![รายการโปรด](https://www.livinginsider.com/assets18/images/icon/mobile-more/fav2.png)
รายการโปรด
ในปี 2561 นี้ถือเป็นปีที่ร้อนแรงเหลือเกินสำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนับเป็นปีแห่งการเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งในเรื่องของอุปทานที่มีการพัฒนาโครงการออกมาสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มากถึง 158 โครงการ ประมาณ 65,968 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 315,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบ 30 ปี
หากพิจารณาถึง Top 10 ของดีเวลลอปเปอร์ ที่เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมมากที่สุดในปีนี้ทั้งในเรื่องของยูนิตที่เยอะที่สุดและมูลค่าการลงทุนมากที่สุด อันดับที่ 1 ได้แก่ บมจ. แสนสิริ ที่เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมากถึง 7 โครงการ 6,778 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 31,580 ล้านบาท รองลงมาคือ บมจ. เสนา ดีเวลลอปเมนท์ ที่ประมาณ 9 โครงการ 6,397 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 22,030 ล้านบาท และบมจ . พฤกษา เรียลเอสเตท ที่ 12 โครงการ ประมาณ 5,870 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 25,390 ล้านบาท
แล้วมาดูกันครับว่า ที่สุดของแต่ละประเภทจะมีโครงการคอนโดมิเนียมไหนในปีนี้ ได้อันดับ Top 3 กันบ้าง... ลองมาทายกันเล่นๆ ก่อนเลื่อนไปอ่านได้นะ
สำหรับคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายต่อตารางเมตรที่เปิดตัวใหม่ในปีนี้ที่แพงที่สุด 3 อันดับได้แก่
3. The Estelle Phrom Phong คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ โครงการร่วมทุนระหว่าง Raimon Land & Tokyo Tatemono มูลค่าโครงการประมาณ 3,100 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ และ ศูนย์การค้า The Em District ซึ่งเปิดตัวในราคาเริ่มต้น 15.5 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยที่ประมาณ ตารางเมตรละ 300,000 บาท
2. MUNIQ Langsuan จาก บมจ. เมเจอร์ ดีเวลอปเม้นท์ เป็นคอนโดมิเนียม freehold ในทำเลใกล้สวนลุมพินี ขนาดห้อง 50-254 ตารางเมตร ราคาเฉลี่ยประมาณ 310,000 บาท/ตารางเมตร ด้วยมูลค่าโครงการอยู่ที่ 4,085 ล้านบาท มียูนิตทั้งหมด 166 ยูนิต มีแบบให้เลือกตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50-254 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ยูนิตละ 12.9 ล้านบาท
1. The Strand Thonglor จาก บจ. 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-2-46 ไร่ หรือ 2,548 ตร.ม. ตั้งอยู่ต้นซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) มูลค่าโครงการกว่า 4,800 ล้านบาท โดยวางคอนเซ็ปต์เป็นคอนโดHigh rise ครบวงจรระดับ Luxury บนทำเลศักยภาพ เปิดตัวในราคาเริ่มต้นที่ 16.5 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 330,000 บาทต่อตร.ม.
สำหรับคอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดที่เปิดตัวในปีนี้ 3 ลำดับแรกได้แก่
3. Life Ladprao Valley (ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลีย์) เป็นคอนโดมิเนียมสูง 44 ชั้น ใต้ดิน 1 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,141 ยูนิตใกล้ห้าแยกลาดพร้าว พัฒนาโดย บมจ. AP Thailand ร่วมทุนกับ มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือ MECG) ด้วยมูลค่าโครงการประมาณ 6,400 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท
2. PARK ORIGIN THONGLOR (พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ) พัฒนาร่วมกับ Nomura Real Estate Development จาญี่ปุ่น ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 12,000 ล้านบาท บนที่ดินแปลง Arena 10 เดิมในซอยทองหล่อ 10 ตัวโครงการแบ่งเป็นทั้งหมด 3 อาคาร สูง 39, 53 และ 59 ชั้น โดยอาคารที่สูงที่สุดนั้นจะกลายเป็นคอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในโซนสุขุมวิทเมื่อสร้างเสร็จด้วย โดยคอนโด Park Origin Thonglor มีราคาเฉลี่ย 250,000 บาท/ตารางเมตร
1. One 9 Five อโศก-พระราม 9 (วันไนน์ไฟว์ อโศก – พระราม9) เป็นคอนโดมิเนียมสูง 61 ชั้น 2 อาคาร (อาคาร A 954 ยูนิต, อาคาร B 957 ยูนิต) พัฒนาโครงการโดยบริษัท TC Development อยู่ใกล้ MRT พระราม 9 ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 5,700 ล้านบาท
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในปี 2561 ที่จำนวนยูนิตมากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่
3. Niche Mono รามคำแหง จาก บมจ. เสนา ดีเวลลอปเมนท์ บนทำเลศักยภาพ ติดถนนรามคำแหง เป็นคอนโด High Rise ตึกคู่ พื้นที่โครงการขนาด 15 ไร่ ห้องพักอาศัยจำนวน 1,700 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 5,500 ล้านบาท
2. One 9 Five อโศก-พระราม 9 (วันไนน์ไฟว์ อโศก – พระราม9) เป็นคอนโดมิเนียมสูง 61 ชั้น 2 อาคาร (อาคาร A 954 ยูนิต, อาคาร B 957 ยูนิต) ด้วยยูนิตทั้งหมด 1,911 ยูนิต พัฒนาโครงการโดยบริษัท TC Development อยู่ใกล้ MRT พระราม 9 ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 5,700 ล้านบาท
1. Supalai Veranda รามคำแหง พัฒนาโดย บมจ. ศุภาลัย เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 15 ไร่ จำนวน 2,073 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 Tower สูง 33 , 35 และ 27 ชั้น จำนวน 2,073 ยูนิต
สำหรับคอนโดมิเนียมที่มีส่วนกลางที่ถือว่าเจ๋งที่สุด 3 ลำดับแรกได้แก่
3. ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลีย์ พัฒนาโครงการโดย เอพี ไทยแลนด์ ร่วมทุนกับมิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MECG)) ซึ่งถือว่าเป็นอีกโครงการที่จัดเต็มในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลาง ได้แก่
ซึ่งจากส่วนกลางที่จัดเต็ม จึงเป็นอีกโครงการที่ได้รับการตอบรับในด้านดีจากกลุ่มนักลงทุนเป็นจำนวนมาก
2. The Reserve 61 Hideaway จาก บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท ซึ่งประกอบด้วยส่วนกลางครบครันมากมายแบบ TRIPLE FACILITY เชื่อมตั้งแต่โถง Lobby ที่ชั้น G ที่เปิดโล่งด้วยบานกระจกสูง 6 เมตร สามารถ take view พื้นที่สวน พื้นที่น้ำ และพื้นที่โดยรอบได้มุมมองที่เปิดกว้างมากที่สุด เสมือนได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในทุกๆวัน
จากโถง lobby สามารถมองเห็นสระน้ำ INFINITE POOL ที่ยาวต่อกันเป็น Loop กว่า 144 เมตร แบ่งเป็นพื้นที่สระที่ว่ายได้ประมาณ 90 เมตรติดตัวอาคาร ตรงกลางคือ HIDEAWAY GARDEN เป็น pocket seat เล่นระดับ ที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก ให้เหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะพักผ่อนอยู่ในห้องของตัวเอง หรือใช้พื้นที่ส่วนกลาง (Outside-in)
อีกทั้ง HIDEAWAY GARDEN ยังเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางชั้นใต้ดินที่มีทั้ง PRIVATE SALON & SPA ,Private Steam และ Private Sauna ให้มาอย่างละ 2 ห้อง พร้อมกับ WELLNESS RETREAT & ONSEN บ่อ Onsen มีทั้งบ่อน้ำร้อนและน้ำเย็น ในตัวสำหรับห้องทั้งชายและหญิง ส่วนพื้นที่ชั้นใต้ดินเชื่อมต่อกับ พื้นที่จอดรถรองรับ Basement ระบบ conventional 100% ของจำนวนยูนิต ที่ออกแบบเส้นทางเข้าออกกดลงใต้ดินตั้งแต่ออกจากพื้นที่ drop off area ที่โถง lobby
ส่วนตัวอาคารภายนอกใช้หิน lime stone เป็นหินตะกอนที่มีความคงทนและมีลวดลายสวยงาม สีของหินจะไม่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เรียกได้ว่าเป็น Classic material ที่ไม่ต้องปรุงแต่งก็โดดเด่นด้วยความสวยงามของตัวเอง และยังเข้ากับพื้นที่ของการพักผ่อน เสมือนได้พักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทหรู ท่ามกลางธรรมชาติในทุกๆวัน ด้วยส่วนกลางระดับ High End
จึงไม่แปลกใจว่าโครงการ The Reserve 61 Hideaway เป็นอีกโครงการที่เป็นที่สุดของส่วนกลางของคอนโดในปีนี้ด้วยเช่นกัน
1. Park Origin Phayathai จาก บมจ. Origin Property มูลค่าโครงการกว่า 4,800 ล้านบาท ซึ่งพัฒนาภายใต้แนวคิด A Perfect Living Platform ผสานธรรมชาติ เทคโนโลยี และสังคมคุณภาพ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบผ่านคอนโดพร้อมอาณาจักรมิกซ์ยูส โชว์ Home Automation ครบวงจร
นอกจากนั้นยังมี Vertical Garden สวนแนวตั้งเสมือนปีนเขา 120 เมตรแห่งแรกในกรุงเทพฯ บริเวณส่วนกลางของอาคารไล่ตั้งแต่ชั้น 12 จนถึงชั้น 35 คิดเป็นพื้นที่สีเขียวรวมกว่า 1,800 ตร.ม. ทำให้ลักษณะของอาคารเสมือนภูเขาใจกลางเมืองที่มีความสูงจากพื้นกว่า 120 เมตร ผู้อยู่อาศัยเดินขึ้นลงบันไดเพียง 2-3 ชั้น ก็สามารถเข้าถึงธรรมชาติหรือพื้นที่สีเขียวได้ ทำให้ทุกห้องสามารถใกล้ชิดธรรมชาติได้มากกว่าเดิม ถือได้ว่าเป็นคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในปีนี้ ที่มีส่วนกลางเจ๋งที่สุด
ละนี้คือ Top 3 โครงการคอนโดมิเนียมที่ผมคัดสรรมาในแต่ละประเภท เพื่อนๆ ชาว Livinginsider คนไหนมี Top ประเภทไหนอีก หรือแค่ Top ในใจ ก็ลองมาแชร์แบ่งปันกันได้ครับ
“20 ปี แอสเซทไวส์” โชว์กลยุทธ์ “Growing Success, Growing Happiness” ปั้น 10 โครงการใหม่มูลค่า 22,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายรวม 19,500 ล้านบาท และเป้ารายได้ 10,500 ล้านบาท
55 นาทีที่แล้ว
แสนสิริ เบอร์หนึ่งอสังหาฯ ปลุกเซ็นติเมนต์ตลาด ประกาศแผนปี 68 “Dynamic Growth” เติบโตแข็งแกร่ง เป้ายอดขาย 53,000 ลบ. ยอดโอน 46,000 ลบ.
1 ชั่วโมงที่แล้ว
เครือออริจิ้น X LINE MAN-LINE Pay-Wongnai จัดแคมเปญ “ออริจิ้น COMBO SET โปรคุ้ม รับส่วนลดเป็นชุด” มอบส่วนลดสูงสุด 5 ล้านบาท*
2025-02-04
“ศุภาลัย พรีมา วิลล่า ถนนอุทยาน” บ้านเดี่ยวลักชูรีบนโอเอซิสแห่งใหม่ในสังคมสุดไพรเวต ที่ดิน 100 ตร.ว.ขึ้นไป เริ่ม 17.9 ลบ.*
2025-02-04
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จัดแคมเปญพิเศษบ้านแห่งรัก 2568 “ลลิล อิน ยัวร์ เลิฟ” มอบทองคำมูลค่าสูงสุดกว่า 5 แสนบาท วันที่ 8-9 ก.พ. นี้
2025-02-03
ขอบคุณที่คอยหาบทความที่มีประโยชน์มาให้ค่ะ
Content หลากหลายดีค่ะ
ขอบคุณมาดครับ
ดีมากเลย อ่านแล้วได้ความรู้และสนุกไปด้วย
รีวิวเขียนดีจังค่ะ