รายการโปรด
อายุเท่าไหร่แล้วครับ ? ไม่ใช่อายุคนอ่านนะครับ แต่เป็นอายุบ้านที่เพื่อนๆ อาศัยอยู่น่ะครับมีอายุกี่ปีแล้ว ไม่ใช่ว่าคนหรือสิ่งมีชีวิตเท่านั้นนะครับที่แก่เป็น บ้านเองก็เหมือนกันที่ทรุดโทรมและผุพังไปตามกาลเวลา ถ้าไม่มีการซ่อมแซมให้แข็งแรงอยู่เสมอก็อาจเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้ อย่างชิ้นส่วนหักพังหรืออาจถึงขั้นบ้านถล่มได้เลย
ดังนั้นเนี่ย หากบ้านของเพื่อนๆ มีอายุมากกว่า 40-50 ปีขึ้นไปก็อาจถึงเวลาที่จะรีโนเวทสักครั้งแล้วล่ะครับ แต่การรีโนเวทบ้านนั้นก็ใช้งบมากพอสมควร ดังนั้นจึงควรพิจารณาทุกอย่างให้ถี่ถ้วนก่อนแล้วค่อยลงมือทำ เรามาดูกันดีกว่าครับว่ามีประเด็นใดบ้างที่ต้องพิจารณาให้ดี เพื่อให้ผลลัพย์ของการรีโนเวทบ้านครั้งนี้ออกมาสวยงามตรงใจและใช้เงินน้อยที่สุด
ใช้เงินหลักแสนเพื่อเปลี่ยนบ้านหลังเก่า ให้เป็นบ้านสวยหลังใหม่ดีไซน์หลักล้าน ทำได้ยังไง ไปดูกันครับ!
ถามความต้องการของตนเอง
จะรีโนเวทบ้านทั้งทีก็ต้องปราณีตนิดนึงนะครับ นอกจากเสริมความแข็งแรงของตัวบ้านแล้ว สิ่งที่ควรทำคือถามตัวเองก่อนว่าอยากให้บ้านออกมาเป็นแบบไหน อย่างไร สีอะไร ฯลฯ จดรายละเอียดความต้องการออกมาให้มากที่สุด เพื่อที่จะนำมาประเมินว่าต้องทำอะไรบ้าง ใช้เงินประมาณเท่าไหร่ ทีนี้เราก็จะวางแผนต่อได้ง่ายแล้วล่ะครับว่าขยับไปทางไหนจะดีที่สุด
หาทีมงานมืออาชีพ
การรีโนเวทบ้านนั้นก็คล้ายๆ การซ่อมแซมโครงสร้างของบ้านบวกกับตกแต่งบ้านใหม่นั่นแหละครับ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความรู้เฉพาะทางและความชำนาญสูง ดังนั้นผมแนะนำให้เพื่อนๆ จ้างช่างดีกว่าครับเพื่อความสมบูรณ์ของงาน เพราะทีมงานรีโนเวทบ้านมืออาชีพสามารถให้คำแนะนำได้ตั้งแต่การวางแผน จัดการหน้างาน เดินเอกสาร ดูแลหลังจบงาน เรียกได้ว่าเสียเงินครั้งเดียวจบกว่าครับ
ตรวจความแข็งแรงของโครงสร้าง
การสำรวจตัวบ้านในพื้นที่ที่ต้องการปรับปรุงก่อน จะสามารถบอกได้ว่าโครงสร้างเสียหายมากแค่ไหน เพื่อให้ทราบว่าต้องเสริมตรงไหนดี ตัดตรงไหนออกได้บ้าง เริ่มตรงไหนก่อนตรงไหนหลัง เรียงลำดับการทำงานได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้การรีโนเวทบ้านทำได้ตรงจุดมากขึ้น หากไม่ได้ตรวจความแข็งแรงให้ดีก่อนเริ่มรีโนเวท อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ในภายหลัง
วางแผนให้ครอบคลุม
หลังจากหาความต้องการของตันเองเจอแล้ว มีทีมงานเรียบร้อยแล้ว ตรวจโครงสร้างแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็ต้องวางแผนครับว่าจะทำอะไรก่อน ตรงไหนก่อน ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ซึ่งถ้ามีทีมงานรีโนเวทบ้านมืออาชีพนี่จะช่วยได้มากเลย เพราะเค้าจะนำเอาความต้องการของเราไปปรับปรุงให้สมบูรณ์และอุดช่องโหว่ในแผน ทำเราแผนของเราในตอนแรกนั้นแข็งแรงกว่าเดิมและพร้อมนำไปใช้งานได้จริง
ประเมินค่าใช้จ่าย
หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดครบแล้วก็จะทำให้เราพอที่จะประมาณจำนวนเงินที่ต้องใช้คร่าวๆ ได้ ดังนั้นขั้นต่อมาเราก็ต้องมาดูว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นเหมาะสมหรือยัง หากมากไปก็อาจลดคุณภาพของวัสดุหรือตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกได้ หรือถ้าดูแล้วยังพอมีงบเหลือเราก็อาจนำไปเพิ่มคุณภาพของวัสดุบางส่วนให้ดีขึ้นได้
ขออนุญาตให้ถูกต้อง
แน่นอนว่าการจะเปลี่ยนแปลงหรือต่อเติมอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ต้องขออนุญาตจากทางราชการก่อน ดังนั้นหลังจากได้แผนการรีโนเวทบ้านเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ไปทำเรื่องกับทางเขตของตัวเองให้เรียบร้อยครับ รอให้เขตอนุมัติก่อนแล้วค่อยดำเนินการ เพราะไม่อย่างนั้นหากติดปัญหาอะไรขึ้นมาตอนเริ่มรีโนเวทบ้านไปแล้วอาจกลายเป็นปัญหาที่แก้ยากก็ได้
เก็บงานให้เรียบร้อย
หลังจากดำเนินการรีโนเวทบ้านเสร็จเรียบร้อยทุกขั้นตอนแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำหลังจากนั้นก็คือตรวจเช็คความเรียบร้อยของงานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นด้านการเสริมความแข็งแรงของโครงสร้าง ความเรียบร้อยของงานตกแต่ง งานเดินสายไฟ ท่อประปา การเก็บสี เก็บขอบบัว วางเฟอร์นิเจอร์ตามจุดต่างๆ เพื่อให้งานที่ออกมาสมบูรณ์สวยงาม และไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง
ถ้ามองดีๆ จะเห็นได้ว่าการรีโนเวทบ้านนั้นแทบไม่ต่างจากการซื้อบ้านใหม่เลยแถมยังประหยัดเงินได้เยอะ เพราะหากต้องการซื้อบ้านใหม่ในสไตล์ที่ชอบ อาจต้องจ่ายเงินมากกว่า 5 ล้านบาทขึ้นไป แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นการรีโนเวทบ้าน ก็อาจลดรายจ่ายเหลือเพียงไม่ถึง 1 ล้านบาท! เรียกได้ว่าการรีโนเวทบ้านเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
8 สถานที่พาแม่เที่ยวในกรุงเทพ สนุกเพลินทั้งครอบครัว
2020-08-11
“วินเนอร์ เฟอร์นิเจอร์” (Winner Furniture) อัดกลยุทธ์ พัฒนาสินค้าจากอินไซด์ลูกค้า
2018-06-05
จัดสวนสวยแบบมือโปร ต้องเริ่มจากตรงไหน ?
2020-02-13
อุทยานการเรียนรู้ TK park ชวนร่วมกิจกรรม สนุกอ่าน สนุกคิด กับ Kid’s Room ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ ศกนี้
2018-02-05
เทคนิคตากผ้าในร่ม ตากยังไงให้แห้งสนิท
2022-01-26
ชอบสไตล์การเขียนจังเลยคะ เข้าใจง่าย น่าติดตาม
ขอบการเขียนรีวิวของเว็บนี้จัง
เยี่ยมเลยค่ะ
รีวิวอ่านง่าย รูปภาพสวยครับ
ผู้เขียนเก่ง บทความดีๆ ทั้งนั้น
น่าติดตามค่ะ