Nivati ทองหล่อ 23 คัดสรรของแบรนด์ระดับโลก คุณภาพชีวิตเหนือระดับอย่างแท้จริง

 

คงไม่ต้องบรรยายอะไร กับทำเลยอดฮิตของชาว Lifestyle จัดจ้านอย่าง 'ทองหล่อ' นอกจากร้านอาหารชั้นเลิศ สถานที่กินดื่มหลากหลาย รวมถึงศูนย์การค้าเปิดใหม่อย่าง 'ห้างดองกี้' ทำเอาหนุ่มสาวคนทำงาน 'อิจฉาตาเป็นมัน' อยากมีคอนโดฯ สักห้อง เผื่อฉลอง Party สุดเหวี่ยง เดินทางก็ง่าย ทุกคนอยากอยู่ ‘ทองหล่อ’ ตอบโจทย์ Lifestyle 24 ชั่วโมง ครบทุกอย่างบน Location เดียว

 

อีกมุมหนึ่งของ 'ทองหล่อ' นอกจาก Lifestyle คนชอบเที่ยวแล้ว ก็ยังมีพื้นที่สำหรับ 'ครอบครัว' คนรุ่นใหม่ หลายคนมีธุรกิจส่วนตัวย่าน CBD เป็นเจ้าของกิจการ นักลงทุน ฯลฯ หรือผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ วันนึงทำงานก็ 10-12 ชั่วโมงแล้ว ให้ขับรถกลับบ้านเสียเวลา 2-3 ชั่วโมงต่อวัน แถมมีบุตรหลานต้องดูแลอีก เรียกว่าเวลาส่วนตัวแทบไม่มีเลยครับ 

 

ทำให้คอนโดฯ 'อารมณ์บ้าน' เป็น Trend น่าจับตามองของปีนี้ สำหรับ 'ครอบครัวขนาดเล็ก' (2-3 คน) พื้นที่กว้างขวาง อิงทำเล CBD เดินทางสะดวก แต่ต้องการ 'ความเป็นส่วนตัว' พร้อมส่วนกลางครบครัน แน่นอนว่าอยู่ ‘ทองหล่อ’ คำว่า Luxury ต้องมาเต็มครับ ตอบโจทย์รสนิยมของผู้อาศัย

 

บอกเลยครับ คุณอาจ 'วู่วาม' เซ็นใบจองเลยทีเดียว ทุกสิ่งมีครบครัน ทุกความพิถีพิถัน ไม่มีอะไรคุ้มค่าไปกว่านี้แล้ว เพื่อครอบครัวที่คุณรัก ผมขอแนะนำ ...

 

Nivati ทองหล่อ 23

เติมเต็มชีวิตเหมือนอยู่บ้าน นำเสนอผ่านทุกมิติของ Nivati ทองหล่อ 23 คอนโดฯ Low-Rise กลางทำเล ‘ทองหล่อ’ เป็นส่วนตัวเพียง 52 ยูนิต หรูหราเหนือระดับ สไตล์ ‘Timeless Classicism’ ร่วมสมัย กรุผนัง Facade ด้วย Limestone ส่วนกลางครบครัน ยูนิตพักอาศัย Fully-Fitted ด้วยชุดครัวและสุขภัณฑ์จากแบรนด์ ‘ระดับโลก’ ทั้งหมด

 

ที่สำคัญคือ ‘พื้นที่ใช้สอย’ มหาศาลครับ มีห้องขนาด 1 – 3 Bedroom เริ่มต้น 70-221 ตร.ม. เลยทีเดียว

 

ปัจจุบัน Nivati ทองหล่อ 23 ก่อสร้างคืบหน้าไปมาก คาดว่าเสร็จช่วง Q3-2019 ไม่นานเกินรอครับ

 

Location 

Nivati ทองหล่อ 23 อยู่ภายใน ซ.ทองหล่อ 23 ห่างจากถนนใหญ่ราว 350 ม. ข้อดีคือความ ‘สงบเป็นส่วนตัว’ เพราะเป็นซอยตันและตัวโครงการอยู่เกือบท้ายซอย ทำให้รถไม่วิ่งพลุกพล่าน แต่ก็ยังสามารถลัดเลาะออก ซ.สุขุมวิท 39 (พร้อมพงษ์) - สุขุมวิท 49 ที่อยู่ก่อนถึงโครงการได้ ขับรถส่วนตัวสบายๆ แต่ไกลจาก BTS สถานีทองหล่อนิดนึง ประมาณ 2 กม.

 

ศูนย์การค้าใกล้เคียงสุดคือ J-Avenue (ทองหล่อ 15) รวมร้านค้าต่างๆ Villa Market ซื้อของกินของใช้ทั่วไป ห่างจากย่านกินดื่ม (ทองหล่อ 10-13) ไม่ไกลมากนัก เช่นเดียวกับ ‘Donki Mall’ เพิ่งเปิดบริการไม่นาน ขับรถเพียง 5 นาทีจากโครงการครับ

 

นอกจากนี้ยังไม่ไกลจาก รพ.กรุงเทพ, รพ.คามิลเลียน, รพ.สมิติเวช สุขุมวิท ฯลฯ และย่านธุรกิจ CBD (พร้อมพงศ์ - พระราม 9 - รัชดาฯ) อยู่ตรงนี้เดินทางสะดวกมากทีเดียว

 

Facilities

พื้นที่ส่วนกลาง Nivati ทองหล่อ 23 ครบครันสำหรับ 52 ครอบครัวครับ ปลอดภัยหายห่วงด้วย Security Gate เหมือนคฤหาสน์หรู วนรถเข้ามาจุด Drop-off จะพบกับ ‘Automatic Parking’ 78 ช่องจอด (150%) รองรับ Supercar ความสูงไม่เกิน 2.10 ม. และจากใต้ท้องรถ (ground clearance) ไม่เกิน 9 ซม. รอบโครงการปลูกพุ่มไม้สูง เพิ่มความเป็นส่วนตัวกับลูกบ้านโครงการ

 

Main Lobby ตกแต่งสไตล์ Elegance Classic เพดานกระจกเงา กรุผนังด้วยหินอ่อน Palissandro Bluette พื้นก็หินอ่อนเช่นกัน Mood & Tone คล้ายกับ Sale Gallery ปัจจุบันครับ (แต่กว้างกว่า) จัดชุดโซฟารับรองแขก เทควิวสระว่ายน้ำ - พื้นที่สวนด้านนอก

 

 

ถัดมาคือ Business Lounge สำหรับนั่งพูดคุย จิบชายามบ่าย ตกแต่งโทนสีดำ-น้ำตาลเข้ม กรุผนังด้วยไม้ Dark Oak และหินอ่อน (Black Forest) ให้ความรู้สึกเคร่งขรึม แต่อบอุ่นเป็นอย่างดี

 

Fitness Room ตกแต่งอย่างเรียบง่าย ปูพื้นลาย Herringbone ขนาดไม่ใหญ่มากนัก เทควิวสระว่ายน้ำเช่นเดียวกับ Main Lobby

 

ด้านนอกคือ Swimming Pool ยาว 27 เมตร แยกสระเด็ก พร้อม Pool Deck ปูพื้นสระด้วยหินอ่อน White Venus และ Waterspout (พ่นน้ำ) เพื่อความผ่อนคลาย อีกฝั่งของสระว่ายน้ำจัดพื้นที่นั่งเล่น (มุมสงบ) พักผ่อน อ่านหนังสือบรรยากาศสบายๆ

 

เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย ด้วยการสร้าง Green Wall สูงถึง 9 ม. ครอบคลุมชั้น 1-3 ของอาคาร เพื่อกันการมองเห็นจากคนภายนอก

 

Unit Walkthrough

ยูนิตพักอาศัยเริ่มต้น 1-Bedroom (70-77 ตร.ม.) ส่วนใหญ่เป็น 2-Bedroom (104-139 ตร.ม.), 3-Bedroom มีเพียง 5 ยูนิต (178.9 ตร.ม.) และ Duplex (110 - 221.6 ตร.ม.) เริ่มจากชั้น 1 ซึ่งมีด้านที่ติดกับสวนสีเขียว และชั้น 6-7 ที่มีระเบียง Outdoor ส่วนตัวขนาดใหญ่ยื่นออกไปด้านหน้าอาคารเลย เห็นมั้ยครับพื้นที่ใช้สอย ‘อารมณ์บ้าน’ กลางทองหล่อเลยทีเดียว

 

ทุกยูนิตขายแบบ Fully-Fitted ให้ชุดครัว สุขภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศ (Concealed) รวมถึงระบบ Home Automation ตามรายการโชว์ใน Sale Gallery โดยห้องตัวอย่างมี 2 Type คือ Duplex และ 2-Bedroom ครับ

 

Duplex D2 (125.4 ตร.ม.) 

ยูนิต Duplex บริเวณชั้น 1 ของโครงการ เน้นพื้นที่ใช้สอย Living ชั้นล่างแบบเปิดโล่ง ชั้นบนมีเพียง Master Bedroom เท่านั้น เหมาะกับครอบครัวเล็ก (2 คน) หรืออยู่คนเดียวก็ได้ ห้องตัวอย่างแต่งสไตล์ Modern เรียบง่าย โทนสีอบอุ่นครับ แถมด้านหลังยังมีสวนส่วนตัวขนาดย่อมๆ อีกด้วย

 

แต่ต้องบอกก่อนว่าห้องตัวอย่างจริง จะไม่เหมือนในแปลนสักทีเดียว เพราะลูกค้าที่ซื้อไปแล้วขอกั้นพื้นที่ด้านล่างเพิ่มเป็นห้องนอนที่ 2 ทำให้พื้นที่ส่วนห้องรับแขกดูเล็กลงนิดหน่อย แต่ได้ฟังก์ชั่นใช้สอยเพิ่มขึ้น สามารถอยู่กัน 3 คนได้สบายๆ

 

เปิดเข้ามาพบกับส่วนนั่งเล่น จัดชุดโซฟา 2 ที่นั่ง โต๊ะกลาง เก้าอี้พักผ่อน ระยะห่างจากทีวีราว 3 ม. โดยจากพื้นถึงเพดานในส่วนของห้องนั่งเล่นนนี้ จะสูงเกือบ 6 ม. เลยทีเดียว แต่ในส่วนของห้องอื่นๆ ความสูงจะอยู่ที่ 2.85 ม. ที่ให้ความรู้สึกไม่แออัดเหมือนได้อยู่บ้านจริงๆ

 

ทางโครงการบิวท์พื้นที่ไว้สำหรับเก็บของ เก็บรองเท้า และที่เก็บเครื่องซักผ้า ขนาดใหญ่ที่แยกสัดส่วนกันอย่างลงตัว

 

ถัดเข้ามาเป็นส่วนรับประทานอาหาร จัดโต๊ะขนาด 6 ที่นั่ง เชื่อมต่อพื้นที่ครัว 

 

Island Kitchen ปูพื้นด้วยหินอ่อน Italian Grey บิวท์อินครัวได้ตามห้องตัวอย่างเลย Top หินควอตซ์, หน้าบาน Gloss ให้ ชุดเครื่องครัวแบรนด์ Poggenpohl ซึ่งเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่สุดจากเยอรมัน และเก่าแก่ที่สุดในโลก ที่สำคัญคือ ชิ้นส่วนทั้งหมดสั่งทำพร้อมประกอบจากโรงงานที่นั่นเลย, ซิงค์หลุม Blanco และก๊อกน้ำแบรนด์ Dornbracht ส่วน Hobs & Hood, เตาอบ - เตาไฟฟ้า ใช้ของ Siemens 

 

ทางโครงการได้ออกแบบเลือกวัสดุและเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยคำนึงถึงการใช้งานได้จริงที่คงทนแข็งแรง แต่ก็ได้ความสวยงามมีระดับไปด้วยในตัว

 

ถัดจากครัวจัดเป็นมุมนั่งเล่น วางตู้เก็บของ และเป็นส่วนของบันไดที่ขึ้นไปสู่ชั้นบน

 

ห้องน้ำชั้นล่างขนาดใหญ่พอตัว กระจกเงาเต็มพื้นที่ครับ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า Top หินอ่อน (Silver Dragon) ก๊อกน้ำ - ฝักบัวจาก Gessi แบรนด์อิตาลีชั้นนำ เน้นดีไซน์สวยงาม คุณภาพชั้นดี ส่วนสุขภัณฑ์จากเยอรมัน Villeroy & Boch ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ ในการทำชุดสุขภัณฑ์มากกว่า 260 ปี และผนังกรุกระเบื้อง Porcelain ตามห้องตัวอย่าง

 

เดินขึ้นมาชั้นบนครับ ส่วนนี้จัดเป็น Master Bedroom เริ่มจากส่วนนอน สามารถวางเตียง King Size บิวท์อินเคาน์เตอร์วางทีวี - ของใช้ส่วนตัว โคมไฟ ได้ตามใจชอบ และให้กระจกกว้างยาวเต็มผนัง ซึ่งช่วยในการดึงแสงธรรมชาติ ทำให้ห้องดูโล่งไม่อึมครึม

 

ถัดมาเป็นโต๊ะแต่งหน้าแต่งตัว และ Walk-In Closet ที่ทางโครงการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ว่าสามารถเก็บเสื้อผ้าได้เยอะมาก

 

ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ไว้สำหรับคนมีคู่ที่ต้องการแยกเพื่อสะดวกต่อการใช้งาน หรือจะทำเป็นโต๊ะทำงานก็ได้เช่นเดียวกัน

 

และห้องน้ำ แบ่งอ่างล้างหน้าเป็น His & Her พร้อมอ่างอาบน้ำ - สุขภัณฑ์จาก Villeroy & Boch เป็นระบบกึ่งอัตโนมัติ มีรีโมทกดฟังก์ชั่น ก๊อกน้ำ Gessi จากแบรนด์อิตาลี โดดเด่นด้านดีไซน์ มีขั้นตอนการผลิตที่ใส่ใจในทุกชิ้นส่วน โดยรุ่นที่โครงการให้ลูกค้าเป็นเกรดพรีเมียม ที่นำทองเหลือง 1 ชิ้น มาผลิตเป็นงานแบบไร้รอยต่อ ซึ่งงานผลิตคุณภาพสูงนี้ จะทำให้ระบบการไหลของน้ำจากก๊อกมีความสม่ำเสมอ คุณภาพคงทน ใช้งานได้ดีกว่าในระยะยาว ควบคุมอุณหภูมิในตัว (Thermostatic) และส่วนยืนอาบฝักบัว Rain Shower

 

สังเกตได้ชัดเจนว่าโครงการไม่มีการหวงพื้นที่แต่อย่างใด แม้กระทั่งห้องน้ำที่ให้มาอย่างกว้างขวาง ทำให้ดูโปร่งโล่งสบายน่าใช้งาน

 

2-Bedroom B3 (130 ตร.ม.)

Layout คล้ายกับ 2-Bedroom โครงการอื่นๆ เน้นพื้นที่ Living เป็นหลัก มี Master Bedroom, ห้องนอนเล็ก เพิ่มเติมห้องอเนกประสงค์ เหมาะกับอาศัยแบบครอบครัว 2-4 คน

 

เปิดเข้ามาพบกับส่วน Living ขนาดใหญ่ และบิวท์อินตู้เก็บของต่างๆ ที่ให้มาเหมือนกับห้อง Duplex

 

ขวามือเป็นพื้นที่ครัว (Island Kitchen) มี Counter กลางสำหรับเก็บของใช้ - เตรียมอาหาร ชุดเครื่องครัวแบรนด์ Poggenpohl อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเป็นแบรนด์ระดับโลก, ซิงค์หลุม Blanco, ก๊อกน้ำแบรนด์ Dornbracht ส่วน Hobs & Hood เตาอบ - เตาไฟฟ้า ใช้ของ Siemens เช่นเดียวกับยูนิตก่อนหน้า 

 

พื้นที่ทำครัวสามารถช่วยกันทำสองคนได้แบบสบายๆ อีกทั้งยังมีการติดไฟเพิ่มในส่วนของการปรุงอาหาร เพื่อให้เห็นว่าอาหารที่ทำสุกรึยัง คือโครงการเค้าคิดมาให้หมดแล้วเรียบร้อย

 

ถัดมาจัดเป็นโต๊ะทานอาหาร 6 ที่นั่ง ซึ่งจะเลือกโต๊ะที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ก็ทำได้ เพราะยังมีพื้นที่ค่อนข้างเหลือเฟือ

 

ห้องรับแขกมีความกว้างขวางพิเศษกว่าคอนโดทั่วไป กว้างถึง 4.3 ม. นับจากผนังฝั่งโซฟาไปจนถึงผนังหลัง TV

 

เดินมาฝั่งห้องนอน ซ้ายมือคือ ‘ห้องอเนกประสงค์’ จัดเป็นมุมพักผ่อน ห้องทำงานตามต้องการครับ 

 

สำหรับในส่วนของห้องนอน ห้อง Master Bedroom จะอยู่ติดกับห้องนอนอีกหนึ่งห้อง

 

ห้อง Master Bedroom ขนาดถือว่าน้องๆ Duplex เลย วางเตียง King Size เคาน์เตอร์ทีวี และยังมีสเปซในการวางเก้าอี้ไว้นั่งพักผ่อนก่อนเข้านอน

 

พร้อม Walk-In Closet มุมแต่งตัว อารมณ์ห้อง Make-Up ของดาราชื่อดัง 

 

ห้องน้ำขนาดเล็กกว่า Duplex แยกฟังก์ชั่นชัดเจน แบ่งอ่างล้างหน้า His & Her พร้อมอ่างอาบน้ำ - สุขภัณฑ์แบรนด์ Villeroy & Boch จากเยอรมัน ที่มีความชำนาญด้านนี้โดยเฉพาะ 

 

ตัวก๊อกน้ำแบรนด์ Gessi จากอิตาลี ซึ่งเหตุผลที่โครงการเลือกแบรนด์นี้ นอกจากเป็นของเกรดพรีเมียมแล้ว เรื่องการดีไซน์ก็โดดเด่น และขั้นตอนการผลิตที่ใส่ใจทุกรายละเอียด คุณภาพแข็งแรง ใช้งานได้ยาวนาน ระบบการไหลของน้ำจากก๊อกมีความสม่ำเสมอ และสามารถควบคุมอุณหภูมิในตัว (Thermostatic) และส่วนยืนอาบฝักบัว Rain Shower

 

มีการแยกสำหรับส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้เสร็จสรรพ

 

ห้องนอนเล็ก ขนาดย่อมเยาลงมาครับ วางเตียงขนาด 6 ฟุต บิวท์อินตู้เสื้อผ้า แขวนทีวีผนัง พร้อมมุมพักผ่อน 

 

ปิดท้ายด้วยห้องน้ำส่วนกลาง มีไว้สำหรับทำธุระส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งจะอยู่ตรงทางเข้าประตูครับ

 

สรุป

Nivati ทองหล่อ 23 แตกต่างอย่างเหนือระดับ เป็นมากกว่าคำว่า ‘ที่พักอาศัย’ ตอบโจทย์ Lifestyle ทุกความต้องการ รูปแบบยูนิตหลากหลาย 1-Bedroom, 2-Bedroom จนถึง Duplex ให้อารมณ์คล้ายบ้านมากที่สุด พร้อม เครื่องครัว สุขภัณฑ์ ฯลฯ ที่คัดสรรแต่แบรนด์ระดับโลกทั้งนั้น เช่น Gessi, Villeroy & Boch, Poggenpohl ฯลฯ นอกจากความทนทานแล้ว ยังสวยงาม เรียบง่ายลงตัวอีกด้วย

 

พื้นที่ส่วนกลางจัดเต็มเป็นส่วนตัว ตกแต่งด้วยวัสดุหายาก ที่สำคัญคือ ‘ช่องจอดรถ’ กว่า 150% มากที่สุดในบรรดา Super-Luxury บนย่านทองหล่อ แถมยังรองรับ Supercar อีกด้วย เดินทางง่าย เข้าออกได้หลายทาง แน่นอนว่า ‘ทองหล่อ’ ก็คือทองหล่อครับ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ร้านอาหาร ศูนย์การค้า ครบวงจรสุดๆ

 

 

สำหรับราคา Nivati ทองหล่อ 23 เฉลี่ยทั้งโครงการ 265,000 บาท / ตร.ม. อีกหนึ่งโครงการที่ดูดีมีคุณค่าตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก ซึ่งไม่ว่าใครเห็นก็จะต้องตกหลุมของความเป็น Luxury อย่างแท้จริง

 

สนใจติดต่อเข้าชม Sale Gallery ที่นี่ http://www.nivaticondo.com/