รายการโปรด
ไม่ว่าใครก็อยากได้ ที่อยู่อาศัยที่เงียบสงบ กันทั้งนั้น แต่ขณะเดียวกันก็ต้องการอยู่ โลเคชั่นใจกลางเมือง ซึ่งต้องแลกกับความพลุกพล่านและวุ่นวายไม่น้อย... อ่านดูแล้วเหมือนว่าจะมีความคอนทราสต์หน่อยๆ แต่เชื่อไหมว่า มีบางแห่ง ที่ผสานความต่างของสองสิ่งนี้ได้อย่างลงตัว
หลังจากไม่ได้แวะเวียนเข้า ซอยสุขุมวิท 24 ที่อยู่แถวพร้อมพงษ์มานาน ก็มี Sale Gallery โครงการใหม่มาตั้งอีกแล้วล่ะทุกคน แต่รอบนี้รับรองว่า ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน เป็นของใหม่แกะกล่อง ทั้งตัวโครงการ และ Developer กันเลยทีเดียว… แอบกระซิบตั้งแต่ต้นๆ เลยว่า ราคาไม่แรงแม้อยู่บนทำเลแสนแพง!!!
โครงการที่ว่าก็คือ “Amie Sukhumvit 26” (อามี สุขุมวิท 26) เป็นของ Is Am Are (คนละชื่อกับร้านสเต็กนะ) ซึ่งอ่านแล้วบางคนเกิดความสงสัยว่าใครกัน แต่ถ้าบอกว่ามาจาก Pre-Built หนึ่งในบริษัทก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ แล้วล่ะก็ คงวางใจสบายหายห่วง
โดยโครงการตั้งอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ ที่ซอยสุขุมวิท 26 และเลี้ยวเข้าไปอีกทีที่ ซอยท่านหญิงพวงรัตน์ประไพ ซึ่งสามารถเลือกเข้า-ออก ได้หลายเส้นทางตั้งแต่ ถนนสุขุมวิท ถนนพระราม 4 หรือจะลัดเข้าซอยสุขุมวิท 34 ก็ได้เหมือนกัน และอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า สถานีพร้อมพงษ์ ประมาณ 1 กิโลเมตร
ซึ่งย่านนี้ ต่อให้พูดให้พิมพ์กี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิมว่า… อุดมสมบูรณ์ มีความ Hi-end อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ หรือคอมมูนิตี้มอลล์ทั้ง Emporium, EmQuartier, K-Village, A Sqaure, Big C และ Lotus พระราม 4 รวมไปถึงสำนักงานออฟฟิศน้อยใหญ่ สวนสาธารณะ โรงเรียน โรงพยาบาล ก็มีให้ครบถ้วน ตามสไตล์ Real CBD
กลับเข้าเรื่องโครงการกันต่อ… ตอนนี้คอนโดยังสร้างไม่เสร็จ รู้สึกว่าจะเรียบร้อยใน Q4 ปี 2563 เราเลยจะพาไปชมที่ Sale Gallery กันก่อน ซึ่งใครผ่านไปผ่านมาต้องสังเกตเห็นแน่นอน เพราะมีหุ่น 3 ตัว 3 สี ตั้งเด่นเตะตาอยู่ข้างหน้าเลย
โครงการ “Amie Sukhumvit 26” (อามี สุขุมวิท 26) มีการออกแบบดีไซน์เรียบง่าย มีความเป็นธรรมชาติ ดูมีเสน่ห์ ที่ผสานไปกับตัวอาคารและพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างสอดคล้อง ซึ่งพอมองๆ แล้วก็ให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง เท่านั้นยังไม่พอ เพราะสิ่งที่โครงการเน้นย้ำอยู่ตลอดคือ “เราอยากได้แบบไหน ลูกบ้านก็ต้องได้แบบนั้น เพื่อสิ่งที่ดีที่สุด” เดี๋ยวไปดูกันว่าจริงไหม
ตัวโครงการมีเนื้อที่ 0-3-59.5 ไร่ เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 100 ยูนิต พอดีเป๊ะ ยูนิตต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 16 ห้อง ทำให้แต่ละชั้นมีความเงียบสงบเป็นส่วนตัว เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างมาก โดยตัวทางเข้าเองทำเป็นบันไดเหมือนขึ้นบ้าน ด้านข้างก็เป็นสเต็ปน้ำตกไปพร้อมๆ กัน ดูแปลกตาแต่สวยงาม
มาถึง ส่วนกลาง ที่บอกเลยว่าน่าสนใจตั้งแต่เรื่องความปลอดภัย ที่มีถึง 4 Steps อย่างการขับรถเข้ามาหาลูกบ้าน แค่สแกนจากบัตรประชาชนเป็นอันจบ ต่อด้วย Digital Door Phone คล้ายๆ กับกริ่งบ้าน ที่พอรู้ว่าใครมาเยี่ยม ก็กดรับให้เข้ามาข้างในได้ โดยไม่ต้องลงมารับนั่นเอง และระบบลิฟต์แบบล็อกชั้น เพื่อความเป็นส่วนตัว ปิดท้ายด้วย Digital Door Lock หน้าห้องที่ใช้งานได้ถึง 5 ระบบ
สำหรับ ที่จอดรถจอดได้ 79% เกือบเต็มร้อย ก็ถือว่าให้มาเยอะเลยล่ะ รวมทั้งยังมีบริการรถรับ-ส่ง ทั้งสองเส้นทาง (ถนนสุขุมวิท และถนนพระราม 4)
อีกหนึ่งส่วนกลางที่เราเห็นแค่ตัวอย่าง ก็อยากเห็นของจริงทันที Vertical High Rise Garden สวนแนวตั้งที่เป็นต้นไม้ ต้นหญ้า เขียวขจีของจริงทั้งหมด!!! หลังคาส่วนหนึ่งกรุด้วยกระจกเพื่อให้แสงส่องลงมาถึง และพีคกว่านั้นคือมีความสูงตั้งแต่ชั้น 2 ถึง ชั้น 8 ทุกชั้นเห็นเท่าเทียมกันหมด
สระว่ายน้ำ ยาว 15 เมตร (อีก 5 เมตร สำหรับวาง Sunken Chair Pool ) ที่สามารถว่ายได้ไม่แพ้สระโอลิมปิก
ฟิตเนส มีหลากหลายเครื่อง เพียงพอต่อความต้องการ ที่ช่วยออกกำลังกายเรียกเหงื่อได้ทุกสัดส่วน
Co-Living & Working Area เบื่ออยู่แต่ในห้องก็ใช้พื้นที่ตรงนี้ ในการนั่งเล่น อ่านหนังสือ ทำงาน ได้ตามชอบใจ
สุดท้ายที่ Roof Top สวนลอยฟ้า เอาไว้นั่งพักผ่อนชมวิวจากมุมสูง และมีลาน Jogging Track ให้วิ่งกลางแจ้ง
มาถึง ห้องพักอาศัย กันบ้าง โดยมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
One Bedroom ขนาด 34.95 - 40.37 ตร.ม. จำนวน 46 ห้อง
One Bedroom Plus ขนาด 43.21 - 47.41 ตร.ม. จำนวน 29 ห้อง
Two Bedroom ขนาด 45.81 - 60.83 ตร.ม. จำนวน 25 ห้อง
ซึ่งห้องตัวอย่างมีทั้งหมด 3 แบบ โดยโครงการที่นี่ ขายแบบ Fully Fitted หลักๆ ก็จะได้เครื่องปรับอากาศ (ติดผนัง, Conceal) และ Digital Door Lock ส่วนที่เหลือจะได้อะไรบ้าง เดี๋ยวเราพาดูให้ครบจัดเต็ม
ออกตัวกันที่ห้องแรก One Bedroom ขนาด 34.95 ตร.ม. ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นนิวยอร์ก พอเปิดประตูเข้าไป กลิ่นหอมปะทะจมูกก่อนเลย ซึ่งแต่ละห้องกลิ่นก็จะล้อไปกับสไตล์ การตกแต่งที่ไม่เหมือนกัน อันนี้เราว่าเป็นไอเดียที่ดีนะ รู้สึกได้ถึงการใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อย
เราจะเจอกับส่วนของห้องครัวก่อน ซึ่งสิ่งที่เราเห็นในส่วนของบิวท์อินนั้น ทางโครงการทำมาให้เรียบร้อยเป็นครัวนำเข้าของ Kohler Kitchen เคาน์เตอร์ครัว Top เป็นหินสังเคราะห์มีความแข็งแรง ตัวตู้ด้านล่างปิดผิวด้วยเมลานีนนำเข้า ที่ให้ความรู้สึกและผิวสัมผัส เป็นร่องลายลึกเสมือนไม้ธรรมชาติ ทนต่อความชื้นได้ดี มีที่เก็บถาดสแตนเลสสำหรับใส่ช้อนส้อม และข้างในติดตั้งถังขยะมาให้แล้ว
ด้านหลังกรุกระจก เวลาเลอะคราบสกปรกได้เช็ดทำความสะอาดไม่ยาก ส่วนตู้ด้านบนก็ทำมาให้เก็บของได้เยอะประมาณหนึ่งเลย นอกจากพวกบิวท์อินแล้ว เรายังได้ อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน รวมถึงติดไฟและราวแขวนอุปกรณ์ครัว มาให้พร้อมใช้งาน
ตรงกันข้ามก็จะเป็นตู้เก็บรองเท้าที่วัสดุปิดผิวเมลานีน เช่นเดียวกับเคาน์เตอร์ครัว มีตู้เก็บของชั้นบน เคาน์เตอร์วางของ หรือเตรียมอาหาร พร้อมวางเครื่องซักผ้า และตู้เย็นที่ฝั่งนี้
ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นที่พื้นถึงฝ้าสูง 2.55 ม. พื้น Engineering Wood หรือเทียบเท่า โดยมีพื้นที่ให้วางโต๊ะกินข้าว ชั้นวางทีวี และโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้สบายๆ
ริมสุดเป็นระเบียงที่ได้ประตูกระจกเขียวตัดแสง แบบบานเฟี้ยม เพื่อเปิดให้ลมเข้าได้แบบสุดๆ ขนาดพื้นที่กำลังพอดีจะตากผ้า วางเก้าอี้นั่งเล่นก็ไม่ใช่ปัญหา
ส่วนด้านในสุดจะเป็นห้องนอน แยกจากส่วนอื่นๆ ด้วยประตูกระจกใสบานเลื่อน แบบตอนเดียว ให้สเปซมาแบบกว้างขวางเลยล่ะ สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้
โดยยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะทำงานได้อีกด้วย ผนังฝั่งหนึ่งติดหน้าต่างบานกระทุ้ง และหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสงไว้เกือบสุดเพดาน ซึ่งเป็นข้อดีในการช่วยดึงแสงธรรมชาติ ให้เข้าห้องได้มากยิ่งขึ้น
ขณะที่สาวๆ ต้องไม่พลาดในการจับจ้องคือ Walk-in Closet เป็นของ SB Furniture ที่ทำตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ออกมาได้สวยงาม คุ้มทุกพื้นที่ และใช้งานได้จริง
ติดกันเป็นห้องน้ำ ที่ให้ขนาดมาพอสมควร สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler ทั้งหมด ผนังเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน ก่อเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ายาว เพื่อเอาไว้วางข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ กระจกเต็มผนัง ราวแขวนผ้า พร้อมติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยหนาถึง 10 มม. ทรงสี่เหลี่ยมเข้ามุม Rain Shower และระบบหม้อต้มน้ำร้อนแยกแต่ละห้องให้ครบครัน
ถัดมาที่ One Bedroom Plus ขนาด 46.94 ตร.ม. ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นอิงลิช ห้องนี้สีจะออกโทนสว่างกว่าห้องที่แล้ว
ทางเข้าจะเป็นห้องครัวคล้ายกับห้องแรก เพียงแต่ว่าจะย้ายทุกอย่างมาอยู่ฝั่งเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของชั้นบน ที่วางตู้เย็น เครื่องซักผ้า พอมองแล้วก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยไปอีกแบบ
ทางซ้ายมือจะเป็นประตูห้องน้ำ ที่สามารถเข้า-ออกได้สองทาง ซึ่งเป็นความคิดที่ดี เพราะทำให้แขกไม่ต้องเข้าไปในห้องนอนของเรา
ต่อด้วยห้องนั่งเล่น นอกจากวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้สบายๆ แล้ว โครงการเค้ายัง ทำจุดติดตั้งโทรทัศน์มาให้ถึง 2 จุด ก็คือจุดที่เห็นในภาพ กับจุดที่อยู่ตรงโต๊ะกินข้าว บวกกับห้องนี้มีขนาดสี่เหลี่ยมจตุรัส เลยสามารถยืดหยุ่นการจัดวางได้อย่างเต็มที่
และเพิ่มความพิเศษด้วยระเบียงแบบ Semi-Outdoor ที่มีหน้าต่างปิดกั้นมาให้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งจะได้เฉพาะห้องที่อยู่ด้านหน้าโครงการเท่านั้น และเป็นประตูกระจกเขียวตัดแสง แบบบานเลื่อนต่างจากห้องแรก
สำหรับห้องอเนกประสงค์อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ที่ให้เราใช้ไอเดียได้ตามใจ จะทำเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ หรือห้องนอนเล็กก็ไม่ติด
จบด้วยห้องนอนที่ได้ประตูทึบ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้อยู่ วางเตียง 6 ฟุตได้ และเค้าบิวท์ตู้เสื้อผ้ามาให้แล้ว ได้กระจกเงาเต็มบาน ส่องความเรียบร้อยได้ทั้งตัว ไม่ต้องซื้อกระจกมาเพิ่มเลย
ห้องน้ำยังคงรักษามาตรฐานได้ดี ไม่ได้ถูกลดขนาดให้แคบลง ฝั่งส่วนเปียกติดฉากกั้นแยกไว้เรียบร้อย ซึ่งมีพื้นที่อาบน้ำได้แบบชิลล์ๆ
ท้ายสุดกับห้อง Two Bedroom ขนาด 50.30 ตร.ม. ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นเอเชียน เราชอบกลิ่นห้องนี้สุดมีความไทยๆ เป็นเอกลักษณ์
ลักษณะทางเข้า เจอกับห้องครัวเป็นส่วนแรกเหมือนกับห้องที่ 2 มีตู้เก็บรองเท้าหรือตู้เก็บของปิดผิวด้วยเมลานีนนำเข้า ติดกันเป็นที่วางตู้เย็น
ต่อด้วยเคาน์เตอร์ครัวของ Kohler Kitchen ส่วน Top ด้านบนเป็นหินสังเคราะห์ มีความแข็งแรงเป็นรอยยาก ด้านหลังกรุกระจกทำความสะอาดง่าย รวมถึงตู้เก็บของด้านบนที่บิวท์อินมาให้เก็บของได้หลายช่องเลย
พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าก็จะได้ เตาไฟ้า และเครื่องดูดควัน ได้อ่างล้างจาน รวมถึงติดไฟพร้อมราวเอาไว้แขวนอุปกรณ์ครัวต่างๆ
แต่ทีเด็ดของห้องอยู่ตรงที่ หน้าต่างติดกับ Vertical High Rise Garden!!! มองเห็นสวนแนวตั้งแบบเต็มสองตา เอาโต๊ะทำงานมาตั้งสักตัว มองไปทำงานไปเพลิดเพลินอ่ะพูดเลย
เขยิบเข้ามากับห้องนั่งเล่นที่ยังคงติดตั้งโทรทัศน์มาให้ถึง 2 จุด วางโซฟา 3 ที่นั่ง วางโต๊ะกินข้าว ก็ยังมีทางเดินเหลือเฟือ แบบไม่ต้องกลัวเดินชนของ
ห้องนอนเล็ก แต่ขนาดไม่เล็กนะ แบบในห้องตัวอย่างวางเตียง 3 ฟุต แต่สามารถวางเตียง 5 ฟุต ได้สบายๆ เรื่องตู้เสื้อผ้าก็ไม่ต้องซื้อ เพราะโครงการบิวท์มาให้ถึง 3 บาน พร้อมติดกระจกเงามาให้แล้ว ดูดีจริงๆ
ติดกันเป็นห้องนอนใหญ่ วางเตียง 6 ฟุตแล้ว ก็ยังเหลือพื้นที่สำหรับโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานได้กว้างประมาณหนึ่ง
พร้อม Walk-in Closet จาก SB Furniture ขนาดย่อม แต่ก็เก็บเสื้อผ้าได้เยอะอยู่นะ
ระเบียงจะอยู่ในห้องนอนใหญ่ ซึ่งได้เป็นประตูกระจกเขียวตัดแสง แบบบานเฟี้ยม เหมือนกับห้อง One Bedroom
ห้องน้ำสามารถเข้า-ออกได้สองทาง คือในห้องนอนนี้กับทางห้องนั่งเล่น สุขภัณฑ์ของ Kohler ทุกอย่างมีมาให้ครบเหมือนกับ 2 ห้องก่อนหน้า
อ่านมาถึงตรงนี้ บางคนเริ่มกังวลว่าราคาไม่แรง ที่บอกไว้ตอนต้นนั้นหลอกกันรึเปล่า… ไม่เลย เพราะที่นี่ ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท เฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 180,000 บาท/ตร.ม. ไม่ต้องเทียบกับราคาทำเล ย่านพร้อมพงษ์ ที่บอกได้เลยว่ามีเกิน 200,000 บาท/ตร.ม. ชัวร์!!!
คิดคำนวณแค่โครงการ Amie Sukhumvit 26 (อามี สุขุมวิท 26) เอาตั้งแต่ การออกแบบตัวอาคาร ที่หรูหราเรียบง่าย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ความปลอดภัยก็แน่นหนา และเพิ่มความสะดวกสบายเข้าไปอีกด้วย Mobile Concierge Application ให้เราจัดการทุกสิ่งได้ด้วยปลายนิ้ว จะชำระค่าบริการ แจ้งเตือนจดหมาย สั่งซื้อของ และบริการอื่นๆ อีกเพียบ
ขณะที่การจัดสรรปันส่วนของ Facilities ก็ทำออกมาได้เหมาะสม โดยเฉพาะ Vertical High Rise Garden ส่วนตัวนี่ชอบตรงนี้ รู้สึกว่าเค้าใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า แต่ที่ปลาบปลื้มเป็นพิเศษ คงเป็น จำนวนยูนิต (100 ยูนิต) ที่มีไม่เยอะ และ ยูนิตแต่ละชั้น (16 ยูนิตต่อชั้น) ให้ความเป็นไพรเวท เงียบสงบชนะเลิศไปเลย สุดท้าย เรื่องการออกแบบแปลนห้อง ที่แบ่งสัดส่วนของแต่ละห้องได้อย่างชัดเจน
ใครที่อยู่โครงการนี้ จะช่วยให้การทำงานหรือเรียนในเมือง หรือไปตามสถานที่สำคัญต่างๆ เป็นเรื่องง่ายดาย เพราะเดินทางสะดวกแปปเดียวก็ถึงที่หมาย และยังเหมาะกับคนทุกกลุ่ม อาศัยคนเดียวก็เลือก One Bedroom อยู่เป็นคู่แนะนำ One Bedroom Plus และถ้าเป็นครอบครัวต้องนี่เลย Two Bedroom ห้องตัวอย่างมีให้ดูครบ ไม่ต้องเดาเอาเองให้เหนื่อย
ทั้งหมดนี้ น่าจะเป็นข้อพิสูจน์ได้แล้วว่า โครงการ Amie Sukhumvit 26 (อามี สุขุมวิท 26) คำนึงทุกอย่าง ให้ออกแบบมามีศักยภาพมากที่สุด เพื่อการเป็นอยู่อย่างมีคุณภาพที่แท้จริง ซึ่งพร้อมเปิดให้เข้าชมแล้วที่ Sale Gallery @Sukhumvit 24 แต่อย่าลืมแวะลงทะเบียนกันด้วยนะ >>> http://www.amiecondo.com หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ 092 401 5000 ได้ทุกวันตั้งแต่ 10.00-19.00 น.
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-04
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-10-28
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-10-21
Reference Ekkamai | ที่สุดของทำเลที่เป็นมากกว่าใจกลางเมือง เพราะนี่คือเอกมัยย่านแห่ง Design District สุดเจ๋ง ติดอันดับ 27 ของโลก ให้คุณสามารถออกแบบชีวิตอย่างมีสไตล์ได้แบบอิสระ
2024-10-17
Livinginsider - Weekly Insight Report [06-12 Oct 2024]
2024-10-15
ชอบบทความดีไซด์มากเลยค่ะ ได้ไอเดียไปด้วย
ผู้เขียนเก่ง บทความดีๆ ทั้งนั้น
นักเขียนมืออาชีพ งานคุณภาพและมีประโยชน์มากค่ะ
เขียนได้ดีมากค่ะ