร พระรามสองเป็นอีกหนึ่งทำเลเพื่อการอยู่อาศัยก็ได้ เพื่อการลงทุนก็ดี เพราะเป็นเส้นทางเข้าออกเมืองที่ค่อนข้างสะดวกสบาย ตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก แถมยังเป็นเส้นทางออกนอกเมืองไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ มากมาย
ถนนสายหลักรอบโครงการมีทั้ง ถ.พระรามสอง ถ.บางขุนเทียน ถ.เอกชัย ถ.กาญจนาภิเษก และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานคร
จุดขึ้นลงทางด่วน ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานครช่วงดาวคะนอง-ท่าเรือที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นสายสำคัญที่เชื่อมต่อกับกรุงเทพฯ ชั้นในครอบคลุมทุกทิศทาง
คิดมาครบกับ “การใช้ชีวิต” รอบโครงการ
จุดเด่นสำคัญของย่านพระรามสองก็คืออยู่ใกล้แหล่งขายอาหารทะเลสดๆ ขึ้นชื่ออย่าง “ตลาดมหาชัยเมืองใหม่” หรือถ้าชอบนั่งชิลดื่มด่ำในรสชาติอาหารทะเลและบรรยากาศสบายๆ ก็อยู่ไม่ไกลจากย่าน “บางขุนเทียน-ชายทะเล”
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการก็มีทั้ง เซ็นทรัลพระราม 2, บิ๊กซีพระราม 2, โลตัสบางบอน, SB Design Square, Home Pro, พระราม 2 เซ็นเตอร์, สวนเซ็นทรัลปาร์ค โรงพยาบาลก็มีให้เลือกทั้งโรงพยาบาลนครธน, โรงพยาบาลบางมด, โรงพยาบาลพระราม 2, โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์, โรงพยาบาลบางปะกอก 1, โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ
และเนื่องจากย่านพระราม 2 เป็นอีกย่านที่ผู้คนอยู่อาศัยค่อนข้างมาก ทั้งหมู่บ้านจัดสรรขนาดเล็กไปถึงใหญ่ ทาวน์เฮ้าส์ แหล่งชุมชน แหล่งอุตสาหกรรมขนาดกลาง-ใหญ่ แถวนี้จึงมีครบทั้งสถานศึกษา วัด และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ตั้งแต่โรงเรียนขนาดเล็ก กลาง ไปจนถึงใหญ่ระดับมหาวิทยาลัยก็มี
EASE 2 พระราม 2 ความสุขคุณภาพที่ลงตัว
EASE 2 พระราม 2 เป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4-1-97.3 ไร่
รวมทั้งหมด 329 ยูนิต เฉลี่ยต่อชั้นแล้วมีเพียงชั้นละ 11-12 ต่อชั้นเท่านั้น เพิ่มความเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น กับพื้นที่ส่วนกลางทั้งล็อบบี้ สระว่ายน้ำ ห้องประชุม ฟิตเนส สวนรอบโครงการ พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ทั้งกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คีย์การ์ดเข้า-ออก ที่จอดรถประมาณ 57% (รวมซ้อนคัน)
ด้านล่างภาพจำลองสระว่ายน้ำของโครงการที่มาพร้อมกำแพงธรรมชาติด้วยพื้นที่สีเขียวตั้งแนวราบและแนวตั้งที่ช่วยบดบังสายตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวในทุกการพักผ่อน
ห้องฟิตเนสชั้น 2 ที่เน้นความโปร่งโล่งด้วยกระจกทรงสูงรอบทิศทาง เปิดรับวิวจากธรรมชาติสีเขียวด้านนอก และมองเห็นวิวสระว่ายน้ำด้านล่าง แต่เพิ่มความส่วนตัวด้วยฉากกั้นบังสายตาและแสงแดด
ภาพจำลองห้องประชุมส่วนกลาง บริเวณชั้น 2 ที่มาพร้อมกระจกทรงสูงรอบทิศทางเปิดรับวิวสีเขียวจากด้านนอกเช่นกัน แต่ยังคงเน้นความส่วนตัวด้วยฉากบังสายตาและแสงแดดจากด้านนอก
ภายในโครงการเน้นการดีไซน์ให้วิวเปิดโล่งพร้อมรับลมและแดดได้เหมือนกันทุกยูนิต เรียกว่าเป็นโครงการที่ไม่มีมุมอับลมและแดดเลย แต่ละยูนิตถูกออกแบบให้ใช้งานได้จริง ตอบโจทย์ชีวิตเหมือนได้อยู่บ้านเดี่ยว โดยมีห้องให้เลือก 2 แบบ คือ
1 ห้องนอน ขนาด 27-38 ตร.ม.
2 ห้องนอน ขนาด 46-52 ตร.ม.
ซึ่งเรามีตัวอย่างห้องให้ดู 3 แบบ คือ แบบ 1 ห้อง ขนาด 27 ตร.ม. แบบ 1 ห้อง ขนาด 32 ตร.ม และแบบ 2 ห้อง ขนาด 46 ตร.ม.
1 Bedroom (27 sq.m.)
ห้องตัวอย่างแบบแรกเป็นแบบ 1 ห้องนอนที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดของโครงการ คือ 27 ตร.ม. ซึ่งผังจะเป็นตามตัวอย่างด้านล่าง คือเปิดประตูเข้าไปจะเป็นโซนครัว ประตูห้องอยู่ตรงกลางระหว่างโต๊ะทานข้าวกับส่วนทำอาหารแบบง่ายๆ ด้านในเป็นมุมรับแขกที่อยู่ติดกับริมระเบียง ส่วนซ้ายมือเป็นทางไปห้องนอนและห้องน้ำ
จุดเด่นของโครงการที่ชอบมากๆ ก็คือพื้นไม้ลามิเนตโทนสีไม่อ่อนไม่เข้มจนเกินไป ให้อารมณ์เหมือนบ้านไม้สมัยก่อนที่สีจะออกวินเทจนิดๆ ไม่มันจนเกินไป มีความ Cozy สบายๆ เท้าเวลาเดิน ภาพด้านล่างคือมองจากประตูห้องเข้าไปด้านในจะเห็นเป็นมุมรับแขกและประตูระเบียง
ภาพซ้ายมือล่าง เป็นภาพมองจากประตูห้องเข้าไปในห้อง ส่วนภาพขวาบนเป็นภาพที่มองกลับจากมุมรับแขกไปยังประตูทางเข้าห้อง
โซนห้องครัวอยู่ติดกับมุมรับแขกพอดี มีระยะเว้นประมาณ 30 ซม. ซึ่งเอาเข้าจริงอาจจะเหมาะสำหรับการทำอาหารแบบเบาๆ ไม่จัดหนักเหมือนครัวไทย ทั้งด้วยเรื่องกลิ่นและคราบเลอะที่อาจเกิดขึ้น หรือถ้าจะเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในครัวก็อาจจะเอาเครื่องซักผ้าไปวางริมระเบียงก็ช่วยได้
ซูมกันใกล้ๆ กับโซนครัวที่มาพร้อมบิวท์อินขนาดกะทัดรัดที่มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร 1 ช่อง และส่วนล้างทำความสะอาดอีก 1 ช่อง
อีกฝั่งหนึ่งเป็นมุมวางโต๊ะอาหารแบบพับเก็บได้ ซึ่งมีขนาด 2 คนกำลังดี หรือถ้าไม่ได้ใช้งานก็พับเก็บปิดไว้ด้านหลังที่เป็นตู้บิวท์อินเก็บของได้
ส่วนข้างๆโต๊ะทานอาหารเป็นพื้นที่สำหรับโต๊ะวางทีวีในมุมรับแขก ซึ่งด้านหลังเป็นผนังกระจกอย่างหนากั้นระหว่างห้องรับแขกและห้องนอน
จากโต๊ะทานข้าวมองไปทางห้องนอน ของจริงจะมีประตูห้องกั้นอยู่ แต่ส่วนผนังจะเป็นผนังกระจกที่ค่อนข้างหนาพอสมควร ซึ่งช่วยทำให้ห้องดูโปร่งโล่งสบายขึ้น แสงธรรมชาติสามารถส่องได้ทั่วถึงพอสมควร
หน้าห้องนอนเป็นห้องน้ำขนาดพอดี มาพร้อมสุขภัณฑ์และพื้นที่ใช้สอยแบ่งเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้ง ภายในห้องน้ำยังมีแต่งผนังด้วยกระเบื้องสีเทาและสีน้ำตาล ล้อกับพื้นไม้ลามิเนตด้านนอก ด้านข้างโถสุขภัณฑ์มีชั้นวางของเล็กๆ โถสุขภัณฑ์ติดตั้งแบบลอยตัวซึ่งช่วยเรื่องทำความสะอาดได้ง่าย และมีประตูกระจกกั้นส่วนเปียก ซึ่งเป็นประตูแบบ 3 ตอน ช่วยให้เปิดได้กว้างมากยิ่งขึ้น
ส่วนภายในห้องนอน ขนาดพื้นที่พอใช้ได้ วางเตียงขนาดใหญ่ได้ พร้อมมีชั้นวางของบริเวณหัวเตียง โต๊ะข้างหัวเตียง ส่วนตู้เสื้อผ้าห้องตัวอย่างนั้นอาจจะเล็กไปนิดแต่ก็พอมีพื้นที่ให้ขยับขยายได้อยู่
สรุปภาพรวมของห้องแบบ 1 Bedroom 27 ตร.ม. อาจจะเหมาะสำหรับอยู่ 1 คนกำลังดี หรือถ้าจะอยู่ 2 คนอาจต้องขยับขยายบางส่วนนิดหน่อยเพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เก็บของและตู้เสื้อผ้าที่ค่อนข้างจำกัด แต่โดยรวมนับว่าการเลือกใช้วัสดุและโทนสีโดยรวมช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งสมกับแนวคิดของโครงการ
1 Bedroom (32 sq.m.)
มาต่อกันที่ตัวอย่างห้องแบบที่ 2 กับห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม. ซึ่งมีผังห้องคล้ายๆ กับห้องขนาด 27 ตร.ม. แต่ที่เพิ่มขึ้นมาชัดๆ เลยก็คือส่วนของพื้นที่แต่งตัว Walk-in Closet ในห้องนอน ตามตัวอย่างผังห้องด้านล่าง
เมื่อเปิดประตูเข้าไป ซ้ายมือเป็นโซนครัว ขวามือเป็นมุมโต๊ะทานข้าว ด้านหน้าเป็นมุมรับแขกตามภาพด้านล่าง
ด้านล่างมองจากจากห้องรับแขกกลับไปที่ประตูห้อง จะเห็นว่าโซนครัวอยู่บริเวณทางเดินเข้าออกห้อง โดยเฉพาะตรงจุดวางตู้เย็นจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าพอดี การเปิดประตูเข้าออกจึงต้องระมัดระวังสักหน่อยเพื่อไม่ให้ประตูไปกระแทกโดนตู้เย็น หรือข้าวของที่วางอยู่ ส่วนด้านขวาของภาพเป็นตู้บิวท์อินที่สามารถเก็บของอื่นๆ หรือทำชั้นวางรองเท้าก็ได้
อีกทั้งข้างตู้บิวท์อินก็เป็นโต๊ะทานข้าวแบบหันหน้าเข้าหากำแพง หรือจะปรับเปลี่ยนทำเป็นชั้นวางของก็ได้ในเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน
ซูมชัดๆ กับมุมทานข้าวที่ทำเป็นเหมือนเคาน์เตอร์บาร์ ด้านล่างเป็นชั้นวางของ ด้านบนเป็นโต๊ะทานข้าวที่ปรับเป็นชั้นวางของก็ได้ ซึ่งหลังผนังนี้จะเป็นห้องน้ำซึ่งอยู่ภายในห้องนอน
ในโซนครัวมีตู้บิวท์อินด้านบนและด้านล่างให้พร้อมเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารซึ่งใหญ่กว่าห้องขนาด 27 ตร.ม. 1 เท่า เห็นได้จากมีพื้นที่ส่วนเตรียมอาหารและตู้ด้านบนและล่างเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างละ 1 ช่อง พร้อมช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าขนาดมาตรฐาน
ด้านข้างโซนครัว ทางโครงการได้จัดให้ติดกับโต๊ะวางทีวีและชั้นบิวท์อินที่ลอยอยู่ด้านบน ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว ถ้าไม่ชอบให้ทีวีอยู่ติดโซนครัวก็สามารถขยับสลับที่กับตำแหน่งที่วางโซฟาได้
ส่วนฝั่งตรงข้ามมุมวางทีวีจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเข้าห้องนอน ซึ่งวางโซฟาขนาด 2 คนได้กำลังพอดีกับขนาดประตู และยังมีพื้นที่ด้านข้างสำหรับโซฟาหรือเก้าอี้เล็กๆ ได้อีก หรือถ้าใครอยากย้ายชั้นวางทีวีมาแทนที่โซฟาก็ได้แต่จะไม่สามารถเจาะผนังติดชั้นบิวท์อินได้เพราะว่าติดประตูกระจก
ด้านข้างของโซฟาเป็นประตูทางเข้าห้องนอนที่เดินได้พอดี โดยจะมีรางขอบประตูเฉพาะด้านบน ส่วนด้านล่างปล่อยโล่ง ช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้น ยิ่งใครไม่ชอบกวาดแต่ชอบใช้เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติ การออกแบบห้องแบบนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดี
ภายในห้องนอนมีประตูสามารถเดินออกไประเบียงได้ ขนาดพอดีสำหรับวางเตียงขนาดใหญ่
บริเวณหัวเตียงมีพื้นที่สามารถวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ทั้ง 2 ด้าน โดยเฉพาะด้านซ้ายของเตียง มีพื้นที่ที่เข้ามุมห้องพอดี สามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ หรือทำเป็น Walk-in Closet ขนาดย่อมๆ ได้
ภาพอีกมุมของห้องนอน จะเห็นว่ามุมตู้เสื้อผ้าเว้าเข้าไปในมุมค่อนข้างเยอะ สามารถวางตู้เสื้อผ้าแบบเปิดโล่งก็ได้หรือจะต่อตู้เสื้อผ้าแบบปิดทึบเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กว้างขึ้นอีกก็ได้
ปิดท้ายกันที่ส่วนของห้องน้ำ กับดีไซน์สุขภัณฑ์ที่เหมือนกับห้องแบบแรกแต่มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนอาบน้ำที่มีขนาดกว้างขึ้น ประตูบานเลื่อนเป็นแบบ 2 ตอน แต่ก็สามารถเลื่อนเปิดได้กว้างทีเดียว
สรุปแล้วห้อง 1 Bedroom 32 ตร.ม. จะได้พื้นที่ส่วนห้องนอนเพิ่มขึ้นมา โดยเฉพาะมุม Walk-in Closet ที่เหมาะสำหรับคนที่มีเสื้อผ้าและของแต่งตัวมาหน่อย รวมทั้งโซนครัวที่ได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมาเกือบอีกเท่าตัว
2 Bedroom (46.4 sq.m.)
ปิดท้ายกันที่ห้องขนาด 46.4 ตร.ม. ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นใช้งานที่เพิ่มเป็นอีกเกือบเท่าตัว มีห้องนอนใหญ่พร้อม Walk-in Closet 1 ห้อง ห้องนอนเล็ก 1 ห้อง โดยมีห้องรับแขกคั่นอยู่ตรงกลาง มีห้องน้ำส่วนกลางอยู่ด้านนอก 1 ห้อง และพื้นที่อีกส่วนที่เพิ่มขึ้นมาก็คือโซนครัว
เมื่อเปิดประตูเข้ามา ด้านซ้ายมือจะเป็นชั้นวางของตามภาพด้านบน ซึ่งหลังชั้นวางของจะเป็นพื้นที่ส่วนห้องน้ำ ส่วนมุมห้องรับแขกที่เห็นจะอยู่บริเวณหน้าห้องนอนเล็กที่มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นอยู่
หรือเมื่อมองจากห้องรับแขกย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้า จะเห็นว่าด้านขวาเป็นมุมห้องครัวที่ทางเข้าเปิดโล่งติดกับประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่ด้านข้าง
เริ่มจากมุมห้องรับแขกที่ออกแบบมาให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางของห้องที่เปิดประตูเข้ามาก็เห็นพอดี และถือเป็นข้อดีในเวลาที่ต่างคนต่างอยู่ในห้องใครห้องมัน เพราะระยะห่างระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ห้อง จะช่วยให้ไม่มีเสียงดังรบกวน
โดยมีหน้าต่างยาวตลอดแนวห้องรับแขก เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเปิดได้ ส่วนระเบียงจะมีเฉพาะในห้องนอนใหญ่ห้องเดียวเท่านั้น พื้นไม้ทุกห้องปูด้วยลามิเนตสีเข้มผิวสัมผัสออกด้านนิดๆ ซึ่งเดินแล้วค่อนข้างสบายเท้า เก็บเสียงดี และเป็นดีไซน์ที่ออกมาค่อนข้างวินเทจแบบพรีเมี่ยมนิดๆ
พื้นที่ใช้สอยในห้องรับแขกถือว่าค่อนข้างใหญ่ สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ แถมยังมีพื้นที่ว่างสำหรับวางโต๊ะทานข้าวข้างโซฟาได้อีกต่างหาก หรือถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวก็สามารถหาฉากกั้นมากั้นได้ บริเวณหลังชั้นวางทีวีมีพื้นที่สำหรับทำเป็นบิวท์อินเก็บของหรือตู้โชว์ขนาดใหญ่ได้พอสมควร
มาต่อกันที่ห้องครัว ถือว่าพื้นที่ใหญ่กว่าห้อง 2 แบบแรก 2-3 เท่าตัวเลยทีเดียว กั้นห้องเป็นสัดส่วน และมีหน้าต่างสำหรับเปิดระบายอากาศได้ด้วย โดยมีส่วนเตรียมอาหาร เตาไฟฟ้าบิวท์อิน ที่วางเครื่องซักผ้า ที่วางเตาไมโครเวฟ ที่วางตู้เย็นขนาดใหญ่ เครื่องดูดอากาศ และตู้บิวท์อินชั้นบนและล่าง ผนังบุด้วยที่กันเปื้อนกันรอย
จากภาพจะเห็นว่าห้องครัวจะอยู่ติดกับฝั่งห้องนอนเล็ก และมีระยะห่างจากห้องรับแขกพอสมควร
ส่วนของโต๊ะทานข้าว ทางโครงการจัดวางไว้ข้างโซฟาในห้องรับแขกซึ่งในความเป็นจริงอาจจะดูขวางๆ ไปสักนิด แต่ก็สามารถปรับขยับได้ตามความสะดวก เพราะถือว่าผังที่โครงการให้มาค่อนข้าง freestyle ปรับเปลี่ยนได้ตามชอบเลย หรือถ้าชอบห้องแบบโล่งมากๆ แนะนำให้เลือกใช้โต๊ะทานข้าวแบบพับเก็บได้
มาถึงส่วนไฮไลท์อย่างห้องนอนใหญ่ อย่างที่บอกไปว่าเป็นห้องนอนที่มาพร้อม Walk-in Closet หรือมุมแต่งตัวที่ดีไซน์ให้เข้ามุมหลบสายตาและมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก
ด้านล่างเป็นภาพรวมของห้องนอนใหญ่ ที่มีประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอน ด้านในสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้เต็มพื้นที่ หันหน้าออกไปทางห้องรับแขก ส่วนมุมขวาของห้องเป็นมุมห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ซึ่งมีพื้นที่พอสมควรเลย สามารถขยับขยายดีไซน์ตู้เสื้อผ้าพร้อมตู้บิวท์อินมาใส่เพิ่มได้ ส่วนภาพมุมขวาล่างเป็นภาพที่มองจากตู้เสื้อผ้าออกไปยังห้องรับแขก ซึ่งถือว่าเป็นมุมมหลบพอสมควร
ส่วนห้องน้ำก็อยู่หน้าห้องนอนใหญ่พอดี จากภาพด้านล่างมองออกไปด้านนอกขวามือเป็นประตูห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำก็เป็นดีไซน์เดียวกับ 2 แบบแรกที่รีวิวไป พร้อมด้วยสุขภัณฑ์ครบครัน งานดีไซน์เรียบๆ สีสว่างอ่อนๆ พร้อมประตูกั้นอาบน้ำแบบ 2 ตอน
ปิดท้ายด้วยห้องนอนเล็ก ที่ถือว่าไม่เล็กนะ ขนาดกำลังดี ยิ่งถ้าวางเตียงเดี่ยวแบบตัวอย่างด้านล่างแล้วยิ่งโปร่ง หัวเตียงสามารถทำเป็นโต๊ะทำงาน วางชั้นหนังสือ ตู้เสื้อผ้า หรือโชว์ของรักของหวงได้ มีหน้าต่างยาวตลอดแนวห้อง ห้องเลยยิ่งดูโปร่งโล่ง สบายๆ
ภาพรวมของห้องนอนเล็กที่วางเตียงเดี่ยวเลยยิ่งทำให้ห้องดูกว้าง หรือจะเพิ่มขนาดเตียงให้ใหญ่ขึ้นอีกนิดก็ยังพอไหว ด้วยโทนสีโดยรวมของห้องบวกกับตำแหน่งหน้าต่างที่อยู่ห้องมุมพอดีก็ยิ่งทำให้ห้องดูสว่าง ซึ่งเอาจริงๆ เราสามารถขยับเตียงมาชิดผนังอีกด้านเพื่อเลี่ยงแสงแดดในตอนเช้า
สรุปภาพรวมของห้องแบบ 2 Bedroom 46.4 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กที่สุดของห้องแบบ 2 Bedroom แต่ก็เป็นขนาดที่อยู่ได้สบายๆ สำหรับครอบครัวขนาดเล็ก หรือสำหรับครอบครัวที่เพิ่งเริ่มต้น สามารถปรับห้องนอนเล็กเป็นห้องทำงานหรือห้องพักผ่อนอื่นๆ ได้อีก มีพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ ส่วนครัวที่กั้นพื้นที่แยกออกเป็นสัดส่วน ห้องนอนมี Walk-in Closet ใหญ่ขึ้น ห้องรับแขกกว้างขึ้น และมีระเบียงเฉพาะในห้องนอนใหญ่เท่านั้น
จากแบบห้องทั้ง 3 แบบ จะเห็นได้ว่าจุดเด่นของ EASE 2 พระราม 2 ที่ชัดมากๆ ก็คือความโปร่งโล่งของภายในห้อง ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการเลือกใช้สีโทนอ่อนโดยเน้นสีที่ค่อนข้างอบอุ่น รับกับแสงที่ส่องเข้ามาภายในห้องผ่านหน้าต่างและช่องรับแสงที่มีรอบห้อง ช่วยเรื่องระบบการถ่ายเทอากาศและลดมุมอับได้เป็นอย่างดี
เพิ่มความโปร่งด้วยการใช้กระจกอย่างดีเป็นตัวกั้นห้อง และเพดานสูงถึง 2.6 เมตร ซึ่งสูงกว่าโครงการอื่นๆ ในราคาระดับเดียวกัน มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์บางส่วน Fully Fitted ซึ่งพอดีกับขนาดพื้นที่ใช้งานจริง ทั้งในห้องน้ำ ห้องครัวบางส่วน ห้องนอนบางส่วน และตู้บิวท์อินแบบเปิดโล่ง โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Sales Gallery ของโครงการ
สำหรับใครที่กำลังหาคอนโดคุณภาพ ราคาสุดคุ้ม ลองแวะเข้ามาดู EASE 2 พระราม 2 คอนโดที่มาพร้อมสโลแกนโดนๆ “คิดมาครบ พบความสุขคุณภาพอย่างลงตัว” ตอบโจทย์คนคิดไม่เยอะแต่อยากได้เยอะๆ ในราคาไม่เยอะเลย เริ่มต้นที่ 1.75 ล้านบาท* เท่านั้น มาแล้วจะชอบ
ดูรายละเอียดได้ที่ www.lh.co.th หรือโทร. 1198
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-11
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-04
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-10-28
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-10-21
Reference Ekkamai | ที่สุดของทำเลที่เป็นมากกว่าใจกลางเมือง เพราะนี่คือเอกมัยย่านแห่ง Design District สุดเจ๋ง ติดอันดับ 27 ของโลก ให้คุณสามารถออกแบบชีวิตอย่างมีสไตล์ได้แบบอิสระ
2024-10-17
ขอบคุณความรู้มากๆครับ เขียนดี
ยอดเยี่ยมมากๆค่ะ
น่าอยู่มากจ้าาาาา
ดีมากค่ะ ดีทุกส่วนเลย
ชอบนะ อ่านต่อไม่รอแล้วจ้า
เว็บนี้ทำรีวิวได้ดีมากๆ